เขียนโดย: Monster Racing

เมื่อ: 22 ธันวาคม 2560 - 16:53

Isuzu D-Max Ddi Blue Power ขีดสุดแห่งนวัตกรรม ยกระดับการดีไซน์ ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์การเดินทาง

 

          หลังจากที่ Isuzu ค่ายรถกระบะครองใจมหาชน ประกาศความสำเร็จสุดยิ่งใหญ่ เฉลิมฉลองครบรอบ 60 ปี ในการดำเนินธุรกิจในประเทศไทย และอยู่เคียงคู่สังคมไทยมากว่า 6 ทศวรรษ Isuzu ได้ถือโอกาสเปิดตัวรถกระบะ Isuzu D-Max 1.9 และ 3.0 Ddi Blue Power รุ่นฉลอง 60 ปีทอง ที่มาพร้อมกับดีไซน์หรูหราเหนือระดับ และระบบอินโฟเทนเมนท์ รวมถึงเทคโนโลยี Isuzu Insight เวอร์ชั่นใหม่ล่าสุด เพื่อตอบสนองทุกไลฟ์สไตล์การเดินทาง และยกระดับมาตรฐานรถกระบะ เพื่อความภาคภูมิใจสูงสุดแก่ผู้ครอบครอง

 

กองทัพ Isuzu D-Max Ddi Blue Power กว่า 13 คัน ออกเดินทางท้าลมหนาวจังหวัดตาก

 

          ล่าสุด Isuzu ได้จัดกิจกรรม New! Isuzu D-Max Blue Power Press Trip เปิดประเดิมทริปแรก ด้วยภารกิจต้อนรับลมหนาว 17 องศา ในเส้นทาง กรุงเทพ-ตาก-สุโขทัย กับทัพขุมพลังประหยัดน้ำมันขั้นสุด Isuzu D-Max 1.9 และ 3.0 Ddi Blue Power รุ่นใหม่ล่าสุด มากถึง 13 คัน ในระยะทางกว่า 450 กม. โดยเริ่มออกเดินทางกันที่ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด ถนนวิภาวดีรังสิต

 

Isuzu D-Max Ddi Blue Power รุ่นใหม่ล่าสุด

 

ประทับตรา 60 ปี Isuzu บ่งบอกความพรีเมี่ยม และความภาคภูมิใจของผู้ใช้รถหัวใจ Isuzu

 

          ครั้งแรกที่ได้ยลโฉม Isuzu D-Max Ddi Blue Power รุ่นใหม่ล่าสุด สัมผัสได้ถึงความหรูหรา ทันสมัย ยกระดับมาตรฐานของรถกระบะได้อย่างชัดเจน โดยเจ้า D-Max ใหม่นั้น ถูกออกแบบภายใต้แนวคิด Sharp/ Aggressive/ Solid เพื่อสะท้อนภาพลักษณ์นวัตกรรมยานยนต์ปิกอัพแห่งอนาคตทั้งภายนอก และภายใน ผ่านเส้นสายที่ต่อเนื่อง ทรงพลัง หรูหรา และสง่างามยิ่งขึ้น ผสานความสปอร์ต และล้ำสมัย ที่มาพร้อมกับไฟหน้า Bi-LED พร้อม Multifunctional Daylight อีกทั้งยังปรับระดับสูง-ต่ำของไฟหน้าได้ถึง 4 ระดับ ซึ่งถือเป็นครั้งแรกในรถกระบะ เข้าชุดกับกระจังหน้าโครเมี่ยมดีไซน์สปอร์ตหรู และด้านหลังที่ประทับตรา 60 ปี Isuzu เพื่อบ่งบอกความพรีเมี่ยม และความภาคภูมิใจของผู้ใช้รถหัวใจ Isuzu

 

Isuzu D-Max V-Cross MAX 4x4 และ Isuzu D-Max Ddi Blue Power ใหม่

 

