บีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทย พาสื่อมวลชนเปิดประสบการณ์การขับขี่ BMW 320d Sport, BMW 330i M Sport และBMW X5 xDrive30d M Sport ให้ได้สัมผัสสมรรถนะการขับขี่ทั้งบนเส้นออนโรด ออฟโรด พร้อมพาโลดแล่นบนท้องถนนจริง และทดสอบเทคโนโลยีการขับขี่แห่งอนาคตกันอย่างเต็มเปี่ยม ในกิจกรรมทดสอบรถยนต์สุดพิเศษ ณ สนามปทุมธานี สปีดเวย์ จังหวัดปทุมธานี
BMW 330i M Sport
BMW 320d Sport
BMW X5 xDrive30d M Sport
สำหรับการทดสอบ BMW Series 3 และBMW X5 ในครั้งนี้ จะได้ทำความรู้จักและทดสอบสมรรถนะการขับขี่ในรูปแบบต่างๆ ตั้งแต่การทดสอบความเร็วจากขุมพลังของเครื่องยนต์บนสนามแข่ง การทดสอบความคล่องตัวและความปราดเปรียวในการขับขี่แบบ Gymkhana และการทดสอบการขับขี่บนถนนจริง ที่จะได้สัมผัสถึงการใช้งานรถยนต์ทั้งสองรุ่นแบบในชีวิตประจำวัน ส่วน BMW X5 นั้น จะได้ลองสมรรถนะของระบบช่วงล่างแบบ Adaptive M และระบบการขับเคลื่อนต่างๆ บนเส้นทางแบบออฟโรด ทั้งทางลูกรัง พื้นหญ้า และเนินดิน
BMW Series 3 ใหม่ ทั้ง BMW 320d Sport, BMW 330i M Sport
เรามาทำความรู้จักกับเจ้า BMW Series 3 ใหม่กันก่อน BMW Series 3 ใหม่ เป็นเจอเรเนชั่นที่ 7 ตั้งแต่เผยโฉมออกสู่สายตาสาธารณะชนทั่วโลก โดยรูปลักษณ์ภายนอกของ BMW Series 3 ใหม่ มาในดีไซน์ที่โฉบเฉี่ยวสะดุดตา ตอกย้ำความสปอร์ตมากยิ่งขึ้น ด้วยเส้นสายที่แข็งแกร่งและคมชัด ด้านหน้าของตัวรถมาในรูปลักษณ์ที่ดุดันยิ่งขึ้นด้วยกระจังหน้าทรงไตคู่ขนาดใหญ่ขึ้นในกรอบที่เชื่อมกับไฟหน้าคู่ LED ทรงเรียวยาวดีไซน์ใหม่ล่าสุด รับกับช่องดักอากาศรูปทรง T เพิ่มความโดดเด่นให้แก่ด้านหน้าของรถ ด้านข้างของตัวรถโดดเด่นด้วยกรอบหน้าต่างดีไซน์แบบ Hofmeister Kink อันเป็นเอกลักษณ์ของ BMW ที่ได้รับการออกแบบให้เป็นหนึ่งเดียวกับเสา C-pillar มอบมิติไร้ขอบหรูหรายิ่งขึ้น พร้อมด้วยไฟท้ายดีไซน์ใหม่เรียวยิ่งขึ้นในรูปทรง L แนวนอนสีหม่นแบบสามมิติ และท่อไอเสียแบบคู่ให้ท้ายรถดูกว้างและสปอร์ตกว่าเดิม
ส่วนความแตกต่างภายนอกของ BMW ทั้ง 2 รุ่น ที่มองเห็นอย่างเด่นชัดคงเป็นชุดแต่งและลายล้อแม็กของเจ้า BMW 320d Sport จะมาพร้อมล้ออัลลอย 18 นิ้ว ลาย V Spoke และชุดแต่ง BMW Individual High-Gloss Shadow Line โดยที่ขอบหน้าต่าง, ขอบช่องดักอากาศ และซี่บริเวณกระจังหน้าไตคู่จะเป็นสีดำเงา ส่วน BMW 330i M Sport จะโดดเด่นด้วยชุดแต่ง M Sport แบบครบชุด ไม่ว่าจะระบบช่วงล่าง ชุดเบรก และชุดแอโรไดนามิค ที่ดูโฉบเฉี่ยวและสมรรถนะปราดเปรียว ล้ออัลลอยลาย Double Spoke ขนาด 18 นิ้ว
