เขียนโดย: AEFOTO

เมื่อ: 30 พฤษภาคม 2562 - 13:27

Subaru Forester รถ SUV สำหรับครอบครัวยุคใหม่ สะดวกสบาย เร้าใจ ผสานกันอย่างลงตัวในทุกการขับขี่

 

          ถ้าหากจะพูดถึงรถ Subaru หลายๆ ท่านคงต้องคิดว่าเป็นรถที่ต้องมีสมรรถนะสูง มอบความเร็ว และแรง รวมถึงกับระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ อันเป็นเอกลักษณ์ขึ้นชื่อลือชาของทางค่ายดาวลูกไก่ ซึ่งถ้าจะบอกอย่างนั้นก็ไม่ใช่เรื่องที่ผิด แต่ในปัจจุบันทางค่าย Subaru นอกจากที่จะผลิตรถแรงแล้ว ทางค่ายยังหันมาเอาจริงเอาจังกับรถสไตล์ครอสโอเวอร์ และเอสยูวี ที่ในปัจจุบันนี้รถในเซกเม้นท์นี้ จัดได้ว่าเป็นที่ต้องการของตลาด และมีการแข่งขันที่ดุเดือดเป็นอย่างมาก ทั้งในต่างประเทศ รวมทั้งตลาดในเมืองไทย ไม่ว่าจะเป็น Subaru XV ที่ปัจจุบันทำตลาดขายเป็นรถยอดฮิตติดลมบนไปเป็นที่เรียบร้อยไปแล้ว

 

 

          ล่าสุดทาง Subaru ได้ส่งเจ้า Subaru Forester รุ่นใหม่ล่าสุด ที่เพิ่งเปิดตัวไปไม่นานมานี้ ลงสู้ศึกตลาด SUV ในประเทศไทย ซึ่ง Subaru Forester รุ่นใหม่นี้ เป็นเจนเนอเรชั่นที่ 5 ที่สำคัญเป็นรุ่นที่ประกอบในเมืองไทย และเพื่อเป็นการกระตุ้นตลาด ทาง Subaru ได้จัดให้สื่อมวลชนได้ทดลองขับ SUV รุ่นล่าสุด ของทางค่ายดาวลูกไก่ อย่างเจ้า Subaru Forester ใหม่ รุ่นประกอบจากโรงงานในเมืองไทย โดยในการทดลองสมรรถนะในครั้งนี้ เป็นทริประยะทางไม่ไกลมากนัก ไป-กลับ กรุงเทพ-ชลบุรี

 

คุณตวัน คำฤทธิ์ ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายขายและการตลาด บริษัท ทีซี ซูบารุ (ประเทศไทย) จำกัด

 

          แต่ก่อนที่จะทดลองสมรรถนะเจ้าป่า Subaru Forester นั้น ทางคณะสื่อมวลชนได้รับเกียรติจาก คุณตวัน คำฤทธิ์ ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายขายและการตลาด บริษัท ทีซี ซูบารุ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวต้อนรับ พร้อมทั้งบรรยายสรุปถึงข้อมูลผลิตภัณฑ์ และข้อมูลทางเทคนิค เพื่อให้ทราบ และเข้าใจเกี่ยวกับสมรรถนะของ Subaru Forester ก่อนจะเริ่มการทดสอบกัน

 

 

          Subaru Forester เป็นรถอเนกประสงค์แบบ 5 ที่นั่ง รูปทรงภายนอกเส้นสายยังมีกลิ่นอายของรุ่นเดิมอยู่บ้าง แต่มีการขัดเกลาให้มีความลงตัวยิ่งขึ้น มีความคมเข้มและเหลี่ยมสันมากกว่าเดิม เสริมด้วยการติดตั้งกระจังหน้าทรงหกเหลี่ยมสุดโดดเด่น พร้อมกับการตกแต่งด้วยคิ้วแบบโครเมี่ยม ไฟหน้าเป็นแบบ LED พร้อม Daytime Running Light แบบ LED แถมได้เสริมระบบส่องสว่างปรับตามทิศทางการเลี้ยว ส่วนไฟท้ายเป็นแบบแยกส่วนถูกออกแบบให้มีความลงตัว โครงสร้างตัวถังเป็นแบบใหม่สุด Subaru Global Platform ส่งผลให้ตัวถังมีความแข็งแกร่งขึ้น อีกทั้งยังติดตั้งเครื่องยนต์แบบ Boxer ขนาด 2.0 ลิตร กำลังสูงสุด 156 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 196 นิวตัน-เมตร ที่ 4,000 รอบต่อนาที ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ CVT พร้อมโหมด +/- 7 จังหวะ ผสานด้วยระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ แบบสมมาตร หรือ Subaru Symmetrical Full-Time All-Wheel ซึ่งถือเป็นจุดเด่นของรถ Subaru Forester รุ่นนี้ แต่อีกไฮไลท์ของ Subaru Forester คงต้องเป็นระบบ X Mode ฟังก์ชั่นสำหรับสายลุย ซึ่งระบบจะประมวลผล พร้อมควบคุมการทำงานของเกียร์, เครื่องยนต์, ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ และระบบเบรก โดยระบบนี้จะไม่สามารถทำงานกับรถที่มีความช่วงความเร็วที่เกิน 40 กม./ชม. โดยเครื่องยนต์จะปรับแรงบิดในรอบต่ำ พร้อมกับแบ่งกำลังไปยังล้อให้ยึดเกาะถนนให้ดียิ่งขึ้น พร้อมกับระบบส่งกำลังมาที่ในรอบเกียร์ต่ำ จึงทำให้มีกำลังมากขึ้น เพิ่มสมรรถนะการใช้งานในทางออฟโรด

