เขียนโดย: Monster Racing

เมื่อ: 13 กรกฏาคม 2561 - 14:09

Mitsubishi All-New Xpander นิยามใหม่ของ Crossover หรูกว่า ล้ำกว่า สะดวกสบายกว่าที่เคยสัมผัส

          เรียกได้ว่าเป็นรถที่มีกระแสร้อนแรงที่สุดในเวลานี้เลยก็ว่าได้ สำหรับ Mitsubishi All-New Xpander ซึ่งถือเป็นโมเดลใหม่ล่าสุดจากทางค่าย Mitsubishi โดยได้รับการเปิดตัวครั้งแรกของโลกที่ประเทศอินโดนีเซีย และได้รับการตอบรับที่ดีเกินคาดด้วยยอดจำหน่ายกว่า 50,000 คัน ล่าสุด บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด ได้นำเข้า Mitsubishi All-New Xpander ซึ่งเป็นเซกเมนต์รถยนต์ที่บุกเบิกขึ้นใหม่ในประเทศไทย เตรียมเปิดตัวให้ชาวไทยได้สัมผัส และจับจองเป็นเจ้าของเป็นครั้งแรกในวันที่ 17 สิงหาคม 2561 ที่งาน BIG Motor Sale 2018

 

Mitsubishi All-New Xpander

 

          สำหรับ Mitsubishi All-New Xpander นั้น ทาง Mitsubishi ได้ตั้งนิยามว่ามันคือรถ Crossover ซึ่งเป็นการผสมผสานจุดเด่นระหว่างรถ SUV และรถ Mini MPV เข้าไว้ด้วยกัน โดยเจ้า Mitsubishi Xpander 2018 มาพร้อมกับห้องโดยสารแบบ 7 ที่นั่ง (ห้องโดยสารมีขนาดใหญ่ที่สุดในรถระดับเดียวกัน) พร้อมตัวถังแบบยกสูง (ระยะต่ำสุดถึงพื้น 205 มม.) ซึ่งสูงที่สุดในรถระดับเดียวกัน ขับเคลื่อนด้วยขุมพลังเครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร สมรรถนะสูงสุด 105 แรงม้า ที่มาพร้อมกับรูปลักษณ์ และดีไซน์อันโดดเด่นล้ำอนาคต

 

Mitsubishi Xpander เริ่มทดสอบสมรรถนะบนสภาพถนนของประเทศไทยจริงเป็นระยะทางรวมกว่า 3,000 กิโลเมตร

 

          ล่าสุด บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด ได้จัดกิจกรรมทดสอบขับให้แก่สื่อมวลชน บนเส้นทางการขับขี่ที่จัดขึ้นเพื่อท้าพิสูจน์สมรรถนะของ Mitsubishi All-New Xpander บนสภาพถนนของประเทศไทยจริงเป็นระยะทางรวมกว่า 3,000 กิโลเมตร โดยแบ่งออกเป็น 6 เส้นทางตั้งแต่ภาคเหนือจรดภาคใต้ เพื่อให้มั่นใจว่า Mitsubishi All-New Xpander สามารถใช้งาน และพร้อมสำหรับประเทศไทยอย่างจริง

 

ดีไซน์ด้านหน้าโดดเด่นล้ำสมัย ไฟหรี่แบบ Crystal LED

 

ด้านหลังดูดี มีระดับ ไฟท้ายใหม่ แบบ LED L-lllumination

 

          โดยไฮไลท์ของของ Mitsubishi Xpander ใหม่ เห็นทีจะหนีไม่พ้นในเรื่องของการออกแบบ ที่มาพร้อมกับดีไซน์อันล้ำสมัย โดดเด่น ดึงดูดทุกสายตา ด้วยเอกลักษณ์การออกแบบ Advanced ‘Dynamic Shield’ ซึ่งสะท้อนถึงปรัชญาการออกแบบ ‘Form Follows Function’ หรือ ‘รูปลักษณ์ที่สอดคล้องกับการใช้งาน’ โดยด้านหน้ามาพร้อมกับไฟหรี่แบบ Crystal LED ที่เข้าชุดกับกระจังหน้าโครเมียมดีไซน์ใหม่ ส่วนไฟหน้า และไฟเลี้ยวถูกติดตั้งไว้ที่ชุดกันชนหน้า เพื่อเลี่ยงไม่ให้แสงไฟรบกวนสายตาผู้ร่วมทาง ด้านข้างของตัวรถถูกเพิ่มเส้นสายที่ดูโฉบเฉี่ยว และแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น ด้านท้ายมาพร้อมกับสปอยเลอร์หลังพร้อมไฟเบรค LED กันชนหลังดีไซน์สปอร์ต และไฟท้ายดีไซน์ใหม่แบบ L-lllumination พร้อมระบบไฟ LED ทั้งนี้ในรุ่น GT ยังมาพร้อมไฟตัดหมอกหน้า, มือเปิดประตูโครเมียม, คิ้วขอบกระจกประตู และแผงกันกระแทกด้านหน้า-ด้านหลัง รวมถึงคิ้วขอบประตูด้านล่างข้างตัวรถ ปิดท้ายด้วยอัลลอยสีทูโทนขนาด 16 นิ้ว

