เขียนโดย: D wisanuporn

เมื่อ: 25 สิงหาคม 2562 - 07:13

Honda All New Accord Hybrid Tech สัมผัสแห่งความประหยัด สมรรถนะ และความสปอร์ตหรู

         จากจุดเริ่มต้นตั้งแต่ปี 1976 จวบจนปัจจุบันปี 2019 กับ  Honda All New Accord Generation 10 กับการต่อยอด และพัฒนาอย่างต่อเนื่องภายใต้แนวคิด Absolute Confidence  มุ่งเน้น 3 ด้านได้แก่ Dynamics ที่เน้นดีไซน์อันปราดเปรียว รวมถึงสมรรถนะแห่งการขับ, Captivating เสน่ห์ และความน่าดึงดูที่มาพร้อมความล้ำสมัย และ Upscale ความสง่างามที่ถูกยกระดับเกินคลาส

 

 

         จากความต้องการที่จะให้ Honda All New Accord รุ่นใหม่นี้ เป็นยนตกรรมซีดานสปอร์ตพรีเมี่ยมที่เข้ากับกลุ่มผู้ใช้รุ่นใหม่ งานนี้ผู้ผลิตจึงเน้นและนำเสนอความโดดเด่นที่มีอยู่รอบด้านให้คนกลุ่มนี้รู้จักมากขึ้น โดยใช้จุดเด่นในเรื่องของดีไซน์ซึ่งได้จากรูปโฉมภายนอก อันสง่างามหรูหรา แต่ให้ความรู้สึกสปอร์ตอย่างลงตัว ประกอบกับการออกแบบที่ประณีตตั้งใจในทุกรายละเอียด จะเห็นว่ารุ่นใหม่นี้มีการเปลี่ยนแปลงจากเดิมจนหมด ตั้งแต่ด้านหน้าด้วยกันชนขนาดใหญ่ ลงตัวกับชุดไฟหน้าแบบ LED พร้อม Daytime Running Lights มากับระบบเปิด-ปิดอัตโนมัติ สอดรับกับกระจังหน้าโครเมี่ยม เสริมด้วยความหรูหราของเส้นโครเมี่ยม พาดผ่านตัวถังด้านข้างที่ขอบกระจกและชายล่าง รับกับชุดไฟท้ายดีไซน์ใหม่แบบ LED รูปแบบใกล้เคียงกับสปอร์ตในค่าย เสริมด้วยชุดล้ออัลลอยด์ขนาด 18 นิ้ว สไตล์สปอร์ต พร้อมด้วยเทคโนโลยีลดการเกิดเสียงจากแรงสั่นสะเทือน เอกสิทธิ์เฉพาะที่อยู่ใน Honda เท่านั้น

 

 ภายในออกแบบรูปแบบแนวนอน ส่งผลให้ดูกว้าง

 

 

          ในส่วนของห้องโดยสารให้ความรู้สึกตรงข้ามกับภายนอก เพราะกว้างขวางเกินกว่าที่คิด เป็นผลมาจากการดีไซน์ด้วยเส้นสายรูปแบบแนวนอน การจัดวางอุปกรณ์ที่ค่นข้างลงตัว ในรุ่นใหม่นี้มีการเลือกใช้วัสดุคุณภาพสูงเข้ามาตกแต่งในหลายจุด ทั้งหนังแท้ และวัสดุสังเคราะห์สร้างเลียนแบบธรรมชาติอย่างลายไม้สีเข้ม ตัดด้วยความเงาของสีโลหะ อีกจุดหนึ่งที่ทำให้อารมณ์ในการขับเปลี่ยนไปพอสมควรคือ เบาะนั่งที่จัดวางในตำแหน่งต่ำตามแบบซูเปอร์คาร์ ทว่าให้ทัศนวิสัยชัดเจนอย่างไม่น่าเชื่อ ส่วนนี้ต้องยกความดีให้กับการออกแบบเสา A ที่เล็กลง ทางฝั่งคนขับสามารถปรับระดับด้วยไฟฟ้าได้ 8 ทิศทาง พร้อมระบบบันทึก Memory Seat  ได้ 2 ต่ำแหน่าง ให้ความสะดวกมากยิ่งขึ้น เมื่อเข้าออกเพราะตัวเบาะจะเลื่อนออกทุกครั้งที่ดับเครื่อง และเลื่อนเข้าตามตำแหน่งที่บันทึกไว้เมื่อสตาร์ทเครื่อง

 

พวงมาลัยแบบมัลติฟังชั่น ควบคุมและสั่งการระบบต่างๆ ได้ง่ายขึ้น

 

 