 

 

           สำหรับ Subaru Forester ที่นำมาทดสอบกันวันนี้ ทาง Subaru จัดมาทั้งหมด 2 รุ่น คือ รุ่น 2.0 i-L AWD และ 2.0i-S AWD ซึ่งตัวที่ทาง BoxzaRacing ได้ทำการทดลองครั้งนี้เป็นรุ่น 2.0 i-L AWD ซึ่งจะมีความแตกต่างจาก 2.0i-S AWD ตรงชุดสปอยเลอร์ด้านหน้า-หลัง และด้านข้าง ส่วนสปอตไลต์ของรุ่น 2.0i-L AWDเป็นฮาโลเจน แต่ในรุ่น 2.0i-S AWD จะเป็น LED ส่วนภายในของรุ่น 2.0i-S AWD แป้นเหยียบจะเป็นอะลูมิเนียม เพิ่มเติมด้วยประตูท้าย ปิด-เปิด ด้วยระบบไฟฟ้า และไฟหน้าสามารถปรับทิศทางตามการเลี้ยวได้ ที่เด่นชัดคงเป็นลายของล้อแม็กซ์และขนาด เพราะในรุ่น 2.0 i-L AWD จะมีขนาด 17 นิ้ว ส่วน 2.0i-S AWD จะมีขนาด 18 นิ้ว ส่วนนอกนั้นไม่ว่าจะเป็นเรื่องของขุมพลังจะเหมือนกันทั้ง 2 รุ่น

 

 

          ในเรื่องทดสอบสมรรถนะ เพียงก้าวแรกที่เข้าไปสัมผัส Subaru Forester ก็รับรู้ถึงความโอ่อ่า กว้างขวาง ห้องโดยสาร บรรยากาศที่โล่งโปร่งสบาย กระจกที่มีขนาดใหญ่สามารถมองเห็นทัศนียภาพภายนอกได้รอบคัน เบาะที่นั่งปรับด้วยไฟฟ้าแบบสปอร์ตกระชับเข้ากับตัวได้ดี พวงมาลัยสามก้านแบบสปอร์ตที่ถูกออกแบบมาให้จับกระชับมือ มาพร้อมกับปุ่มควบคุมเครื่องเสียงและระบบ Cruise Control โดยการทดสอบช่วงแรกนี้เริ่มสตาร์ทจาก โชว์รูมซูบารุ เสรีไทย มุ่งหน้าสู่ ชายหาดบางแสน การจราจรในช่วงนี้ถือว่าที่หนาแน่นพอตัว ซึ่งก็ไม่ใช่ปัญหาสำหรับเจ้า Subaru Forester ถึงแม้ด้วยรูปร่างที่ดูใหญ่โตแต่ก็มีความคล่องตัว สามารถมุดไปตามจังหวะได้อย่างคล่องแคล่ว (ในการทดสอบครั้งนี้ อัดผู้โดยสารเต็มทั้งเบาะหน้า และเบาะหลัง) ซึ่งการตอบสนองของเครื่องยนต์และเกียร์สำหรับการขับขี่ในเมืองนับว่าใช้ได้เลยทีเดียวสำหรับรถครอบครัวคันใหญ่คันนี้

 

 

          แต่สักพักพอพ้นช่วงการจราจรที่หนาแน่นเข้าสู่เส้นมอเตอร์เวย์ พอที่จะมีจังหวะกดคันเร่งพลัง ด้วยกำลัง 156 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 196 นิวตัน-เมตร ที่ 4,000 รอบต่อนาที ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 7 สปีด เพียงแค่กดคันเร่งเบาๆ ก็พร้อมจะเคลื่อนที่ไปอย่างรวดเร็ว แต่ก็ไม่ถึงกับร้อนแรงเร้าใจด้วยเพราะเป็นรถสไตล์ครอบครัว แต่ก็ทำความเร็วได้พอสมควร ซึ่งถือว่าตอบโจทย์ และเพียงพอต่อการใช้งานในชีวิตประจำวันแน่นอน แต่ถ้าหากต้องการอัตราเร่งที่มากขึ้น เพียงลดเกียร์ที่ Paddle Shift บนพวงมาลัยลง แล้วกดคันเร่ง ความเร้าใจก็สัมผัสได้ทันที รอบเครื่องยนต์ถูกดันให้สูงขึ้นโดยอัตโนมัติ พร้อมกับความแรงที่พุ่งทะยานออกไปทันที

 

 

