เขียนโดย: D wisanuporn

เมื่อ: 4 กันยายน 2562 - 13:45

Subaru Forester ลองขับเต็มขั้น Ultimate Test Drive พิสูจน์ความปลอดภัยอันเหนือชั้น

          ยนตรรกรรมรูปแบบ SUV ทรงประสิทธิภาพ ยกระดับการขับให้ปลอดภัยมากยิ่งขึ้น พร้อมชูเทคโนโลยีล้ำสมัย Eyesight กับกิจกรรมทดลองขับด้วยรูปแบบจำลองสถานการณ์จริง เพื่อพิสูจน์สมรรถนะในตัว Subaru Forester 2.0 iS- Eyesight

 

 

         อีกหนึ่งบทพิสูจน์สมรรถนะ และเทคโนโลยีล้ำสมัยของ Subaru Forester 2.0 iS- Eyesight ภายใต้งาน Ultimate Test Drive ที่ถูกจัดการทดลองไว้หลายรูปแบบ เพื่อให้ได้สัมผัสกับระบบเสริมความปลอดภัยในการขับ Eyesight และระบบขับเคลื่อน Special X-Mode รวมไปถึงการใช้งานของอุปกรณ์ต่างๆ ที่มีมาให้อย่างครบถ้วน และก่อนไปดูการทดลองขับ มาดูรายละเอียดของ Subaru Forester 2.0 iS- Eyesight ก่อนว่ามีอะไรที่ปรับเปลี่ยนหรือแตกต่างไปจากรุ่น 2.0 i-L และ รุ่น 2.0 i-S อย่างไรบ้าง

 

Eyesight มาในรูปแบบกล้องสเตอริโอสองตัว

 

          Subaru Forester 2.0 iS- Eyesight นั้นยังคงใช้ดีไซน์ รวมไปถึงเทคโนโลยีไม่ต่างจาก 2 รุ่น ตัวรถเป็นรูปแบบ SUV ขนาด 5 ที่นั่ง จะเห็นว่าด้านหน้ายังเป็นชุดไฟหน้าแบบ LED ปรับระดับอัตโนมัติ และ DRL สำหรับการขับในเวลากลางวัน ที่แตกต่างกันอยู่ที่ระบบไฟหน้าปรับทิศทางตามการเลี้ยว ที่จะมีเฉพาะในรุ่น 2.0 iS และ 2.0 iS- Eyesight นี้เท่านั้น กระจังหน้าเปิด-ปิดอัตโนมัติ จุดเด่นที่สำคัญอยู่ที่โครงสร้าง Subaru Global Platform ที่ใช้เหมือนกัน ซึ่งมีผลต่อการดูซับแรงกระแทกได้มากขึ้นถึง 40 % อีกทั้งยังลดการสั่นโคลงของตัวรถได้มากขึ้น 50%  ด้วยโครงสร้างใหม่นี้ ทำให้รถมีเสถียรภาพในการทรงตัวดีกว่า อีกทั้งยังตอบสนองการขับได้ดี โดยเฉพาะการบังคับเลี้ยวที่แม่นยำมากขึ้น ภายในนั้นแทบไม่แตกต่างกัน จะมีเพียงแค่เรื่องของระบบการจัดการ และอุปกรณ์เสริมการขับบางอย่างเท่านั้นที่เพิ่มขึ้น โดยรุ่นนี้ถูกประกอบขึ้นในประเทศไทย

 

         ทดลองประสิทธิภาพโครงสร้าง Subaru Global Platform 

 

          ในส่วนของพละกำลังทั้ง 3 รุ่น ไม่ต่างกัน ยังเป็นเครื่องยนต์เบนซินลูกสูบนอนเอกสิทธิของแบรนด์ หรือ Boxer Engine แบบ 4 สูบนอน DOHC 16 วลาล์ว ขนาด 2.0 ลิตร (1,995 ซีซี.) พร้อมระบบหัวฉีดตรงสู่ห้องเผาไหม้ สร้างกำลังสูงสุดไว้ที่ 156 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 196 นิวตัน-เมตร ที่ 4,000 รอบ/นาที ระบบส่งกำลังเป็นเกียร์อัตโนมัติแปรผันหรือ CVT ทำงานรวมกับระบบขับเคลื่อน Active Torque Split AWD System ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งจุดเด่นของรถ Subaru The All New Forester ที่นอกเหนือจากเรื่องของโครงสร้าง  ส่วนระบบช่วงล่างด้านหน้าเป็นแบบ MacPherson Strut  ด้านหลัง Double Wishbone  เบรกหน้า-หลังแบบ Ventilated Disc Brakes

          รวมไปถึงระบบ Special X-Mode เป็นฟังก์ชั่นการทำงานที่ระบบจะถูกประมวลผล เพื่อควบคุมการทำงานของเครื่องยนต์ และ เกียร์ รวมไปถึงระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ และระบบเบรก โดยเครื่องยนต์จะปรับแรงบิดในรอบต่ำ พร้อมกับแบ่งกำลังไปยังล้อให้ยึดเกาะถนนให้ดียิ่งขึ้น พร้อมกับระบบส่งกำลังมาที่ในรอบเกียร์ต่ำ จึงทำให้มีกำลังมากขึ้น เพิ่มสมรรถนะการใช้งานในทางออฟโรด