          นอกจาก Isuzu D-Max 1.9 และ 3.0 Ddi Blue Power รุ่นใหม่ล่าสุดแล้ว Isuzu ยังได้นำ Isuzu D-Max V-Cross MAX 4x4 สปอร์ตออฟโรดที่พร้อมตอบรับทุกความท้าทาย ดีไซน์สปอร์ตหรู ผสานความแกร่งเป็นหนึ่งเดียว ดุดัน บึกบึนเต็มขั้น ด้วยโทนสีเทาดำสไตล์สปอร์ตออฟโรดตัวจริง กระจังหน้าใหม่พร้อม Engine Hood Garnish พร้อมชุดแต่งรอบคัน MAX 4X4 ล้ออัลลอยดีไซน์ใหม่แบบทูโทน ขนาด 18 นิ้ว ห้องโดยสารบรรยากาศใหม่ ล! เพิ่มความสะดวกสบายให้ทุกสัมผัส หรูหราทุกรายละเอียด พร้อมสัญลักษณ์ V-Cross ที่เบาะนั่งกึ่งหนังแท้ทูโทนสีน้ำตาลเทาเดินด้ายสีส้ม มาให้สื่อมวลชนได้ทดสอบสมรรถนะกันอีกด้วย

 

ภายในหรูหรา ผสานความสะดวกสบายที่ครบครัน

 

ความบันเทิงที่เหนือระดับกับ Isuzu iConnect พร้อม Built-in Navigator

 

          สำหรับภายในของ Isuzu D-Max 1.9 และ 3.0 Ddi Blue Power รุ่นใหม่ล่าสุด ยังคงได้รับความหรูหรา และสะดวกสบายเต็มอารมณ์จากห้องโดยสารโทนสีดำ ซึ่งได้รับการอัพเกรดในส่วนของระบบอินโฟเทนเมนท์ เพิ่มเติมความบันเทิงที่เหนือระดับกับ Isuzu iConnect พร้อม Built-in Navigator ที่ใช้งานได้อย่างสะดวกสบาย และแม่นยำ รวมไปถึงการติดตั้ง Isuzu Insight เวอร์ชั่นใหม่ล่าสุด ที่สามารถดาวน์โหลดข้อมูลผ่าน Smartphone ได้ ต่อยอดความสะดวกสบายสูงสุดตามแบบฉบับ Isuzu

 

เครื่องยนต์ 3.0 Ddi Blue Power สมรรถนะ 177 แรงม้า แรงบิด (High Flat-torque) 380 นิวตัน-เมตร

 

Isuzu D-Max Ddi Blue Power แรงจัด ประหยัดจริง

 

          สำหรับการเดินทางในครั้งนี้ ทางทีมงาน BoxzaRacing ได้เดินทางด้วย Isuzu D-Max รุ่นเครื่องยนต์ 3.0 Ddi Blue Power ซึ่งจากที่ได้สัมผัสสมรรถนะกันอย่างจริงจัง ด้วยระยะทางการขับขี่กว่า 200 กม. ต้องขอบอกเลยว่า "แรงจัด ประหยัดจริง" ซึ่งมีจุดเด่นในเรื่องของแรงบิดที่สูง และมาแบบต่อเนื่อง (High Flat-torque) ถึง 380 นิวตัน-เมตร ในรอบเครื่องยนต์ที่ 1,800-2,600 รอบ/นาที ซึ่งถือเป็นรอบเครื่องยนต์ที่ต่ำ และใช้งานได้แบบต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นจังหวะเร่งแซง หรือออกตัวบนทางลาดชัน ที่สามารถจัดการได้อยู่หมัด ปลอดภัย และมั่นใจได้ในทุกสถานการณ์ รวมไปถึงการใช้รอบเครื่องยนต์ที่ต่ำในการขับขี่ จะช่วยส่งผลให้ได้รับอัตราการประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้นอีกด้วย

 

ให้ฟิลลิ่งการขับขี่สปอร์ตเต็มอารมณ์ สมรรถนะการเกาะถนนดีเยี่ยม

 

Isuzu D-Max Ddi Blue Power โดดเด่นด้วยแรงบิด (High Flat-torque) ถึง 380 นิวตัน-เมตร

 

