เขียนโดย: Pajingo

เมื่อ: 14 มิถุนายน 2560 - 19:34

Honda Jazz RS 2017 ตอบโจทย์สายซิ่งขนาดไหน โดนใจไลฟ์สไตล์ทันสมัยเพียงใด ไปหาคำตอบพร้อมๆ กัน

 

          Honda Jazz เป็นยนตรกรรมสำหรับคนรุ่นใหม่ที่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ได้รับความนิยมเป็นอันดับต้นๆ แห่งวงการ ไม่ว่าจะมองไปทางไหน เรามักจะเห็นแฮทช์แบคสุคชิครุ่นนี้ โลดแล่นอยู่บนท้องถนนแบบไม่ขาดสายตาเลยทีเดียว ซึ่งล่าสุดทางค่าย Honda ได้ปล่อยรุ่นไมเนอร์เชนของเจนเนอเรชั่นที่ 3 หรือที่วัยรุ่นวัยแรงรู้จักคุ้นเคยกันดีในชื่อ Jazz GK โดยการปรับโฉมในครั้งนี้ ทางค่ายได้สร้างเซอร์ไพรซ์ด้วยการเพิ่มออพชั่นเด็ดมากมาย ภายใต้ราคาจำหน่ายที่ไม่เปลี่ยนแปลงจากเดิม และที่เป็นไฮไลท์ที่สุด ซึ่งสายซิ่งต่างหมายปองก็คือ การเพิ่มรุ่นย่อย RS และ RS+ ที่ได้รับการปรับภาพลักษณ์ให้ดูเป็นสปอร์ต โฉบเฉี่ยว โดนใจสายซิ่ง พร้อมตอบรับไลฟ์สไตล์คนทันสมัยได้อย่างลงตัวยิ่งขึ้น

 

Honda Jazz RS+ เติมความสปอร์ต ใส่ความดุดันสไตล์สายซิ่ง

 

          หลังจากที่เปิดตัวได้ไม่นาน BoxzaRacing ก็มีโอกาสได้ร่วมสัมผัสสมรรถนะของ Honda Jazz 2017 โดยรุ่นที่ได้ทดลองขับขี่ แน่นอนว่าต้องเป็นรุ่นที่ได้รับความสนใจจากสายซิ่งมากที่สุดอย่าง Honda Jazz RS+ ที่มาพร้อมภาพลักษณ์สุดสปอร์ต พร้อมเต็มอิ่มกับออพชั่นตอบรับไลฟ์สไตล์คนทันสมัยได้แบบเต็มสตีม โดยสิ่งที่ได้รับการอัพเกรดขึ้นมาใน Honda Jazz RS+ จากรุ่นเดิมก็คือ ในรุ่นนี้ได้รับการออกแบบโครงสร้างใหม่เพื่อเพิ่มพื้นที่ใช้สอย ซึ่งสามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบการใช้งานได้อย่างหลากหลาย รวมถึงประสิทธิภาพแห่งการขับเคลื่อน ที่เป็นหัวใจหลักแห่งสมรรถนะภายใต้ความประหยัดอย่างเหนือชั้น เพื่อให้ทุการเดินทาง เปี่ยมล้นด้วยประสบการณ์ที่น่าประทับใจ

 

 

          Honda Jazz 2017 ในภาพรวมนั้น มาพร้อมแนวคิดแห่งดีไซน์ Low Wide Gravity ที่สื่อถึงความโฉบเฉี่ยว พลิ้วไหว ให้ประสิทธิภาพในการเคลื่อนไหวอย่างเหนือชั้นตามหลักอากาศพลศาสตร์ โดยใน Honda Jazz RS+ ถูกเติมความโดดเด่นด้วยชุดแต่ง RS ตั้งแต่หัวรดท้าย ไม่ว่าจะเป็นกระจังหน้า เติมหล่อและประสิทธิภาพในการใช้งานด้วยไฟ LED Day Light รวมไปถึงสะท้อนความโดดเด่นด้วยกันชนหน้าและสปอตไลท์, กระจกมองข้างสีดำ ก่อนตบท้ายความลงตัวด้วยล้ออัลลอยดีไซน์สปอร์ตขนาด 16 นิ้ว

