All New Chevrolet Captiva รุ่นใหม่ล่าสุด
ต้องบอกว่าในวันนี้กระแสของรถประเภท SUV ในตลาดเมืองไทยนั้นมีการแข่งขันกันสูงมาก ทุกค่ายรถที่มีรถประเภท SUV ต่างงัดกลยุทธ์ และเทคนิคต่างๆ ออกมา ประชันขันแข่งกันอย่างสนุก ซึ่งก็เป็นผลดีสำหรับผู้บริโภคอย่างเราๆ ท่านๆ ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ ค่าย Chevrolet ที่ได้นำรถประเภทนี้เข้ามาฝั่งรากขายที่เมืองไทยนานนับสิบปีอย่าง Chevrolet Captiva
มีมาให้เลือก 3 รุ่นย่อย LS, LT และรุ่น Premier
Chevrolet Captiva นับตั้งแต่เปิดตัวครั้งแรกในเมืองไทย ที่งาน บางกอก อินเตอร์เนชันแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 28 เมื่อวันที่ 30 มีนาคม พ.ศ. 2550 แทบจะไม่มีการเปลี่ยนไปเลยในช่วง 10 กว่าปีที่ผ่านมา จะมีเพียงแค่การปรับเปลี่ยนเป็นรุ่นไมเนอร์เชนจ์ 2 ครั้งในช่วงปี พ.ศ.2554 และในปี พ.ศ.2559 ที่ผ่านมา
ได้รับกับออกแบบใหม่หมดในทุกสัดส่วน โฉบเฉี่ยวในทุกดีไซน์
จนมาเมื่อวันที่ 9 กันยายน 2562 ที่ผ่านมา ทางค่าย Chevrolet ได้เผยโฉม SUV รุ่นใหม่ล่าสุดที่ได้รับการพลิกโฉมใหม่ตั้งแต่หน้าจรดท้าย พร้อมกับขุมพลังใหม่ ซึ่งหลังจากนั้นไม่กี่วันหลังจากเปิดตัวเจ้า All New Chevrolet Captiva ทาง BoxzaRacing ก็ได้รับเทียบเชิญให้ไปสัมผัส และลองถึงสมรรถนะของ Chevrolet Captiva 2019 รุ่นใหม่ล่าสุด ในเส้นทาง กรุงเทพ-หัวหิน
แต่ก่อนที่จะไปลองถึงสมรรถนะของเจ้า Chevrolet Captiva 2019 ตัวใหม่นี้ เรามาทำความรู้จักกับ SUV คันนี้คันนี้กันก่อน Chevrolet Captiva 2019 นี้รับการปรับเปลี่ยนรูปลักษณ์ให้มีความล้ำสมัยมากขึ้น โดยใช้แนวคิด 3S เริ่มจาก Style ที่มากับดีไซน์ที่โฉบเฉี่ยวทั้งภายนอก และภายใน Space เน้นพื้นที่ภายในห้องโดยสารกว้างขวาง และอเนกประสงค์ยิ่งขึ้น ปิดท้ายด้วย Smart Technology กับหลากหลายฟังก์ชันเทคโนโลยีสุดล้ำที่รวบรวมอยู่ในตัว Chevrolet Captiva 2019 คันนี้
Chevrolet Captiva 2019 จะมีทั้งหมด 3 รุ่น ย่อยด้วยกัน ประกอบไปด้วย รุ่น LS, LT และรุ่นท๊อป Premier ส่วนมิติตัวถังภายนอก ของ Chevrolet Captiva ใหม่
น้ำหนักตัวรถเปล่า 1,520 กก. (รุ่น LS), 1,600 กก. (รุ่น LT), 1,630 กก. (รุ่น Premier) โดย Chevrolet Captiva รถอเนกประสงค์รุ่นใหม่นี้ จะมีน้ำหนักน้อยกว่ารุ่นก่อนที่เป็น รุ่น 2.4 ลิตร โดยมีน้ำหนักน้อยลงกว่าเดิมถึง 200 กิโลกรัม
