Mercedes-Benz จัดกิจกรรมอบรมเทคนิคการขับปลอดภัยขั้นสูง Mercedes-Benz Driving Events 2019 พร้อมขนทัพรถหรูกว่า 20 รุ่น โชว์สมรรถนะ ณ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต
บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด ตอกย้ำวิสัยทัศน์ความเป็นผู้นำนวัตกรรมยานยนต์ด้านความปลอดภัย จัดกิจกรรมฝึกอบรมเทคนิคการขับปลอดภัย Mercedes-Benz Driving Events 2019 โดยทีมผู้ฝึกสอนมืออาชีพร่วมให้คำแนะนำในการฝึกทักษะการขับปลอดภัยขั้นสูงอย่างใกล้ชิดด้วยยนตรกรรมหรูกว่า 20 รุ่น พร้อมด้วยรถยนต์รุ่นใหม่ล่าสุดอย่าง The new Mercedes-Benz A-Class และ The new Mercedes-Benz GLE รวมทั้ง Mercedes-Benz GLC และ Mercedes-Benz GLC Coupé รุ่นประกอบในประเทศโฉมใหม่
ในโอกาศนี้ มร.โรลันด์ โฟล์เกอร์ ประธานบริหาร บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด ได้กล่าวไว้ว่า บริษัทฯ มุ่งมั่นในการคิดค้น และพัฒนาเทคโนโลยีระบบความปลอดภัยอันก้าวล้ำ เพื่อให้เกิดผลลัพธ์ในเรื่อง การลดอัตราการเกิดอุบัติเหตุจากการขับขี่ให้เป็นศูนย์ (Accident-Free Driving) มาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงพันธกิจที่ Mercedes-Benz ให้ความสำคัญเสมอมา นั่นคือการคำนึงถึงความปลอดภัยสูงสุดของผู้ขับรถยนต์ นอกจากนี้บริษัทฯ มองเห็นว่าอีกส่วนสำคัญที่จะทำให้เกิดความปลอดภัยสูงสุดบนท้องถนน คือ การพัฒนาทักษะการขับ เพื่อให้ผู้ขับ ได้มีความรู้ความเข้าใจในการใช้งานระบบความปลอดภัยของรถยนต์ Mercedes-Benz อย่างถ่องแท้ และสามารถนำไปใช้ให้เป็นประโยชน์ในการช่วยเหลือตนเอง และบุคคลรอบข้าง ในกรณีที่เกิดเหตุคับขัน เพื่อช่วยลดความรุนแรงที่อาจจะเกิดขึ้นได้อีกทางหนึ่งอีกด้วย
นอกจากนี้ มร. บีเยิร์น กุซเทรา รองประธานบริหาร ฝ่ายขายและการตลาด บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า สำหรับกิจกรรมฝึกอบรมเทคนิคการขับขี่ปลอดภัย Mercedes-Benz Driving Events 2019 ซึ่งจัดขึ้นนี้ มีวัตถุประสงค์ที่จะเสริมทักษะความรู้ และวิธีการขับขี่ปลอดภัยให้กับสื่อมวลชน และลูกค้ารถยนต์ Mercedes-Benz อีกทั้งเพื่อฝึกฝนให้ผู้ขับสามารถคาดการณ์อันตรายต่างๆ ได้ล่วงหน้า และสามารถหลีกเลี่ยงการเกิดอุบัติเหตุได้อย่างทันท่วงที โดยผู้เข้ารับการอบรมจะได้เรียนรู้ และพัฒนาทักษะการขับแบบขั้นสูง (Advance Course) ควบคู่ไปกับการใช้ระบบความปลอดภัยใหม่ๆ ของ Mercedes-Benz
ในการนี้บริษัทฯ ได้เตรียมรถยนต์ Mercedes-Benz สำหรับการทดสอบไว้กว่า 20 รุ่น โดยมีไฮไลท์สำคัญที่รถยนต์ 5 รุ่นล่าสุด Mercedes-Benz A 200 AMG Dynamic ซึ่งเป็นเจเนอเรชันที่ 4 ของยนตรกรรมอัจฉริยะในกลุ่มคอมแพ็คคาร์ และ Mercedes-Benz GLE 300 d 4MATIC AMG Dynamic ที่สุดแห่งยนตรกรรม SUV 7 ที่นั่ง ที่มาพร้อมขุมพลังเครื่องยนต์ดีเซล รวมทั้งรถ SUV ดีไซน์สปอร์ตรุ่นประกอบในประเทศโฉมใหม่ Mercedes-Benz GLC 220 d, Mercedes-Benz GLC 220 d AMG Dynamic และ Mercedes-Benz GLC 220 d 4MATIC Coupé AMG Dynamic พร้อมกันนี้ผู้เข้าร่วมกิจกรรม จะได้รับการฝึกอบรมจากทีมผู้ฝึกสอนมืออาชีพของ Mercedes-Benz นำทีมโดย มร. ปีเตอร์ แฮ็คเค็ท ที่มีประสบการณ์ด้านการฝึกสอนเทคนิคการขับปลอดภัยมาแล้วไม่ต่ำกว่า 20 ปี ซึ่งหลังจากเสร็จสิ้นการฝึกทุกสถานี้แล้ว ผู้เข้าร่วมอบรมจะมีความเข้าใจ และสามารถใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีความปลอดภัยอันทันสมัยที่ติดมากับตัวรถได้อย่างเต็มที่
นอกจากผู้เข้าร่วมอบรมจะได้เรียนรู้วิธีการขับปลอดภัย และได้สัมผัสสมรรถนะอันดีเยี่ยม ควบคู่ความโฉบเฉี่ยวเร้าใจสไตล์สปอร์ต อันถือเป็นเอกลักษณ์ของ Mercedes-Benz รวมถึงความสามารถในการตอบสนองที่รวดเร็ว ตอบรับทุกไลฟ์สไตล์การขับขี่ได้เป็นอย่างดีของรถยนต์ Mercedes-Benz ทุกรุ่น โดยบริษัทฯ ได้จัดเตรียมรถยนต์ Mercedes-Benz รุ่นต่างๆ สำหรับการฝึกไว้กว่า 20 รุ่น ไม่ว่าจะเป็น รถยนต์ในกลุ่ม Compact Car อย่าง A 200 AMG Dynamic และ A 200 Progressive กลุ่ม SUV อย่าง GLE 300 d 4MATIC AMG Dynamic, GLC 220 d 4MATIC, GLC 220 d, GLC 220 d AMG Dynamic และ GLC 220 d 4MATIC Coupé AMG Dynamic
รวมไปถึงกลุ่มรถยนต์สมรรถนะสูงจากแบรนด์ Mercedes-AMG อาทิ Mercedes-AMG GT 53 4MATIC+ 4-Door Coupé, Mercedes-AMG E 63 S 4MATIC+, Mercedes-AMG C 63 S Coupé, Mercedes-AMG A 45 4MATIC, Mercedes-AMG GLA 45 4MATIC, Mercedes-AMG CLA 45 4MATIC, Mercedes-AMG C 43 4MATIC Coupé, Mercedes-AMG C 43 4MATIC, Mercedes-AMG GLC 43 4MATIC Coupé, Mercedes-AMG GLE 43 4MATIC Coupé, Mercedes-AMG E 53 4MATIC+ Coupé, Mercedes-AMG E 53 4MATIC+, Mercedes-AMG SLC 43 และ Mercedes-AMG CLS 53 4MATIC+
สำหรับรายละเอียดการอบนั้นถูกแบบออกเป็นสถานี เพื่อให้ผู้เข้าอบรมได้ทดลองใช้ระบบการจัดการ และเทคโนโลยีต่างๆ อีกทั้งยังได้สัมผัสกับรถในหลายๆ รูปแบบ ซึ่งรถแต่ละรุ่นก็ให้ความรู้สึกที่ต่างกันออกไป แน่นอนว่าผู้เข้ารวมอบรถจะต้องปรับตัวเข้าหารถให้ได้มากที่สุดภายใต้พื้นฐานการขับที่ถูกต้อง
สถานีที่ 1: Brake & Lane Change
เป็นการทดสอบการควบคุมเบรกฉุกเฉิน และทดสอบความเร็วในการตอบสนองต่อสิ่งเร้าของ ผู้ขับ โดยผู้เข้าอบรมจะได้ทดสอบระบบความปลอดภัย ABS ระบบช่วยเบรก และไฟเบรกกระพริบฉุกเฉิน (Adaptive brake light) ที่สามารถมองเห็นได้จากภายนอก โดยผู้ทดสอบต้องขับรถออกจากจุดเริ่มต้นด้วยความเร็วประมาณ 100 กิโลเมตร/ชั่วโมง เหยียบเบรก และหักเลี้ยวไปในทิศทางตามการให้สัญญาณของผู้ฝึกสอน ซึ่งการทดสอบนี้ได้รับการออกแบบให้ผู้ขับขี่ฝึกการใช้เบรกฉุกเฉิน และการควบคุมรถภายใต้ความกดดัน
สถานีที่ 2: ESP Simulation
สถานการณ์ที่ยากที่สุดสำหรับผู้ขับ คือการที่ต้องเผชิญกับสิ่งกีดขวางบนท้องถนนโดยที่ไม่ทันตั้งตัว และไม่มีเวลาเบรก ทักษะการหลบหลีก และน้ำหนักในการเหยียบคันเร่งจึงเป็นสิ่งที่ผู้ขับที่ทุกคนจำเป็นต้องมี เพื่อที่จะสามารถผ่านการทดสอบในสถานีนี้ได้ ดังนั้นการใช้ระบบความปลอดภัย ESP จึงเป็นตัวช่วยสำคัญที่จะทำให้ผู้ขับมีความมั่นใจในการควบคุมรถให้ไปในทิศทางที่ต้องการในสถานการณ์อันคับขัน
