ในปัจุบันรถประเภท Eco Car ที่อยู่ในตลาดเมืองไทยนั้น มีอยู่หลากหลายค่าย แต่มีอยู่ค่ายหนึ่งที่ถือว่าเป็นขาใหญ่ หรือที่เรียกว่าเป็นพี่เบิ้มในวงการรถ Eco Car นั่นก็คือ Suzuki เพราะถือว่าเป็นเจ้าแรกๆที่หันมาเอาจริงจังกับรถ Eco Car อย่างล่าสุดทาง Suzuki ได้ออกมา เดินหน้ากระตุ้นตลาดรถ Eco Car อีกครั้ง โดยเฉพาะรถประเภท ซีดาน Eco Car ที่เป็นรถ Eco Car ไซส์ขนาดใหญ่ โดยทาง Suzuki เปิดตัว New Suzuki Ciaz GL Plus ซึ่งมาในคอนเซปท์ More To Discover พลัส ที่จะนำเสนอความสปอร์ตมากขึ้นอีกระดับ
New Suzuki Ciaz GL Plus เป็นรุ่นย่อยใหม่ในตระกูลของ Suzuki Ciaz ซึ่งในปัจจุบันนั้นมีให้เลือกทั้งหมด 5 รุ่นย่อย นอกจากนั้น Suzuki Ciaz ยังเป็นรถซีดาน Eco Car เพียงไม่กี่รุ่นในตลาดที่มีเกียร์ธรรมดาให้เลือกใช้งาน New Suzuki Ciaz GL Plus นั้นใช้พื้นฐานจากรุ่น Suzuki Ciaz GL ด้วยการเติมฟังช์ชั่นต่างๆเพิ่มขึ้นให้ครบครัน อีกทั้งเติมแต่ง และเสริมความเท่ห์ รวมทั้งยังเพิ่มสิ่งอำนวยความสะดวก รวมถึงความบันเทิงอย่างเต็มรูปแบบ เข้าไปใน New Suzuki Ciaz GL Plus
สปอยเลอร์หลังที่มาพร้อมกับไฟเบรกดวงที่ 3
เพิ่มความเท่ห์ด้วยสเกิร์ตหน้า และสเกิร์ตข้าง
สิ่งต่างๆที่เพิ่มเติมขึ้นมาจากรุ่น Suzuki Ciaz GL จนมาเป็น New Suzuki Ciaz GL Plus นั้นเรามาดูกันว่ามีอะไรนอกเหนือจากรุ่นพื้นฐานกันบ้าง เริ่มจากรูปลักษณ์ภายนอก จะมีการตกแต่งเพิ่มเติมให้ดูสไตล์สปอร์ตมากขึ้น ด้วยการใส่ชุดสเกิร์ตรอบคันไม่ว่าจะเป็น สเกิร์ตหน้า, สเกิร์ตข้าง, สเกิร์ตหลัง รวมถึงสปอยเลอร์หลังที่มาพร้อมกับไฟเบรกดวงที่ 3 นอกจากนั้นยังเสริมด้วยความโดดเด่นจากชุดอุปกรณ์มาตรฐาน เช่น กระจังหน้าแบบโครเมี่ยม, ไฟหน้าแบบโปรเจคเตอร์ กระจกบังลมหน้าแบบสีตัดแสง และกระจกบังลมหลังพร้อมระบบไล่ฝ่าตลอดจนกระจกมองข้างสีเดียวกับตัวรถปรับด้วยระบบไฟฟ้า
ตกแต่งด้วยวัสดุผ้าทั้งห้องโดยสารไม่ว่าจะเป็นชุดเบาะนั่ง
มาตรวัดความเร็ว ที่มาพร้อมกับหน้าจอแสดงผลที่สามารถแจ้งอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง
