Mazda CX-3 ใหม่ ยกระดับความหรูหรา ดีไซน์โฉบเฉี่ยว เทคโนโลยีอัดแน่นเต็มลำ

หลังจากที่ Mazda CX-3 ได้เปิดตัวขึ้นในปี 2015 ภายใต้แนวคิด "การสร้างมาตรฐานสำหรับยุคใหม่" ซึ่งถือเป็นปรากฏการณ์ใหม่ของรถคอมแพคอเนกประสงค์ ที่อยู่เหนือแนวความคิดของรถยนต์ในระดับเดียวกัน ทว่าล่าสุด Mazda ได้ต่อยอดความสำเร็จ และยกระดับมาตรฐานให้รถ Crossover อีกครั้ง ด้วยการเปิดตัว Mazda CX-3 2018 Collection ที่มาพร้อมกับการพัฒนาดีไซน์ใหม่ทั้งภายนอก และภายใน รวมไปถึงการเพิ่มอ็อพชั่น และติดตั้งเทคโนโลยีอันล้ำสมัย เพื่อตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์การเดินทางที่ครบครันมากยิ่งขึ้น

คุณอุทัย เรืองศักดิ์ ผู้จัดการอาวุโสส่วนงานประชาสัมพันธ์ บริษัท มาสด้า เซลล์ ประเทศไทย กล่าวต้อนรับคณะสื่อมวลชน

ทั้งนี้ บริษัท มาสด้า เซลล์ ประเทศไทย จำกัด ได้จัดกิจกรรมทดสอบขับ Mazda CX-3 ใหม่ เส้นทางกรุงเทพฯ - หัวหิน รวมระยะทางกว่า 220 กม. เพื่อให้คณะสื่อมวลชนได้ร่วมทดสอบ และสัมผัสสมรรถนะ รวมถึงทดลองใช้ฟังก์ชั่นต่างๆ ของ Mazda CX-3 ใหม่ โดยตามกำหนดการเริ่มต้นขึ้นที่ โชว์รูมมาสด้า เจ.พี. เลียบด่วนรามอินทรา โดยได้รับเกียรติจาก คุณอุทัย เรืองศักดิ์ ผู้จัดการอาวุโสส่วนงานประชาสัมพันธ์ และ คุณวัชระ เจียรบุญ ผู้จัดการอาวุโสส่วนงานผลิตภัณฑ์ กล่าวต้อนรับคณะสื่อมวลชน พร้อมทั้งแนะนำข้อมูลทางเทคนิคของ Mazda CX-3 ใหม่ ก่อนเริ่มทดสอบขับจริง

กองทัพ Mazda CX-3 2018 Collection พร้อมออกเดินทาง

สำหรับการทดสอบครั้งนี้ ทาง Mazda ได้นำ CX-3 2018 มาให้ได้ทดลองขับทั้งหมด 8 คัน โดยแบ่งเป็น 2 รุ่น ได้แก่ Mazda CX-3 รุ่น 2.0 SP ซึ่งเป็นรุ่นท็อปของเครื่องยนต์เบนซิน จำนวน 4 คัน และ Mazda CX-3 รุ่น 1.5 XDL ซึ่งเป็นรุ่นเครื่องยนต์ดีเซลหนึ่งเดียวในคลาส อีก 4 คัน ซึ่งทีมงาน BoxzaRacing ถูกจัดให้ได้ทดสอบในรุ่น Mazda CX-3 รุ่น 2.0 SP

