เขียนโดย: Monster Racing

เมื่อ: 3 ธันวาคม 2561 - 16:15

Isuzu D-Max Hi-Lander รุ่นพิเศษ Stealth พาสื่อมวลชนทะยานเหนือชั้น ชมความงดงาม และเสน่ห์เมืองลำพูน

          เรียกได้ว่าเป็นรถกระบะอีกหนึ่งรุ่นที่มาแรง และฮอตฮิตที่สุดในเวลานี้เลยก็ว่าได้ สำหรับรถกระบะรุ่นตกแต่งพิเศษใหม่ล่าสุดจาก Isuzu กับ "ใหม่ Isuzu D-Max Hi-Lander รุ่นพิเศษ Stealth" ที่พึ่งเปิดตัวไปสดๆ ร้อนๆ เมื่อไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา และได้สร้างปรากฏการณ์ใหม่ด้วยยอดจองถล่มถลาย ทำให้ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด นั้นต้องเลื่อนเวลาจำหน่ายให้เร็วขึ้น เพื่อรองรับกับความต้องการของลูกค้าที่จองกันแน่นโชว์รูม และล่าสุด Isuzu ได้จัดกิจกรรมพาสื่อมวลชนทดลองขับ "Isuzu D-Max Hi-Lander รุ่นพิเศษ Stealth" ชมแง่มุมความงามของเมืองเก่า “หริภุญชัย” จ. ลำพูน เพื่อสนับสนุนเมืองท่องเที่ยวที่มีเสน่ห์ไม่เป็นรองใคร

 

ชุดแต่งดีไซน์พิเศษ Stealth Black Package

 

          สำหรับ Isuzu D-Max Hi-Lander รุ่นพิเศษ Stealth นั้น ได้รับการตกแต่ง เสริมความดุดัน และสปอร์ตเร้าใจในทุกองศา จากชุดตกแต่ง Stealth Black Package ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของชุดกระจังหน้าใหม่สีดำเข้ม เข้าชุดกับ Stealth Line ดีไซน์ต่อเนื่องรับกับไฟหน้า, ยกระดับความเร้าใจด้วยสเกิร์ตหน้าทรงสปอร์ต พร้อมกรอบไฟตัดหมอกสีดำ และดุดันทุกองศากับล้อสีทูโทน ขนาด 18 นิ้ว ปิดท้ายด้วยกันชนท้ายดีไซน์ใหม่สีดำเข้ม

 

ชุดแต่งภายใน Stealth Black Package

 

          ภายในมาพร้อมกับชุดแต่ง Stealth Black Package เช่นเดียวกัน เสริมความหรูหรา และสปอร์ตเร้าใจด้วยห้องโดยสารแบบทูโทน ยกระดับความหรูหราด้วยเบาะนั่งกึ่งหนังแท้สีดำ พร้อมสัญลักษณ์ Stealth ที่แผงข้างประตู ซึ่งยังคงไว้ด้วยความสะดวกสบาย และอุปกรณ์อำนวยความสะดวกอันล้ำสมัยอย่างเต็มพิกัดเหมือนเช่นเคย

 

ขบวน Isuzu D-Max Hi-Lander รุ่นพิเศษ Stealth เริ่มออกเดินทาง

 

