Ford ตอกย้ำสโลแกน "เกิดมาแกร่ง" ให้คนทั้งโลกได้สัมผัสอีกครั้ง ด้วยการเปิดตัว New Ford Ranger Raptor 2018 กระบะออฟโรดขนาดกลางคันแรกของเอเชีย ที่ตั้งใจสร้างมาแบบไร้ข้อจำกัด ด้วยการพัฒนาขึ้นมาใหม่แบบจัดเต็ม อัดแน่นด้วย DNA จาก Ford Performance ให้สมรรถนะที่เร้าใจ พร้อมอัพเกรดช่วงล่างใหม่ให้แข็งแกร่ง ทรงพลัง รองรับการขับขี่แบบ Off-Road ลุยได้ทุกสภาพถนน และยังได้บุคลิกที่ดุดัน น่าเกรงขาม โดดเด่นให้เหนือกว่าใคร เพื่อเปิดประสบการณ์การผจญภัยครั้งใหม่ที่ท้าทายยิ่งขึ้น
ภายนอก
Ford Ranger Raptor 2018 ได้รับการถ่ายทอดบุคลิกและสมรรถนะจาก Ford F-150 Raptor กระบะออฟโรดขนาด 1 ตัน ที่ได้รับความนิยมอย่างมากในอเมริกา ไม่ว่าจะเป็นกระจังหน้าโลโก้ฟอร์ดขนาดใหญ่, ชุดกันชนหน้าขนาดใหญ่ น่าเกรงขาม ทนทานสูง พร้อมไฟตัดหมอก LED และช่องรีดอากาศเพื่อลดแรงต้านอากาศ, แก้มข้างรถคู่หน้าดีไซน์พิเศษพร้อมขอบซุ้มล้อที่มอบความทนทานต่อการขีดข่วน รองรับการขยายเพลาล้อคู่หน้า และระยะยุบตัวของโช้ค
บันไดข้างผลิตจากอลูมิเนียมอัลลอยที่ผ่านการเคลือบด้วยสี Powder-Coated และพ่น Grit-Paint ทับอีกชั้น มอบความทนทานสูงทั้งจากการขีดข่วนและการรับน้ำหนัก, กันชนท้ายติดตั้งชุดตะขอ 2 ชุด รองรับการลากจูงน้ำหนัก 3.8 ตัน ซึ่งได้รับการเชื่อมต่อตะขอเป็นพิเศษ, แผงกันกระแทกด้านล่างป้องกันห้องเครื่อง, ครบครันในด้านระบบส่องสว่าง ทั้งไฟหน้าโปรเจคเตอร์พร้อม LED Daylight ไฟเลี้ยวที่กระจกมองข้าง ไฟท้าย และไฟเบรกดวงที่ 3 แบบ LED, ล้ออัลลอย 17 นิ้ว ดีไซน์พิเศษ พร้อมหุ้มยาง BF Goodrich 285/70 R17 All-Terrain เป็นต้น
ข้อมูลมิติตัวถังของ Ford Ranger Raptor 2018 ใหม่ มีรายละเอียดดังนี้
และสีตัวถัง ที่มีให้เลือกด้วยกันดังนี้
ภายใน
ด้านภายในห้องโดยสารได้รับการปรับเปลี่ยนอุปกรณ์ภายในเพื่อยกระดับความทันสมัย สวยงาม ซึ่งได้รับการถ่ายทอดความโดดเด่น และความประณีตขั้นสูงจากดีเอ็นเอของ Ford Performance ทั้งการออกแบบเบาะนั่งหุ้มหนังดีไซน์พิเศษ เพื่อรองรับการขับขี่ที่มีการสั่นสะเทือนสูง ไปจนถึงการขับขี่ด้วยความเร็วสูง นั่งได้สบายยิ่งขึ้น ลดความเมื่อยล้าในระหว่างการเดินทางทั้งในชีวิตประจำวันและการผจญภัย, แผงหน้าปัดดีไซน์ใหม่ที่แสดงฟีเจอร์ช่วยเหลือการขับขี่รูปแบบต่างๆ, พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นดีไซน์เฉพาะจาก Raptor พร้อมแถบสีแดงบอกตำแหน่งองศาบนพวงมาลัย On-Center Marker, แป้นเปลี่ยนเกียร์บนพวงมาลัยที่ผลิตด้วยวัสดุแมกนิเซียม, ห้องโดยสารสีดำ ตัดด้วยตะเข็บด้ายสีน้ำเงิน
Ford Ranger Raptor 2018 ได้รับการติดตั้งเทคโนโลยีเชื่อมต่อ SYNC 3 ซึ่งเป็นระบบสั่งการผ่านเสียงที่ผนวกเข้ากับรถคันนี้ได้อย่างสมบูรณ์ พร้อมระบบควบคุมและสั่งการที่ใช้งานง่ายขึ้น จอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว รองรับระบบเชื่อมต่อ ความบันเทิง และอุปกรณ์ภายในรถ เช่น กล้องมองหลัง ปิดท้ายด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกอันทันสมัยรอบด้าน ได้แก่ ระบบผ่อนแรงฝากระบะท้าย (EZ Lift Tailgate) ที่ช่วยผ่อนแรงให้กับผู้ใช้มากถึง 66% และกุญแจรีโมทอัจฉริยะ ที่สามารถล็อกรถ ปลดล็อก และสตาร์ทรถได้โดยไม่ต้องใช้กุญแจ และปุ่มสตาร์ท เป็นต้น
