หลังจากที่เปิดตัว Toyota Fortuner พร้อมกับ Toyota Hilux REVO Rocco ไปเมื่อต้นเดือนมิถุนายน ทางบริษัท โตดยต้า มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ได้จัดกิจกรรมทดลองสมถรรนะของรถอเนกประสงค์ PPV ยอดนิยม รุ่นล่าสุด Toyota Fortuner Legender 2.8 4WD ซึ่งเป็นรุ่น Top Model และในโอกาสนี้ทีมงาน BoxzaRacing ก็ได้รับเกียรติให้เข้าร่วมทดลองขับเช่นเคย
สำหรับ Toyota Fortuner เปิดตัวรุ่นมาตฐานก่อนโดยแยกเป็น 3 รุ่นย่อย กับเครื่องยนต์ขนาด 2.4 ลิตรเท่านั้น ตามด้วยรุ่นตกแต่งพิเศษหรือ Legender ที่เผยโฉมตัวจริงในช่วงปลายเดือนมิถุนายน และพร้อมส่งมอบให้ลูกค้าที่สั่งจองไว้ในเดือนสิงหาคม โดยในรุ่นนี้มีแยกย่อยออกมาเป็น 4 รุ่น มีให้เลือกทั้งเครื่องยนต์ 2.4 ลิตร และ 2.8 ลิตร ซึ่งรุ่นนี้จะมีรูปลักษณ์ที่แตกต่างไปจากรุ่นมาตรฐานที่เรื่องของดีไซน์ ทั้งด้านหน้า และด้านหลัง รวมถึงเทคโนโลยีล้ำที่บรรจุเข้ามาครบทุกชนิดกับรุ่น Legender ชนิดที่เห็นความแตกต่างได้อย่างชัดเจน ส่วนเรื่องของสมรรถนะครั้งนี้จะพูดถึงเฉพาะ Toyota Fortuner Legender 2.8 4WD เท่านั้น และแน่นอนว่ามีความพิเศษกว่าปกติด้วยรูปแบบในการทดลองขับ ส่วนรายละเอียดจะเป็นอย่างไร ไปชม...
Hi Way Test
รูปแบบการทดลองสมรรถนะในครั้งนี้ เริ่มจากขับตามปกติบนถนนหลวงที่มีการจราจรติดขัดบ้าง ขยับบ้างเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่สิ่งนี้ที่ทำให้สัมผัสได้ขณะนั้นคือ ความคล่องตัว และความสะดวกสบายเมื่อต้องใช้พวงมาลัยมากกว่าปกติ บวกกับมุมมองพิเศษแบบ 3D ผ่านจอกลางที่ได้ภาพมาจาก กล้อง 360 องศา แต่มีเงื่อนไขที่ว่าต้องใช้ความเร็วต่ำ ต่างจากการวิ่งด้วยความเร็วสูงพวงมาลัยมีการปรับตัวอัตโนมัติ ทำงานพร้อมระบบเบรก ทำให้หน่วงกลับอัตโนมัติ เรียกว่าระบบ LDA (Lane Departure Alert) เมื่อรถวิ่งออกนอกเลน ต้องบอกว่าแรงดึงพวงมาลัยแรงไม่น้อย ซึ่งก็ต้องปรับตัวกันระยะหนึ่ง เมื่อปรับตัวเข้ากับระบบได้แล้วก็ทำให้รู้ว่าพวงมาลัยที่ปรับค่าใหม่นี้ทำงานได้ดีอย่างน่าตกใจ ความแม่นยำที่สูง ราบลื่นเบาแรงทีเดียว แน่นอนว่าปลอดภัยขึ้นกว่าเดิมมาก
