เขียนโดย: Monster Racing

เมื่อ: 27 กุมภาพันธ์ 2562 - 13:18

Mitsubishi Triton ใหม่ กับบทพิสูจน์ความแกร่ง ที่กล้าท้าชนทุกอุปสรรค

 

          เรียกได้ว่าเป็นรถกระบะอีกหนึ่งรุ่นที่น่าจับตามองที่สุดในเวลานี้เลยก็ว่าได้ สำหรับ Mitsubishi Triton ใหม่ ซึ่งเป็นรุ่นที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อการฉลองครบรอบ 40 ปีแห่งความสำเร็จของรถกระบะค่าย Mitsubishi โดยมาพร้อมกับการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ทั้งภายนอก และภายใน รวมไปถึงการเพิ่มเทคโนโลยีช่วยเหลือด้านความปลอดภัยที่มีมาให้อย่างครบครันจากโรงงาน ผสานกับความแข็งแกร่งที่พร้อมลุยได้ทุกอุปสรรคกับระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ Super Select 4WD II

 

Mitsubishi Triton ใหม่ บุกจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อทดสอบความแข็งแกร่งที่พร้อมลุยทุกอุปสรรค บนแนวเขาที่สูงที่สุดในประเทศไทย

 

          ล่าสุด บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด ได้เชิญทีมงาน BoxzaRacing เข้าร่วมการทดสอบสมรรถนะความแกร่งที่กล้าท้าชนทุกอุปสรรคของ Mitsubishi Triton ใหม่ ณ จังหวัดเชียงใหม่ ด้วยระยะทางกว่า 220 กม. ซึ่งมีให้ได้ทดสอบทั้งเส้นทางแบบออฟโรด และออนโรด ผ่านเส้นทางอัดคดเคี้ยวบนแนวเขาที่สูงที่สุดในประเทศไทย เพื่อท้าทายคุณสมบัติ และความครบครันของรถกระบะที่ได้รับการพัฒนาด้วยแนวคิด “แกร่ง ลุยทุกอุปสรรค”

 

ไฟหน้าแบบ Bi-LED Projector พร้อมไฟ Daytime Running Light แบบ LED เข้าชุดกับกระจังหน้าโครเมียมรูปแบบใหม่

 

ล้ออัลลอยใหม่ขนาด 18 นิ้ว สีทูโทน

 

ฝาปิดกระบะท้ายพร้อมสปอยเลอร์ ไฟท้ายใหม่แบบ LED Light Guide

 

          ก่อนที่เราจะไปพูดถึงสมรรถนะของ Mitsubishi Triton ใหม่ เรามาทำความรู้จักกับตัวรถกันก่อนดีกว่า ว่ามีการเปลี่ยนแปลง และเพิ่มฟีเจอร์อะไรใหม่ๆ มาบ้าง โดยการดีไซน์ภายนอกนั้นมาพร้อมกับคอนเซ็ปต์ Advanced Dynamic Shield สะท้อนความแข็งแกร่ง และดูพรีเมียมขึ้นไปอีกขั้น ด้วยไฟหน้าใหม่แบบ Bi-LED Projector พร้อมไฟ Daytime Running Light แบบ LED เข้าชุดกับกระจังหน้าโครเมียมรูปแบบใหม่, กันชนหน้าขนาดใหญ่พร้อมไฟตัดหมอก และการ์ดกันกระแทกใต้ท้องในตัว, สปอยเลอร์ท้ายกระบะ, ไฟท้ายใหม่แบบ LED Light Guide ปิดท้ายด้วยล้ออัลลอยใหม่ขนาด 18 นิ้วสีทูโทน

 

ดีไซน์ที่สะท้อนความแกร่งดังหินผา (Rock Solid)

 

มิติตัวถัง Mitsubishi Triton ใหม่

  • ความกว้าง x ความยาว x ความสูง (มม.) : 1,815 x 5,300 x 1,795
  • ความกว้างช่วงล้อหน้า-หลัง (มม.) : 1,520 - 1,515
  • ระยะฐานล้อ (มม.) : 3,000
  • ระยะต่ำสุดจากพื้น (มม.) : 220
  • น้ำหนักรถ (กก.) : 1,960
  • รัศมีวงเลี้ยวแคบสุด (ม.) : 5.9
  • ความจุถังน้ำมัน (ลิตร) : 75

 

ภายในโทนสีดำ ให้ความรู้สึกที่สปอร์ต และพรีเมียม

 

เบาะหนังโอบกระชับทุกสรีระ พร้อมระบบปรับไฟฟ้าที่ฝั่งคนขับ

 

แผงปรับอากาศบนเพดานสำหรับผู้โดยสารตอนหลัง หนึ่งเดียวในคลาส

 