ระบบขับเคลื่อน
Ford Ranger Raptor 2018 ได้รับการยกระดับประสิทธิภาพการขับเคลื่อนเพื่อรองรับการเดินทางในทุกรูปแบบ ทุกสภาพถนน เริ่มจากเครื่องยนต์ดีเซลใหม่แบบ Bi-Turbo (เทอร์โบคู่) ความจุ 2.0 ลิตร ซึ่งตัวเทอร์โบคู่นี้ จะมีทั้งเทอร์โบแรงดันสูง (HP) และเทอร์โบแรงดันต่ำ (LP) ที่ควบคุมด้วยวาล์วบายพาสเพื่อควบคุมการทำงานของระบบเทอร์โบตามความเร็วของเครื่องยนต์ ให้สมรรถนะสูงสุด 213 แรงม้า แรงบิด 500 นิวตัน-เมตร ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด จาก Ford F-150 Raptor ที่มีความทนทานสูง อัตราทดแคบลง ตอบสนองได้อย่างฉับไว และระบบควบคุมพวงมาลัยแบบอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Steering Program)
หัวใจสำคัญของการพัฒนาฟอร์ด เรนเจอร์ แรพเตอร์ ก็คือการพัฒนาแชสซีส์ ช่วงล่าง และระบบเบรกใหม่ เริ่มจากแชสซีส์ที่ได้รับการออกแบบเพื่อรองรับการขับขี่แบบออฟโรดด้วยความเร็วสูง ทนทานต่อแรงกระแทก รองรับการปรับช่วงล่างให้กว้างขึ้น จึงสามารถขยายเพลาล้อคู่หน้าหลังร่วมกับติดตั้งอุปกรณ์อื่นๆ โดยแชสซีส์ใหม่นี้ ผลิตจากเหล็กอัลลอย HSLA (High-Strength Low Alloy) พร้อมเสริมความแข็งแรงด้านข้างของแชสซีส์ และเพิ่มความแข็งแรงให้กับจุดยึดหูโช้คที่ขยายขึ้นมา
ระบบกันสะเทือนในฟอร์ด เรนเจอร์ แรพเตอร์ รุ่นใหม่นี้ ได้รับการติดตั้งชุดโช้คแบบ Position Sensitive Damping (PSD) ผลิตโดย Fox Racing Shox ที่ช่วยเพิ่มแรงต้านเมื่อมีการกระแทกเต็มช่วงยุบกระบอกสูบในกรณีขับขี่แบบออฟโรด และลดแรงต้านเมื่อขับขี่บนทางเรียบ ด้วยแกนขนาด 46.6 มม. ทั้งคู่หน้าและคู่หลัง ส่วนระบบกันสะเทือนหลังเป็นแบบคอยล์โอเวอร์ช็อค พร้อมระบบวัตต์ลิงค์ที่ช่วยให้เพลาเคลื่อนที่ขึ้น - ลงได้อย่างอิสระ โดยมีการขยับตัวในแนวราบน้อยมาก นอกจากนั้น ชิ้นส่วนปีกนกทำจากอลูมิเนียม โดยปีกนกบนผลิตด้วยวิธีการฟอร์จ และปีกนกล่างใช้กระบวนการหล่อ ที่ช่วยมอบความแข็งแรง ทนทาน ต่อการขับขี่แบบออฟโรดได้ถึงขีดสุด
ระบบเบรกจะใช้เป็นระบบดิสก์เบรกทั้ง 4 ล้อ ที่ได้รับการพัฒนาเป็นพิเศษ ด้วยคาลิเปอร์เบรกคู่หน้าแบบลูกสูบคู่ที่เพิ่มขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 9.5 มม. พร้อมจานเบรกคู่หน้าแบบมีครีบระบายความร้อนที่ใหญ่ถึง 332 x 32 มม. ทางด้านชุดดิสก์เบรกหลังที่มาพร้อมกับระบบ Brake Actuation Cylinder ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการเบรกยิ่งขึ้น จานเบรกคู่หลังพร้อมครีบระบายความร้อนที่ใหญ่ถึง 332 x 24 มม. และคาลิเปอร์เบรกคู่หลังใหม่ขนาด 54 มม.
ปิดท้ายด้วยระบบ Terrain Management System ที่ผู้ขับขี่สามารถเลือกโหมดขับขี่ทั้ง 6 โหมดผ่านปุ่มบนพวงมาลัย ได้แก่
ระบบความปลอดภัย
Ford Ranger Raptor 2019 ได้บรรจุระบบความปลอดภัยระดับสูงทั้งแอคทีฟ และพาสซีฟ ที่ทันสมัย ครบคลุมทุกด้าน มอบความอุ่นใจในการเดินทางทุกเส้นทาง ประกอบไปด้วย
ราคา
สำหรับราคาและกำหนดการวางจำหน่าย Ford Ranger Raptor 2018 จะได้รับการเผยเพิ่มเติมในโอกาสต่อไป