          ด้านสมรรถนะการขับขี่ในความเร็วสูง Isuzu D-Max 3.0 Ddi Blue Power ก็ทำได้อย่างน่าประทับใจ โดยความเร็วสามารถไต่ระดับไปถึงความเร็วสูงได้ในระยะเวลาเพียงไม่กี่อึดใจ และหากกด Kick Down ลงไป ก็ยังสามารถเรียกพละกำลังรอบแรงบิดมาช่วยได้อย่างรวดเร็วทันใจอีกด้วย ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลนั้นเป็นผลพวงมาจากเครื่องยนต์รหัส 4JJ1-TCX ที่มอบสมรรถนะสูงสุด 177 แรงม้า ที่ 3,600 รอบ/นาที นอกจากสมรรถนะของขุมพลังที่แรงสะใจแล้ว ระบบช่วงล่างของ Isuzu D-Max ก็สามารถจัดการได้อยู่หมัดทุกสถานการณ์ ไม่ว่าจะสาดโค้งแรงๆ แบบไม่ยกคันเร่ง หรือการเปลี่ยนช่องทางในความเร็วสูงๆ ก็ไม่มีอาการโยน หรือสะบัดให้เหวอแต่อย่างใด (ตัวรถแบบยกสูง Hi-Lander) ให้อารมณ์การขับขี่แบบสปอร์ตเต็มขั้น แต่อาจจะมีความกระด่างอยู่บ้าง (ตามแบบฉบับรถกระบะ) แต่ก็ยังดีกว่านุ่มจนย้วยจริงไหมล่ะครับ ?

 

เถียงนา Coffee and Bakery Farm ร้านกาแฟสุดชิคของจังหวัดตาก

 

สักการะศาลเจ้าพ่อตากสิน

 

เก็บภาพความงามของพระอาทิตยตกดินบนสะพานสมโภชกรุงรัตนโกสินทร์

 

ฝากท้องมื้อค่ำท่ามกลางแสงดาว และไฟสลัวที่ ร้านไอยราวดี ริมแม่น้ำปิง

 

          นอกจากจะได้สัมผัสสมรรถนะการขับขี่อันเหนือระดับจาก Isuzu D-Max Ddi Blue Power ใหม่แล้ว คณะสื่อมวลชนยังได้สัมผัสประสบการณ์ พร้อมร่วมแนะนำเส้นทางท่องเที่ยวทางรถยนต์ของจังหวัดตาก อีกหนึ่งหน้าด่านสู่ดินแดนภาคเหนือที่แสนฮิปจนไม่ควรแค่ขับเลยผ่าน โดยทริปนี้อีซูซุได้พาไปอิ่มอร่อยกับจุดพักแรกที่ร้าน “ครัวท่าน้ำอ้อย สาขา 2” ร้านอาหารชื่อดังของชัยนาท ก่อนออกเดินทางต่อเข้าสู่ จ. ตาก เพื่อเสพบรรยากาศสุดฟินกันที่ “เถียงนา Coffee and Bakery Farm” ร้านกาแฟสุดชิคของจังหวัดตาก ริมทางหลวงหมายเลข 1 ที่ร่มรื่นด้วยพรรณไม้ และแปลงผักขนาดย่อม ก่อนจะเข้าไปพักผ่อนหย่อนใจเช็คอินห้องพักกันต่อที่โรงแรมไวท์เฮ้าส์ (White House) ช่วงเย็นพลาดไม่ได้กับการขับรถชมเมืองท้าลมหนาว เพื่อไปสักการะ "ศาลเจ้าพ่อตากสิน" พร้อมเก็บภาพความงามของพระอาทิตยตกดินบน "สะพานสมโภชกรุงรัตนโกสินทร์" สะพานแขวนซึ่งเป็นจุดชมวิวแม่น้ำปิงที่ดีที่สุดของจังหวัดตาก และเลี้ยวไปฝากท้องมื้อค่ำท่ามกลางแสงดาว และไฟสลัวกันต่อที่ "ร้านไอยราวดี" ริมแม่น้ำปิง

 

วัดพระบรมธาตุ พุทธสถานคู่เมืองตาก

 

แวะเยี่ยมชมฟอสซิลไม้ขนาดใหญ่ที่สุดในเอเชียที่วนอุทยานไม้กลายเป็นหิน

 