 

Mitsubishi Xpander มีระยะต่ำสุดจากพื้นที่ 205 มม. สูงสุดในรถระดับเดียวกัน

 

มิติตัวรถของ Mitsubishi All-New Xpander

  • ความกว้าง x ความยาว x ความสูง : 1,750 x 4,475 , 1,700 มม.
  • ระยะฐานล้อ : 2,775 มม.
  • ความกว้างช่วงล้อหน้า - หลัง : 1,520/1,510 มม.
  • ระยะต่ำสุดจากพื้น : 205 มม.
  • น้ำหนักตัวรถ : 1,240 กก.
  • รัศมีวงเลี้ยวแคบสุด : 5.2 ม.
  • ความจุถังน้ำมัน : 45 ลิตร

 

ภายในหรูหรา ห้องโดยสารโทนสีดำ พร้อมอุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครัน 

 

เบาะนั่งแบบหนัง พร้อมพนักวางแขนสำหรับผู้โดยสารแถว 2

 

สามารถพับเบาะนั่ง เพื่อเพิ่มพื้นที่ในการจัดเก็บสัมภาระได้อย่างกว้างขวาง และสะดวกสบาย

 

          ภายในห้องโดยสารของ Mitsubishi Xpander ใหม่ มอบอารมณ์โลกยานยนต์ล้ำยุคที่เปี่ยมด้วยความสะดวกสบาย และมีมิติในห้องโดยสารที่กว้าง และสูงที่สุดในรถระดับเดียวกัน สามารถรองรับผู้โดยสารสูงสุด 7 ที่นั่ง มาพร้อมการออกแบบภายในโทนสีดำ (สำหรับตลาดเมืองไทยโดยเฉพาะ) ครบครันด้วยอุปกรณ์อำนวยความสะดวก ทั้งกุญแจอัจฉริยะ และระบบ Push Start, แผงควบคุมระบบปรับอากาศด้านหลัง, พวงมาลัยปรับ 4 ทิศทาง พร้อมสวิตช์ควบคุมระบบเครื่องเสียง และระบบ Cruise Control บนพวงมาลัย, หน้าจอแสดงผลข้อมูลแบบสามมิติ TFT ขนาด 4.2 นิ้ว, สะดวกสบายเหนือระดับด้วยระบบอินโฟเทนเมนท์ผ่านจอภาพระบบสัมผัสขนาด 6.2 นิ้ว สำหรับรุ่น GT จะมาพร้อมกับเบาะที่นั่งหุ้มหนัง และวัสดุหนังสังเคราะห์ทั้ง 3 แถว 

 

Mitsubishi Xpander มาพร้อมกับเครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร เกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด สมรรถนะสูงสุด 105 แรงม้า

 

          ทั้งนี้ Mitsubishi All-New Xpander มาพร้อมกับขุมพลังเครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร รหัส 4A91 แบบ 4 สูบ MIVEC DOHC 16 วาล์ว ขนาดกระบอกสูบ x ช่วงชักอยู่ที่ 75.0 x 84.8 มม. ซึ่งกระบอกสูบเป็นแบบอลูมิเนียมอัลลอยล์ ที่สามารถระบายความร้อนได้เป็นอย่างดี จ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงผ่านระบบหัวฉีด และส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด พร้อมระบบ INC โดยให้สมรรถนะสูงสุด 105 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที และแรงบิดสูงสุด 141 นิวตัน-เมตร ที่ 4,000 รอบ/นาที ทั้งนี้ Mitsubishi Xpander ใหม่ ใช้โซ่สายพานไทม์มิ่ง เพื่อยืดอายุการใช้งาน และอ่างน้ำมันเครื่องแบบอลูมิเนียม ที่ช่วยลดการสั่นสะเทือน ให้ความเงียบในการขับขี่

 

Mitsubishi Xpander อัดแน่นด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยเหนือระดับ เช่นเดียวกับรถยนต์ Mitsubishi ทุกรุ่น

 