ภายในห้องโดยสารของ BMW 330i M Sport ที่เน้นความสปอร์ต
ภายในห้องโดยสารของ BMW 320d Sport
ภายในห้องโดยสารของ BMW Series 3 ใหม่ ผสานภาพลักษณ์ของความสปอร์ตเข้ากับความหรูหราสง่างามไว้ได้อย่างลงตัว ได้รับการออกแบบมาโดยคำนึงถึงผู้ขับเป็นหัวใจสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นเบาะคู่หน้าแบบสปอร์ตปีกข้างโอบกระชับ, แผงหน้าปัดและจอ Control Display ดีไซน์ใหม่ให้ใช้งานได้ง่ายดาย, พื้นที่ทั้งด้านหน้าและด้านหลังถูกขยายให้กว้างขวางมากยิ่งขึ้น, หรูหราด้วยไฟ Ambient Light มาพร้อมกับระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบ 3 ตอน ที่เย็นฉ่ำไปทั้งห้องโดยสาร
เรือนไมล์ของ BMW 320d Sport ยังคงเป็นแบบเข็ม ทั้ง 2 หน้าจอ
สัญลักษณ์ตัว M ที่ติดอยู่ในรุ่น BMW 330i M Sport บ่งบอกว่าเป็นรุ่นตัวแรง
ส่วนความแตกต่างภายในห้องโดยสารของทั้ง 2 รุ่น นั้น BMW 320d Sport จะถูกตกแต่งด้วยวัสดุอลูมิเนียมลาย Mesheffect พร้อมพวงมาลัยและที่นั่งด้านหน้าแบบสปอร์ต หน้าจอเรือนไมล์จะเป็นแบบเข็ม ส่วนของ BMW 330i M Sport หน้าจอเรือนไมล์จะเป็นแบบดิจิตอล และพวงมาลัยทำจากหนังหนังแท้ M พร้อมกับตกแต่งภายในด้วยวัสดุอลูมิเนียม Tetragon พร้อมทั้งสัญลักษณ์ตัว M ที่ติดอยู่ภายในหลายๆ จุด บ่งบอกว่าเป็นตัวแรงของรุ่นนี้
BMW Series 3 ใหม่นี้ทั้ง 2 รุ่นนี้ ยังอัดแน่นด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัย ไม่ว่าจะเป็นระบบ BMW Live Cockpit Professional ที่สามารถรับคำสั่งจากเสียงพูดกับผู้ขับขี่พร้อมตอบโต้ในรูปแบบที่เป็นธรรมชาติมาก ซึ่งสามารถใช้มีทั้งภาษาไทย และภาษาอังกฤษ, ระบบเซนเซอร์ควบคุมระยะการจอดด้านหน้าและหลัง (Park Distance Control) ใน BMW 320d Sport ที่มาพร้อมระบบ BMW Live Cockpit Plus รวมถึงระบบการเชื่อมต่อ BMW ConnectedDrive เพื่อการเชื่อมต่ออย่างไร้ขีดจำกัด และระบบชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สายใน BMW 330i M Sport
ระบบ Reversing Assistant ที่จะให้ความช่วยในขณะถอยจอดหรือถอยออกจากที่แคบแบบอัตโนมัติ