ช่องเสียบชาร์จไฟแบบ USB เตรียมไว้ให้พร้อมบริเวณคอนโซลกลาง

 

          สำหรับภายในของ Mitsubishi Triton ใหม่ ต้องบอกเลยว่ามาพร้อมกับอุปกรณ์อำนวยความสะดวกที่ครบครัน และเหนือกว่ารถกระบะรุ่นอื่นๆ โดยสิ่งที่แตกต่าง และดูเป็นจุดเด่นของ Triton ใหม่ นั้น เห็นที่จะเป็นความกว้างขวางของห้องโดยสารทั้งด้านหน้า และด้านหลัง, เบาะหนังโอบกระชับรองรับทุกสรีระ และที่เด็ดสุดเห็นที่จะเป็นแผงปรับอากาศบนเพดานสำหรับผู้โดยสารตอนหลัง และช่องเสียบชาร์จไฟแบบ USB ที่เตรียมไว้ให้พร้อมบริเวณคอนโซลกลาง นอกนั้นก็เป็นแบบมาตรฐานทั่วไปแบบเดียวกับที่ควรจะมีในรถรุ่นอื่นๆ อาทิ พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น, จอแสดงข้อมูลแบบสีพร้อม 3D อนิเมชั่น, ระบบ Cruise Control, ระบบอินโฟเทนเมนท์หน้าจอสัมผัส เป็นต้น

 

เทคโนโลยีความปลอดภัยครบครัน ยกมาจากรุ่นพี่อย่าง Pajero Sport

 

          อีกหนึ่งไฮไลท์สำคัญที่ทำให้ Mitsubishi Triton ใหม่ มีความโดดเด่นกว่ารถกระบะในระดับเดียวกันก็คือ เทคโนโลยีด้านความปลอดภัย ที่ถูกยกมาจากรุ่นพี่อย่าง Mitsubishi Pajero Sport ทั้งระบบ ไม่ว่าจะเป็น ระบบเตือนการชนด้านหน้าตรง พร้อมระบบช่วยชะลอความเร็ว (Forward Collision Mitigation System - FCM) โดยใช้เทคโนโลยีเรดาร์ที่ฝังตัวในกระจกหน้าในการตรวจจับวัตถุ, ระบบตัดกำลังเครื่องยนต์ชั่วขณะเมื่อเหยียบคันเร่งอย่างรุนแรง และรวดเร็วในขณะที่มีวัตถุด้านหน้า (Ultrasonic misacceleration Mitigation System - UMS) โดยใช้คลื่น Ultrasonic ตรวจจับวัตถุด้านหน้า หรือด้านหลังในระยะไม่เกิน 4 เมตร ในขณะที่เกียร์อยู่ตำแหน่ง "D" หรือ "R", ระบบเตือนด้านหลังขณะถอยออกจากช่องจอด (Rear Cross Traffic Alert - RCTA), กล้องมองภาพรอบคัน (Multi Around Monitor) ทำงานผ่านกล้อง 4 ตำแหน่งรอบตัวรถ เพื่อประมวลผล และแสดงภาพแบบ Bird's Eye View ผ่านหน้าจอมอนิเตอร์, ระบบปรับระดับไฟสูง-ต่ำอัตโนมัติ, ระบบสัญญาณเตือนจุดอับสายตา, ระบบเตือนขณะเปลี่ยนเลน ฯลฯ

 

Mitsubishi Triton ใหม่ มอบอัตราเร่งที่ตอบสนองได้อย่างใจ พร้อมมอบความสนุกเร้าใจในการขับขี่ด้วยการเลือกใช้เกียร์ได้เองจากแป้น Paddle Shift

 

          เมื่อทำความรู้จักกับ Mitsubishi Triton ใหม่ มาพอสมควรแล้ว ก็ถึงคราวที่จะเริ่มทดสอบสมรรถนะการขับขี่กันบ้าง โดยเริ่มออกเดินทางจาก North Hill City Resort มุ่งหน้าไปยังดอยอินทนนท์ ซึ่งเป็นเส้นทางแบบออนโรดไต่ทางลาดชัน สลับการทางอันคดเคี้ยว ซึ่งสามารถทดสอบสมรรถนะด้านอัตราเร่งของ Triton ใหม่ ได้เป็นอย่างดี ซึ่งจุดเด่นของ Mitsubishi Triton ใหม่ นั้น เห็นทีจะเป็นเรื่องของแรงบิดที่มีมาให้ถึง 430 นิวตัน-เมตร ที่รอบเครื่องยนต์ 2,500 รอบ/นาที ซึ่งเป็นย่านกำลังที่ใช้บ่อยทั้งการออกตัว และออกแรงส่งในการขึ้นเขา ที่ถือว่าถ่ายทอดออกมาได้อย่างสมบูรณ์แบบ แรงบิดมีมาให้ใช้อย่างต่อเนื่อง ไม่มีอาการรอรอบ อีกทั้งยังสามารถเลือกใช้เกียร์ด้วยตัวเองที่โหมด M +/- ทั้งจากคันเกียร์ และแป้น Paddle Shift ที่คอพวงมาลัย ซึ่งมีความจำเป็นอย่างมากทั้งในเรื่องของ Engine Brake และการส่งกำลัง ซึ่งการทดสอบครั้งนี้จะใช้เกียร์ 2 และเกียร์ 3 เป็นหลัก เนื่องจากเป็นเส้นทางที่คดเคี้ยว และต้องใช้รอบเครื่องยนต์สูง