 

 

           ตามสไตล์ของ Honda ยุคใหม่ ภายในห้องโดยสารได้รับการออกแบบภายใต้แนว Man Maximum Machine Minimum เพื่อขีดสุดแห่งประโยชน์ใช้สอย โดยยังคงความรู้สึกที่ดูล้ำสมัย โดนใจคนวัยมันส์ โดยเฉพาะในรุ่น RS และ RS+ ที่เล่นสีสันแต่งแต้มกลิ่นอายความเป็นสปอร์ตด้วยโทนสีดำตัดส้มในส่วนของเบาะนั่ง พร้อมอัดแน่นด้วยอุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครัน ทั้งช่องเก็บของ กล่องเก็บแท็บเล็ต, เครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 6.8 นิ้ว รองรับ Bluetooth, ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ, พวงมาลัยแบบมัลติฟังก์ชั่นพร้อม Paddle Shift และ Cruise Control นอกจากนี้ยังสามารถปรับรูปแบบการใช้งานภายในห้องโดยสารได้อย่างอิสระด้วยการพับเบาะถึง 4 รูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น Utility Mode พับเบาะด้านหลังทั้ง 2 ด้าน เพิ่มพื้นที่เก็บของด้านหลังได้มากถึง 906 ลิตร, Long Mode พับเบาะด้านหน้าและด้านหลัง เพิ่มพื้นที่เก็บของในแนวยาวได้ถึง 2,480 มม., Tall Mode พับเบาะด้านหลังขึ้น ขยายเพิ่มพื้นที่เก็บของในแนวสูงได้ถึง 1,280 มม. และ Refresh Mode พับเบาะด้านหน้าเชื่อมต่อเบาะด้านหลัง สร้างพื้นที่ผ่อนคลายสะดวกสบายสูงสุด

 

ขุมพลัง 1.5 ลิตร i-VTEC เร้าใจเต็มพิกัดถึง 117 แรงม้า

 

           Honda Jazz RS+ มาพร้อมความเร้าใจในระดับแนวหน้าของรถในระดับ B Segment ด้วยขุมพลัง 4 สูบ 16 วาล์ว i-VTEC พิกัด 1.5 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 117 แรงม้า ด้วยแรงบิดสูงสุดที่ 146 นิวตัน-เมตร รองรับพลังงานทางเลือก E85 ส่งกำลังด้วยชุดเกียร์ CVT 7 สปีด ด้านระบบความปลอดภัยของ Honda Jazz RS+ มาพร้อมโครงสร้างตัวถังนิรภัย G-Force Control (G-CON), ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก ABS ทำงานร่วมกับระบบกระจายแรงเบรก  EBD, ระบบช่วยควบคุมการทรงตัวขณะเข้าโค้ง VSA,ระบบช่วยการออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน Hill Start Assist, สัญญาณไฟฉุกเฉินอัตโนมัติขณะเบรกกะทันหัน, ถุงลมนิรภัย 6 ตำแหน่ง ได้แก่ ถุงลมคู่หน้า Dual SRS (ทุกรุ่น) ถุงลมด้านข้างคู่หน้าแบบอัจฉริยะ i-Side Airbags และม่านถุงลมด้านข้าง Side Curtain Airbags ตบท้ายด้วยกล้องส่องภาพด้านหลังปรับมุมมองได้ 3 ระดับ

 

 