ออกแบบกระจังหน้าใหม่ พร้อมเสริมคิ้วโครเมียมที่บริเวณกันชนหน้า

หรูหราขึ้นอีกระดับด้วยวัสดุโครเมียมที่ชายประตูด้านล่าง

ไฟท้ายแบบ LED ดีไซน์ใหม่

สำหรับ Mazda CX-3 ใหม่ นั้น มาพร้อมปรัชญาการออกแบบภายใต้แนวคิด "KODO : Soul of Motion จิตวิญญาณแห่งการเคลื่อนไหว" เหมือนเช่นเคย โดยด้านหน้ามาพร้อมกับไฟหน้าโปรเจคเตอร์ พร้อมไฟ Daytime Running Light แบบ LED ดีไซน์โฉบเฉี่ยว ซึ่งรับกับกระจังหน้าแบบใหม่ ที่ออกแบบช่องดักลมที่มีขนาดใหญ่ขึ้น เสริมด้วยขอบแบบโครเมียมที่ช่วยเพิ่มความหรูหรา, กันชนหน้ามาพร้อมไฟตัดหมอก LED และไฟเลี้ยว ที่อยู่ในกรอบไฟสีดำเงา เสริมด้วยคิ้วแบบโครเมียม, ดีไซน์ด้านข้างตัวรถถูกเพิ่มความโดดเด่นด้วยโครเมียมที่ขอบประตู, บริเวณกาบข้างประตูเปลี่ยนมาใช้วัสดุสีดำเงา, ส่วนด้านหลังมีการปรับเปลี่ยนดีไซน์ในส่วนของไฟท้ายใหม่ ที่ดูโฉบเฉี่ยวมากยิ่งขึ้น ก่อนจะปิดท้ายด้วยล้ออัลลอยแบบทูโทน ขนาด 18 นิ้ว

ภายในปรับดีไซน์ใหม่ ตกแต่งด้วยวัสดุหนังกลับ เพิ่มความหรูหราขึ้นอีกระดับ

เบาะนั่งโอบกระชับ พร้อมหลังคาแบบซันรูฟ

Mazda CX-3 ใหม่ เปลี่ยนมาใช้ระบบเบรคมือไฟฟ้า (EPB) และ Auto Hold

ส่วนภายในของ Mazda CX-3 ใหม่ ได้รับการพัฒนาให้มีความสปอร์ต และดูหรูหรามากยิ่งขึ้น ด้วยการปรับเปลี่ยนดีไซน์แผงคอนโซลหน้าใหม่ ที่ใช้วัสดุหนังกลับในการตกแต่ง รวมไปถึงบริเวณคอนโซลกลางที่ปรับเปลี่ยนใหม่ รวมไปถึงการเปลี่ยนมาใช้ระบบเบรคมือไฟฟ้า (EPB) และ Auto Hold ซึ่งช่วยเพิ่มพื้นที่ในการวางอุปกรณ์ได้มากขึ้น ส่วนปุ่ม Center Commander ยังมีใหเลือกใช้งานเหมือนเช่นเดิม ช่องเสียบ USB มีให้ 2 ตำแหน่งที่ด้านหน้า พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น พร้อมปุ่มระบบสั่งการด้วยเสียง และ Cruise Control จอแสดงผล Center Display ระบบสัมผัสขนาด 7 นิ้ว รวมไปถึงหน้าจอแสดงผลการขับขี่บนกระจกหน้า Head-Up Display ก็มีให้เป็นอุปกรณ์มาตรฐานเหมือนเช่นเคย อีกทั้ง Mazda CX-3 ใหม่ ยังมาพร้อมกับหลังคาซันรูฟ ซึ่งมีเฉพาะรุ่นย่อย 2.0 SP และ 1.5 XDL อีกด้วย

เครื่องยนต์ Skyactiv-G 2.0 ลิตร 156 แรงม้า และ เครื่องยนต์ Skyactiv-D 1.5 ลิตร 105 แรงม้า