ส่วนของภายในห้องโดยสารของ New Suzuki Ciaz GL Plus ยังคงเป็นเอกลักษณ์ของ Suzuki Ciaz แบบดั่งเดิมไม่ว่าจะเป็นห้องโดยสารที่กว้างขวาง ตกแต่งด้วยวัสดุผ้าทั้งห้องโดยสารไม่ว่าจะเป็นชุดเบาะนั่ง มาพร้อมด้วยอุปกรณ์มาตรฐานที่ครบครัน ไม่ว่าจะเป็น มาตรวัดความเร็ว ที่มาพร้อมกับหน้าจอแสดงผลที่สามารถแจ้งอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง, ค่าเฉลี่ยการใช้น้ำมันต่อระยะทาง, ระยะการเดินทาง และอุณหภูมิภายนอก, ระบบเบรกป้องกันล้อล็อค ABS, รวมถึงสัญญาณเสียงเตือนกรณี ลืมปิดไฟหน้า หรือลืมกุญแจไว้ในรถ กุญแจรีโมท, พวงมาลัยสปอร์ตแบบ 3 ก้านปรับระดับสูง-ต่ำได้, กระจกไฟฟ้าฝั่งคนขับปรับขึ้น-ลงอัตโนมัติ
เสริมความบันเทิงด้วยจอระบบสัมผัสขนาด 6.2 นิ้ว จาก KENWOOD ที่เชื่อมต่อบลูทูธ และ USB โดยสามารถเชื่อมต่อเพลงผ่านบลูทูธได้สูงสุดพร้อมกัน 5 เครื่อง
กล้องมองหลัง ที่จะช่วยยกระดับความมั่นใจขณะถอยรถ
ส่วนสิ่งที่ได้อัพเกรดขึ้นใหม่ใน New Suzuki Ciaz GL Plus จะเป็นระบบความบันเทิงที่มาจากเครื่องเล่นวิทยุ CD MP3 จาก KENWOOD มาพร้อมกับจอระบบสัมผัสขนาด 6.2 นิ้ว ที่เชื่อมต่อบลูทูธ และ USB โดยสามารถเชื่อมต่อเพลงผ่านบลูทูธได้สูงสุดพร้อมกัน 5 เครื่อง และลำโพงถึง 4 ตำแหน่ง ส่วนเสาอากาศวิทยุนั้นเป็นแบบฝังที่กระจกหลัง เพิ่มเติมความสะดวกสบายด้วยที่เปิดฝาท้ายรถแบบไฟฟ้า ซึ่งมากับไฟส่องสว่างห้องเก็บสัมภาระท้ายรถ นอกจากนั้นยังเพิ่มกล้องมองหลัง ที่จะช่วยยกระดับความมั่นใจขณะถอยรถ
ระบบความปลอดภัยยังคงเต็มเปี่ยมไม่วาจะเป็น เข็มขัดนิรภัย แบบ ELR 3 จุด 2 ตำแหน่ง และ 2 จุด 1 ตำแหน่งที่เบาะด้านหลัง
ส่วนด้านความปลอดภัยของ New Suzuki Ciaz GL Plus นั้นโครงสร้างตัวถังที่มาพร้อมกับคานกันกระแทกด้านข้าง เสริมด้วยถุงลมนิรภัยคู่หน้า SRS ที่ทำงานร่วมกับพวงมาลัยแบบยุบตัว ปลอดภัย และมั้นใจอย่างสุดขีดกับเข็มขัดนิรภัยด้านหน้าแบบ ELR 3 จุด พร้อมระบบดึงกลับอัตโนมัติ สามารถปรับระดับสูงต่ำได้ ส่วนที่เบาะหลังจะเป็นแบบ ELR 3 จุด 2 ตำแหน่ง และ 2 จุด 1 ตำแหน่ง เสริมความปลอดภัยให้กับครอบครัวที่มีเด็กด้วยระบบล็อคนิรภัยป้องกันเด็กเปิดประตูหลัง, ระบบเบรกป้องกันล้อล็อค ABS พร้อมระบบกระจายแรงเบรกอิเล้กทรอนิกส์ EBD, ระบบช่วยเบรก BA ตลอดจนระบบกุญแจนิรภัย Immobilizer, ระบบเตือนภัย Security Alarm และชุดซ่อมยางฉุกเฉิน เรียกได้ว่า New Suzuki Ciaz GL Plus จัดมาให้เต็มเหนี่ยว