          พวงมาลัยแบบมัลติฟังชั่น ควบคุมและสั่งการระบบต่างๆ ได้ง่ายขึ้น ไม่ซับซ้อนเหมือนรุ่นก่อนๆ มาพร้อมแป้นหลังพวงมาลัยที่ไม่ได้เอาไว้ปรับเปลี่ยนเกียร์ แต่เอาไว้สำหรับสั่งการระบบ Deceleration Paddle Selectors ที่จะชลอความเร็ว และดึงรอบเครื่องยนต์ค้างไว้  ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติ แบบ Dual Zone อุปกรณ์ล้ำมากขึ้น ด้วยมาตรวัดที่แสดงข้อมูลการทำงานของระบบ แบบ TFT ขนาด 7 นิ้ว ระบบเครื่องเสียงแบบ Advanced Touch หน้าจอขนาด 8 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay และระบบสั่งการด้วยเสียง Siri ที่สามารถแสดงผลต่างๆ ได้อย่างละเอียด สำหรับรุ่นใหม่นี้มาพร้อมระบบสั่งการอัจฉริยะด้วยการสตาร์ทเครื่องยนต์ และสั่งเปิดเครื่องปรับอากาศระยะไกลด้วยกุญแจรีโมท Remote Engine Start พื้นที่ห้องโดยสารตอนหลังให้ความกว้างเกินคาดไม่ต่างจากตอนหน้า ด้วยที่นั่งกว้างสบาย ตัวพนักพิงพับได้ทั้งชิ้นเมื่อต้องการเพื่อพื้นที่ใช้สอย พร้อมที่ท้าวแขนเปิดทะลุไปยังท้ายรถ พื้นที่เก็บสัมภาระจุได้มากสุดในรถคลาสเดียวกัน มาพร้อมช่องส่งอากาศเย็นจากด้านหน้าไปด้านหลัง

 

เครื่องยนต์ Sport Hybrid i-MMD i-VTEC ขนาด 2.0 ลิตร 

 

          สมรรถนะของ Honda All New Accord รุ่น Hybrid Tech มาพร้อมเครื่องยนต์ Sport Hybrid i-MMD ซึ่งพัฒนาใหม่เป็นเครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตร (1,993 ซีซี.) i-VTEC แบบ 4 สูบ 16 วาล์ว DOHC กำลังสูงถึง 142 แรงม้าที่ 6,200 รอบ/นาที ส่วนแรงบิดสูงอยู่ที่ 175 นิวตัน-เมตรที่ 3,500 รอบ/นาที เด่นด้วยระบบหัวฉีดมัลติพอยท์ PGM -FI มาพร้อมเทคโนโลยีจ่ายเชื้อเพลิงตรงเข้าสู่ห้องเผ้าไหม้ ระบบส่งกำลังเป็นเกียร์ E-CVT อัตราทดแปรผันแบบต่อเนื่อง พร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าที่ให้กำลัง 135 กิโลวัตต์ หรือประมาณ 180 แรงม้า แรงบิดของมอเตอร์สูงที่ 315 นิวตัน-เมตรตั้งแต่ออกตัว สำหรับ Honda All New Accord Hybrid Tech นั้นใช้แบตเตอรี่แบบลิเธียม-ไอออน ความจุ 1.3 กิโลวัตต์-ชั่วโมง ให้กำลังรวมทั้งมอเตอร์ และเครื่องยนต์อยู่ที่ 210 แรงม้า มาพร้อมโหมดการขับ 3 รูปแบบ ทั้ง EV Drive Mode ที่ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า, Hybrid Drive Mode ขับเคลื่อนด้วยระบบ Hybrid และ Engine Drive Mode ที่ใช้เครื่องยนต์เพียงอย่างเดียว

 

Hybrid Drive Mode

 

EV Drivd Mode

 

Engine Drive Mode

 

          ส่วนเรื่องของความปลอดภัย Honda All New Accord Hybrid ยังคงใช้เทคโนโลยีโครงสร้างนิรภัย G-CON (G-Force Control) ลดการโค้งงอของชิ้นส่วน และช่วยกระจายแรงที่เกิดขึ้นจากการชนไปยังพื้นที่ที่กว้างกว่า ในรุ่นนี้ยังเพิ่มเทคโนโลยีใหม่กับการเชื่อมตัวถังด้วยเรเซอร์บริเวณหลังคา ซึ่งเพิ่มความแข็งแรงได้มากกว่าเดิม รวมถึง Honda sensing ระบบความปลอดภัยเชิงป้องกันไม่ว่าจะเป็น Honda Lane Watch ระบบแสดงภาพมุมอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน ซึ่งแสดงผลผ่านหน้าจอ Advanced Touch ขนาด 8 นิ้ว ระบบนี้นับว่ามีความปลอดภัยไม่น้อย โดยส่วนตัวแล้วชอบฟังก์ชั่นนี้มาก เพราะไม่ต้องเสี่ยงกับมุมอับที่มองไม่เห็น รวมไปถึง Multi-angle Rearview Camera ช่วยเพิ่มทัศนะวิสัยเมื่อถอยหลัง ที่สามารถเลือกมุมกล้องได้ทั้งแบบ 130 องศา หรือ 180 องศา  Driver Attention Monitor ระบบตรวจจับความเหนื่อยล้าผ่านการควบคุมพวงมาลัย ซึ่งจะแสดงผลขึ้นที่จอ TFT เป็นรูปถ้วยกาแฟ