ส่วนฟังก์ชั่นที่โดดเด่นของ BMW 330i M Sport ใหม่นี้ คงหนีไม่พ้น Reversing Assistant ที่จะให้ความช่วยในขณะถอยจอดหรือถอยออกจากที่แคบแบบอัตโนมัติ โดยฟังก์ชั่น Reversing Assistant เป็นส่วนหนึ่งของระบบช่วยนำรถเข้าที่จอดอัตโนมัติ Parking Assistant ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถถอยออกจากบริเวณที่มีพื้นที่แคบ เช่น อาคารจอดรถ ทางเลี้ยวเข้า หรือทางตัน ได้อย่างง่ายดายแม้จะมองไม่เห็น โดยฟังก์ชั่นนี้จะจดจำองศาการเลี้ยวของพวงมาลัยขณะขับเข้าไปยังพื้นที่แคบได้เป็นระยะทางไกลสูงสุด 50 เมตร ในความเร็วที่ไม่เกิน 36 กม./ชม. ซึ่งระบบจะทำงานโดยกดปุ่ม Reversing Assistant ขณะจอดนิ่งที่เกียร์ P หลังจากนั้น รถยนต์จะถอยหลังอัตโนมัติตามเส้นทางที่ขับเข้าไปล่าสุด โดยผู้ขับขี่ทำหน้าที่เพียงแค่แตะเบรกหรือคันเร่งเบาๆ โดยความเร็วในการถอยอัตโนมัติจะอยู่ที่ความเร็วสูงสุด 9 กม./ชม. ซึ่งระบบจะสามารถจดจำองศาการเลี้ยวภายในระยะ 50 เมตร สุดท้ายไว้ได้เป็นระยะเวลายาวนาน ทำให้ผู้ขับขี่สามารถแม้กระทั่งถอยออกจากที่จอดรถได้แม้จะจอดทิ้งไว้ข้ามคืนหรือเป็นระยะเวลาหลายวัน
ด้านขุมพลังของ BMW 320d Sport มาพร้อมเทคโนโลยีขับเคลื่อนล่าสุด เครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ มอบพละกำลัง 190 แรงม้า พร้อมแรงบิดสูงสุด 400 นิวตัน-เมตร สามารถเร่งความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ได้ภายใน 6.8 วินาที และมีความเร็วสูงสุด 240 กม./ชม.
ส่วนพละกำลังของ BMW 330i M Sport จะมาพร้อมกับเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ มอบแรงม้าลงพื้นที่ 258 ตัว แรงบิดสูงสุด 400 นิวตัน-เมตร เร่งความเร็วจากหยุดนิ่งถึง 100 กม./ชม. ได้ภายใน 5.8 วินาที และมีความเร็วสูงสุด 250 กม./ชม. โดยทั้งสองรุ่นนี้รองรับระบบ Driving Experience Control ที่มีรูปแบบการขับขี่ให้เลือกทั้งในโหมด COMFORT, SPORT และ ECO PRO
โหมดในการขับขี่มีให้เลือกสนุกได้อย่างเต็มพิกัดทั้งแบบ COMFORT, SPORT และ ECO PRO
BMW Series 3 ใหม่ มากับโครงสร้างและเทคโนโลยีแชสซีส์ใหม่ล่าสุด ที่ผสมผสานทั้งความสปอร์ตและความนุ่มสบายไว้ได้อย่างลงตัว จุดศูนย์ถ่วงที่ต่ำ และการกระจายน้ำหนักแบบ 50:50 นอกจากนี้ BMW Series 3 ยังมีน้ำหนักที่เบากว่ารุ่นก่อนหน้าถึง 55 กิโลกรัม เพราะทั้งกระโปรงและกันชนหน้า และชิ้นส่วนหลายๆ ชิ้นถูกผลิตและทำจากอลูมิเนียม
