Honda HR-V (ฮอนด้า เอชอาร์-วี) นับเป็นยนตรกรรมครอสโอเวอร์อีกรุ่นหนึ่งของทางค่าย Honda ที่เรียกว่าประสบความสำเร็จมากที่สุด หลังจากที่เปิดตัวในเจนเนอเรชั่นแรกเมื่อปลายปี 2014 ก็สามารถสร้างยอดจำหน่ายได้อย่างต่อเนื่องสูงสุดกว่า 66,000 คัน อีกทั้งในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ยังเป็นรถ SUV ที่มียอดจำหน่ายสูงสุดอีกด้วย และด้วยความสำเร็จนี้เอง ทำให้ทางค่ายต่อยอดสู่ Honda HR-V 2018 ที่ได้รับการอัพเกรดทั้งในส่วนของภาพลักษณ์ พร้อมอัดฟังค์ชั่นใหม่ๆ ที่สามารถตอบรับทุกไลฟ์สไตล์ได้อย่างลงตัว อันเป็นที่มาของคำว่า Life Crossove
Honda HR-V 2018 รุ่น RS กับภาพลักษณ์ที่ดูเร้าใจขึ้นอีกขั้น
ไฟหน้า LED พร้อม LED Daylight
เรียกได้ว่ามีความเปลี่ยนแปลงมากมายใน Honda HR-V 2018 เริ่มตั้งแต่การเพิ่มรุ่นย่อย RS ใหม่ ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ยิ่งขึ้นด้วยชุดแอโร่พาร์ทสีดำรอบคัน ที่ให้ความดุดัน ลงตัวในทุกสัดส่วน พร้อมกันนี้ยังเพิ่มสีใหม่อย่าง สีแดงแพชชั่น ที่ดูร้อนแรงขึ้นไปอีกขั้น นอกจากนี้ยังปรับในส่วนของกันชนและกระจังหน้าโครเมี่ยมรมดำใหม่ เช่นเดียวกับในด้านหลัง สิ่งที่สะดุดตาเอามากๆ ก็เห็นจะเป็นไฟหน้ามาในรูปแบบ LED พร้อม LED Daylight ที่เราคุ้นเคย ซึ่งนอกจากจะให้ความรู้สึกที่ดูมีความเป็นสปอร์ต ดูพรีเมี่ยมมากยิ่งขึ้นแล้ว ยังช่วยเติมเต็มทัศนวิสัยที่โดดเด่น ชัดเจนขึ้นอีกด้วย
Honda LaneWatch ฟังค์ชั่นเด็ดที่เพิ่มเข้ามาใน Honda HR-V 2018
ระบบความปลอดภัยเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ทางค่าย Honda ให้ความใส่ใจมาโดยตลอด ซึ่งสำหรับ Honda HR-V 2018 ได้รับการอัพเกรดขึ้นไปอีกขั้น โดยเติมระบบป้องกันมุมอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน (Honda LaneWatch) ที่จะแสดงภาพบนหน้าจออัตโนมัติขณะที่ผู้ขับขี่เปิดไฟเลี้ยวซ้าย หรือกดปุ่มบริเวณก้านไฟเลี้ยว, ระบบเตือนและช่วยเบรกที่ความเร็วต่ำ ในกรณีวิ่งเข้าหารถคันด้านหน้าด้วยความเร็วที่แตกต่างกันมากเกินไป รวมไปถึงระบบล็อกรถอัตโนมัติ เมื่อกุญแจอยู่ห่างตัวรถมากจนเกินไป ป้องกันปัญหาการลืมล็อกรถ เพิ่มความอุ่นใจให้กับผู้ขับขี่ได้ไม่น้อยเลยทีเดียว