          ส่วนเรื่องของระบบความปลอดภัยยังคงไว้ครบครั้นไม่ว่าจะเป็น ระบบเบรก ABS, EBD, BA, ระบบ Brake Override System, ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว VDC, ระบบตัดการทำงานของเครื่องยนต์อัตโนมัติ, ระบบควบคุมแรงบิดอัตโนมัติ เมื่อเข้าโค้ง Active Torque Vectoring, ระบบป้องกันรถไหล โดยไม่ต้องเหยียบเบรก AVH

 

Ultimate Test Drive

          การทดลองสมรรถนะของ Subaru Forester 2.0 iS- Eyesight ในครั้งนี้ ดูเน้นไปที่เรื่องการทำงานของ อุปกรณ์เสริมความปลอดภัย Eyesight ซึ่งมาในรูปแบบกล้องสเตอริโอสองตัว ที่ใช้การจับภาพสีสามมิติความละเอียดสูง ทำงานรวมกับเครื่องยนต์โดยรวม และระบบเบรก ซึ่งเห็นผลชัดเจนเมื่อทดลองขับโดยใช้ระบบ Pre-Collision Braking ซึ่งระบบนี้จะตอบสนองเมื่อ Eyesight ตรวจจับได้ว่า ด้านหน้ามีโอกาสเกิดการชน ระบบจะเตือนด้วยเสียง แต่หากไม่มีการตอบสนอง ระบบจะสั่งให้รถชลอ โดยการลดรอบเครื่องยนต์ และเบรกอัตโนมัติโดยที่ไม่ต้องเหยียบเบรกเมื่อไม่มีการตอบสนองในระยะที่เสี่ยงต่อการชน แต่ระบบนี้ยังมีเงื่อนไขในการใช้งาน ตรงที่ไม่สามารถตอบสนองได้ทุกครั้ง เพราะฉะนั้นผู้ขับต้องคอยควบคุมรถด้วยตัวเอง แน่นอนว่าระบบนี้ไม่ใช่ระบบการทำงานแทนคนขับ หรืออัตโนมัติ แต่เป็นเพียงระบบเสริมความปลอดภัยที่ยังต้องอาศัยผู้ขับเป็นศูนย์กลางอยู่ตลอดเวลา

 

Pre-Collision Braking

 

          ต่อกันที่การทดลองระบบ Adaptive Cruise Control ที่ยังคงใช้ Eyesight เป็นตัวกำหนด สำหรับ Subaru Forester 2.0 iS- Eyesight นี้ มีระบบ Adaptive Cruise Control ที่แตกต่างจากทั่วไปตรงที่สามารถทำงานได้ตั้งแต่ออกสตาร์ท กระทั่งความเร็วสูงสุดที่ทำได้อยู่ที่ 180 กิโลเมตร/ชั่วโมง และสามารถปรับเพิ่มระยะได้ตามต้องการแต่ขึ้นอยู่กับความเร็วที่ใช้ ซึ่งความเร็วต่ำสามารถตั้งระยะได้ที่ 20-25-30 เมตร ส่วนความเร็วสูงขยับขึ้นเป็น 30-50-60 เมตร ส่วนสำคัญที่ต้องรู้คือระบบนี้จะสามารถจับภาพได้น้อยสุด 30 % ของพื้นที่ที่กล้องจับภาพได้ ซึ่งหากระบบถูกปลดออก จะเหลือเพียงแค่ระบบ Cruise Control ต้องควบคุมการเบรกด้วยเอง อย่างที่กล่าวไปว่าระบบนี้ ไม่ใช่การทำงานแบบอัตโนมัติ แต่เป็นเพียงแค่ระบบช่วยเสริมการขับเท่านั้น

 

Adaptive Cruise Control ที่ยังคงใช้ Eyesight เป็นตัวกำหนด

 

ระบบขับเคลื่อน Active Torque Split AWD System

 

          ส่วนการทดลองขับโดยใช้ระบบการทำงาน Special X-Mode แสดงให้เห็นถึงการทำงานของระบบขับเคลื่อน Active Torque Split AWD System ที่ประสานกับโครงสร้าง Subaru Global Platform ที่มีตำแหน่งการวางของเครื่องยนต์ โดยเฉพาะสภาวะพื้นผิวลื่น ทางโค้งต่อเนื่อง ตลอดจนพื้นผิวต่างระดับ ผลที่ได้จากการของระบบเหล่านี้ คือผู้ขับสามารถควบคุมรถได้ ง่าย แต่แม่นยำ ส่งผลโดยตรงเรื่องความปลอดภัยในขณะขับในทุกสภาพวะ ซึ่งบางครั้งอาจมีพื้นผิวที่แตกต่างกันบนเส้นทางเดียว ต้องบอกว่ากิจกรรมทดลองขับ Ultimate Test Drive นี้แสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพการทำงาน และระบบการช่วยเหลือที่มีมาให้ใน Subaru Forester ได้ครบถ้วน

 

Subaru The All New Forester 2.0 i-L AWD                       1,330,000 บาท

Subaru The All New Forester 2.0 i-S AWD                       1,380,000 บาท

Subaru The All New Forester 2.0 i-S Eyesight AWD       1,450,000 บาท

รถซื้อสอง ซื้อขายรถ ของแต่งรถ

ข่าวที่ใกล้เคียง

แสดงความคิดเห็นด้วย Facebook