ส่วนในการออกแบบรูปลักษณ์ของ Chevrolet Captiva 2019 ใหม่นี้ ทั้งภายนอก และภายในถือว่าเป็นหัวใจสำคัญของ Chevrolet Captiva 2019 คันนี้เลย คือจะเป็นส่วนหนึ่งใน 3S นัั้นก็คือ Style ซึ่งในรูปลักษณ์ภายนอกนั้นได้รับการออกแบบให้ดูโฉบเฉี่ยว และเร้าใจมากยิ่งขึ้น โดย Chevrolet Captiva 2019 รุ่นใหม่นี้ออกแบบโดยได้รับแรงบันดาลใจ มาจากเครื่องบินรบล่องหน F-35 Stealth ของกองทัพอากาศสหรัฐอเมริกา
เส้นสายด้านข้างตัวถังที่คมชัด
หลังคา Panoramic Sunroof ที่มีความกว้างถึง 0.82 ตร.ม. พร้อมระบบเปิด-ปิดอัตโนมัติ One-touch
เพียงแว๊บแรกที่ได้เห็น Chevrolet Captiva 2019 ต้องบอกได้เลยว่าโดนใจจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นเส้นสายที่ด้านข้างที่มีเหลี่ยมมีสันที่คม ทำให้ดูสง่างาม และปราดเปรียว มาพร้อมกับกระจกมองข้างปรับระดับไฟฟ้าพร้อมสัญญาณไฟเลี้ยวแบบ LED, พร้อมกับเสริมแต่งให้สะดุดตาด้วยดีไซน์หลังคาแบบลอยตัวที่จะทำให้ตัวรถดูสูง หลังคาจะเป็นแบบหลังคาพาโนรามิก (Panoramic Sunroof) กว้างขวางถึง 0.82 ตร.ม. มาพร้อมระบบเปิดปิดอัตโนมัติ One-touch (สำหรับรุ่น Premier เท่านั้น)
Chevrolet Captiva 2019 ออกแบบโดยได้รับแรงบันดาลใจ มาจากเครื่องบินรบล่องหน F-35 Stealth
ไฟ Day Time Running Light ที่ได้รับการดีไซน์ที่โฉบเฉี่ยวมาในแบบเรียวบาง พร้อมกับปรับเป็นไฟเลี่ยวในตัว
ส่วนด้านหน้ายิ่งตรึงใจเข้าไปใหญ่กับกระจังหน้ารูปทรงสี่เหลี่ยมคางหมู ที่ดีไซน์ใหม่ได้ทันสมัยมากยิ่งขึ้น, ชุดดีไซน์ไฟหน้า LED แยกส่วน ชุดไฟ Day Time Running Light ที่ได้รับการดีไซน์ที่โฉบเฉี่ยวมาในแบบเรียวบาง ที่สำคัญถูกออกแบบให้เป็นไฟเลี้ยวในตัว ส่วนในชุดไฟหน้านั้นเป็นโปรเจคเตอร์แบบ LED ส่วนไฟตัดหมอก นั้นติดตั้งอยู่บริเวณกันชนหน้า จึงทำให้ดูเท่ห์ และทันสมัยมากยิ่งขึ้น (โดยในรุ่น LS และ LT ชุดไฟหน้าจะเป็นแบบฮาโลเจน ส่วนในรุ่น Premier จะเป็นแบบ LED)
ล้ออัลลอยในรุ่น LT มีขนาด 17 นิ้ว
ล้ออัลลอยสีทูโทน ขนาด 17 นิ้ว ในรุ่น Premier
ด้านท้ายเน้นให้ดูสปอร์ตด้วยชุดไฟท้ายแบบ LED, กันชนท้ายแบบสปอร์ต ที่ติดตั้งไฟทับทิมที่กันชนท้ายแบบพาดยาว, ด้านบนติดตั้งสปอยเลอร์หลัง พร้อมไฟเบรคหลังที่ 3 แบบ LED มาพร้อมกับดิฟฟิวเซอร์ขนาดใหญ่ ดีไซน์ใหม่ให้เข้าชุดกับท่อไอเสียแบบคู่ แยก ซ้าย-ขวา เพิ่มความโฉบเฉี่ยวด้วยล้ออัลลอยสีทูโทน ขนาด 17 นิ้ว (เฉพาะรุ่น Premier) ที่ดูโดดเด่น และงดงาม
จออินโฟเทนเมนท์ขนาด 10.4 นิ้ว
ภายในห้องโดยสารได้รับการออกแบบได้เรียบหรู ดูดี โดยเฉพาะจออินโฟเทนเมนท์ขนาด 10.4 นิ้ว ที่ดูเด่นเป็นไฮโซ พร้อมช่วยเพิ่มหรูหราได้มากขึ้น และยังมีลูกเล่นการใช้งานได้อย่างหลากหลาย ทั้งการปรับระบบปรับอากาศ, การเชื่อมต่อกับโทรศัพท์มือถือ, การเลือกดูและสั่งงานระบบต่างๆ ในตัวรถ และยิ่งโดยเฉพาะระบบเครื่องเสียงที่สามารถปรับตำแหน่งของเสียงที่เคลื่อนที่ได้ตามตำแหน่งต่างๆ ในห้องโดยสาร โดยการเลื่อนเพียงปลายนิ้วบนหน้าจอ อันนี้บอกเลยว่าน่าจะโดนใจเหล่าบรรดาคนรุ่นใหม่ และคนที่ชื่นชอบความบันเทิงทางเสียงเพลงอย่างแน่นอน