หลังจากทำความรู้จักกับ New Suzuki Ciaz GL Plus มาพอสมควร เพราะในงานนี้ นอกจากเผยโฉมให้เห็นเจ้า New Suzuki Ciaz GL Plus แล้วทาง Suzuki ยังได้จัดทริปในการทดสอบ New Suzuki Ciaz GL Plus เพื่อให้สื่อมวลชนได้สัมผัสกับ New Suzuki Ciaz GL Plus กันอย่างเต็มอิ่ม โดยใช้เส้นทาง เส้นทางกรุงเทพฯ – เพชรบุรี - สมุทรสงคราม - กรุงเทพ ระยะทางประมาณ 280 กิโลเมตรโดยประมาณ ซึ่งเป็นระยะที่ไม่ใกล้ และไม่ไกล เกินไปที่จะทำความรู้จักกับ ซีดาน Eco Car คันนี้
เครื่องยนต์เบนซิน รหัส K12B ขนาด 1.25 ลิตร แบบ 4 สูบ 6 วาล์ว ซึ่งให้พละกำลังสูงสุด 91 แรงม้า ที่มาทั้งแรง และความประหยัด
แต่ต้องขอบอกก่อนว่า เครื่องยนต์รวมถึงช่วงล่างของเจ้า New Suzuki Ciaz GL Plus ตัวนี้ยังคงเหมือนกับตัว Suzuki Ciaz GL ที่เป็นเครื่องยนต์เบนซิน รหัส K12B ขนาด 1.25 ลิตร แบบ 4 สูบ 6 วาล์ว ซึ่งให้พละกำลังสูงสุด 91 แรงม้าที่ 6,000 รอบต่อนาที พร้อมแรงบิดสูงสุด 118 นิวตันเมตรที่ 4,800 รอบต่อนาที ขับเคลื่อนล้อหน้าด้วยชุดเกียร์อัตโนมัติ CVT และที่สำคัญทาง BoxzaRacing เคยได้รีวิวกันมาแล้วในรุ่น RS ซึ่งสมรรถนะรวมถึงเครื่องยนต์กลไลเป็นแบบเดียวกันทั้งหมด แต่เพื่อเป็นการตอกย้ำให้รู้ถึงความยอดเยี่ยม รวมถึงสมรรถนะที่ดีของ Suzuki Ciaz เรามาดูกันว่าเจ้า New Suzuki Ciaz GL Plus ที่ได้เสริมชุดแต่งรอบคัน บวกกับชุดความบันเทิงที่ใส่มาให้จะเป็นอย่างไร
เริ่มต้นจากสตาร์ทจาก ณ โพธาลัย เลเชอร์ ปาร์ค ที่อยู่แถวเลียบทางด่วนรามอินทรา ก่อนมุ่งหน้าไปถนนพระราม 2 แล้วดิ่งตรงเข้า จ.สมุทรสงคราม ซึ่งตลอดเส้นทางนั้นต้องบอกว่าสาหัสเอาการทีเดียว ด้วยสภาพการจราจรยามเช้าของ กรุงเทพฯ ที่ต้องบอกว่าโครตติด แต่ด้วยความคล่องตัวของ New Suzuki CIAZ GL Plus สามารถมุดผ่านการจราจรที่แสนคับคั่งมาได้โดยง่าย เพราะถึงแม้จะมีรูปร่างที่ใหญ่กว่ารถ Eco Car เพราะเป็นรถไซส์ขนาดซีดาน แต่ก็ไม่เป็นอุปสรรคแต่อย่างใด ตัวรถมีความคล่องตัวสูง สามารถมุดแซง และเปลี่ยนเลนได้อย่างคล่องแคล่ว พวงมาลัยมีความแม่นยำ นอกจากความคล่องตัวจะเป็นตัวช่วยในการฝ่ารถติดแล้วอันแสนสาหัสแล้ว ความบันเทิงที่มากับชุดเครื่องเสียงให้มากับ New Suzuki Ciaz GL Plus ยังช่วยให้เพลิดเพลินกับเสียง ไม่ต้องหงุดหงิดรถที่ติดอยุ่บนท้องถนน ซึ่งใช้เวลาประมาณ ชั่วโมงเศษๆ New Suzuki Ciaz GL Plus ก็พาเราออกมาจากความวุ่ยวายบนท้องถนนในกรุงเทพได้