สำหรับการทดลองขับในครั้งนี้ ทาง BMW ได้จัดให้ทดลองขับทั้งในรูปแบบลองในสนามแข่ง รวมถึงการขับขี่แบบ Gymkhana และได้ทดลองขับขี่บนสภาพท้องถนนจริง หลังจากที่ทีมงาน BoxzaRacing ได้ทดลองขับทุกรูปแบบแล้วได้ข้อสรุปว่า จากสัมผัสแรกที่เข้าไปในห้องโดยสารเสมือนเราได้เข้าไปอยู่ในห้องบังคับของเครื่องบิน เพราะจะมากมายด้วยปุ่มฟังช์ชั่นการใช้งานที่เรียกว่าจะรอบตัวเลยก็ว่าได้ เบาะนั่งทรงสปอร์ตที่กระชับเข้ากับตัว พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น 3 ก้านทรง ที่จับถนัดมือและให้น้ำหนักในการควบคุมที่คล่องตัว ทั้งในช่วงความเร็วต่ำจนถึงในช่วงความเร็วสูง ตอบสนองได้นิ่ง เฉียบคม บังคับทิศทางได้ดั่งใจ
ส่วนด้านพละกำลังจากเครื่องยนต์ของ BMW Series 3 ใหม่ สามารถให้อัตราเร่งใช้งานได้คล่องตัวเหลือเฟือ การปรับเปลี่ยนเกียร์เพื่อส่งกำลังทำได้อย่างต่อเนื่องรวดเร็วและนิ่มนวล เรียกว่าแทบจะไม่รู้สึกถึงจังหวะการปรับเปลี่ยนเกียร์ แต่เมื่อต้องการเรียกพละกำลัง เพียงแค่เหยียบคันเร่งก็สามารถสัมผัสถึงอัตราเร่งแรงดึงกันแบบหลังติดเบาะ รถจะพุ่งขึ้นไปข้างหน้าอย่างทันใจ ส่วนโหมดการขับขี่ทาง BMW จัดมาให้ถึง 3 โหมด ไม่ว่าจะเป็น COMFORT, SPORT และ ECO PRO ก็มีให้เลือกเล่นได้ตามสะดวก โดยเฉพาะโหมด Sport ที่ได้ลองนั้น ระบบช่วงล่างจะถูกปรับให้แข็งขึ้นเล็กน้อย รวมถึงน้ำหนักของพวงมาลัยที่หน่วงขึ้น จึงขับขี่ได้มั่นใจในช่วงการใช้ความเร็วสูง ทั้งในช่วงการเร่งแซงด้วยความเร็ว ส่วนการเก็บเสียง ต้องบอกได้เลยว่าเยี่ยมยอดมาก เพราะแทบจะไม่ได้ยินเสียงจากภายนอกเลย จะมีเพียงเสียงอันเร้าร้อนจากห้องเครื่องกับเสียงเพลงเพราะๆ จากเครื่องเสียงชั้นยอดของ BMW Series 3 ใหม่ ตัวนี้เท่านั้น
ส่วนระบบช่วงล่างเรียกว่าสบายใจหายห่วง เพราะทาง BMW นั้น ชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับกันอยู่แล้วในเรื่องนี้ โดยทาง BMW ได้ปรับเซตให้มีความนุ่มนวล เรียกว่าขับขี่สนุกมั่นใจในทุกโค้ง ทั้งการเข้าโค้งในความเร็วต่ำและความเร็วสูง เรียกว่าเอาอยู่สบายๆ
BMW X5 xDrive30d M Sport
มาต่อกันอีกรุ่น นั่นก็คือ พี่ใหญ่อย่าง BMW X5 xDrive30d M Sport SUV สุดหรูจากค่าย BMW ซึ่งเป็นเจนเนอเรชั่นที่ 4 ที่ด้วยความโดดเด่นผสมผสานสมรรถนะและความสะดวกสบายเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว
รูปลักษณ์ภายนอกยังคงรูปลักษณ์อันเฉพาะตัวของ Sports Activity Vehicle แต่มาในดีไซน์ใหม่ที่เรียบหรูยิ่งขึ้น ด้วยเส้นสายที่เฉียบคม และดุดัน ด้วยชุดแต่ง M Aerodynamics รอบคันทำให้ดูสปอร์ตเร้าใจ ขอบหน้าต่าง และราวหลังคาเป็นสีดำเงาที่ดุดัน, กระจังหน้าทรงไตคู่มีผิวอลูมิเนียมแบบด้านเพิ่มลุคให้สง่างามยิ่งขึ้น มาพร้อมด้วยชุดเบรกและช่วงล่างแบบ M Sport และล้ออัลลอย M ขนาด 22 นิ้ว ลาย Double-spoke ที่ดูโดดเด่น
