เขียนโดย: boytaku boxza

เมื่อ: 12 มกราคม 2561 - 20:35

Toyota C-HR 2018 ยนตรกรรมไร้ขีดจำกัดทั้งรูปลักษณ์ การขับขี่ และขุมพลังไฮบริดสุดล้ำแห่งทศวรรษ

 

          Toyota C-HR รถคอมแพ็คครอสโอเวอร์รุ่นใหม่ล่าสุด อัดแน่นด้วยนวัตกรรมใหม่ๆ ไม่ว่าจะเป็นแพลตฟอร์ม TNGA ยกระดับประสิทธิภาพการขับขี่ให้เหนือชั้นยิ่งขึ้น, ระบบ Telematics ที่รองรับการเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน, ระบบความปลอดภัย Toyota Safety Sense สุดล้ำ และขุมพลังไฮบริดที่ได้รับการอัพเกรดใหม่ ร่วมกับการดีไซน์บุคลิกที่สปอร์ตโฉบเฉี่ยว โดดเด่นเหนือกว่าใคร เพื่อให้เป็นยนตกรรมแห่งอนาคตที่คุณสัมผัสได้ พิเศษ สำหรับผู้ที่จองรถ Toyota C-HR ตั้งแต่วันนี้ถึง 28 กุมภาพันธ์ 2561 รับฟรี Custom name plate เลือกดีไซน์ชื่อได้ตามสไตล์คุณ เพื่อสร้างสรรค์รถเพียงหนึ่งเดียวที่มีเพียแค่คุณเท่านั้นที่ครอบครอง

 

ภายนอก

 

          Toyota C-HR 2018 รถอเนกประสงค์โฉมใหม่ ที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อตอกย้ำแนวคิด "Ever Better Car" ที่มอบสไตล์ ความโดดเด่น สอดรับกับเทคโนโลยีแห่งสมรรถนะให้เหนือชั้น จากการดีไซน์รูปลักษณ์ที่ได้แรงบันดาลใจจากรูปทรงเหลี่ยมมุมอันเป็นเอกลักษณ์ของเพชร ผสมผสานกับเทคโนโลยีเหนือชั้น เพื่อให้ได้มาซึ่งสมรรถนะการขับขี่ที่ยอดเยี่ยม และสมบูรณ์แบบ

 

 

          ด้านออพชั่นมาตรฐานภายนอก ประกอบไปด้วยไฟหน้าโปรเจคเตอร์ ที่มีทั้งแบบ Bi-LED และ Bi-Halogen พร้อมระบบควบคุมการเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ และระบบ Follow-Me-Home ส่วนไฟท้ายจะเป็นแบบ LED, ไฟส่องกลางวัน LED Daylight ไฟตัดหมอก, กระจกมองข้างปรับพับไฟฟ้าและพับเก็บได้พร้อมไฟเลี้ยว LED, กระจกบังลมหน้าแบบกันเสียงรบกวน (Acoustic Glass),  สปอร์เลอร์ท้ายแนวเดียวกับหลังคาพร้อมไฟเบรกดวงที่ 3, เสาอากาศแบบครีบฉลาม, มือจับประตูด้านนอกสีเดียวกับตัวรถ, คิ้วขอบกระจกประตูโครเมียม, คิ้วตกแต่งเสากลางเปียโนแบล็ค, แผ่นกันความร้อนใต้ฝากระโปรง, ไฟส่องสว่างที่กระจกมองข้างแบบ LED (Welcome Lamp) เป็นต้น

          มิติตัวถังของ Toyota C-HR 2018 ประกอบไปด้วย

  • ยาว: 4,360 มม.
  • กว้าง: 1,795 มม.
  • สูง: 1,565 มม.
  • ระยะฐานล้อ: 2,640 มม.
  • ความกว้างช่วงล้อหน้า - หลัง: 1,550 - 1,570 มม.
  • ความจุถังน้ำมัน: 50 (รุ่นเครื่องยนต์เบนซิน) / 43 (รุ่นไฮบริด) ลิตร
  • ล้ออัลลอย: 17 นิ้ว
  • ยางขนาด: 215/60 R17 

          และสีตัวถังที่มีให้เลือกมากถึง 6 สี มีด้วยกันดังนี้

     White Pearl Crystal (ทุกรุ่น)

 

     Attitude Black Mica (ทุกรุ่น)

 

     Metal Stream Metallic (ทุกรุ่น)

 

     Blue Metallic / Black roof (เฉพาะรุ่นไฮบริด)

 

     Premium Red / Black roof (เฉพาะรุ่นไฮบริด)

 

     Radiant Green Metallic / Black roof (เฉพาะรุ่นไฮบริด)

 

ภายใน

 

          Toyota C-HR มอบบรรยากาศภายในที่หรูหรา กว้างขวาง สะท้อนความทันสมัยดุจรถยนต์หรู ด้วยการออกแบบแถบสีเงินที่ยาวพาดผ่านระหว่างแผงคอนโซลกลาง ถึงบานประตูให้ต่อเนื่อง ประกอบกับวัสดุตกแต่ง Soft Touch บริเวณแผงคอนโซลด้านบน และวัสดุบุแผงประตู ที่ตัดกับสีตัวถังอย่างสวยงาม ลงตัว เติมความมีชีวิตชีวาด้วยสีทูโทนดำ-น้ำตาล

          ด้านออพชั่นภายใน ประกอบไปด้วย เรือนไมล์เรืองแสงสไตล์สปอร์ต พร้อมหน้าจอ TFT ขนาด 4.2 นิ้ว แสดงผลข้อมูลการขับขี่ MID, ระบบสตาร์ทอัจฉริยะ (Push Start) และระบบเปิดประตูอัจฉริยะ (Smart Entry), ระบบเบรกมือไฟฟ้า (Electric Parking Brake), ระบบ Auto Brake Hold, พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น และจอแสดงข้อมูลการขับขี่ที่พวงมาลัย, ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ ปรับอิสระแยกซ้าย-ขวา, ระบบกรองอากาศภายในห้องโดยสาร Nanoe, เบาะคู่หน้าทรงสปอร์ต โดยเบาะคนขับมาพร้อมกับระบบปรับไฟฟ้า, กระเป๋าหลังเบาะนั่งด้านหน้า, เบาะนั่งด้านหลังแยกพับได้แบบ 60:40, แผ่นปิดห้องสัมภาระท้าย, ไฟส่องสว่างบริเวณประตูหน้าและที่วางแก้วน้ำ, ไฟอ่านแผนที่ด้านหน้า, กระจกแต่งหน้า บริเวณแผงบังแดดคู่หน้า, กระจกหน้าต่างไฟฟ้า พร้อมระบบป้องกันการหนีบ, เซ็นทรัลล็อค, กระจกมองหลังแบบปรับลดแสงอัตโนมัติ (Electro Chromic) เป็นต้น

          สำหรับระบบความบันเทิงในทุกรุ่นย่อย จะได้รับชุดเครื่องเล่น DVD หน้าจอสัมผัสขนาด 7 นิ้ว พร้อมช่องเชื่อมต่อ USB/HDMI/Micro SD Card และ Bluetooth ปิดท้ายด้วยลำโพง 6 ตัว

          มอบประสบการณ์การเชื่อมต่อระหว่างตัวคุณและรถ Toyota C-HR ได้อย่างมั่นใจ ด้วยเทคโนโลยีระบบ Telematics โดยระบบจะเชื่อมต่อรถยนต์ด้วยเครือข่ายโทรศัพท์มือถือ กับแอพพลิเคชั่น T-Connect & Find My Car ตอบรับทุกไลฟ์สไตล์ของผู้ขับขี่ มอบทั้งความสะดวกสบาย ความเพลิดเพลินและความอุ่นใจทุกการเดินทาง ประกอบไปด้วย