หลังหลุดจากสภาพการจราจรอันแสนหน้าปวดตับของกรุงเทพในยามเช้า เราก็มุ่งหน้าบนถนนพระรามที่ 2 ปลายทาง ปั๊มเอสโซ่วัฒนา-วังมะนาว ถึงช่วงนี้ ได้มีโอกาส ลองสมรรถนะของ New Suzuki Ciaz GL Plus อย่างเต็มที่ เพราะด้วยถนนที่ค่อยข้างจะโล่ง ด้วยเครื่องยนต์ ขนาด 1.25 ลิตร ที่ให้พละกำลังสูงสุด 91 ทำงานผสานกับชุดเกียร์อัตโนมัติ CVT ซึ่งต้องขอบอกเลยว่า New Suzuki Ciaz GL Plus อัตราเร่งอาจจะไม่จี๊ดจ๊าดเร้าใจเท่าไรหนักโดยเฉพาะในช่วงออกตัว หรือในช่วงต้นๆ แต่ก็ไม่ถึงกับอืด ส่วนในการเร่งแซงนั้นต้องรอจังหวะ รวมถึงร้องใช้การคลิ๊กดาวน์เข้ามาช่วยด้วย แต่ถ้ารอบลอยตัวแล้ว บอกเลยว่าขับสนุก ซึ่งสามารถทำความเร็วได้สูงถึง 140 กม./ชม. และยังมีเหลืออีกถ้ากดคันเร่งเพิ่มลงไป (ในช่วงที่ขับนั้น ไม่กล้ากดคันเร่งมาก เพราะช่วงนั้นฝนเริ่มทยอยลงเม็ดมาแล้ว รวมทั้งถึงเกรงใจในด่านตรวจความเร็ว ที่อาจแอบซุ้มอยู่)
นอกจากนั้นระบบช่วงล่างต้องบอกเลยว่าชอบมาก ด้วยระบบช่วงล่างด้านหน้าแบบแม็คเฟอร์สันตรัท ที่มาพร้อมคอยล์สปริง และด้านหลังแบบทอร์ชั่นบีม พร้อมคอยล์สปริง ที่ให้ความนุ่มนวล และแน่นหนึบเกาะถนน มั่นใจในการเข้าโค้งความเร็ว ถีงแม้ถนนจะลื่นในช่วงนั้นเพราะฉ่ำไปด้วยสายฝน แต่ก็มั่นใจได้ว่าถึงที่หมายอย่างแน่นอน เอาอยู่ทุกสถานการณ์ ไม่ว่าจะเป็นจังหวะการมุดด้วยความเร็ว หรือจังหวะเข้าโค้งกว้างๆของถนนที่มุ่งหน้าสู่ แม่กลอง ก็ปลอดภัยหายห่วง ไม่โยน หรือย้วย ซึ่งทำให้การขับขี่เต็มไปด้วยความสนุก และปลอดภัย ส่วนจังหวะการเปลี่ยนเกียร์ของ New Suzuki Ciaz GL Plus ทำได้อย่างต่อเนื่องไม่ขาดตอน แต่อาจจะใช้รอบเครื่องที่สูงไปสักเล็กน้อย
หลังจากได้ลองความเร็วสักพัก ก็ถึงจุดแรกแล้วที่ ปั๊มเอสโซ่วัฒนา-วังมะนาว แห่งใหม่ ที่มีจุดเด่นเป็น ร้านกาแฟชื่อดังให้แวะพักจิบเครื่องดื่มกันอย่างเพลิดเพลิน
จากนั้นค่อยเดินทางย้อนกลับมายัง อำเภออัมพวา ในจังหวัดสมุทรสงคราม แหล่งท่องเที่ยวที่ยังคงครึกครื้นด้วยนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติ เพื่อรับประทานอาหารมื้อกลางวันกันริมน้ำที่ “รัญจวน อัมพวา” ร้านอาหารไทยพื้นบ้าน บรรยากาศอบอุ่นริมเขื่อนอัมพวา เติมพลังใส่ร่าง
