Mitsubishi Xpander นิยามใหม่ของ Crossover หรูกว่า ใหญ่กว่า สะดวกสบายกว่า ก็ทำอะไรได้มากกว่า

          เรียกได้ว่าเป็นรถที่มีกระแสร้อนแรงที่สุดในเวลานี้เลยก็ว่าได้ ไม่ว่าจะขับไปที่ไหนเป็นต้องมีคนเหลียวมองตลอด สำหรับ Mitsubishi Xpander ยนตรกรรม Crossover รุ่นใหม่ล่าสุดจากค่าย Mitsubishi ซึ่งได้รับการเปิดตัวอย่างเป็นทางการในประเทศไทยไปเมื่อ 17 สิงหาคม 2561 ในงาน BIG Motor Sale 2018 ที่ผ่านมา กับกระแสตอบรับที่มียอดจองภายในงานกว่า 700 คัน

Mitsubishi Xpander รถยนต์ Crossover 7 ที่นั่ง

          สิ่งที่เป็นจุดเด่นของ Mitsubishi Xpander เห็นทีจะเป็นการรวมเอาจุดเด่นระหว่างรถ SUV และรถ Mini MPV เข้าไว้ด้วยกัน โดยเจ้า Mitsubishi Xpander นั้น มาพร้อมกับห้องโดยสารแบบ 7 ที่นั่ง (ห้องโดยสารมีขนาดใหญ่ที่สุดในรถระดับเดียวกัน) พร้อมตัวถังแบบยกสูง (ระยะต่ำสุดถึงพื้น 205 มม.) ซึ่งสูงที่สุดในรถระดับเดียวกัน ขับเคลื่อนด้วยขุมพลังเครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร สมรรถนะสูงสุด 105 แรงม้า ที่มาพร้อมกับรูปลักษณ์ และดีไซน์อันโดดเด่นล้ำอนาคต

ไฟหรี่ LED รับกับกระจังหน้าโครเมี่ยม ไฟหน้า และไฟเลี้ยวติดตั้งไว้ที่กันชนหน้า

เส้นสายเพิ่มความโฉบเฉี่ยว มือเปิดประตูโครเมี่ยมเฉพาะรุ่น GT

สปอยเลอร์หลังพร้อมไฟเบรคดวงที่ 3

ไฟท้ายดีไซน์แบบ L-lllumination พร้อมระบบไฟ LED

          ทั้งนี้ Mitsubishi Xpander มาพร้อมกับดีไซน์อันล้ำสมัย โดดเด่น ดึงดูดทุกสายตา ด้วยเอกลักษณ์การออกแบบ Advanced ‘Dynamic Shield’ โดยด้านหน้ามาพร้อมกับไฟหรี่แบบ Crystal LED ที่เข้าชุดกับกระจังหน้าโครเมียมดีไซน์ใหม่ ส่วนไฟหน้า และไฟเลี้ยวถูกติดตั้งไว้ที่ชุดกันชนหน้า เพื่อเลี่ยงไม่ให้แสงไฟรบกวนสายตาผู้ร่วมทาง ด้านข้างของตัวรถถูกเพิ่มเส้นสายที่ดูโฉบเฉี่ยว และแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น ด้านท้ายมาพร้อมกับสปอยเลอร์หลังพร้อมไฟเบรค LED กันชนหลังดีไซน์สปอร์ต และไฟท้ายดีไซน์ใหม่แบบ L-lllumination พร้อมระบบไฟ LED ทั้งนี้ในรุ่น GT ยังมาพร้อมไฟตัดหมอกหน้า, มือเปิดประตูโครเมียม, คิ้วขอบกระจกประตู และแผงกันกระแทกด้านหน้า-ด้านหลัง รวมถึงคิ้วขอบประตูด้านล่างข้างตัวรถ ปิดท้ายด้วยอัลลอยสีทูโทนขนาด 16 นิ้ว