          เมื่อทำความรู้จักกับ Isuzu D-Max Hi-Lander รุ่นพิเศษ Stealth กันแล้ว ก็เริ่มออกเดินทางพาเจ้า Stealth คันนี้ไปเที่ยวเมืองลำพูนกันดีกว่า โดยเริ่มต้นการเดินทางกันที่ร้านอาหารเหนือ “เฮือนใจ๋ยอง” ก่อนจะออกเดินทางสู่ อำเภอป่าซาง จังหวัดลำพูน เพื่อไปยัง “บ้านหนองเงือก” แหล่งเรียนรู้วัฒนธรรม และสัมผัสวิถีชีวิตชุมชนคนยอง ชาวพม่าที่มาตั้งถิ่นฐานในลำพูนตั้งแต่เมื่อ 200 ปีก่อน หรือที่เรียกแบบภาษาถิ่นว่า “จาวยอง” เริ่มด้วยการต้อนรับด้วยน้ำลำไยสดใบเตย และขนมจ๊อกหรือขนมเทียนไส้หวาน การไปไหว้พระที่วัดหนองเงือก วัดเก่าแก่ในชุมชนที่มีไฮไลต์ คือ “คะตึก” หรือหอธัมม์ เป็นอาคารที่เก็บคัมภีร์โบราณเก่าแก่ภาษาล้านนา ซึ่งชั้นล่างมีภาพเขียนสีจิตรกรรมฝาผนังเก่าแก่อายุกว่า 100 ปี ส่วนตรงข้ามกับคะตึกนั้น เป็นที่ประดิษฐานพระธาตุบรรรจุพระแก้วมรกตและพระบรมสารีริกธาตุ 101 องค์ สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2467 เป็นพระธาตุศักดิ์สิทธิ์ของวัด และของชุมชน

 

วัดหนองเงือก วัดเก่าแก่ในชุมชนบ้านหนองเงือก

 

ภาพจิตรกรรมฝาผนังอายุกว่า 100 ปี ณ วัดหนองเงือก 

 

ชมวิธีการทำหัตถกรรม ณ บ้านหนองเงือก

 

ศิลปหัตถกรรม ณ บ้านหนองเงือก

 

          จากนั้นจึงไปแวะเวียนเรียนรู้ศิลปหัตถกรรมกลุ่มต่างๆ อาทิ กลุ่มผ้าฝ้ายทอมือที่สืบสานภูมิปัญญามากว่า 100 ปี ได้เรียนรู้ขั้นตอนการทอผ้า ซึ่งมีทั้งหมด 12 ขั้นตอน กลุ่มงานจักสานที่ทำจากไม้ไผ่แบบดั้งเดิมที่หาชมได้ยาก มีทั้ง ตาแหลวมงคล ตุงใจ ฯลฯ นอกจากนี้ยังแวะอุดหนุน “รองเท้าจาวยอง” ที่นำยางรถยนต์มาผลิตเป็นรองเท้าดีไซน์เก๋ และมีความทนทาน จนกลายเป็นสินค้า OTOP คู่บ้านหนองเงือกมากว่า 40 ปี ปิดท้ายด้วยการแวะร้านปิ่นฝ้าย ร้านค้าท้องถิ่นที่ได้แรงบันดาลใจจากการนำเศษผ้าฝ้ายทอมือที่เหลือจากการทอผ้าในชุมชนมาตัดเย็บเป็นกระเป๋ารูปนกฮูกสีสันสดใส ดังนั้นกว่าจะออกจากบ้านหนองเงือกไปยังร้านอาหารเย็น และเข้าที่พักในโรงแรมกลางตัวเมืองลำพูน แต่ละคนจึงมีของติดไม้ติดมือกันไปคนละหลายชิ้น

 

พิพิธภัณฑ์ชุมชนเมือง

 