                สำหรับการทดลองขับในครั้งนี้ ทางค่าย Honda เลือกเส้นทางในเมืองเป็นหลัก เพื่อให้ได้ข้อมูลที่ใกล้เคียงกับรูปแบบการใช้งานจริงเป็นหลัก โดยเส้นทางในบางช่วงเป็นทางยกระดับเพื่อให้ได้ลองสัมผัสกับสมรรถนะของเครื่องยนต์รวมถึงช่วงล่างของ Honda Jazz RS+ แบบครบรส ซึ่งการเดินทางในครั้งนี้ มีผู้ร่วมขับขี่และโดยสารในรถรวมทั้งสิ้น 4 คน โดย BoxzaRacing ได้ทดลองเป็นผู้โดยสารในเบาะตอนหลังก่อนเป็นสำดับแรก สิ่งที่สัมผัสได้จากการโดยสารในเบาะตอนหลังก็คือ พื้นที่ในส่วนนี้ค่อนข้างจะกว้างขวาง แท้ว่าผู้ขับจะมีรูปร่างสูงใหญ่ (ประมาณ 180 ซม.) แต่ก็มีพื้นที่ในการวางขาที่เหลือเฟือ ไม่รู้สึกอึดอัด ระบบปรับอากาศสามารถกระจายความเย็นได้อย่างทั่วถึง ไม่รู้สึกว่าเป็นปัญหาสำหรับการเดินทาง เช่นเดียวกับชุดอุปกรณ์ความบันเทิงที่ติดตั้งมาให้ภายในรถ สามารถเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนได้ไม่ยาก รวมถึงให้คุณภาพของเสียงในระดับที่น่าประทับใจ ฟีลลิ่งการนั่งในย่านความเร็วต่ำ หากเคลื่อนที่ผ่านลูกระนาดหรือถนนขรุขระ รู้สึกถึงความกระชับของช่วงล่าง แต่หากใช้ความเร็วสูงขึ้นและวิ่งผ่านสภาพถนนที่เป็นคลื่น อาจรู้สึกได้ถึงอาการเต้นได้บ้างเล็กน้อย ซึ่งโดยภาพรวมไม่ส่งผลในเรื่องของความสบายมากนัก

 

 

          หลังจากนั้น BoxzaRacing ได้เปลี่ยนมาเป็นผู้ขับ สิ่งที่สัมผัสได้จากการเข้าไปนั่งในตำแหน่งหลังพวงมาลัยก็คือ การจัดตำแหน่งท่านั่ง สามารถทำได้อย่างหลากหลาย ซึ่งน่าจะรองรับกับสรีระของแต่ละบุคคลได้อย่างลงตัว หลังจากนั้นก็ได้ทดลองลูกเล่นรวมถึงสิ่งอำนวยความสะดวกที่จัดมาให้ใน Honda Jazz RS+ จนได้ข้อสังเกตบางอย่าง คือ มีช่องเชื่อมต่อ USB และช่องเสียบชาร์จไฟ 12 โวลต์ มาให้อย่างละช่องเท่านั้น หากต้องการเชื่อมต่อหรือใช้ประโยชน์ใดๆ มากกว่านี้ อาจต้องหาตัวช่วยมาใช้บ้างตามสมควร ด้านฟีลลิ่งการขับขี่ อย่างที่ทราบดีว่า ขุมพลังของ Honda ในระดับ 117 แรงม้า ให้ความเร้าใจไม่แพ้ใครในคลาส สามารถตอบโจทย์สำหรับคนรักความตื่นเต้น สายสปอร์ต สายซิ่ง หรือใช้งานในชีวิตประจำวันได้อย่างไม่มีขาดตก เช่นเดียวกับชุดช่วงล่างที่เพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไป

 

 

           สิ่งที่อดพูดถึงไม่ได้ก็คือ สำหรับสายซิ่ง สายแรง ที่ต้องการเพอร์ฟอร์แมนซ์ที่เหนือกว่านั้น BoxzaRacing กล้าพูดเลยว่า Honda Jazz RS+ เป็นรถรุ่นหนึ่งที่หาเครื่องเคียงมาประดับได้ง่าย สามารถปรับมุมมองและอัพเกรดสมรรถนะได้ แต่งนิดก็เท่ โมฯ หน่อยก็แรง ตอบโจทย์ในสไตล์ที่คุณต้องการอย่างแน่นอน

รถซื้อสอง ซื้อขายรถ ของแต่งรถ

ข่าวที่ใกล้เคียง

แสดงความคิดเห็นด้วย Facebook