มิติตัวรถของ Mitsubishi All-New Xpander

• ความกว้าง x ความยาว x ความสูง : 1,750 x 4,475 , 1,700 มม.
• ระยะฐานล้อ : 2,775 มม.
• ความกว้างช่วงล้อหน้า - หลัง : 1,520/1,510 มม.
• ระยะต่ำสุดจากพื้น : 205 มม.
• น้ำหนักตัวรถ : 1,240 กก.
• รัศมีวงเลี้ยวแคบสุด : 5.2 ม.
• ความจุถังน้ำมัน : 45 ลิตร

ห้องโดยสารโทนสีดำ เอาใจคนไทยโดยเฉพาะ

หน้าจอสัมผัสขนาด 6.2 นิ้ว พร้อมกล้องมองหลังในรุ่น GT

พื้นที่ห้องโดยสารกว้างขวาง เบาะนั่งแถว 2 และแถว 3 นั่งสบาย

พับเบาะนั่ง เพิ่มพื้นที่จัดเก็บสัมภาระได้อีกเพียบ

          ภายในห้องโดยสารของ Mitsubishi Xpander มอบอารมณ์โลกยานยนต์ล้ำยุคที่เปี่ยมด้วยความสะดวกสบาย และมีมิติในห้องโดยสารที่กว้าง และสูงที่สุดในรถระดับเดียวกัน สามารถรองรับผู้โดยสารสูงสุด 7 ที่นั่ง มาพร้อมการออกแบบภายในโทนสีดำ (สำหรับตลาดเมืองไทยโดยเฉพาะ) ครบครันด้วยอุปกรณ์อำนวยความสะดวก ทั้งกุญแจอัจฉริยะ และระบบ Push Start, แผงควบคุมระบบปรับอากาศด้านหลัง, พวงมาลัยปรับ 4 ทิศทาง พร้อมสวิตช์ควบคุมระบบเครื่องเสียง และระบบ Cruise Control บนพวงมาลัย, หน้าจอแสดงผลข้อมูลแบบสามมิติ TFT ขนาด 4.2 นิ้ว, สะดวกสบายเหนือระดับด้วยระบบอินโฟเทนเมนท์ผ่านจอภาพระบบสัมผัสขนาด 6.2 นิ้ว สำหรับรุ่น GT จะมาพร้อมกับเบาะที่นั่งหุ้มหนัง และวัสดุหนังสังเคราะห์ทั้ง 3 แถว

เครื่องยนต์ 1.5 ลิตร ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด สมรรถนะ 105 แรงม้า เพียงพอต่อทุกการใช้งาน

          Mitsubishi Xpander มาพร้อมกับขุมพลังเครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร รหัส 4A91 แบบ 4 สูบ MIVEC DOHC 16 วาล์ว ขนาดกระบอกสูบ x ช่วงชักอยู่ที่ 75.0 x 84.8 มม. ซึ่งกระบอกสูบเป็นแบบอลูมิเนียมอัลลอยล์ ที่สามารถระบายความร้อนได้เป็นอย่างดี จ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงผ่านระบบหัวฉีด และส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด พร้อมระบบ INC โดยให้สมรรถนะสูงสุด 105 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที และแรงบิดสูงสุด 141 นิวตัน-เมตร ที่ 4,000 รอบ/นาที ทั้งนี้ Mitsubishi Xpander ได้มีการปรับเปลี่ยนใช้โซ่สายพานไทม์มิ่ง เพื่อยืดอายุการใช้งาน และอ่างน้ำมันเครื่องแบบอลูมิเนียม ที่ช่วยลดการสั่นสะเทือน ให้ความเงียบในการขับขี่