  • Find my Car : เช็คตำแหน่งรถคุณผ่านแอพพลิเคชั่น Find My Car หรือ Apple Watch
  • Pay as you drive : ประกันภัย "ขับน้อย จ่ายน้อย" ข้อเสนอการคุ้มครองสุดพิเศษให้คุณจ่ายตามการใช้งานจริง (สำหรับการทำประกันภัยกับบริษัทฯ ที่กำหนดไว้เท่านั้น)
  • SOS : ประสานงานช่วยเหลือฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมง (อาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมในบางกรณี)
  • Parking Alert : ระบบแจ้งเตือนผ่าน Notification เมื่อรถถูกสตาร์ท หรือเคลื่อนที่
  • Stolen Vechicle Tracking : ระบบตรวจสอบตำแหน่งรถยนต์ เมื่อถูกโจรกรรม และศูนย์บริการที่พร้อมช่วยเหลือคุณตลอด 24 ชั่วโมง
  • My Toyota WI-FI : กระจายสัญญาณ Wi-Fi เชื่อมต่อความบันเทิงออนไลน์ ได้พร้อมกัน สูงสุด 9 อุปกรณ์ (ตามเงื่อนไขที่กำหนดในแพ็กเกจ)
  • OPS (Operator Service) : ผู้ช่วยค้นหาเส้นทางตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมบริการจองร้านอาหารชั้นนำ เพื่อความสะดวกสบายทุกการเดินทาง
  • Navigator : ระบบนำทางพร้อมแสดง ข้อมูลจราจร ให้คุณถึงจุดหมาย ได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ

 

ระบบขับเคลื่อน

ชุดเครื่องยนต์ไฮบริด 2ZR-FXE

 

         Toyota C-HR 2018 มาพร้อมกับขุมพลังที่มีให้เลือกถึง 2 แบบ โดยมีรายละเอียดดังนี้ 

          เครื่องยนต์เบนซิน "2ZR-FBE" แบบ 4 สูบ แถวเรียง DOHC 16 วาล์ว ความจุ 1,798 ซีซี. ความกว้างกระบอกสูบ x ระยะชักอยู่ที่ 80.5 x 88.3 มม. อัตราส่วนกำลังอัด 10.0 : 1 และหัวฉีดอิเล็กทรอนิกส์ EFI ให้สมรรถนะสูงสุด 140 แรงม้า ที่ 6,400 รอบ/นาที แรงบิด 166 นิวตัน-เมตร ที่ 4,000 รอบ/นาที ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ CVT พร้อม Shift Lock รองรับเชื้อเพลิง E85 และระบบเลือกโหมดขับขี่ระหว่าง Sport และ ECO Drive

          เครื่องยนต์ไฮบริดเจนเนอเรชันใหม่ ประกอบไปด้วย

แบตเตอรี่นิกเกิลเมตัลไฮดราย

 

  • เครื่องยนต์เบนซิน 2ZR-FXE แบบ 4 สูบ แถวเรียง DOHC 16 วาล์ว ความจุ 1,798 ซีซี. ความกว้างกระบอกสูบ x ระยะชักอยู่ที่ 80.5 x 88.3 มม. ให้อัตราส่วนกำลังอัดสูงสุดถึง 13.0 : 1 และหัวฉีดอิเล็กทรอนิกส์ EFI โดยตัวเครื่องยนต์สมรรถนะสูงสุด 98 แรงม้า ที่ 5,200 รอบ/นาที แรงบิด 142 นิวตัน-เมตร ที่ 3,600 รอบ/นาที
  • มอเตอร์ไฟฟ้าชนิดมอเตอร์ซิงโครนัสแม่เหล็กถาวร แรงดันไฟฟ้าสูงสุด 600 โวลต์ กำลังสูงสุด 53 กิโลวัตต์ แรงบิดสูงสุด 163 นิวตัน-เมตร
  • แบตเตอรี่นิกเกิลเมตัลไฮดราย 28 โมดูล แรงดันไฟฟ้า 201.6 โวลต์ ความจุไฟฟ้า 6.5 แอมแปร์/3 ชั่วโมง