สำหรับ Mazda CX-3 ใหม่ มีให้เลือกใช้ด้วยกัน 2 เครื่องยนต์ ได้แก่ เครื่องยนต์ Skyactiv-G ซึ่งเป็นเครื่องยนต์เบนซินขนาด 2.0 ลิตร สมรรถนะ 156 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุดที่ 204 นิวตัน-เมตร ที่ 2,800 รอบ/นาที ส่วนอีกเครื่องยนต์ก็คือ Skyactiv-D ซึ่งเป็นเครื่องยนต์ดีเซลขนาด 1.5 ลิตร สมรรถนะ 105 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 270 นิวตัน-เมตร ที่ 1,600 - 2,500 รอบ/นาที (ซึ่งเป็นรุ่นที่มีแรงบิดสูงสุดในคลาส) โดยทั้ง 2 รุ่น ส่งกำลังผ่านระบบเกียร์ Skyactiv-Drive อัตโนมัติ 6 สปีด พร้อมแมนนวลโหมด Activematic ซึ่งทาง Mazda เคลมอัตการบริโภคน้ำมันเฉลี่ยไว้ที่ 16.4 กม./ลิตร (สำหรับเครื่องยนต์เบนซิน) และ 22.2 กม./ลิตร (สำหรับเครื่องยนต์ดีเซล)

Mazda CX-3 ใหม่ มาพร้อมกับระบบความปลอดภัยที่อัดแน่นเต็มลำ

กล้องแสดงภาพ 360 องศา พร้อมมุมกล้องแบบ Top View

ด้านระบบความปลอดภัย Mazda CX-3 ใหม่ มาพร้อมกับระบบความปลอดภัยที่อัดแน่นเต็มลำ ไม่ว่าจะเป็น ระบบ Advanced Bilnd Spot Monitoring (ABSM) & Rear Cross Traffic Alert (RCTA) ระบบตรวจจับยานพาหนะจากด้านข้างและด้านหลังที่กำลังใกล้เข้ามาในจุดบอด พร้อมทั้งเตือนผู้ขับขี่จะทำการเปลี่ยนเลน และ ระบบ RCTA จะช่วยแจ้งเตือนจุดบอดขณะถอยหลัง, ระบบ Lane Departure Warning System (LDWS) ระบบคาดการณ์การเบี่ยงรถออกนอกเลน และเตือนผู้ขับขี่ผ่านทางเสียง, ระบบ Adaptive LED Headlamps (ALH) ระบบปรับการทำงานของไฟหน้าสูง-ต่ำ ที่แยกอิสระซ้ายขวา, ระบบ Driver Attention Alert (DAA) ระบบตรวจพฤติกรรมผู้ขับขี่เกิดความเหนื่อยล้า โดยส่งเสียงและสัญญาณไฟเตือนแก่ผู้ขับขี่, ระบบ Mazda Radar Cruise Control (MRCC) ระบบช่วยควบคุมความเร็ว และรักษาระยะห่างจากรถคันข้างหน้าอัตโนมัติ, กล้องแสดงภาพ 360 องศา พร้อมมุมกล้องแบบ Top View ช่วยเพิ่มความปลอดภัยมากขึ้น, ระบบ Smart City Brake Support (SCBS) และระบบ Smart City Brake Support-Reverse (SCBS-R) ระบบช่วยหยุดรถอัตโนมัติขณะเดินหน้าและถอยหลัง, ระบบ Smart Brake Support (SBS) ระบบเตือนการชนด้านหน้าและช่วยเบรกอัตโนมัติ เมื่อพบความเสี่ยงการเกิดอุบัติเหตุ เพื่อลดโอกาสในการชนรถคันหน้า

Mazda CX-3 ใหม่ คล่องตัวทุกการเดินทาง ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์อย่างแท้จริง

เมื่อทำความรู้จักกับ Mazda CX-3 ใหม่ กันอย่างละเอียดแล้ว ก็ถึงคราวสัมผัสสมรรถนะการขับขี่กันบ้าง โดยการเดินทางในช่วงแรกนั้น เป็นการขับขี่ในเมือง ซึ่ง Mazda CX-3 ใหม่ ก็สะท้อนบุคลิคความคล่องตัวออกมาได้อย่างโดดเด่น อีกทั้งยังได้ใช้ประโยชน์จากระบบ กล้องแสดงภาพ 360 องศา และระบบ Advanced Bilnd Spot Monitoring (ABSM) & Rear Cross Traffic Alert (RCTA) ที่ช่วยเตือนมุมอับสายตา ทำให้การเปลี่ยนเลน และการขับขี่สะดวกสบาย และปลอดภัยมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังได้เพลิดเพลินไปกับการฟังเพลงผ่านระบบ Bluetooth ที่เชื่อมต่อได้อย่างง่ายได้ และสะดวกสบาย แถมยังมีช่อง USB ถึง 2 ช่องให้ชาร์ทไฟไปในตัว เรียกได้ว่าตอบโจทย์นักเดินทางรุ่นใหม่อย่างแท้จริง