Honda HR-V 2018 มาพร้อมการออกแบบภายในที่กว้างขวาง พร้อมตอบโจทย์ทุกการใช้งานได้อย่างลงตัว เบาะนั่งได้รับการปรับใหม่ให้มีภาพลักษณ์ที่สปอร์ตและนั่งได้อย่างโอบประชับยิ่งขึ้น พร้อมเพิ่มความหลากหลายด้วยฟังค์ชั่นการพับ ที่สามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบได้ถึง 3 โหมด ไม่ว่าจะเป็น Utility Mode คือ พับเบาะหลังราบลงไปทั้งหมดเพื่อเพิ่มพื้นที่ในการจัดเก็บสัมภาระ, Tall Mode พับเบาะรองนั่งของเบาะหลังขึ้น เพื่อเพิ่มพื้นที่การเก็บสัมภาระในแนวสูง และ Long Mode พับเบาะทั้งด้านหน้าและหลังเพื่อขยายพื้นที่ในการวางของแนวยาว ซึ่งดูจากรูปแบบการพับเบาะที่ทำได้ทั้งหมดนี้แล้ว บวกกับพื้นที่ในการบรรทุกสัมภาระด้านท้าย เชื่อว่าสามารถที่จะตอบโจทย์การใช้งานทุกรูปแบบได้อย่างลงตัวแน่นอน
หัวใจหลักแห่งการขับเคลื่อนของ Honda HR-V 2018 ยังคงเป็นเครื่องยนต์ Earth Dream Technology ขนาด 1.8 ลิตร แบบ 4 สูบ 16 วาล์ว SOHC i-VTEC รองรับเชื้อเพลิงได้อย่างหลากหลายถึง E85 ให้กำลัง 141 แรงม้า ที่ 6,500 รอบ/นาที พร้อมแรงบิดสูงสุด 172 นิวตัน-เมตร ที่ 4,300 รอบ/นาที ส่งกำลังด้วยชุดเกียร์ CVT พร้อมจัดเต็มความปลอดภัยด้วยเบรกมือไฟฟ้า, ระบบ Auto Brake Hold, ระบบป้องกันล้อล็อก ABS พร้อมระบบกระจายแรงเบรก EBD, ระบบควบคุมการทรงตัวขณะเข้าโค้ง, ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน, กล้องมองภาพขณะถอยหลังปรับมุมมองได้ 3 ระดับ รวมถึงถุงลมนิรภัย 6 ตำแหน่งรอบคัน ในรุ่น RS และ EL
น้ำตกช่องลม สถานที่ท่องเที่ยว Unseen เหนือเขื่อนขุนด่านปราการชล
สำหรับการทดลองขับขี่ Honda HR-V 2018 ในครั้งนี้ ทาง Honda ได้แบ่งรูปแบบกิจกรรมและเส้นทางที่มีความหลากหลาย ซึ่งเป็นเครื่องพิสูจน์ว่า Honda HR-V 2018 เป็นรถที่สามารถตอบโจทย์ทุกการใช้งานทุกรูปแบบ โดยทาง BoxzaRacing ถูกจัดให้อยู่ในกรุ๊ป Adventure ขับขี่เพื่อการท่องเที่ยว ผจญภัย ใช้เส้นทางจากโชว์รูม Honda สาขาศรีอยุธยา มุ่งหน้าสู่เขื่อนขุนด่านปราการชล จ.นครนายก เพื่อทำกิจกรรมท่องเที่ยวสุดท้ายทาย พร้อมเปิดประสบการใหม่ในดินแดน Unseen อย่างน้ำตกช่องลม บริเวณเหนือเขื่อนขุนด่านฯ ที่น้อยคนนักจะเคยได้สัมผัส โดยก่อนที่จะออกเดินทาง Honda มีกิจกรรมให้ได้สัมผัสถึงความจุอันเหนือชั้นใน Honda HR-V 2018 กับการจัดรูปแบบสัมภาระให้เหมาะสมกับรูปแบบการพับเบาะ เรียกเหงื่อและความกระปรี้กระเปร่าก่อนออกเดินทางกันได้พอหอมปากหอมคอ