          ในเรื่องระบบช่วงล่างของ Subaru Forester ต้องบอกว่า เยี่ยมเลยทีเดียว ระบบช่วงล่างด้านหน้า เป็นแบบ MacPherson Strut ระบบช่วงล่างด้านหลัง Double Wishbone อีกทั้งยังมีความสูง 220 มิลลิเมตร ซึ่งสูงกว่ารถอเนกประสงค์ PPV บางรุ่น แต่ก็ไม่มีการโยนหรือโคลงเคลงมากหนัก จึงทำให้สบายใจในทุกการเดินทาง และทุกเส้นทาง อีกทั้งยังเกาะถนนอย่างหนึบแน่นในช่วงเข้าโค้งในความเร็วสูง จึงทำให้มีความลงตัวในการควบคุมที่หนักแน่น อย่างไว้ไจได้ เช่นเดียวกับในส่วนของระบบเบรก ที่ตอบสนองตามน้ำหนักการเหยียบ เพียงแตะเบาๆ ก็เอาอยู่  

 

 

          หลังจากที่ได้ทดลองขับในช่วงแรกแล้ว ในช่วงต่อมา จากชายหาดบางแสน จนไปถึง สวนสัตว์เปิดเขาเขียว ว่ายาวจนกลับถึงโชว์รูมซูบารุที่ถนนเสรีไทย ก็ได้จับจองเบาะนั่งตอนหลังแบบยาวๆ ต้องบอกเลยว่า ส่วนที่ต้องบอกว่า Subaru Forester คันนี้ ออกแบบมาเพื่อเป็นรถสำหรับครอบครัวโดยแท้จริง ไม่ว่าจะเป็นสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ที่มอบมาให้นั้นเรียกว่าจัดเต็ม วิสัยทัศโปร่งโล่ง ไม่อึดอัด พร้อมกับมีช่องเก็บของแยกช่องเล็กช่องน้อยสำหรับสิ่งของขนาดต่างๆไว้ที่หลังเบาะคู่หน้า  เบาะนั่งตอนหลังที่กว้างสามารถปรับเอนได้ ถึง 4 ระดับ ขนาดคนตัวใหญ่อย่างผม ลงไปนั่งยังเหลือที่ว่างขาอีกมาก เรียกว่าหัวเข่าไม่มีทางไปชนกับเบาะหน้าได้เลย อีกทั้ง Head Room ด้านบนยังเหลือเนื้อที่อีกมากเช่นกัน สบายๆ สำหรับคนตัวสูงที่จะลงมานั่ง มีพนักเท้าแขนพร้อมที่วางแก้ว รวมถึงช่องเสียบ USB ถึง 2 พอร์ท พร้อมช่องเสียบไฟฟ้าขนาด 2.1 A สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง มาพร้อมกับด้านแอร์หลังที่เย็มฉ่ำตลอดขากลับ เรียกว่า อิ่มๆขึ้นมาบนรถ พอได้นั่งปุ๊บ หลับสนิท กลายเป็นเบาะดูดวิญญาณไปเลย ประกอบกับได้ช่วงล่างที่ดีไม่มีการโยนหรือโคลงเคลงมากหนัก จึงทำให้รู้สึกสบายในทุกอิริยาบท ส่วนพื้นที่ใช้สอยด้านหลังความจุห้องเก็บสัมภาระท้ายรถแบบไม่พับเบาะนั้นสามารถจุของได้ถึง 520 ลิตร  

 

 

          ส่วนระบบความปลอดภัยนั้นก็จัดเต็ม ไม่ว่าจะเป็น ระบบเบรก ABS / EBD / BA, ระบบ Brake Override System, ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว VDC, ระบบตัดการทำงานของเครื่องยนต์อัตโนมัติ, ระบบควบคุมแรงบิดอัตโนมัติ เมื่อเข้าโค้ง Active Torque Vectoring, ระบบป้องกันรถไหล โดยไม่ต้องเหยียบเบรก AVH

 

 

          สำหรับใครที่ต้องการ SUV สำหรับครอบครัว ที่มีทั้งความสะดวกสบาย ผสานกับเทคโนโลยีอันมากมาย รวมถึงความเร้าใจในการขับขี่ Subaru Forester คันนี้ น่าจะเป็นอีกหนึ่งยนตกรรมอีกรุ่นที่ตอบโจทย์คนที่ต้องการรถไซส์ใหญ่สำหรับครอบครับได้อย่างลงตัว หรือว่าถ้าไม่แน่ใจหรืออยากจะทดลองด้วยตนเองเชิญที่ โชว์รูม Subaru ทุกสาขาในประเทศได้เลยน่ะครับ

 

ราคา  Subaru Forester รุ่นประกอบในประเทศ

  • 2.0 i-L AWD 1,330,000 บาท
  • 2.0 i-S AWD 1,380,000 บาท
  • 2.0 i-S Eyesight AWD 1,450,000 บาท (พร้อมจำหน่ายและเปิดตัวประมาณ เดือน กค.-สค. 2562)
รถซื้อสอง ซื้อขายรถ ของแต่งรถ

ข่าวที่ใกล้เคียง

แสดงความคิดเห็นด้วย Facebook