ความกว้างขวางในห้องโดยสาร อีกหนึ่งจุดขายของ All New Chevrolet Captiva
อีกไฮไลท์คงเป็นในส่วนของภายในห้องโดยสารของ Chevrolet Captiva ใหม่ ซึ่งเป็น 1 ใน 3S คือ Space โดย Chevrolet Captiva รุ่นใหม่นี้จะเน้นเพื้นที่ใช้งานภายในห้องโดยสาร โดยถูกออกแบบกว้างขวาง และอเนกประสงค์ยิ่งขึ้น ได้รับการออกแบบอย่างประณีต และทันสมัยเหมือนกับรูปลักษณ์ภายนอก ถูกตกแต่งด้วยวัสดุสีเทา และโครเมียม พวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน ที่ควบคุมระบบเครื่องเสียงพร้อมปุ่มรับวางสายโทรศัพท์ หุ้มด้วยหนัง (เฉพาะรุ่น Premier)
มาตรวัดสีแบบดิจิตอล TFT ขนาด 7 นิ้ว (รุ่น Premier) ในส่วนเข็มวัดรอบจะตีเข้าหาเข็มวัดความเร็ว
มาตรวัด รุ่น LS และ LT
ช่องแอร์ในแถวที่ 2 และ แถวที่ 3
หน้าจอมาตราวัดเป็นสีแบบดิจิตอล TFT ขนาด 7 นิ้ว (เฉพาะรุ่น Premier) ออกแบบให้มองเห็นง่ายและอ่านข้อมูลได้อย่างชัดเจน โดยในรุ่น Premier เข็มวัดรอบ กับเข็มความเร็วจะถูกตีเข้าหากัน ส่วนระบบปรับอากาศนั้นเย็นทั่วถึงทั้งห้องโดยสาร เป็นแบบแยกส่วน โดยเฉพาะในรุ่น Premier ที่มีช่องปรับอากาศมาให้ทุกตอนทั้งด้านหน้า แถวที่ 2 รวมถึงแถวสุดท้ายด้านหลัง
เบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง ในรุ่น Premier
เบาะผ้ายีนส์ Blue Denim ในรุ่น LS
ในรุ่น LT และ Premier เบาะนั่งหุ้มด้วยหนังสังเคราะห์สีชาโคล
เพิ่มความสะดวกสบายยิ่งขึ้นที่เบาะที่นั่งคนขับสามารถุปรับไฟฟ้าแบบ 6 ทิศทาง (เฉพาะรุ่น Premier) เบาะนั่งหุ้มด้วยหนังสังเคราะห์สีชาโคลให้ความรู้สึกหรูหรา (สำหรับรุ่น LT และ Premier) ส่วนสำหรับรุ่น LS จะเป็นแบบผ้ายีนส์ขอบดำที่ให้ความรู้สึกสปอร์ตโฉบเฉี่ยว ส่วนที่นั่งจะมีทั้งแบบ 5 ในรุ่น LS (สามารถปรับเปลี่ยนเป็น 7 ที่นั่ง เพียงเพิ่มเงินอีก 35,000บาท )
รุ่น LT และ Premier จะเป็นแบบ 7 ที่นั่ง เบาะนั่งสามารถแยกได้แบบ 60:40