          Mitsubishi All-New Xpander อัดแน่นด้วยระบบความปลอดภัยทั้งในเชิงป้องกัน และปกป้อง ได้แก่ ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว (ASC-Active Stability Control) ระบบป้องกันการลื่นไถล (TCL-Traction Control System) ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน (HSA-Hill Start Assist System) ระบบป้องกันล้อล็อกขณะเบรก (ABS-Anti Lock Braking System) และระบบกระจายแรงดันน้ำมันเบรกแบบอิเล็กทรอนิกส์ (EBD-Electronic Brake Force Distribution) พร้อมระบบเสริมแรงเบรก (BA-Brake Assist) ระบบไฟกะพริบฉุกเฉินอัตโนมัติขณะเบรกกะทันหัน (ESS-Emergency Stop Signal System) ถุงลมนิรภัยด้านคนขับ และผู้โดยสารตอนหน้า เข็มขัดนิรภัยคู่หน้าแบบดึงกลับ และระบบผ่อนแรงอัตโนมัติ ELR 3 จุด 2 ตำแหน่ง และเข็มขัดนิรภัยแบบ ELR 3 จุด 5 ตำแหน่งสำหรับผู้โดยสารทุกที่นั่ง สำหรับรุ่น GT มาพร้อมกับกล้องมองภาพด้านหลัง

 

Mitsubishi All-New Xpander สามารถเก็บเสียงรบกวนจากภายนอกได้อย่างยอดเยี่ยม

 

          หลังจากที่ทำความรู้จักกับเจ้า Mitsubishi All-New Xpander กันไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็ถึงคราวได้ทดสอบสมรรถนะการขับขี่จริงกันบ้าง โดยเส้นทางที่ทีมงาน BoxzaRacing ได้รับมอบหมายให้ทดสอบครั้งนี้คือ สุโขทัย-พิษณุโลก-เพชรบูรณ์-ขอนแก่น เป็นระยะทางกว่า 490 กม. ซึ่งมีให้ได้สัมผัสในทุกสภาพถนน และภูมิประเทศ ไม่ว่าจะเป็นการขับขี่ในเมือง, การขับขึ้นเขา-ลงเขา, การวิ่งตรงยาวๆ แบบถนน High Way ฯลฯ ซึ่งเจ้า Mitsubishi Xpander ใหม่ ก็สามารถตอบสนอง และถ่ายทอดสมรรถนะออกมาได้อย่างโดดเด่น โดยสิ่งที่เป็นไฮไลท์ และอดพูดถึงคงไม่ได้ ก็คือในเรื่องของภายในห้องโดยสารที่กว้างขวางสะดวกสบาย ไม่ว่าจะนั่งในตำแหน่งใน เดินทางไกลกี่กิโลเมตร ก็ไม่รู้สึกอึดอัด หรือเหนื่อยล้าเลยแม้แต่น้อย เบาะนั่งแบบหนังโอบกระชับ ตอบรับสรีระของคนไทยได้เป็นอย่างดี สิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ไม่ว่าจะเป็นแอร์สำหรับผู้โดยสารแถว 2 และแถว 3, ที่วางแก้วน้ำ, ช่องชาร์จไฟ AC ที่ให้มาถึง 3 ตำแหน่ง, พนักวางแขนสำหรับผู้โดยสารแถว 2 ระบบอินโฟเทนเมนท์ พร้อมลำโพง 6 ตำแหน่ง ที่คอยขับกล่อมบรรเลงให้เพลิดเพลินทุกเส้นทาง และที่สำคัญ Mitsubishi All-New Xpander สามารถเก็บเสียงรบกวนจากภายนอกได้อย่างยอดเยี่ยม

 

Mitsubishi Xpander ใหม่ สามารถทำความเร็วสูงสุดได้ที่ 160 กม./ชม. ซึ่งถือว่าตอบโจทย์ และเพียงพอต่อการใช้งานในชีวิตประจำวันแน่นอน

 

          มาต่อกันที่ด้านสมรรถนะการขับขี่กันบ้าง ซึ่งต้องบอกเลยว่าทางทีมงาน BoxzaRacing ขอลองในเส้นทางที่ต้องมีการขึ้นเขา และลงเข้า เพื่อทดสอบสมรรถนะของขุมพลัง 1.5 ลิตร ใน Mitsubishi All-New Xpander ได้อย่างเต็มที่ โดยหากพูดถึงการใช้งานทั่วๆ ไปในการขับขี่ ไม่ว่าจะเป็นในเมือง และการขับขี่บนเส้นทาง High Way ปกติ เจ้า Mitsubishi Xpander ใหม่ สามารถให้การตอบสนองได้เป็นอย่างดี เฉกเช่นรถยนต์เครื่องยนต์ 1.5 ลิตรทั่วๆ ไป ซึ่งเจ้า Mitsubishi Xpander ใหม่ นั้นสามารถทำความเร็วสูงสุดได้ที่ 160 กม./ชม. และมีอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงที่อ้างอิงจาก Eco Sticker ที่ 14.5 กม./ลิตร ซึ่งถือว่าตอบโจทย์ และเพียงพอต่อการใช้งานในชีวิตประจำวันแน่นอน