 

เครื่องยนต์ MIVEC ดีเซล 2.5 ลิตร สมรรถนะ 181 แรงม้า (บล็อคเดิม) แต่มีการปรับเพิ่มแรงดันหัวฉีดใหม่ ที่ให้อัตราการประหยัดน้ำมันที่ดีขึ้น ในขณะที่ตัวรถมีขนาด และน้ำหนักที่มากกว่าเดิม

 

          ด้านสมรรถนะของขุมพลังในทางเรียบ ก็ถือว่าใช้ได้ เหมือนกับรถกระบะทั่วไป โดย Mitsubishi Triton ใหม่นั้น ยังคงใช้เครื่องยนต์บล็อคเดิมรหัส 4N15 ดีเซลบล็อค 4 สูบเรียง DOHC 16 วาล์ว 2,442 ซีซี. เสื้อสูบ และฝาสูบผลิตจาก Aluminum Alloy เทอร์โบแปรผัน VG Turbo และ Intercooler พร้อมระบบวาล์วแปรผัน MIVEC ที่ให้กำลังสูงสุด 181 แรงม้า ที่ 3,500 รอบ/นาที โดยได้รับการปรับปรุงใหม่ในบางจุด อาทิ การเพิ่มแรงดันหัวฉีด ซึ่งทาง Mitsubishi เคลมว่าให้อัตราการประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงที่ดีขึ้น แม้ตัวรถจะมีขนาด และน้ำหนักที่มากกว่าเดิม ซึ่งเป็นการปรับเพื่อให้การปล่อยไอเสียอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน Euro4 และชุดเกียร์ใหม่จาก Aisin

 

ปุ่มบัญชาการระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ Super Select 4WD II ใช้งานง่ายเพียงกดแล้วบิด

 

          นอกจากสมรรถนะในการขับขี่บนเส้นทางแบบออนโรดแล้ว ทาง Mitsubishi ยังได้จัดเส้นทางการขับขี่แบบออฟโรดไว้ให้ได้ทดสอบใช้ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ Super Select 4WD II อีกด้วย โดยเจ้าระบบขับเคลื่อน 4 ล้อของ Mitsubishi Triton ใหม่ นั้นไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนแปลง ซึ่งเป็นสิ่งที่มีอยู่ใน Pajero Sport และ Triton รุ่นก่อนหน้านั้นเอง แต่ก็ถือว่าเป็นระบบขับเคลื่อน 4 ล้อที่เหนือชั้นกว่าระบบขับ 4 ล้อทั่วๆ ไปของรถกระบะ เพราะเป็นการรวมเอาระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ แบบ Part Time และ Full Time เข้าไว้ด้วยกัน ซึ่งสามารถเลือกเปลี่ยนรูปแบบการขับเคลื่อนได้อย่างอิสระ

 

Mitsubishi Triton ใหม่ แกร่ง ลุยทุกอุปสรรค ได้อย่างแท้จริง

 

          โดยการขับขี่ในเส้นทางปกติ เดิมทีตำแหน่งการขับเคลื่อนนั้นจะอยู่ที่ตำแหน่ง 2H ซึ่งเหมาะสำหรับถนนแบบออนโรดที่แห้ง หรือในเส้นทางปกติ ระบบจะทำการส่งกำลังไปยังล้อหลังแบบ 100% ซึ่งจะช่วยในเรื่องของการประหยัดน้ำมัน แต่เมื่อต้องขับในเส้นทางธรรมชาติ หรือฟ้าฝนไม่เป็นใจกระหน่ำลงมา ทำให้ถนนเปียกลื่น สามารถเปลี่ยนไปใช้ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ โดนหมุนไปที่ตำแหน่ง 4H (ขณะความเร็วไม่เกิน 100 กม./ชม.) ซึ่งสามารถปรับเปลี่ยน และขับไปได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งระบบขับเคลื่อน 4 ล้อนี้ จะช่วยเพิ่มความเกาะถนน โดยระบบจะสั่งให้กระจายแรงบิดจากเครื่องยนต์โดยใช้เซ็นเซอร์จับการหมุนของล้อ เพื่อช่วยปรับสัดส่วนการแบ่งกำลังไปยังล้อหน้า : หลัง ในอัตราส่วน 50 : 50 ในขณะที่สภาพพื้นถนนเปียกลื่น และจะปรับเองอัตโนมัติที่อัตราส่วน 40 : 60 ในสภาพถนนปกติ