           ทั้งหมดสามารถรีดสมรรถนะสูงสุด 122 แรงม้า (90 กิโลวัตต์) ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ E-CVT พร้อม Shift Lock และโหมดขับขี่ที่มีให้เลือกทั้ง Sport, ECO Drive และ EV Drive ทั้งนี้ ระบบขับเคลื่อนไฮบริดได้รับการพัฒนาให้มีประสิทธิภาพที่สูงขึ้นในทุกๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็น 

  • Best Fuel Efficiency : ระบบไฮบริดใหม่ใน Toyota C-HR มีความโดดเด่นในเรื่องอัตราการประหยัดน้ำมันสูงสุดถึง 24.4 กม./ลิตร ซึ่งนับว่าสูงที่สุดเมื่อเทียบกับรถยนต์ระดับเดียวกัน
  • Battlery Durability : พัฒนาระบบระบายความร้อนในแบตเตอรี่ไฮบริดใหม่ทำให้มีอายุการใช้งานยาวนานขึ้น
  • Quietness : เงียบสบายตลอดการเดินทาง
  • Low Emission : เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมด้วยการปล่อย CO2 เพียง 95 กรัม / กม.

        ระบบไฮบริดจากโตโยต้า ให้คุณอุ่นใจในการใช้งานด้วยการรับประกันระบบไฮบริดนาน 5 ปี และรับประกันแบตเตอรี่ไฮบริดนาน 10 ปี (* สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ผู้แทนจำหน่ายฯ)

         สำหรับระบบช่วงล่างของ Toyota C-HR เริ่มจากระบบกันสะเทือนหน้าแบบอิสระแม็คเฟอร์สันสตรัท พร้อมเหล็กกันโคลง ระบบกันสะเทือนหลังแบบอิสระแบบปีกนกคู่ (Double Wishbone) พร้อมเหล็กกันโคลง, ดิสก์เบรก 4 ล้อ โดยคู่ล้อหน้าจะได้รับพร้อมครีบระบายความร้อนในดิสก์เบรก และพวงมาลัยพาวเวอร์ไฟฟ้า (EPS) ที่ให้รัศมีวงเลี้ยวแคบสุด 5.2 เมตร

 

Toyota New Global Architecture (TNGA)

 

         และโตโยต้า ภูมิใจนำเสนอนวัตกรรมแพลตฟอร์มใหม่ล่าสุด Toyota New Global Architecture (TNGA) ที่ได้รับการพัฒนาโครงสร้างตัวถังมาตรฐานใหม่ เพื่อสมรรถนะที่ยอดเยี่ยม สมบูรณ์แบบทุกการขับเคลื่อนในทุกสภาพถนน ไม่ว่าจะเป็น

  • Low Gravity : เพิ่มประสิทธิภาพในการเกาะถนน ด้วยการออกแบบศูนย์ถ่วงตัวรถต่ำที่สุดในระดับเดียวกัน ช่วยลดอาการโคลงของตัวรถ ช่วยเรื่องการทรงตัว และการเข้าโค้งดีขึ้น 
  • Good Handling : ปรับจูนใหม่พวงมาลัย ตอบสนองแม่นยำมากขึ้น มอบการควบคุมรถที่ง่ายเป็นไปอย่างมั่นใจ
  • Double Wishbone Suspension : ช่วงล่างอิสระแบบปีกนกคู่ เพิ่มความนุ่มนวลในการขับขี่ คงไว้ซึ่งการเกาะถนนอย่างดีเยี่ยม
  • Excellent Visibility : ด้วยการออกแบบเสาหลังคาคู่หน้าให้เรียวบางลง ทำให้ Toyota C-HR มอบความปลอดภัย จากมุมมองที่ชัดเจน และให้ทัศนวิสัยจากตำแหน่งผู้ขับที่ดีกว่าโดยรอบ