ส่วนในรุ่น LT และ Premier จะเป็นแบบ 7 ที่นั่ง เบาะนั่งสามารถแยกได้แบบ 60:40 และเบาะที่นั่งแถวสามพับแบนราบแยกส่วนแบบ 50:50 (รุ่น LT และ Premier) เพื่อการบรรทุกสัมภาระ ที่นั่งแถวสองของ Chevrolet Captiva 2019 ยังมีความกว้างขวางของพื้นที่ช่วงขา และพื้นที่เหนือศีรษะ และยังสามารถปรับเลื่อนไปด้านหน้าเพื่อให้ผู้โดยสารเข้าไปนั่งเบาะแถวสามได้อย่างสะดวกและง่ายขึ้น เบาะแถวสองยังสามารถเลื่อนไปด้านหน้าและด้านหลังเพื่อเพิ่มความสะดวกสบายของผู้โดยสารทำให้มีพื้นที่ห้องโดยสารที่กว้างขวางเหนือกว่า นอกจากนี้ยังมีระบบปรับอากาศ ที่วางแก้ว ช่องชาร์จ USB ในทุกแถวที่นั่ง ใส่ใจความปลอดภัยได้มาตรฐานด้วยจุดยึดเบาะนั่งสำหรับเด็ก ISOFIX สำหรับผู้โดยสารตอนที่สอง รวมถึงที่ด้านท้ายยังคงกว้างขวางสามารถเก็บของในพื้นที่ด้านหลังได้มากถึง 587 ลิตร
หน้าจอ Infotainmemt ระบบสัมผัสขนาด 10.4 นิ้ว ที่แสดง ระบบตรวจวัดและแจ้งเตือนแรงดันลมยาง
และส่วนที่โดดเด่นที่สุดภายใสนห้องโดยสารของ All New Chevrolet Captiva 2019 นี้ คงเป็นบริเวณคอนโซลหน้าที่มาพร้อมหน้าจอ Infotainmemt ระบบสัมผัสขนาด 10.4 นิ้ว ซึ่งเป็นอุปกรณ์มาตรฐานในแคปติวา ทุกรุ่น และสามารถรองรับการใช้งานได้หลากหลายรูปแบบ ทั้ง วิทยุ การควบคุมระบบปรับอากาศ การปรับแต่งระบบของรถ ระบบตรวจวัดและแจ้งเตือนแรงดันลมยาง และการเชื่อมต่ออุปกรณ์ผ่าน บลูทูธ/USB/AUX ระบบเชื่อมต่อการสื่อสาร และความบันเทิงเชฟโรเลต ลิงค์ (Chevrolet Link) สามารถแสดงผลจากสมาร์ทโฟนที่ใช้ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ มีระบบการใช้งานโทรศัพท์แบบแฮนด์ฟรี และทำให้ผู้ขับขี่สามารถพูดคุยโทรศัพท์โดยไม่ต้องละสายตาจากท้องถนน และรองรับแอพพลิเคชั่นต่างๆ (รองรับ Apple CarPlay ที่จะมีในต้นปี 2563)
กล้องมองภาพรอบทิศทาง 360 องศา นำเสนอภาพรอบตัวรถแบบเรียลไทม์ รวมทั้งภาพมุมสูง
หน้าจอระบบสัมผัสของ Chevrolet Captiva 2019 ที่มีรูปทรงเหมือนแท็บเล็ต ยังแสดงผลจากกล้องมองภาพรอบทิศทาง 360 องศา นำเสนอภาพรอบตัวรถแบบเรียลไทม์ รวมทั้งภาพมุมสูง ด้วยการใช้กล้องหลายจุดรอบคันเพื่อช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถควบคุมรถเข้าจอดได้อย่างปลอดภัย ในพื้นที่ลานจอดรถ และตรอกที่คับแคบ เมื่อขับขี่ที่ความเร็วสูงสุด 20 กม.ต่อชม. จึงเหมาะกับการใช้งานบนท้องถนนในประเทศไทยเป็นอย่างยิ่ง
เครื่องระดับ Hi End จาก Infinity by Harman
ส่วนระบบเครื่องเสียงเป็นของ Infinity by Harman คุณภาพเยี่ยม แบบพรีเมียมรอบทิศทาง พร้อมลำโพง 9 ตัว รวมซับวูฟเฟอร์ (4 speakers, 4 twitters, 1 subwoofer) (เฉพาะรุ่น Premier)
ขุมพลังใหม่ครื่องยนต์เบนซิน เทอร์โบชาร์จเจอร์ 1.5 ลิตร
Chevrolet Captiva 2019 ตัวใหม่นี้ จะมาพร้อมกับขุมพลังใหม่ เป็นเครื่องยนต์เบนซิน เทอร์โบชาร์จเจอร์ 1.5 ลิตร ดับเบิลโอเวอร์เฮดแคมชาฟท์ (DOHC) พร้อมระบบวาล์วแปรผันคู่ (DVVT)ให้กำลังแรงม้าลงพื้นถึง 143 แรงม้า (105 กิโลวัตต์) ที่ 5,000 รอบต่อนาที มาพร้อมกับแรงบิดสูงสุดที่ 250 นิวตัน-เมตร ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติแปรผันแบบต่อเนื่อง CVT พร้อมโหมด Shift Control + - 8 สปีด