Mazda CX-3 ใหม่ อัตราเร่งดี ปลายไหล ขับสนุก และประหยัดน้ำมัน

เมื่อหลุดจากตัวเมือง ก็ถึงช่วงที่สามารถจะพอทำความเร็วกันได้บ้าง โดยอัตราเร่งของ Mazda CX-3 ใหม่ นั้น ถือว่าตอบสนองได้ดี ฉับไว แต่อาจจะมีจังหวะหน่วงๆ นิดหน่อยในช่วงต้นของการใช้คันเร่ง ซึ่งหากเลื่อนคันเกียร์มาที่โหมด S และเลือกตำแหน่งเกียร์เองจากแป้น Paddle Shift ก็จะสามารถลากรอบทะลุถึง 6,500 รอบ/นาที เลยทีเดียว ซึ่งความเร็วสูงสุดที่ทำได้อยู่ที่ 170 กม./ชม. (ยังไปได้อีก) ส่วนหากขับในโหมดธรรมดา D ตัวรถก็จะให้ความสมูธ นุ่มนวล ซึ่งให้อัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงที่น้อยกว่ารถในระดับเดียวกัน (ไม่นับรวมเครื่องยนต์ Hybrid)

ช่วงล่างแน่น นั่งสบาย ปลอดภัยทุกเส้นทาง

ด้านระบบช่วงล่างของ Mazda CX-3 ใหม่ ถือเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์สำคัญเลยก็ว่าได้ ซึ่งเป็นผลพวงมาจากระบบ Skyactiv - Chassis และ Skyactiv - Vehicle Dynamics : GVC ซึ่งเป็นระบบที่คอยควบคุมสมรรถนะการขับขี่ให้แม่นยำมากขึ้น โดยระบบจะทำการประมวลผล ร่วมกับการบังคับพวงมาลัย ความเร็วของรถ การโยนตัวของรถ รวมไปถึงน้ำหนักการกดคันเร่ง เพื่อควบคุมแรงบิดของเครื่องยนต์ และควบคุมการถ่ายเทกำลังลงสู่ล้อ เพื่อให้รถเกาะถนนมากขึ้น และลดการโยนตัวมากขึ้น ซึ่งนั่นจะทำให้ผู้ขับขี่มันใจมากขึ้น ส่วนผู้โดยสาร ไม่ว่าจะเป็นตอนหน้า หรือตอนหลัง จะรู้สึกสบายมากขึ้น และลดอาการเมารถได้มากขึ้นนั่นเอง

Mazda CX-3 ใหม่ มีสีตัวถังใหม่ 2 สี ได้แก่ สีเทา แมชชีน เกรย์ และ สีแดง โซล เรด คริสตัล

ทั้งนี้ Mazda CX-3 2018 Collection ยังมาพร้อมกับสีตัวถังใหม่ 2 สี ได้แก่ สีเทา แมชชีน เกรย์ และ สีแดง โซล เรด คริสตัล ที่มอบความเจิดจรัส มีพลัง และมีมิติความลึก แวววาว อันเนื่องมาจากเทคโนโลยีการพ่นสีแบบ Takuminuri ของ Mazda ส่วนสีอื่นๆ ยังคงมีให้เลือกทั้ง สีน้ำตาล ไททาเนียม แฟลช, สีดำ เจ็ท แบล็ก, สีขาวสโนว์เฟลก ไวท์ เพิร์ล, สีขาวเซรามิค เมทัลลิค และ สีน้ำเงิน อีเทอนอล บลู