 

ระบบความปลอดภัย

 

          ทางด้านระบบความปลอดภัยของ Toyota C-HR 2018 โฉมใหม่ อัดแน่นด้วยเทคโนโลยีสุดล้ำ Toyota Safety Sense ใหม่ล่าสุด ประกอบไปด้วย

          ระบบความปลอดภัยก่อนการชน (PRE-Collision System)

 

          ระบบควบคุมและปรับความเร็วอัตโนมัติ (Dynamic Radar Cruise Control)

 

          ระบบควบคุมไฟสูงอัตโนมัติ  (Automatic High Beams)

 

          ระบบเตือนเมื่อรถออกนอกเลน พร้อมพวงมาลัยหน่วงอัตโนมัติ (Lane Departure Alert With Steering Assist)

 

        นอกจากระบบ Toyota Safety Sense ยังมีระบบความปลอดภัยอันทันสมัยอีกหลายรายการ ได้แก่

  • ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตาที่กระจกมองข้าง (Blind Spot Monitor)
  • ระบบช่วยเตือนขณะถอยรถ RCTA (Rear Cross Traffic Alert)
  • ระบบช่วยเตือนเมื่อเหนื่อยล้าขณะขับขี่

          รวมไปถึงระบบความปลอดภัยมาตรฐานที่จัดเต็มใน Toyota C-HR ทุกรุ่นย่อย ดังนี้

  • ถุงลมนิรภัย SRS 7 ตำแหน่ง (คู่หน้า / ด้านข้าง / ม่านด้านข้าง / หัวเข่าฝั่งคนขับ)
  • โครงสร้างตัวถังนิรภัย
  • ระบบป้องกันล้อล็อค ABS (Anti-lock Brake System)
  • ระบบกระจายแรงเบรก EBD (Electronic Brake-force Distribution)
  • ระบบเสริมแรงเบรก BA (Brake Assist)
  • ระบบควบคุมการทรงตัว VSC (Vehicle Stability Control)
  • ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี TRC (Traction Control)
  • ระบบช่วยการออกตัวบนทางลาดชัน HAC (Hill-start Assist Control)
  • เข็มขัดนิรภัยด้านหน้าแบบดึงรั้งกลับและผ่อนแรงอัตโนมัติ
  • เข็มขัดนิรภัย ELR 3 จุดทั้ง 5 ที่นั่ง
  • จุดยึดเบาะนั่งสำหรับเด็ก (ISO-FIX and Top Tether)
  • กล้องมองภาพขณะถอยหลัง
  • ระบบแจ้งเตือนลมยาง (TPMS)
  • ชุดซ่อมยางฉุกเฉิน
  • ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (Cruise Control) 
  • ระบบเตือนการโจรกรรม TDS
  • ระบบกุญแจนิรภัย Immobilizer

 

 

ราคา

          Toyota C-HR ประกาศราคาจำหน่ายอย่างเป็นทางการทั้ง 4 รุ่น ประกอบไปด้วย

  • Toyota C-HR 2018 รุ่น 1.8 Entry ราคา 979,000 บาท
  • Toyota C-HR 2018 รุ่น 1.8 MID ราคา 1,039,000 บาท
  • Toyota C-HR 2018 รุ่น HV MID ราคา 1,069,000บาท
  • Toyota C-HR 2018 รุ่น HV HI ราคา 1,159,000 บาท 

 

พิเศษ ! Custom Name Plate สำหรับผู้ที่จองรถ C-HR กับผู้แทนจำหน่ายและลงทะเบียนผ่าน www.toyota.co.th/c-hr ตั้งแต่วันนี้ถึง 28 ก.พ. 2561

รถซื้อสอง ซื้อขายรถ ของแต่งรถ

ข่าวที่ใกล้เคียง

แสดงความคิดเห็นด้วย Facebook