 

ลุยได้ทุกเส้นทาง ไปได้ตามที่ใจต้องการ ช่วงล่างหนึบ เกาะถนน เทคโนโลยีจาก Evolution X

 

          ด้านสมรรถนะการขับขี่ในการขึ้นเขา-ลงเขา ก็ถือว่า Mitsubishi Xpander ใหม่ สอบผ่านเช่นกัน แต่อาจจะต้องออกแรงช่วย และรู้จักจังหวะของเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีดสักนิด โดยเจ้าเกียร์ 4 สปีดที่ว่านี้ จำเป็นจะต้องลากรอบกันยาวสักนิดนึง โดยเฉพาะในเกียร์ 3 ซึ่งเป็นเกียร์ที่ใช้บ่อยในการขึ้นเขา-ลงเขา รอบเครื่องยนต์อาจดีดขึ้นสูงไปแตะระดับ 6,000 รอบ แต่ก็ใช้ว่าจะไม่สามารถไปได้ แม้ภายในรถจะมีผู้โดยสารถึง 3 คน และสัมภาระอีกมากมาย Mitsubishi Xpander ใหม่ ก็สามารถพาไปได้ในทุกเส้นทาง แต่อาจจะไม่ปรี๊ดปร๊าด รวดเร็วทันใจเท่าไหร่นัก (ก็พอประมาณตามแบบฉบับเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร) ส่วนระบบช่วงล่างนั้น ไม่พูดถึงคงไม่ได้จริงๆ เพราะ Mitsubishi Xpander ใหม่ ถือว่าเป็นรถ Crossover ที่ให้สมรรถนะการทรงตัวในการขับขี่ที่ดีมาก ดีเกินตัวรถจริงๆ สามารถจัดการได้อย่างอยู่หมัด ไม่ว่าจะเป็นโค้งแคบลงเขา, โค้งหักศอก, โค้งที่ต้องใช้ความเร็ว ฯลฯ ซึ่งไม่มีอาการโยน ดีด และท้ายออกแต่อย่างใด ตัวรถให้ความนิ่ง นุ่ม สงบ สยบทุกโค้งอย่างน่าอัศจรรย์ใจ ซึ่งหลังจากได้ทดสอบแล้ว ผมถึงกับต้องเดินไปถามทางวิศวกรของ Mitsubishi จนได้คำตอบว่า โช้คอัพหน้า-หลังของ Mitsubishi Xpander ใหม่ นั้นได้รับการติดตั้งวาล์วสมรรถนะสูงจาก Evolution X ได้ยินเพียงเท่านี้ ข้อสงสัยต่างๆ ก็หมดลงไปโดยปริยาย

 

Mitsubishi Xpander ใหม่ จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันที่ 17 สิงหาคม 2561 ที่งาน BIG MOTOR SALE 2018 และพร้อมจำหน่ายให้แก่ลูกค้าที่เครือข่ายผู้จำหน่ายรถยนต์มิตซูบิชิ ทั่วประเทศ

 

          สำหรับ Mitsubishi Xpander ใหม่ นั้น ถือว่าเป็นอีกหนึ่งโมเดลที่น่าจะมีทิศทางการตลาดที่ดี และช่วยให้ Mitsubishi ได้กลับมาทวงความยิ่งใหญ่ในตลาดเมืองไทยอีกครั้ง โดยชูจุดเด่นในเรื่องของดีไซน์ที่ล้ำสมัย, ความกว้างขวาง และสะดวกสบายซึ่งทาง Mitsubishi ยืนยันว่าใหญ่ที่สุดในคลาส, รวมไปถึงระบบช่วงล่างที่เหนือชั้น ทั้งนี้คงขึ้นอยู่กับราคาค่าตัวว่าจะเปิดตัวมาที่ราคาเท่าไหร่ ซึ่งทาง มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ยืนยันว่าจะคุ้มค่า และอยู่ในระดับเดียวกับคู่แข่งอย่างแน่นอน ซึ่งจะทำการเปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันที่ 17 สิงหาคมนี้ ที่งาน BIG MOTOR SALE 2018 และพร้อมจำหน่ายให้แก่ลูกค้าที่เครือข่ายผู้จำหน่ายรถยนต์มิตซูบิชิ ทั่วประเทศ

รถซื้อสอง ซื้อขายรถ ของแต่งรถ

ข่าวที่ใกล้เคียง

แสดงความคิดเห็นด้วย Facebook