          เช้าวันที่สองเป็นการเที่ยวเจาะลึกย่านเมืองเก่า โดยขับเป็นขบวนไปจอดหน้าวัดพระธาตุหริภุญชัย เพื่อต่อรถรางนำเที่ยวของชุมชน ซึ่งกำลังมีงานเทศกาลถวายโคมแสนดวงถือเป็น 1 ใน 10 มหัศจรรย์ล้านนาที่ลำพูน จึงมีการแขวนโคมหลากสีสวยงามประดับประดาตามสถานที่ต่างๆ เพื่อถวายเป็นพุทธบูชาต่อองค์พระธาตุเจ้าหริภุญชัย และสักการะพระนางจามเทวี ปฐมกษัตริย์แห่งเมืองลำพูน อีกทั้งยังเป็นส่วนหนึ่งของงานประเพณีลอยกระทงหรือประเพณียี่เป็ง ซึ่งชาวล้านนาเชื่อว่าการทำโคมเป็นการบูชาพระพุทธเจ้าที่ประทับบนสรวงสวรรค์ และแสงประทีปจากโคมจะช่วยส่องประกายให้ชีวิตมีความเจริญรุ่งเรือง อยู่เย็นเป็นสุข การนั่งรถรางนำเที่ยวเริ่มจาก พิพิธภัณฑ์ชุมชนเมือง อาคารเก่าแก่อายุกว่า 100 ปี ซึ่งเดิมเป็นคุ้มของเจ้าราชสัมพันธ์วงษ์ กับเจ้าหญิงส่องหล้า ซึ่งบอกเล่าประวัติความเป็นมาอันยาวนานของเมืองลำพูน ผ่านภาพถ่ายของบุคคล เหตุการณ์ สถานที่ เครื่องใช้และของสะสม ซึ่งที่นี่ถือเป็นพิพิธภัณฑ์ร่วมสมัยที่มีชีวิต ผ่าน คุ้มเจ้ายอดเรือน อาคารเก่าแก่ที่สุดหลังหนึ่งในเขตกำแพงเมืองลำพูน เป็นเรือนพักอาศัยที่เจ้าหลวงจักรคำขจรศักดิ์ เจ้าผู้ครองนครลำพูนองค์สุดท้ายสร้างขึ้นเพื่อมอบให้แก่เจ้ายอดเรือน ชายาองค์สุดท้าย ปัจจุบันใช้เป็นสถานที่จัดแสดงอาคารโครงสร้างบ้านเก่า สิ่งของ เครื่องใช้พื้นบ้าน และข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับเจ้าผู้ครองนครลำพูน

 

อนุสาวรีย์พระนางจามเทวี

 

วัดสันป่ายางหลวง 1 ใน 5 วัดที่สวยที่สุดในประเทศไทย

 

          จากนั้นได้แวะสักการะอนุสาวรีย์พระนางจามเทวี ซึ่งพระนางเป็นปราชญ์ที่มีคุณธรรม ความสามารถ และกล้าหาญ ได้นำพุทธศาสนา และศิลปวัฒนธรรมมาเผยแพร่ในดินแดนหริภุญชัยนี้จนรุ่งเรือง ต่อด้วยกิจกรรมไหว้พระทำบุญ ณ วัดจามเทวี หรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่า วัดกู่กุด ซึ่งตามหลักฐานจากศิลาจารึกที่พบเชื่อว่า พระราชโอรสของพระนางจามเทวีโปรดให้สร้างวัดนี้ขึ้นเพื่อถวายพระเพลิงพระนาง  และบรรจุอัฐิในพระเจดีย์สุวรรณจังโกฏ เจดีย์เหลี่ยมมียอดหุ้มด้วยทองตามแบบพุทธคยาในประเทศอินเดีย หากแต่ต่อมาสมัยใดไม่ทราบแน่ชัด ยอดพระเจดีย์ได้หักหายไป ชาวบ้านจึงเรียกว่ากู่กุดพระเจดีย์ ซึ่งถือเป็นแบบสถาปัตยกรรมที่มีความสําคัญในศิลปกรรมสมัยหริภุญชัย และที่ไม่ควรพลาด คือ วัดสันป่ายางหลวง ที่ติด 1 ใน 5 วัดที่สวยที่สุดในประเทศไทย ภายในวัดมีการแกะสลักลวดลายปูนปั้นไว้อย่างวิจิตรงดงาม โดยเฉพาะวิหารพระโขงเขียว ที่สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2548 เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธอัญญรัตนมหานทีศรีหริภุญชัย หรือพระหยกเขียว ซึ่งนำมาจากแม่น้ำโขง จบท้ายที่ วัดพระธาตุหริภุญชัยวรมหาวิหาร ปูชนียสถานสำคัญในภาคเหนือ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่คู่เมืองลำพูนมาอย่างยาวนานมากกว่าพันปี และยังเป็นองค์พระธาตุประจำปีเกิดของคนเกิดปีระกา ซึ่งหากได้มากราบไหว้ขอพรก็จะเป็นการเสริมสิริมงคลให้กับชีวิต