ระบบช่วงล่าง Chevrolet Captiva ใหม่นี้ ด้านหน้าจะเป็นแบบอิสระ แมคเฟอร์สันสตรัท พร้อมเหล็กกันโคลง, ด้านหลังจะเป็น มัลติลิงค์ พร้อมเหล็กกันโคลง ส่วนระบบเบรคจะเป็นแบบ ดิสก์เบรก ทั้งด้านหน้า และด้านหลัง All New Chevrolet Captiva จะมีเฉพาะรุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อ เท่านั้น
ระบบความปลอดภัย และระบบช่วยในการขับขี่
หลังจากที่ทำความรู้จักกับ All New Chevrolet Captiva รุ่นใหม่พอสมควรแล้ว มาถึงเรื่องของสมรรถนะการขับขี่ และภาพรวมทั้งหมดกันบ้าง โดยในการทดลองขับขี้ครั้งนี้ ทาง Chevrolet จัดให้ทีมงาน BoxzaRacing นั่งรวมกับเพื่อนสมาชิก อีก 3 ท่าน จากสื่อด้านยานยนต์ด้วยกัน เรียกว่าอัดแน่นเต็มพิกัด บนตัว All New Chevrolet Captiva รุ่น Premier ตัว Top ออกสตาร์ทจากโรงแรม VIE แถวสพานหัวช้าง ก่อนมุ่งหน้าผ่าดงรถติดใน กทม. ขึ้นทางด่วน มุ่งหน้าถนนพระราม 2 ก่อนดิ่งตรงเข้าแม่กลองสมุทรสงคราม โดยผมได้ประจำตำแหน่งที่ด้านฝั่งผู้โดยสารด้านหน้าก่อนเพียงก้าวแรกที่เข้าไปประจำที่นั่งก็รับรู้ถึงความสะดวดสบายที่มากับเบาะนั่งรุ่น Top ของ All New Chevrolet Captiva ตัวใหม่ตัวนี้ เบาะนั่งโอบกระชับเข้ากับตัวได้ดี หนังที่หุ้มกับตัวเบาะให้ผิวสัมผัสที่ดีรวมถึงฟองน้ำที่อยู่ภายในตัวเบาะนั่งนุ่มจึงทำให้เวลานั่งแล้วรู้สึกสบาย เอนหลังได้อย่างเต็มพิกัดเพราะพื้นที่ด้านหลังยังมีพื้นที่ให้เอนได้อย่างเต็มที่
หลังจากนั้นได้ปรับหน้าที่มาเป็นพลขับบ้าง ซึ่งที่รับรู้ตั้งแต่เหยียบไปที่คันเร่งตั้งแต่ออกสตาร์ท จะรับรู้ถึงความอืดในช่วงออกตัวไม่ค่อยจะหวือหวาเท่าที่ควร โดยในจังหวะที่จะ Kick Down เพื่อเร่งความเร็ว นั้นต้องรอเวลาสักนิดนึงเพื่อที่จะให้ตัวรถพุ่งทยานออกไป ถ้าเป็นประเภทพวกเท้าหนักที่ชอบความจี๊ดจ๊าดต้องบอกว่าอาจจะเสียอารมณ์กันบ้าง แต่ถ้าต้องการความจัดจ้านมากขึ้นคงต้องมาใช้ในโหมด S ซึ่งจะเพิ่มพละกำลังเข้ามาให้พอสมควร แต่จะต้องแลกมากับรอบเครื่องยนต์ที่จะดีดสูงไปถึง 5,000 รอบ/นาที แต่ก็จะได้ความเร้าใจกลับคืนมา แต่ก็ต้องบอกไว้ก่อนว่าอาจจะไม่เร้าใจสำหรับพวกประเภทรักความเร็วมากมายนัก แต่ถ้าทำความคุ้นเคย และลองจับจังหวะของตัวรถได้ ก็จะสนุกกับเครื่องยนต์เทอร์โบตัวนี้
ส่วนในเรื่องระบบช่วงล่าง ของ Chevrolet Captiva ใหม่นี้ ด้านหน้าจะเป็นแบบอิสระ แมคเฟอร์สันสตรัท พร้อมเหล็กกันโคลง, ด้านหลังจะเป็น มัลติลิงค์ พร้อมเหล็กกันโคลง พร้อมยาง 215 / 60 R17 ถูกปรับเซ็ตให้ออกมาได้อย่างดี ทำงานได้ดีมีประสิทธิภาพ ช่วยซับแรงกระแทก มีความหนึบ และนุ่ม อีกทั้งยังให้ตัวค่อนข้างมากขณะที่เข้าโค้งด้วยความเร็วสูง ไม่มีอาการโคลงให้เห็น ส่วนความเงียบของห้องโดยสารอยู่ในเกณฑ์ดี ไม่มีเสียงลมเล็ดลอดเข้ามาให้ได้ยินมากมายนัก
ส่วนในการควบคุมบังคับเลี่ยวนั้นในส่วนของพวงมาลัยต้องบอกว่า เป็นพวงมาลัยที่เบามาก จึงทำให้การบังคับควบคุมยังไม่เฉียบคมเท่าที่ควร ยิ่งตอนในช่วงทำความเร็วตอนเร่งแซงจะทำให้รู้สึกถึงความไม่มั่นคง ซึ่งพวงมาลัยที่เบามือขนาดนี้อาจจะเหมาะใช้งานในเมืองหรือกับผู้หญิงที่ไม่ชอบพวงมาลัยหนักๆมือ ซึ่งถ้าปรับเปลี่ยนให้น้ำหนักพวงมาลัยหนักขึ้นกว่านี้อีกนิดจะแจ๋มมากกว่านี้เลยที่เดียว ส่วนในเรื่องการหยุดรถนั้นระบบเบรค ดิสก์เบรก หน้า-หลังนั้น ให้ความมัั่นใจในทุกย่านความเร็ว
ซึ่งหลังจากที่ได้ลองขับในช่วงหนึ่งก็กลับมาลองความสบายอีกครั้งที่เบาะแถวที่ 2 ด้านหลังคนขับ อันนี้ต้องบอกเลยว่าถือเป็นซิกเนเจอร์ของ Chevrolet Captiva ใหม่นี้ เลย เพราะด้วยพื้นที่ด้านหลังที่นั่งสบายเหลือพื้นที่ในช่วงขาให้ยืดได้อีกเพียบ อีกทั้งยังสามารถปรับเลื่อนขึ้นหน้า และถอบหลังได้ รวมถึงยังสามารถปรับเอนนอนได้อีกด้วย ส่วนในแถวที่ 3 นั้น ถ้าเป็นผู้ใหญ่ตัวโตๆ เข้าไปนั่งนั้นจะลำบากสักนิดนึงเมื่อเทียบกับเด็กเล็ก อันนี้ถือว่าเหมาะมาก แต่ในความอำนวยความสะดวกสบายนั้นทั้งในแถวที่ 2 และ แถวที่ 3 นั้น จะมีช่องแอร์ให้ทั้ง 2 แถว ด้านหลัง รวมถึงช่องเสียบชาร์จไฟ แบบ USB ให้ทั้ง 2 แถวที่นั่ง
บทสรุป
ซึ่งจากภาพรวมทั้งหมดหลังจากที่ได้ทดลองขับเจ้า Chevrolet Captiva SUV ใหม่คันนี้ เหมาะมากสำหรับครอบครัวขนาดใหญ่ กับการใช้งานในเมืองเป็นหลัก แต่ก็สามารถนำไปใช้งานในทางไกลได้ ที่เรียกว่าเดินทางไปเรื่อยๆไม่ต้องการรีดเค้นสมรรถนะในช่วงการเดินทาง เน้นการใช้งานของตัวรถเป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็นห้องโดยสารกว้างขวางสะดวกสบาย และมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน รวมถึงทั้งฟีเจอร์ ฟังค์ชันต่างๆ ที่และเทคโนโลยีแบบล้ำๆที่มีให้อย่างครบครันใน All New Chevrolet Captiva ใหม่คันนี้ และทีสำคัญในเรื่องสนนราคาที่ตั้งเอาไว้ 1 ล้านบาท มีทอน ก็เป็นหนึ่งในตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับคนที่กำลังมองหา รถอเนกประสงค์ที่จะสามารถตอบโจทย์ได้ดีสำหรับครอบครัวยุคใหม่ในวันนี้
ราคาจำหน่ายรถอเนกประสงค์ All New Chevrolet Captiva