ระบบความปลอดภัยครบครัน มั่นใจทุกการขับเคลื่อน

          Mitsubishi Xpander อัดแน่นด้วยระบบความปลอดภัยทั้งในเชิงป้องกัน และปกป้อง ได้แก่ ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว (ASC-Active Stability Control) ระบบป้องกันการลื่นไถล (TCL-Traction Control System) ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน (HSA-Hill Start Assist System) ระบบป้องกันล้อล็อกขณะเบรก (ABS-Anti Lock Braking System) และระบบกระจายแรงดันน้ำมันเบรกแบบอิเล็กทรอนิกส์ (EBD-Electronic Brake Force Distribution) พร้อมระบบเสริมแรงเบรก (BA-Brake Assist) ระบบไฟกะพริบฉุกเฉินอัตโนมัติขณะเบรกกะทันหัน (ESS-Emergency Stop Signal System) ถุงลมนิรภัยด้านคนขับ และผู้โดยสารตอนหน้า เข็มขัดนิรภัยคู่หน้าแบบดึงกลับ และระบบผ่อนแรงอัตโนมัติ ELR 3 จุด 2 ตำแหน่ง และเข็มขัดนิรภัยแบบ ELR 3 จุด 5 ตำแหน่งสำหรับผู้โดยสารทุกที่นั่ง สำหรับรุ่น GT มาพร้อมกับกล้องมองภาพด้านหลัง

Mitsubishi Xpander ตอบโจทย์ทุกการใช้งาน อเนกประสงค์ทุกการเดินทาง

          ด้านสมรรถนะการขับขี่ของ Mitsubishi Xpander ต้องบอกว่าเป็นรถที่ใช้งานในชีวิตประจำวันได้อย่างสะดวกสบาย แถมยังพ่วงความอรรถประโยชน์ในการเดินทางออกต่างจังหวัด หรือรองรับกับการเดินทางแบบครอบครัวได้อย่างสะดวกสบายมากขึ้น เครื่องยนต์บล็อค 1.5 ลิตร 105 แรงม้า เพียงพอต่อทุกการใช้งาน ระบบเกียร์ 4 สปีด แม้จะต้องลากรอบยาวสักหน่อย แต่หากปรับตัว และเข้าใจจังหวะการเปลี่ยนเกียร์แล้วก็จะสามารถขับได้อย่างสนุกไม่แพ้เกียร์ระบบ CVT แต่สิ่งที่ได้มานั้นคือความทนทานของชุดเกียร์ ระบบช่วงล่างถือว่าเซ็ตมาให้เหมาะสมกับสภาพถนนของเมืองไทย แน่นความนุ่ม นั่งสบายเป็นหลัก โดยโช้คอัพหน้า-หลังของ Mitsubishi Xpander นั้นได้รับการติดตั้งวาล์วสมรรถนะสูงจาก Evolution X เรื่องของการควบคุมถือว่าหายห่วง พวงมาลัยมีความเบามือ แม่นยำ สามารถปรับเปลี่ยนช่องทางเดินรถได้อย่างสะดวกสบาย รวมไปถึงการเข้าจอดในที่แคบต่างๆ ก็ทำได้อย่างง่ายดายเช่นเดียวกัน อีกหนึ่งจุดเด่นที่อดพูดถึงไม่ได้คือ การเก็บเสียงรบกวนภายนอก ซึ่ง Mitsubishi Xpander ทำได้ดีมากเมื่อเทียบกับรถในระดับเดียวกัน

Mitsubishi Xpander ราคาเริ่มต้นที่ 779,000 บาท สำหรับรุ่น GLS-LTD และ 849,000 บาท สำหรับรุ่น GT

          สำหรับ Mitsubishi Xpander นั้น ถือเป็นรถ Crossover ที่มีความอรรถประโยชน์สูง สามารถใช้งานได้หลากหลาย เรียกได้ว่าครบจบในคันเดียว ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์การเดินทาง ซึ่งเมื่อเทียบกับราคาค่าตัวของทั้ง 2 รุ่นย่อยแล้ว ถือว่าคุ้มค่า เหมาะสำหรับใครที่กำลังหารถที่ใช้งานได้ทุกโอกาสอย่างแท้จริง ทั้งนี้ Mitsubishi Xpander มีจำหน่ายด้วยกัน 2 รุ่นย่อยได้แก่

• Mitsubishi Xpander GLS-LTD ราคา 779,000 บาท
• Mitsubishi Xpander GT ราคา 849,000 บาท