ภายในห้องโดยสารของ BMW X5 ใหม่ มอบความรู้สึกหรูหราและมีระดับ ดีไซน์ที่ลงตัว และล้ำสมัย แผงหน้าปัดดิจิทัลและจอ Control Display ได้รับการออกแบบทั้งกราฟฟิคและดีไซน์มาให้สอดรับกัน พร้อมด้วยเบาะนั่งหนังแท้ Vernasca และพวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นแบบ M Sport นอกจากนั้นยังมีหลังคากระจกแบบ Panorama ที่มีขนาดใหญ่ขึ้นกว่ารุ่นเก่า ห้องโดยสารที่กว้างขวางสามารถรองรับการใช้งานได้อย่างหลากหลาย เบาะหลังพับได้แบบ 40 : 20 : 40 รองรับปริมาตรการบรรจุของตั้งแต่ 650-1,870 ลิตร พร้อมประตูท้ายที่สามารถแยกเปิดสองส่วนเพื่อให้สะดวกต่อการขนย้ายสัมภาระ ซึ่งสามารถเปิดปิดอัตโนมัติด้วยระบบไฟฟ้า
ขุมพลัง BMW X5 ใหม่ เครื่องยนต์ดีเซล 6 สูบ TwinPower Turbo ที่ให้กำลัง 265 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 620 นิวตัน-เมตร จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ แบบ Steptronic จึงทำให้มีอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ภายใน 6.5 วินาที และมีความเร็วสูงสุด 230 กม./ชม. ส่วนระบบขับเคลื่อนเป็นระบบ 4 ล้อ ที่ได้รับการพัฒนากำลังขับเคลื่อนและควบคุมการทรงตัวได้อย่างดีเยี่ยม ด้วยการถ่ายแรงขับเคลื่อนอย่างนุ่มนวลระหว่างล้อหลังทั้งสองข้างบนเส้นทางออนโรดและออฟโรด
BMW X5 ใหม่ ยังพกพานวัตกรรมล้ำยุคจาก BMW มาอย่างเต็มเปี่ยม ไม่ว่าจะเป็นช่วงล่างแบบ Adaptive M ระบบควบคุมการยึดเกาะถนน (Dynamic Traction Control) ระบบ Driving Experience Control สำหรับเลือกรูปแบบการขับขี่พร้อมโหมด ECO PRO และระบบควบคุมเสถียรภาพการขับขี่ (Dynamic Stability Control) เพิ่มประสิทธิภาพการขับขี่บนเส้นทางออฟโรด พร้อมมอบความสปอร์ตคล่องตัวและความสะดวกสบายได้ตลอดเส้นทาง
ระบบ Reversing Assistant ระบบช่วยถอยรถในทิศทางเดิมแบบอัตโนมัติ
นอกจากนี้ยังมีระบบ Reversing Assistant ระบบช่วยถอยรถในทิศทางเดิมแบบอัตโนมัติ ที่เหมือนกับ BMW 330i M Sport พร้อมกันนี้ ยังมีกล้องมองรอบทิศทาง Surround View Camera ที่ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถเชื่อมต่อเพื่อดูภาพของรถที่จอดทางโทรศัพท์สมาร์ทโฟนได้ ผ่านระบบ BMW ConnectedDrive