 

จอ Advanced Touch ขนาด 8 นิ้ว

 

         ป้องกันมากกว่าด้วยถุงลมนิรภัย 6 ตำแหน่ง ที่คู่หน้า Dual SRS ด้านข้าง Side Airbag และม่านถุงลม Side Curtain Airbags พร้อม Electric Parking Brake ระบบเบรกมือไฟฟ้าติดตั้งบริเวณ Center panel ที่ใช้งานง่ายเพียงนิ้วดึงสวิทช์, Brake Hold ระบบหน่วงเบรกต่อเนื่องแบบอัตโนมัติ ป้องกันรถเคลื่อนตัว นอกจากนี้ยังมีอุปกรณ์มาตรฐานอย่าง ABS และ EBD ระบบป้องกันล้อล็อค และระบบกระจายแรงเบรกระหว่างล้อ สร้างความสมดุลกับน้ำหนักรถ ระบบนี้จะยิ่งเห็นผลมากเมื่อขับต้องเบรกในโค้ง อีกทั้ง Vehicle Stability Assist-VSA ควบคุมการทรงตัวขณะเข้าโค้ง

          ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน Hill Start Assist-HAS สามารถหยุดรถให้อยู่ในตำแหน่งเดิม และช่วยให้ออกตัวมีความนุ่มนวลมากขึ้น, Emergency Stop Signal สัญญาณไฟฉุกเฉินเมื่อเหยียบเบรกกะทันหัน และระบบล็อครถอัตโนมัติเมื่อกุญแจอยู่ห่างตัวรถ Walk Away Auto Lock และรุ่นนี้เด่นเรื่องของเทคโนโลยี Honda Smart Parking Assist System ระบบช่วยจอดอัจฉริยะ พร้อมระบบช่วยเบรก แต่ระบบนี้ยังไม่ถึงกับทำงานแบบอัตโมมัติ ยังต้องควบคุมการเปลี่ยนเกียร์เอง ก็นับว่ามีการเปลี่ยนแปลงค่อนข้างมาก โดยเฉพาะกับเรื่องของของดีไซน์ และระบบความปลอดภัยที่มีมาให้ใน Honda All New Accord Hybrid Tech

 

Test Drive

         ระยะทางไป กลับกว่า 153 กิโลเมตร จากจังหวัดกระบี่ ถึง จังหวัด พังงา ซึ่งมีทั้งทางตรงยาว โค้วกว้างแคบสลับกัน รวมถึงเส้นทางสองเลนสวน งานนี้ทีมงาน Boxzaracing มีโอกาสได้ทดลองสมรรถนะเครื่องยนต์ลูกผสม Hybrid และการใช้ระบบช่วยเหลือการขับ ในรูปแบบต่างๆ และในครั้งนี้ไม่ได้เป็นเพียงทั้งผู้ขับทดลองขับอย่างเดียว ยังได้สัมผัสความรูสึกของผู้โดยสารอีกด้วย  และเส้นทางที่ใช้นั้นเป็นแบบผสมผสาน ระหว่างทางราบ เนินเขา ที่มีทั้งทางตรงและโค้งสลับ และเช่นเดิมกับเส้นทางขรุขระบนถนนพังรอซ่อมของประเทศที่มีให้เจอกันทุกจังหวัด

          จากระบบต่างๆ ของ Honda All New Accord ทำให้การเดินทางในครั้งนี้ ง่าย สะดวก ปลอดภัยสมกับที่ทางค่ายได้แนะนำไว้  และระบบช่วงล่างแบบใหม่ L Arm ทำให้การขับเป็นเรื่องที่สนุกมากขึ้น โดยเฉพาะในโค้งที่เก็บอาการได้ค่อนข้างดีเมื่ออยู่ในความเร็วปกติ ไม่เกิน 120 กิโลเมตร/ชั่วโมง อาการโคลง โยนย้วย น้อยกว่ารุ่นก่อนอย่างเห็นได้ชัด แต่หากเป็นคนที่ชอบเรื่องการควบคุม หรือหมุนพวงมาลัยบ่อยครั้ง หรือพวกชอบแก้อาการรถเกินความจำเป็นคงต้องปรับตัวเข้ากับพวงมาลัยนี้ซักพักใหญ่ เพราะระบบการจัดการ High Balance Steering ทำงานได้ชัดเจน ซึ่งพวงมาลัยไม่ยอมให้ดึงไป ดึงมาเกินกว่าที่ระบบคำนวนในเวลานั้น รวมถึงพวงมาลัยจะแปรผันตามความเร็วที่ใช้อีกด้วย แม้จะดูขัดแต่ก็ให้ความปลอดภัยเมื่อต้องใช้ความเร็วสูง