พิพิธภัณฑ์เมืองเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดตาก

 

          วันที่สองของการเดินทางกับภารกิจขับเที่ยวตะลุยเมืองตาก เริ่มขึ้นโดยมีจุดหมายแรก ณ "วัดพระบรมธาตุ" พุทธสถานคู่เมือง อันเป็นที่ประดิษฐานของพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้า พร้อมร่วมอธิษฐานขอพรจาก "หลวงพ่อทันใจ" และแวะเยี่ยมชมฟอสซิลไม้ขนาดใหญ่ที่สุดในเอเชีย ที่ "วนอุทยานไม้กลายเป็นหิน" ก่อนออกเดินทางต่อไปยังถนนหมายเลข 1 ตัดเข้าถนนรามคำแหง สิ้นสุดที่ตำบลหัวเดียด เพื่อลิ้มลองก๋วยเตี๋ยวร้านเก่าแก่รสชาติเด็ด "ร้านแม่บางหัวเดียด" ห้ามพลาดกับเมนูต้มยำสูตรดั้งเดิม หอมน้ำต้มกระดูกหมู และแซ่บชื่นใจกับเครื่องปรุงที่คัดสรรมาอย่างดี และเมื่อขับรถไปอีกไม่กี่นาทีก็ถึง "พิพิธภัณฑ์เมืองเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดตาก" จัดสร้างขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 เนื่องในโอกาสเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา โดยปรับปรุงอาคารจวนผู้ว่าราชการจังหวัดตาก (หลังเก่า) อันเป็นเรือนไทยไม้สักทองทรงคุณค่ามาเป็นพิพิธภัณฑ์ นอกจากนี้สถานที่ดังกล่าวยังเคยเป็น “เรือนประทับ” ของพระองค์ และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เมื่อครั้งเสด็จเมืองตาก เมื่อปี พ.ศ.2501 ภายในจัดแสดง และรวบรวมโบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ ทรัพย์สินทางประวัติศาสตร์ของจังหวัดตากที่มีอยู่จำนวนมากให้มาอยู่ในที่เดียวกัน เปิดให้เข้าชมได้ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 09.00 - 17.00 น. โดยไม่เก็บค่าเข้าชม

 

คณะสื่อมวลชนได้ร่วมประดิษฐ์ช่อมะกรูดห่มเตย ภูมิปัญญาชาวบ้านที่แฝงด้วยเอกลักษณ์และความงดงาม

 

          โอกาสนี้คณะสื่อมวลชนได้ร่วมประดิษฐ์ช่อมะกรูดห่มเตย ภูมิปัญญาชาวบ้านที่แฝงด้วยเอกลักษณ์และความงดงาม ติดไม้ติดมือกลับไปเป็นของฝาก ก่อนขับรถยาวๆ ทิ้งทวนในโค้งสุดท้ายของการเดินทางกับเส้นทางขากลับมุ่งหน้าสู่จังหวัดสุโขทัย โดยใช้เส้นทางจากถนนตากสิน เข้าถนนหมายเลข 12  เพื่อนำรถไปส่งคืนที่ โชว์รูมอีซูซุ บริษัท ฮกอันตึ้งสุโขทัย (1978) จำกัด เป็นอันเสร็จสิ้นภารกิจขับรถสัมผัสลมหนาวส่งท้ายปีกับ New ! Isuzu D-Max Blue Power เป็นที่เรียบร้อย

 

สามารถทดลองขับ Isuzu D-Max Ddi Blue Power ใหม่ ได้ที่โชว์รูมอีซูซุทั่วประเทศ

 

          ร่วมสัมผัสประสบการณ์ขับสนุก เร้าใจ เติมเต็มทุกสมรรถนะแห่งการขับขี่ พร้อมประหยัดน้ำมันขั้นสุดได้แล้วที่โชว์อีซูซุทั่วประเทศ หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 0-2966-2127-9 หรือ www.isuzu-tis.com

รถซื้อสอง ซื้อขายรถ ของแต่งรถ

ข่าวที่ใกล้เคียง

แสดงความคิดเห็นด้วย Facebook