และในการวิ่งบนถนนหลวงนี้ยังได้ทดลองใช้งานระบบ Dynamic Radar Cruise Control ที่ปรับตั้งความเร็วได้อย่างง่ายดาย ระบบทำงานราบลื่นและรวดเร็ว ที่สำคัญแม่นยำ ต้องบอกว่าระบบการทำงานภายใต้มาตรฐานความปลอดภัยใหม่หรือ Toyota Safety Sense ที่จะถูกบรรจุในรถรุ่นใหม่ของ Toyota สมราคา และในภายภาคหน้าระบบความปลอดภัยนี้จะถูกนำมาใช้กับรถ Toyota ทุกรุ่นอย่างแน่นอน
เปลี่ยนไปที่เรื่องของพลังในการขับเคลื่อน ในรุ่นนี้ยังคงเป็นที่น่าพอใจ สำหรับเครื่องยนต์ 1GD-FTV (High) ขนาด 2.8 ลิตร (2,755 ซีซี.) ที่ได้รับการพัฒนาใหม่ในส่วนของฮาร์ดแวร์ใหม่ หมายความว่าเครื่องยนต์สามารถรองรับการปรับแต่งเพิ่มได้มากกว่า โดยมีนัยสำคัญคือความแข็งแรงทนทานของชิ้นส่วนภายในมากขึ้น จุดเด่นคือการเพิ่มเพลาปรับสมดุล (Balance Shaft) ส่งผลให้เครื่องยนต์ทำงานได้เสถียรมากขึ้นโดยเฉพาะรอบเครื่องยนต์สูง การขับแบบปกติกับเครื่องยนต์สเปคเดิมจากโรงงานก็ตอบสนองได้ดีอยู่แล้ว แม้ในช่วงที่ต้องการอัตราเร่งแบบทันทีทันใด ก็ทำได้ค่อนข้างดี แต่สิ่งที่น่าจะพูดได้ว่าโดดเด่น คือ อัตราเร่งในช่วง Mid Speed การส่งต่อกำลังทำได้ดี แรงบิดมีให้ใช้งานได้ต่อเนื่อง ส่วนหนึ่งมาจากการปรับให้เครื่องยนต์สร้างแรงบิดสูงตั้งแต่รอบต่ำที่ 1,600 รอบ/นาที ขึ้นไป ซึ่งจะส่งผลให้เห็นได้ชัดเจนในช่วงจังหวะนี้ แน่นอนว่า ช่วงเร่งแซงช่วงความเร็วสูงและกระชันชิด ปลอดภัยมากขึ้น มั่นใจมากขึ้นด้วย
และสิ่งหนึ่งที่อยากพูดถึงมากเป็นพิเศษคือ ระบบเบรก ที่ปรับปรุงมาได้ดีสำหรับรุ่นใหม่นี้ ปกติแล้วรถที่มีขนาดรูปร่างใหญ่และค่อนข้างสูง บวกกับขนาดล้อที่ใหญ่ถึง 20 นิ้ว ต้องประสบกับอาการโยนตัวเมื่อเบรกหนัก แต่ Toyota Fortuner Legender 2.8 4WD ใหม่นี้ มีอาการน้อยมากแม้ว่าจะเบรกแบบกะทันหันและค่อนข้างหนัก ต้องบอกว่าเรื่องนี้มีผลต่อความปลอดภัยไม่น้อยทีเดียว ต้องยกความดีให้กับระบบป้องกันล้อล็อก ABS และระบบกระจายแรงเบรก EBD รวมไปถึงระบบเสริมแรงเบรก BA รวมถึงระบบช่วงล่างที่ใช้สเปคเดียวกับรุ่น TRD
Off Road Test