หลังจากที่ได้ทดลองขับเจ้า BMW X5 ใหม่ ทั้งแบบลุยทางออฟโรด ต้องบอกว่าในช่วงลุยออฟโรดนั้น ช่วงล่างของ BMW X5 ใหม่ สามารถซับแรงสะเทือนได้อย่างยอดเยี่ยม ถึงแม้ในบางช่วงจะใช้ความเร็วในตอนตะลุยทางวิบากเล็กๆ ที่ได้ลองกันวันนี้ ตัวรถยังคงนิ่ง การควบคุมอาการของตัวถังทำได้ดีมาก และแทบไม่ค่อยรู้สึกถึงอาการสะเทือนรวมทั้งยังได้ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ กับพลังกำลังของเครื่องยนต์เข้ามาช่วย ยิ่งเป็นเรื่องง่ายกับการลุยทางออฟโรดที่ไม่โหดมากกับการทดลองขับในครั้งนี้
ส่วนในช่วงที่วิ่งทางออนโรดนั้น ถึงแม้ตัวรถจะมีขนาดใหญ่แต่ด้วยกำลังที่เหลือเฟือจากเครื่องยนต์ดีเซล 6 สูบ TwinPower Turbo ที่ให้กำลัง 265 แรงม้า ไม่ต้องออกแรงเหยียบคันเร่งให้เปลือแรงมากนัก ถ้าหากต้องการที่จะเร่งแซง เพียงกดแป้นคันเรงเบาๆ ก็พุ่งทยายออกตัวได้ดั่งใจนึก ประหนึ่งเป็นไอพ่นทางเรียบก็ว่าได้ อรรถรสความสนุกเต็มพิกัดเรียกความเร็วมาอย่างง่ายได้ อีกทั้งยังได้การสนับสนุนที่ดีจากระบบเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ แบบ Steptronic ที่ให้ความต่อเนื่องกระชับในการเปลี่ยนเกียร์ ไม่มีการกระตุกให้รู้สึกเสียอารมณ์ การเปลี่ยนเกียร์เรียบง่ายและเฉียบคมในทุกช่วงความเร็ว มาพร้อมกับช่วงล่างที่หนึบแน่นตามสไตล์รถเยอรมนีพันธุ์แท้ เทียบชั้นกับรถซีดานชั้นดีเลยก็ว่าได้ ไม่มีการส่ายหรือโยนตัวให้ต้องแก้ปัญหา เรียกว่าไปได้ทั้งใกล้ไกลอย่างสบายใจ ทั้งผู้ขับและผู้โดยสาร
ส่วนพวงมาลัยนั้น ให้ความมั่นใจเป็นอย่างมาก แม่นยำในการเข้าโค้ง หนักแน่นเมื่ออยู่ในย่านความเร็วสูง เมื่อรวมตัวกับความหนึบของช่วงล่าง และความหนักแน่นของพวงมาลัย รวมถึงระบบเบรคที่ได้มาตรฐานหยุดได้ดั่งใจ จึงได้ทั้งความปลอดภัยและความสนุกในการขับขี่เจ้ารับรองไม่ผิดหวังกับเจ้ายักษ์ใหญ่ BMW X5 xDrive 30 d M Sport คันนี้
สำหรับใครที่ต้องการสปอร์ตซีดานที่มีทั้งความเร็วและแฝงไปด้วยเทคโนโลยีอันมากมาย รวมถึงใครที่ต้องการรถ SUV ระดับพรีเมี่ยมที่มีทั้งพละกำลังและความปลอดภัยในคันเดียว เจ้า BMW Series 3 ทั้ง 2 รุ่น รวมทั้ง BMW X5 xDrive30d M Sport ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของคุณได้อย่างแน่นอน หรือว่าถ้าไม่แน่ใจหรืออยากจะทดลองและสัมผัสยนตกรรมหรูขนาดแท้ด้วยตนเองเชิญได้ที่โชว์รูม BMW ทุกสาขาในประเทศ แล้วคุณจะรู้ว่าความเร็วและแรงระดับพรีเมียมเป็นอย่างไร
ราคาจำหน่าย BMW Series 3 และ BMW X5 xDrive30d M Sport
