เปิดตัวมาแบบสวนกระแสเลยทีเดียว สำหรับ Yamaha AEROX 155 (ยามาฮ่า แอร็อกซ์ 155) เจนเนอเรชั่นล่าสุด ที่พกพาความสปอร์ตมาแบบเต็มขั้น ด้วยดีไซน์และสีสันอันโดดเด่น สะดุดตา อีกทั้งยังจัดเต็มด้วยเทคโนโลยีแห่งการขับเคลื่อนระดับแนวหน้า จากเครื่องยนต์ Blue Core ที่พร้อมปลดปล่อยความแรงแบบเต็มพิกัด งานนี้ต้องบอกว่า Yamaha AEROX 155 ทำเอา BoxzaRacing ปลื้มปริ่มไม่น้อย หลังจากได้ทดลองขี่กันแบบเต็มๆ เอาเป็นว่าเราไปดูพร้อมๆ กันเลยครับว่า มอเตอร์ไซค์อย่าง Yamaha AEROX 155 จึงได้ชื่อว่าเป็นราชาแห่งสปอร์ตออโตเมติก
Yamaha AEROX 155 ABS Version
เรื่องของ Firtst Impression โดยส่วนตัวผมแล้ว ถือเป็นปัจจัยสำคัญที่จะทำให้ผมเกิดความประทับใจในสิ่งใดสิ่งหนึ่ง เช่นเดียวกับครั้งแรกที่ผมได้เห็น Yamaha AEROX 155 แบบตัวเป็นๆ มันทำให้ผมรู้สึกชื่นชอบในมอเตอร์ไซค์สปอร์ตออโตเมติกรุ่นนี้ ทั้งๆ ที่จริงๆ แล้ว ผมอาจจะเป็นคนที่ไม่ได้สนใจหรืออินกับมอเตอร์ไซค์เล็กสักเท่าไหร่ แต่พอเจอรุ่นนี้ บอกเลยว่า เป็นดีไซน์ที่ชวนให้หยุดมองเลยจริงๆ ด้วยความที่ Yamaha AEROX 155 ได้รับการออกแบบให้มีความโฉบเฉี่ยว ซึ่งสื่อได้ถึงความตั้งใจของทีมงานผู้ออกแบบ ที่ต้องการสร้างภาพลักษณ์ของสปอร์ตออโตเมติกรุ่นนี้ให้ดูสะดุดตา ด้วยเส้นสายอันปราดเปรียว พลิ้วไหว ซ่อนความแข็งแรง ทรงพลังเอาไว้อย่างกลมกลืน ซึ่งด้วยหน้าตาที่ดูสปอร์ตเช่นนี้ มันเป็นสิ่งที่ทำให้ผู้คนเกิดภาพจำได้ง่าย โดยเฉพาะ 6 สีสันใหม่ ของ Yamaha AEROX 155 ที่เพิ่งเปิดตัวกันไปแบบสดๆ ร้อนๆ เห็นแล้วเกิดความรู้สึกที่อยากนำไปต่อยอดหรือแต่งแต้มองค์ประกอบต่างๆ ในสไตล์ของตัวเองให้มีเอกลักษณ์ขึ้นไปอีกขั้น โดย Yamaha AEROX 155 มาพร้อม 3 รุ่นย่อย ให้เลือก นั่นก็คือ รุ่น ABS Version (ระบบเบรกหน้าแบบมี ABS, Stop & Start System, กุญแจ Smart Key, ไฟเรือนไมล์สีฟ้า), รุ่น R Version (โช้คอัพหลังแบบมีซับแทงค์, จานดิสก์เบรกแบบสปอร์ต, ไฟเรือนไมล์สีส้ม) และรุ่น Standard Version (ไฟเรือนไมล์สีฟ้า)
ซึ่ง Yamaha AEROX 155 อัดแน่นด้วยคุณสมบัติที่เพียบพร้อม จนไม่ใช่เรื่องแปลก หากเราจะยกตำแหน่ง King of Sport Automatic ให้กับสองล้อผู้นี้ หากพิจารณาด้วยองค์ประกอบต่อไปนี้
1.ภาพลักษณ์ที่ดูสปอร์ต โฉบเฉี่ยว รวมถึงสีสันที่มีความโดดเด่น สะกิดในให้รู้สึก "ว้าว" ในทันทีที่เห็น
2.ขุมพลังแรง เร้าใจ ขับขี่ได้ง่าย ให้ความคล่องตัวสูง และสามารถใช้เดินทางไกลๆ ได้แบบสบายๆ
3.เทคโนโลยีเหนือชั้น จัดเต็มทั้งสมรรถนะ ตอบโจทย์ในทุกการใช้งาน และเปี่ยมด้วยความปลอดภัย