 

ระบบ Hill Descent Control ควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน อีกหนึ่งปัจจัยของความปลอดภัย

 

          ซึ่งการขับขี่ในทางออฟโรดครั้งนี้ เลือกใช้เพียงตำแหน่ง 4H ก็เพียงพอที่จะผ่านทุกอุปสรรค โดยเป็นเส้นทางที่ทุรกันดาร สำหรับทั้งการขึ้นเขา และลงเขา ในเส้นทางที่แคบ ซึ่งเป็นตัวทดสอบรัศมีวงเลี้ยวได้เป็นอย่างดี โดยระบบขับ 4 ล้อของ Triton ใหม่นั้น ยังคงให้รัศมีวงเลี้ยวที่แคบไม่แตกต่างจากการขับขี่แบบ 2H ซึ่งเป็นอีกหนึ่งข้อดีที่ช่วยให้สามารถขับขี่ได้อย่างมั่นใจ และปลอดภัยมากยิ่งขึ้น อีกทั้งระบบกล้องมองภาพรอบคัน (Multi Around Monitor) ยังเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยสำคัญที่คอยแจ้งเตือนให้ผู้ขับได้เห็นเส้นทาง และอุปสรรครอบๆ ตัวรถ นอกจากนั้นแล้วระบบช่วยเหลืออย่าง Hill Descent Control (ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน) ก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่มีให้อุ่นใจ และสามารถช่วยเหลือได้จริง เวลาที่ตัวรถเคลื่อนลงทางลาดชันอย่างรวดเร็ว จนไม่อาจสามารถควบคุมรถได้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องยกความดีความชอบให้กับระบบช่วงล่างของ Mitsubishi Triton ใหม่ ที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ ด้วยการเพิ่มขนาดของแหนบหลังใหม่ที่ใหญ่ และยาวขึ้น เพื่อรองรับแรงกระแทกได้ดียิ่งขึ้น รวมไปถึงระบบกันสะเทือนด้านหน้าที่เป็นแบบปีกนก ที่ได้รับการอัพเกรดขนาดกระบอกโช้คอัพใหม่จาก 42.7 มม. เป็น 45 มม. ที่ช่วยให้ตัวรถมีความนิ่ง และลดความกระด้างลงจากรุ่นก่อนหน้า

 

Mitsubishi Triton ใหม่ มีระบบ Center Differential Locked ที่ช่วยให้สามารถฟันฝ่าทุกอุปสรรคได้อย่างง่ายดาย

 

          นอกจากนั้นแล้ว ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อของ Mitsubishi Triton ใหม่ ยังมีโหมด 4HLc ให้เลือกใช้อีกด้วย โดยระบบจะส่งกำลังไปยังอัตราส่วนที่ 50 : 50 พร้อมมีระบบ Center Differential Locked ทำหน้าที่ในการส่งกำลังเพื่อใช้ในเส้นทางทุรกันดาร แต่ยังสามารถใช้ความเร็วบนเส้นทางที่มีพื้นผิวแบบลื่นไถลได้อีกด้วย และสุดท้ายกับโหมด 4LLc ที่ทำงานแบบเดียวกับระบบ 4HLc แต่จะเพิ่มอัตราทดให้สูงขึ้น ช่วยให้กำลังการขับเคลื่อนมีมากขึ้นเหมาะสำหรับเส้นทางที่มีเนินสลับ และทางที่มีความลาดชันมาก หรือเหมาะแก่การปีนป่ายแบบ Offroad ขนานแท้ ซึ่งยังสามารถเลือกใช้ระบบ Diff Lock ช่วย เพื่อผ่านทุกอุปสรรคได้อีกด้วย

 

Mitsubishi Triton ใหม่ มีให้เลือกทั้งหมด 19 รุ่นย่อย ในราคาเริ่มต้นที่ 654,000 บาท

 

          สำหรับใครที่สนใจ และหมายปองรถกระบะที่มีความคุ้มค่า และสามารถใช้งานได้ในทุกเส้นทาง Mitsubishi Triton ใหม่ เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่คุณไม่ควรพลาด โดยมีให้เลือกเป็นเจ้าของด้วยกันถึง 19 รุ่นย่อย โดยมีราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่ 654,000 บาท ไปจนถึงรุ่นท็อปสุดที่ 1,099,000 บาท

รถซื้อสอง ซื้อขายรถ ของแต่งรถ

ข่าวที่ใกล้เคียง

แสดงความคิดเห็นด้วย Facebook