และอย่างที่บอกไปตอนต้นว่าการทดลองสมรรถนะในครั้งนี้มีความพิเศษกว่า เพราะมีการวิ่งในรูปแบบ Off Road ที่เกินกว่ารถปกติจะวิ่งผ่านได้ ทำให้เห็นถึงประสิทธิภาพของระบบขับเคลื่อนได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะระบบ DSC (Downhill Assist Control) ที่ทาง Toyota นำเสนอไว้ก่อนหน้าตั้งแต่ครั้งเปิดตัวต้องบอกว่าทำงานได้ละเอียดมากขึ้นอย่างที่นำเสนอจริง รวมถึงระบบ A-TRC (Active Traction Control) ที่ทำให้การขับผ่านอุปสรรคในครั้งนี้ได้ไม่ยาก สำหรับระบบนี้จะทำงานภายใต้โหมด L4 หรือระบบขับเคลื่อนสี่ล้อที่ความเร็วต่ำเท่านั้น หรือพูดง่ายๆ ต้องขับช้าเพื่อไปให้เร็ว บนพื้นที่ทุระกันดาร ในการใช้โหมด L4 นี้รอบเครื่องยนต์จะลงมาให้เหลือเพียง 680 รอบ/นาที ซึ่งจะทำให้การใช้รอบเครื่องเกินความจำเป็นลดลง พูดให้เข้าใจง่ายคือ ลดอาการล้อหมุนฟรีได้มากขึ้น ซึ่งจริงแล้วรถรุ่นนี้มีระบบ TRC (Traction Control System) ให้ใช้งานอยู่แล้วแต่ยังถือว่าไม่ครอบคลุมกับรูปแบบการใช้งานได้ทั้งหมด โดยเฉพาะกับงานลุยหนักๆ กว่าปกติ ในโหมดการขับนี้ยังมีภาพกราฟฟิกขององศาล้อเมื่อหมุดพวงมาลัย ช่วยให้รู้ว่าขณะนั้นล้ออยู่หมุนไปทางไหน
ต้องบอกว่างานนี้ ได้ทดลองสมรรนะกันครบทุกรูปแบบทั้งใช้งานแบบปกติ และเกินกว่าการใช้งานทั่วไป รวมถึงได้สัมผัสกับอรรถประโยชน์ที่รถรุ่นนี้พึ่งจะมีให้อย่างครบถ้วน สมกับเป็นรถอเนกประสงค์ยอดนิยมอันดับต้นๆ นอกจากนี้เรื่องของดีไซน์ก็มีการปรับให้ทันสมัยมากขึ้น มีความโฉบเฉี่ยวมากขึ้นกว่าเดิม รวมไปถึงการตกแต่งภายในห้องโดยสารให้สปอร์ตมากขึ้นกว่าเดิม จนแทบจะพลิกโฉมความหรูหราแบบเดิมไป
สรุปว่ารถ Toyota Fortuner Legender 2.8 4WD ที่ได้ทดลองสมรรถนะในครั้งนี้ แม้ว่าจะมีข้อดีมากขึ้น แต่ก็ยังมีด้อยที่ไม่ถึงกับเสีย ซึ่งนับเป็นเรื่องใหญ่ คือ ตัวถังของรุ่นนี้จะยังคงเป็น GOA ซึ่งเป็นเทคโนโลยีเดิมที่ขึ้นชื่อของ Toyota อยู่ ก็ต้องรอต่อไปในอนาคต ซึ่งแน่นอนว่าชาวเราจะได้เห็น Fortuner ในโครงสร้าง TNGA เต็มระบบในอนาคตอันใกล้ รวมไปถึงระบบการทำงานบางส่วนที่ยังไม่เสรียรราบลื่นมากนัก การดีไซน์ นับว่าลงตัวมากขึ้น มีความโฉบเฉี่ยวแม้จะปรับเพียงแค่บางส่วน รวมถึงการจัดวางอุปกรณ์ภายในและการตกแต่งที่ ยังขาดเกินไปบางเท่านั้น
ก็หวังว่าการนำเสนอเรื่องราวการทดลองสมรรถนะของรถ Toyota Fortuner Legender 2.8 4WD รุ่นใหม่ล่าสุดนี้จะเป็นแนวทางสำหรับท่านที่สนใจได้ไม่มากก็น้อย
Toyota Fortuner 2020 รุ่นมาตรฐาน มี 3 รุ่นย่อย
Toyota Fortuner Legender มี 4 รุ่นย่อย