 

เครื่องยนต์ 1.9 Ddi Blue Power ของ Isuzu D-Max Hi-Lander รุ่นพิเศษ Stealth พาสื่อมวลชนเดินทางถึง ทาปันรักษ์ Workshop & Farm Stay อย่างปลอดภัยไร้กังวล

 

          หลังมื้อกลางวันที่ร้านขนมจีนหม้อดิน คณะสื่อได้จัดขบวนรถเดินทางลัดเลาะผ่านเส้นทางทุ่งที่คดเคี้ยว ซึ่งเครื่องยนต์ 1.9 Ddi Blue Power ของ Isuzu D-Max Hi-Lander รุ่นพิเศษ Stealth ยังคงให้พลังแรงเต็มประสิทธิภาพ และการประหยัดน้ำมันที่ดีเยี่ยม รวมไปถึงระบบช่วงล่าง และระบบช่วยเหลือด้านความปลอดภัยที่เอาอยู่ทุกสถานการณ์ พาคณะสื่อมวลชนไปร่วมทำ Workshop พิซซ่าเตาถ่านกลางไร่ ณ ทาปันรักษ์ Workshop & Farm Stay ของ คุณกรรณิการ์ ตันเส้า หรือ ก้อย นักวิชาการที่มาใช้ชีวิตพอเพียงด้วยการสร้างบ้านดินเพื่อเปิดเป็นที่พักแนวฟาร์มสเตย์ ปลูกและจำหน่ายผลผลิต ตลอดจนทำอาหารที่ใช้วัตถุดิบจากเกษตรอินทรีย์ โดยคณะสื่อมวลชนได้ร่วมสนุกทำพิซซ่าเตาถ่านท่ามกลางบรรยากาศที่สวยงาม และเป็นธรรมชาติ

 

คุณกรรณิการ์ ตันเส้า นักวิชาการที่มาใช้ชีวิตพอเพียงด้วยการสร้างบ้านดินเพื่อเปิดเป็นที่พักแนวฟาร์มสเตย์

 

อิ่มอร่อยกับพิซซ่าฝีมือตัวเอง

 

          หลังจากอิ่มอร่อยกับพิซซ่าฝีมือตัวเองจนม่วนอกม่วนใจ๋กันถ้วนหน้า ก็ถึงเวลาที่จะต้องอำลาลำพูนกันแล้ว โดยขับรถปิกอัพกลับเชียงใหม่ซึ่งใช้เวลาไม่ถึง 1 ชั่วโมง นับเป็นทริปส่งท้ายปีของอีซูซุที่ทำให้ความสุขทะยานต่อไม่รอใครด้วยขบวนรถ Isuzu D-Max Hi-Lander รุ่นพิเศษ Stealth ที่ช่วยได้ค้นพบเสน่ห์และความประทับใจใหม่ๆ จากการท่องเที่ยวทางรถยนต์ในเมืองลำพูนที่มีพระธาตุเด่น พระรอดขลัง ลำไยดัง กระเทียมดี ประเพณีงาม จามเทวีศรีหริภุญชัย

 

Isuzu D-Max Hi-Lander รุ่นพิเศษ Stealth ราคาเริ่มต้นที่ 887,000 บาท

 

          ทั้งนี้ Isuzu D-Max Hi-Lander รุ่นพิเศษ Stealth มีจำหน่ายเฉพาะเครื่องยนต์ 1.9 Ddi Blue Power โดยมีสีให้เลือก 2 สี ได้แก่ สีดำออสเตรเลียนโคล (Australian Coal Black) และ สีขาวมุกเอเวอเรสต์ (Everest Pearl White) ในราคาเริ่มต้นที่ 887,000 บาท

รถซื้อสอง ซื้อขายรถ ของแต่งรถ

ข่าวที่ใกล้เคียง

แสดงความคิดเห็นด้วย Facebook