 

 

          ส่วนเรื่องอัตราเร่งแม้ว่าจะทันใจเพราะเป็นระบบ Hybrid ที่ได้ มอเตอร์ไฟฟ้าเข้ามาช่วย แต่ก็มีอาการหน่วงให้รู้สึก ช่วงปลายที่ต้องการทำความเร็ว แน่นอนว่าอาจไม่ถูกหากเป็นคนใจร้อนเท่าไรนัก ระบบ ACC With LSF ( Adaptive Cruise Control With Low-Speed Follow) ที่ปรับและใช้งานได้ง่าย ซึ่งเป็นเรื่องที่ดีสำหรับรถในยุคสมัยนี้ที่ต้องการความสะดวก ง่ายและรวดเร็ว รวมถึงระบบที่มีเพิ่มเข้ามาให้ซึ่งดูแล้วยังไม่มีให้ใช้กับรถรุ่นอื่นมากนัก กับ Deceleration Paddle Selectors ที่จะชลอความเร็ว และดึงรอบเครื่องยนต์ค้างไว้ จากการใช้งานจริงแล้ว ยังไม่ชัดเจนเท่าที่ควรหากเทียบกับการนำเสนอระบบนี้ เพราะจากการใช้ความเร็วในระดับหนึ่ง แล้วกดที่แป้น บวก ลบ หลังพวงมาลัยเพื่อจะให้รถมีการดึง ลักษณะเหมือนที่เราลดเกียร์ลงต่ำขณะลงเขา อาการที่ต้องการนั้นดูจะน้อยเกินไป บ้างครั้งไม่รู้สึกถึงอาการดึงเลย  

 

Honda Smart Parking Assist System รวมไปถึง Multi-angle Rearview Camera

 

          ในช่วงเป็นผู้โดยสาร แม้ว่าตำแหน่งที่นั่งด้านข้างคนขับจะต่ำมากจนไม่สามารถมองเห็นสิ่งต่างๆ รอบนอกได้มากเท่าที่ควร แต่ก็สามารถสัมผัสได้ถึงความสะดวก สบายได้อย่างเต็มที่ ซึ่ง Honda ยังคงยึดหลักแนวทางนี้ได้อย่างชัดเจน สมกับการออกแบบให้เหมือน ฮอลล์จัดแสดงคอนเสิร์ต เช่นเดียวกับด้านหลังที่ยังให้ความสบายไม่ต่างกัน ด้วยพื้นที่โล่งกว้างมาก ไม่มีส่วนใดติดขัด สิ่งอำนวยความสะดวกแม้จะน้อยสำหรับผู้โดยสารตอนหลัง เพราะรุ่นนี้เน้นให้ผู้ใช้ได้สนุกกับการขับมากกว่า แต่ก็ยังครอบคลุมทุกการใช้งานได้เป็นอย่างดี มาถึงตอนนี้แล้วสามารถพูดได้ว่า Honda All New Accord Hybrid Tech เป็นรถยนต์ที่ตอบสนองการใช้งานได้ค่อนข้างครบถ้วน น่าพอใจ โดยเฉพาะเทคโนโลยีช่วยเหลือการขับ และระบบความปลอดภัยต่างๆ ที่แสดงออกมาได้อย่างชัดเจน และใช้งานได้จริง

 

วิศวะกร ตอบข้อซักถาม หลังจากทดลองขับ 

 

          ยนตรรกรรมซีดานสปอร์ตพรีเมี่ยม ที่มากับสโลแกนที่ว่า ท้าทายความเชื่อ พร้อมพาก้าวผ่านทุกขีดจำกัดได้อย่างแท้จริง น่าจะเป็นคำพูดที่ไม่เกินความจริงมากนัก หากใช้งานกันครบทุกระบบ งานนี้ต้องสัมผัสแล้วจะรู้ และท่านใดที่อยากรู้ความรู้สึกในการขับที่สนุกแบบนี้ สบายแบบนี้ ปลอดภัยแบบนี้ สามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดหรือทดลองขับได้แล้วที่โชว์รูม Honda ทั่วประเทศ ได้แล้ววันนี้

 

ราคาปัจจุบัน Honda All New Accord

รุ่น Hybrid Tech    ราคา 1,799,000 บาท

รุ่น Hybrid             ราคา 1,639,000 บาท

รุ่น Turbo EL         ราคา 1,475,000 บาท

รถซื้อสอง ซื้อขายรถ ของแต่งรถ

ข่าวที่ใกล้เคียง

แสดงความคิดเห็นด้วย Facebook