4.สามารถนำมาตกแต่ง โมดิฟายได้หลายสไตล์ เดิมๆ ว่าสวยแล้ว แต่งนิดยิ่งดูดี แต่งเยอะก็ยิ่งสุด ตอบโจย์สำหรับสายซิ่งตัวจริงทุกระดับ
ไฟหน้า ไฟท้าย LED มุมมองแจ่มชัด เท่ และปลอดภัยยิ่งกว่า
ช่องเสียบชาร์จไฟ 12 โวลต์...ของต้องมี
นอกจากสไตล์ที่มีความโดดเด่นแล้ว Yamaha AEROX 155 ยังอัดแน่นด้วยเครื่องเคียงที่ทันสมัย สื่อถึงความเป็นผู้นำได้อย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นการนำระบบส่องสว่างแบบ LED มาใช้ทั้งด้านหน้าและด้านท้าย ซึ่งนอกจากจะเสริมภาพลักษณ์ของตัวรถให้มีความโดดเด่น ลงตัวมากยิ่งขึ้นแล้ว ยังเป็นหัวใจสำคัญในที่ช่วยเติมเต็มทัศนวิสัยและความปลอดภัยให้กับผู้ขับขี่ บอกเลยว่า ไม่ได้มีดีแค่ความเท่ แต่ยังทำให้ขี่ได้ง่าย แม้ต้องสัญจรหรือใช้งานในเวลากลางคืน ซึ่งหลังจากที่ผมลองแล้ว บอกเลยว่า...ไฟหน้าเซ็ตนี้สว่างแบบสอบผ่านทุกแหล่งอับแสงจริงๆ
ขุมพลัง Blue Core + VVA จุดกำเนิดแห่งความเร้าใจ
สิ่งที่เป็นไฮไลท์สำคัญของ Yamaha AEROX 155 นั่นก็คือ ในเรื่องขุมพลัง ที่ทุกคนต่างรู้กันดีว่า นี่คือ เครื่องยนต์ที่ทรงพลังที่สุดในคลาส ภายใต้เทคโนโลยี Blue Core อันเลื่องชื่อ ปลุกเสกให้เครื่องยนต์ 1 สูบ 4 จังหวะ พิกัด 155 ซีซี. ระบายความร้อนด้วยน้ำบล็อคนี้ เป็นขุมพลังที่ไร้เทียมทาน โดยทุกองค์ประกอบผ่านการคิดค้นและคัดสรรค์เทคโนโลยีที่ดีที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการใช้ลูกสูบที่ขึ้นรูปด้วยกรรมวิธี Forged ที่ให้ความแข็งแรง และมีน้ำหนักเบา จับคู่กับกระบอกสูบแบบ DiAsil รวมถึงข้อเหวี่ยงแบบเยื้อศูนย์ ที่ช่วยลดความฝืดในการเคลื่อนที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่ไฮไลท์เด็ดที่ขาดไม่ได้ อันเป็นที่มาของคำพูดสุดฮิตที่ว่า "วาล์วเปิด...โลกเปลี่ยน" นั่นก็คือ การนำระบบวาล์วแปรผัน VVA หรือ Variable Valve Actuation มาใช้ ซึ่งเป็นการใช้ลูกเบี้ยวแคมชาฟท์ฝั่งไอดีมาใช้ถึง 2 ชุด อันประกอบไปด้วย ลูกเบี้ยวแคมชาฟท์องศาต่ำ ซึ่งช่วยเรียกแรงบิด และพละกำลังในช่วงต้นให้สามารถใช้งานได้อย่างรวดเร็ว ก่อนที่ในช่วง 6,000 รอบ/นาที ขึ้นไป แคมชาฟท์องศาสูง จะมารับช่วงต่อเพื่อสร้างกำลังสูงสุดในการขับเคลื่อน Yamaha AEROX 155 จึงเป็นเสมือน มอเตอร์ไซค์รูปแบบสปอร์ตออโตเมติกที่ใส่แคมชาฟท์แต่งมาให้จากโรงงานเลยทีเดียว สำหรับใครที่ใจร้อนอยากรู้ฟีลลิ่งว่าจะเร็ว แรงขนาดไหน อยากให้อดใจรอกันอีกนิด แล้วไปร่วมสัมผัสการขับขี่ไปพร้อมๆ กันเราครับ แต่บอกไว้เลย ว่าแรงงง !!! ไม่สนใจโลกจริงๆ
ดิสก์เบรกหน้าพร้อม ABS หยุดได้มั่นใจกว่า