สถานีที่ 3: Drag Race & Brake to a Point
สำหรับสถานีนี้ที่เปิดโอกาสให้ผู้เข้าอบรมได้สัมผัสถึงสมรรถนะของรถยนต์ Mercedes-Benz และ Mercedes-AMG ได้อย่างเต็มที่ ด้วยการจำลองการแข่งขันมอเตอร์สปอร์ตรูปแบบ Drag Racing พร้อมฝึกทักษะการตอบสนองของผู้เข้าร่วมการอบรม โดยรถทั้งสองคันจะถูกปล่อยตัวพร้อมกันเมื่อสัญญาณไฟแดงดับลง และผู้ขับจะต้องเบรกเมื่อถึงจุดที่กำหนดไว้ ผู้ที่สามารถหยุดรถให้อยู่ในจุดที่กำหนดได้จะถือว่าชนะการแข่งขัน
สถานีที่ 4: Cornering Exercise
เป็นการทดสอบการเข้าโค้ง โดยจะใช้พื้นที่โค้งในสนามที่มีความกว้างแตกต่างกันไป เป็นการฝึกทักษะที่จำเป็นในการขับ อันได้แก่ การเบรก การบังคับทิศทางรถ และการมองเห็นได้อย่างเต็มที่ ผู้ฝึกสอนจะเป็นผู้นำการขับไปในพื้นที่ส่วนหนึ่งของสนาม ทำให้ผู้เข้ารับการอบรมได้ฝึกการขับในเส้นทางการแข่งรถจริงๆ ทั้งยังได้เรียนรู้เทคนิคการขับของนักแข่งรถ ไปพร้อมกับการได้สัมผัสประสบการณ์การขับรถยนต์ Mercedes-Benz หลากหลายรุ่น และความแตกต่างระหว่างรถยนต์แต่ละรุ่น ไม่ว่าจะเป็นทั้งรถยนต์โดยสาร หรือแม้แต่รถเอสยูวี
สถานีที่ 5: Handling Course
คือการจำลองการแข่งขันมอเตอร์สปอร์ตที่เพิ่มความตื่นเต้นเร้าใจให้ผู้ร่วมอบรมทุกคน ด้วยการจับเวลาการแข่งขัน โดยผู้ทดสอบจะได้ใช้ทักษะในการควบคุมรถ การเบรก และการเร่งความเร็วของรถยนต์ โดยในสถานีนี้ผู้เข้าอบรมจะได้ทดลองขับรถยนต์ Mercedes-Benz A-Class รุ่นใหม่ ซึ่งทำให้ผู้ทดสอบสามารถเปรียบเทียบทักษะของตนเอง พร้อมทั้งเรียนรู้จากข้อผิดพลาดของผู้อื่นอีกด้วย
สถานีที่ 6: Lead & Follow
และสุดท้ายกับสถานี Lead & Follow นี้ รถยนต์ Mercedes-Benz และ Mercedes-AMG จะถูกแบ่งเป็น 4 กลุ่ม ซึ่งรถในแต่ละกลุ่มจะมีลักษณะ และสมรรถนะที่คล้ายคลึงกัน เพื่อให้ผู้เข้าอบรถได้ฝึกทักษะการขับแบบนักแข่งรถตามเส้นทางการแข่งรถของจริงบนสนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ไปพร้อมสัมผัสสมรรถนะของ Mercedes-Benz และ Mercedes-AMG อย่างเต็มรูปแบบ โดยผู้ฝึกสอนจะเป็นผู้นำเส้นทางไปรอบๆ สนาม พร้อมทั้งให้คำแนะนำอย่างใกล้ชิดสำหรับการขับบนเส้นทางรถแข่ง เพื่อเสริมสร้างทักษะการขับที่ปลอดภัยให้กับผู้เข้าร่วมการอบรถทุกท่าน
นับเป็นการเปิดประสบการณ์ในการขับ และเสริมทักษะด้านความปลอดภัยให้สูงขึ้นกับกิจกรรม Mercedes-Benz Driving Events 2019 และไม่เพียงเท่านี้ ยังได้การสัมผัสกับเทคโนโลยีความปลอดภัยชั้นสูงที่ทาง Mercedes-Benz เน้นย้ำอยู่ตลอดเวลาว่าเป็นสิ่งสำคัญต่อการใช้รถในปัจจุบัน ตามที่ได้มุ่งมั่นถึงการคิดค้น และพัฒนาเทคโนโลยีระบบความปลอดภัยอันก้าวล้ำ เพื่อให้เกิดผลลัพธ์ในเรื่องการลดอัตราการเกิดอุบัติเหตุจากการขับให้เป็นศูนย์ (Accident-Free Driving) นั่นเอง