การเดินทางด้วย Honda HR-V 2018 ในครั้งนี้ ความประทับใจจากการได้ทดลองขับ Honda HR-V ในหลายๆ ครั้งของผมก็ยังคงอยู่ ด้วยความที่ HR-V นั้น เป็นรถที่มีภาพลักษณ์ที่ดูโฉบเฉี่ยว ในพิกัดที่เหมาะมือ สามารถใช้งานได้อย่างหลากหลาย เพียงแค่แรกเห็นความประทับใจมันก็พาใจเตลิดไปค่อนข้างไกลแล้ว ยิ่งเมื่อเข้าไปในห้องโดยสาร องค์ประกอบต่างๆ ได้รับการจัดวางไว้อย่างลงตัว หน้าปัดดีไซน์สวย ใช้วัสดุที่ดูพรีเมี่ยม สิ่งอำนวยความสะดวกมีให้ใช้อย่างพอเพียง เชื่อมต่ออุปกรณ์ความบันเทิงได้ง่าย คุณภาพเสียงที่ให้มาจากโรงงาน ถือว่าทำได้ดี มีมิติที่ชัดเจน ล้ำลึก โดยไม่ใช่แค่เอาดังเข้าว่า ไม่ต้องง้อสำนักแต่งเครื่องเสียงเลยทีเดียว เบาะนั่งให้ความโอบกระชับ การจัดท่าทางทำได้ง่ายด้วยระบบปรับไฟฟ้าที่สามารถปรับตำแหน่งของผู้ขับขี่ให้เหมาะสมกับสรีระ ไม่มีอะไรติดแข้งติดขาให้รำคาญใจ
ด้านเครื่องยนต์กลไลที่ใช้ในการขับเคลื่อน ก็ต้องบอกว่าสามารถรองรับการใช้งานได้อย่างลงตัว ไม่ได้แรงที่สุด แต่ก็ไม่ได้รู้สึกอืดจนขาดหาย การส่งถ่ายกำลังทำได้อย่างต่อเนื่อง เร่งได้รวดเร็ว ต่อเนื่อง ทำความเร็วได้ในระดับที่น่าพอใจ การเซ็ตช่วงล่างทำมาในระดับกลางๆ คือ นิ่มนวลสไตล์รถหรู แต่ก็มีความหนึบเพียงพอที่จะทำให้การทรงตัวในย่านความเร็วสูง หรือการเข้าโค้งในรูปแบบต่างๆ ทำได้อย่างมั่นคง เช่นเดียวกับในส่วนของระบบเบรก ที่ตอบสนองตามน้ำหนักการเหยียบ แตะเบาๆ มีไหลเล็กน้อยไม่ให้รู้สึกชะงักมากเกินไปจนขาดความสมูท แต่หากเติมแรงเข้าไปก็พร้อมที่จะหยุดได้ตามสั่ง โดยสิ่งที่อยากจะชื่นชมมากที่สุด เนื่องจากตอบโจทย์การใช้งานได้อย่างเหมาะสม ก็คือ การมีระบบ Auto Brake Hold ติดตั้งมาให้ ทำให้การใช้งานในเมือง หรือการขับขี่ในย่านจราจรแออัด ทำได้อย่างสะดวก และเพิ่มความสบายให้กับผู้ขับขี่ได้มากยิ่งขึ้น
Honda HR-V 2018 ก็ยังคงเป็น HR-V ที่ดีสมราคาอย่างที่เราๆ ท่านๆ คุ้นเคย ซึ่งหากคุณเป็นคนหนึ่งที่กำลังมองหารถที่สามารถใช้งานได้อย่างหลากหลาย หล่อ หรู ลุยได้พองาม ในราคาที่พอเข้าถึงได้ไม่ยากนัก รถรุ่นนี้น่าจะเป็นอีกหนึ่งรุ่นที่ตอบโจทย์ของคุณได้อย่างลงตัว ซึ่งถ้าคุณรู้สึกเช่นนั้นแล้ว อย่ารอช้าที่จะพิสูจน์คอนเซ็ปท์ What’s Calling You ? ทุกเสียงเรียกร้องจากข้างใน...ตามไปให้สุด ด้วยตัวคุณเองได้แล้ววันนี้ที่โชว์รูมฮอนด้าทุกสาขา
Honda HR-V รุ่น E ราคา 949,000 บาท
Honda HR-V รุ่น EL ราคา 1,059,000 บาท
Honda HR-V รุ่น RS ราคา 1,119,000 บาท