เมื่อมีเครื่องยนต์ที่ให้พละกำลังสูงแล้ว สิ่งที่สำคัญไม่แพ้กันก็คือ การออกแบบระบบรองรับที่มีประสิทธิภาพ จากจากจะให้การขับขี่ที่ดีแล้ว ยังเป็นปัจจัยที่ช่วยเติมความเท่ขึ้นไปอีกขั้น เช่น การใช้ล้อขนาด 14 นิ้ว ที่มาพร้อมยางหน้ากว้างถึง 110/80 และยางหลัง 140/70 ซึ่งให้อารณ์ในแบบบิ๊กไบค์ สื่อถึงความเป็นสปอร์ต ดุดันเต็มอารมณ์ พิเศษกว่าเฉพาะในรุ่น R Version ที่ใส่ซับแทงค์ และดิสก์เบรกหน้าแบบคลื่นเข้าไปช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการระบายความร้อน ส่วนในรุ่น ABS Version มาพร้อมดิสก์เบรกหน้าขนาด 230 มม. พร้อม ABS ที่ล้อหน้า และดรัมเบรกในด้านหลัง
ช่องเก็บของใต้เบาะขนาดใหญ่ รองรับทุกรูปแบบการเดินทาง
กุญแจ Smart Key ใช้งานสะดวกสุดๆ
สำหรับ Yamaha AEROX 155 ที่ผมได้ทดลองขี่ในครั้งนี้ เป็นรุ่น ABS Version ซึ่งเป็นรุ่นท็อปเกรด ค่าตัว 75,900 บาท เห็นแล้วต้องบอกว่าเย้ายวนใจเลยทีเดียว เพราะนอกจากจะมีหน้าตาที่หล่อเหลาเอาการแล้ว สิ่งที่มองแล้วว้าวสุดๆ นั่นก็คือ สีสันใหม่ที่มาในรูปแบบของสีเหลือบ ซึ่งเราแทบจะไม่เคยเห็นการใช้สีสันแบบนี้ในมอเตอร์ไซค์ ซึ่งส่งให้ตัวรถ Yamaha AEROX 155 ดูแพง และสร้างสุดสนใจอย่างปฏิเสธไม่ได้ ต้องบอกว่างานนี้ทางค่ายทำการบ้านมาได้ดีจริงๆ ตัวรถ Yamaha AEROX 155 แม้จะได้รับการออกแบบใหมีความเป็นสปอร์ตแบบเต็มขั้น แต่ก็ยังเป็นมอเตอร์ไซค์ที่สามารถขับขี่ได้ง่าย ด้วยน้ำหนักตัวที่เบาเพียง 118 กก. พร้อมการออกแบบท่านั่ง ให้มีความกระชับ ทะมัดทะแมง และให้ความรู้สึกว่าตัวรถอยู่ในการควบคุมตลอดเวลา และสิ่งที่ทำให้มั่นใจได้สุดๆ กับการใช้มอเตอร์ไซค์ในรูปแบบออโตเมติก ก็คือ ด้วยความเป็นผู้นำของค่ายยามาฮ่าในการคิดคนเทคโนโลยีนี้ขึ้นมาเป็นรายแรก ทำให้ผมภาพจำอยู่ในหัวเสมอว่า "ถ้าเป็นรถออโตเมติก ยังไงก็ต้องยามาฮ่า" อีกทั้งยังเป็นแบรนด์เดียวที่กล้ารับประกันให้อีก 5 ปี หรือ 50,000 กม. ยิ่งทำให้ผมรู้สึกมั่นใจกับมอเตอร์ไซค์จากแบรนด์ยามาฮ่ามากขึ้นไปอีก
คล่องตัว ซอกแซกง่าย อัตราเร่งดี
ว่าแล้วก็ได้เวลาออกเดินทางด้วยภารกิจที่รออยู่เบื้องหน้ามากมาย ทำให้ในวันนี้ต้องรีบเป็นพิเศษ ซึ่ง Yamaha AEROX 155 ก็ตอบโจทย์ได้ดีตั้งแต่ยังไม่เริ่มขี่ ด้วยระบบ Smart Key ที่เพียงแค่พกกุญแจติดตัวไว้ ก็สตาร์ทเครื่องยนต์ได้ทันที โดยมีเสียงคำรามเบาๆ จากเครื่องยนต์ที่สื่อได้ถึงพลังที่รอการปลดปล่อย และทันทีที่ออกตัว ผมก็ได้รับรู้ถึงข้อดีของการใช้ลูกเบี้ยวแคมชาฟท์แบบ 2 ชุด ของระบบวาล์วแปรผัน VVA เพราะ Yamaha AEROX 155 สามารถเร่งออกตัวได้อย่างรวดเร็ว ไม่ต้องเติมคันเร่งเยอะก็พร้อมตอบสนองได้อย่างทันอกทันใจ ซึ่งแน่นอนว่า ด้วยการตอบสนองที่ดีตั้งแต่ออกตัวเช่นนี้ ส่งผลให้การขับขี่ในเมืองนั้น ทำได้อย่างสนุกสนาน ให้ความคล่องตัวสูง สามารถซอกแซก มุดซ้าย มุดขา ด้วยวงเลี้ยวที่แคบและเบา เพื่อหลีกหนีความวุ่นวายได้ง่าย ทำให้สามารถไปถึงจุดหมายได้เร็วและปลอดภัยยิ่งขึ้น ยิ่งเมื่อจับคู่กับระบบช่วงล่างที่ออกแบบมาให้ตัวรถ Yamaha AEROX 155 สามารถบังคับควบคุมได้ง่ายด้วยแล้วล่ะก็ ถือว่าเป็นส่วนผสมที่เรียกได้ว่า Perfect Match สำหรับรถในระดับนี้ได้อย่างแท้จริง ขี่ไปเรื่อยๆ แบบเพลินๆ ถึงไฟแดง เครื่องยนต์ดับลงแบบเงียบๆ ในทันที นั่นแสดงระบบการทำงานที่รวดเร็วของ Stop & Start System ซึ่งจะประมวลผลจากลักษณะการขับขี่เพื่อสั่งดับเครื่องให้เหมาะสมในแต่ละสถานการณ์ ช่วยในเรื่องความประหยัดได้มากยิ่งขึ้น เติมน้ำมันเต็มถัง วิ่งกันเพลินๆ จนลืมไปเลยทีเดียว
ทำความเร็วได้สูง ให้ความมั่นคง เดินทางไกลๆ เอาอยู่
แต่ด้วยคำชมแค่นี้ อย่าเพิ่งด่วนสรุปว่า Yamaha AEROX 155 เป็นมอเตอร์ไซค์สปอร์ตออโตเมติกที่มีดีอยู่แค่นั้น แต่สำหรับการเดินทางไกลๆ สำหรับสายท่องเที่ยว สายอุทยาน ต้องยอมรับว่า Yamaha AEROX 155 ทำได้ดีกว่าที่ผมคาดไว้พอสมควรเลยทีเดียว เห็นขี่ในเมืองคล่องๆ แบบนี้ เลยทำให้แอบคิดในใจว่า ออกทางไกลๆ จะไหวไหม จะนิ่งพอหรือเปล่า ทำความเร็วได้ขนาดไหน ซึ่งคงไม่มีสิ่งใดที่ไขคำตอบได้ดีเท่ากับการลองด้วยตัวเอง และหลังจากที่ผมขี่ออกนอกเมืองมาไกลร่วมๆ 100 กม. ผมก็ได้คำตอบที่ต้องการ และต้องยอมรับว่า Yamaha AEROX 155 เป็นมอเตอร์ไซค์แนวสปอร์ตออโตเมติกที่ครบเครื่องมากกว่าที่คิดจริงๆ การขับขี่ด้วยความเร็วที่สูงขึ้นไป ยังสามารถไต่ความเร็วได้อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะที่ 6,000 รอบ/นาที ขึ้นไป ที่ระบบ VVA ใช้แคมชาฟท์ชุดองศาสูงช่วยเรียกพละกำลังในระดับสูงสุด ช่วยให้การเร่งแซง หรือได้เพดานความเร็วที่เหนือกว่า 115 กม./ชม. ทำได้แบบสบายๆ โดยที่ตัวรถยังคงนิ่ง ไม่ออกอาการส่วย แม้จะต้องเจอแรงลมปะทะจากหลากหลายทิศทาง ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงประสิทธิภาพการทำงานของระบบช่วงล่าง รวมถึงการออกแบบที่สอดรับกับหลักอากาศพลศาสตร์อย่างแท้จริง ส่วนเรื่องการเข้าโค้งในรูปแบบต่างๆ Yamaha AEROX 155 สามารถพลิกเข้าโค้งได้อย่างรวดเร็ว และรักษาระดับการเข้าโค้งได้อย่างมั่นคง นั่นส่งผลให้สามารถขับขี่ได้อย่างมั่นใจมากยิ่งขึ้น ขี่บนถนนยังสนุกขนาดนี้ บอกเลยว่า ถ้าเอาไปขี่เล่นในสนามแข่ง สนุกเกินจินตนาการแน่นอนครับ
เดิมๆ ว่าหล่อแล้ว เชื่อสิว่าถ้าเอาไปแต่ง...จะยิ่งสุด !