ก่อนจะเดินท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์กันต่อ มุ่งหน้าสู่ อุทยานพระบรมราชานุสรณ์พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย หรือ อุทยาน ร.2” ต่อด้วยการทำบุญไหว้พระ และตามรอยสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชกันที่ ค่ายบางกุ้ง วัดบางกุ้ง
ซึ่งในช่วงนี้เส้นทางจะเป็น ถนน 2 เลนสวน เพราะเป็นถนนแบบที่ชาวบ้านไว้สัญจรกันไปมา ถนนจะมีเส้นทางที่โค้งเลัดเลาะไปตามสวน ซึ่งในช่วงนี้เราจะได้ลองระบบช่วงล่าง พร้อมกับระบบเบรคของ New Suzuki Ciaz GL Plus กันอีกรอบ ซึ่งอย่างที่บอกว่าช่วงล่างของ New Suzuki Ciaz GL Plus จัดเซตมาได้อย่างดี การเข้าโค้งเป็นได้อย่างนุ่มนวล และแน่นหนึบ รวมถึงกับระบบเบรคที่ดี จากระบบดิสก์เบรกด้านหน้า และดรัมเบรกด้านหลัง ที่ให้ทั้งความนุ่มนวล และ มั่นใจ ทุกครั้งในการเบรค หลังจากเสร็จภาระแล้ว ทางคณะ ก็มุ่งหน้ากลับ กรุงเทพฯ เป็นกาารจบทริปสั่นๆในการทดลองขับเจ้า New Suzuki Ciaz GL Plus
ถึงแม้ว่า New Suzuki Ciaz GL Plus จะยังคงใช้เครื่องยนต์ และชุดช่วงล่าง ชุดเดิมแต่ ยังคงความเป็นรถ Ecocar ที่มีดีรอบด้านไม่ว่าจะเป็นเรื่องสมรรถนะ ความคล่องตัว ความประหยัด รวมถึงดีไซน์รูปลักษณ์สวยงามที่เป็นเอกลักษณ์ ที่มากับห้องโดยสารกว้างขวาง อีกทั้งยังเสริมอ็อพชั่นทุกอย่างให้ใกล้เคียงกับในรุ่นตัวท๊อป จัดว่าเป็นเป็นรถซีดาน Ecocar ที่น่าสนใจอีกรุ่นหนึ่งในขณะนี้ และที่สำคัญถึงแม้จะขึ้นชื่อว่าเป็นเพียง Ecocar แต่ก็ไม่จำเป็นที่ต้องใช้เฉพาะในเมือง เพราะจากการที่ได้ลองแล้ว ซีดาน Ecocar คันนี้สามารถตอบโจทย์การใช้งานได้ทั้งในเมือง และนอกเมืองได้อย่างสบาย เรียกว่าเดินทางใกล้ไกลไปได้หมด กับ New Suzuki Ciaz GL Plus คันใหม่คันนี้
New Suzuki Ciaz GL Plus จะมีราคาที่เพิ่มขึ้นมาเพียง 9,000 บาท จากราคาเดิม 559,000 บาท ในรุ่น Suzuki Ciaz รุ่น GL โดยเพิ่มราคามาเป็น 568,000 บาท ส่วนราคาในรุ่นย่อยอื่นๆมีดังนี้
New Suzuki Ciaz GL Plus จะมีให้เลือกทั้งหมด โดยมี 5 สีคือ สีขาว Pure White Pearl (เพิ่ม 5,000 บาท), สีดำ Super Black Pearl, สีเทาดำ Mineral Gray Mettallic, สีเทา Star Silver Metallic และสีน้ำตาล Dignity Brown Pearl Metallic