ในส่วนของฟีลลิ่งการขับขี่ ไม่มีอะไรที่ต้องสงสัยหรือคาใจกันอีกต่อไป แต่อีกสิ่งหนึ่งที่ผมอยากจะนำเสนอเหลือเกิน นั่นก็คือ ด้วยความที่เราๆ ท่านๆ ชาว BoxzaRacing เป็นสายแต่ง สายซิ่งกันอยู่แล้ว ก็ย่อมที่จะเห็นอะไรที่ซ่อนอยู่ใน Yamaha AEROX 155 อย่างแน่นอน ซึ่งรถที่มีดีไซน์ที่สวยเด็ดดวงมาจากโรงงานเช่นนี้ การที่จะนำมาแต่ง เพิ่มนู่น เติมนี่ มันก็ยิ่งจะเป็นการส่งเสริมและสร้างเอกลักษณ์ให้กับสองล้อคันเก่งของคุณให้มีความโดดเด่นขึ้นไปอีกขั้น เพราะยิ่งพื้นฐานดีเท่าไหร่ ก็ยิ่งต่อยอดไปไกลได้มากเท่านั้น โดยในปัจจุบัน เชื่อว่ามีของแต่งมากมายจากหลากหลายสำนักที่พร้อมเสริฟความหล่อให้กับ Yamaha AEROX 155 ขึ้นไปอีกขั้น สปอร์ตออโตเมติกผู้นี้ จึงถือว่าเป็นทางเลือกเบอร์ 1 สำหรับคนที่ต้องการความ "สุดในรุ่น" เพราะ Yamaha AEROX 155 ก็มีให้คุณแบบครบทุกองค์ประกอบ ไม่ว่าจะเป็น เครื่องแรงที่สุด ดีไซน์สปอร์ตที่สุด และแต่งได้เฉียบที่สุด ซึ่งเพียงเท่านี้ ผมว่ามันก็เป็นเหตุผลที่มีน้ำหนักพอแล้วนะ สำหรับการเลือกรถมอเตอร์ไซค์สักคันอย่าง Yamaha AEROX 155 มาไว้เป็นหนึ่งในครอบครอง
Yamaha AEROX 155 นับเป็นมอเตอร์ไซค์อีกหนึ่งรุ่นที่ผ่านการรังสรรค์มาอย่างชาญฉลาด ซึ่งถ้าหากมองย้อนให้ลึกลงไป นั่นแสดงให้เห็นถึงวิสัยทัศน์แห่งแบรนด์ Yamaha ที่เกิดมาเพื่อเป็นเบอร์ 1 แห่งวงการเสมอมา ซึ่งแน่นอนว่า สำหรับ Yamaha AEROX 155 คงไม่มีอะไรที่จะเหมาะไปกว่าความเป็น ราชาแห่งสปอร์ตออโตเมติกตัวจริง อย่างแน่นอน ซึ่งทุกท่านสามารถชมรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Yamaha AEROX 155
Yamaha AEROX 155
- รุ่น Standard Version สีดำ-แดง และ สีน้ำเงิน-ขาว ราคาแนะนำ 65,400 บาท
- รุ่น R Version สีเขียวและสีเทา-ฟ้า ราคาแนะนำ 68,400 บาท
- รุ่น ABS Version สีเทา-แดง กับ สีดำ-ฟ้า ราคาแนะนำ 75,900 บาท