เขียนโดย: Pajingo

เมื่อ: 24 พฤษภาคม 2560 - 15:35

Mercedes Benz E350e ที่สุดของสมรรถนะ บนความหรูหรา เต็มอิ่มทุกสุนทรียภาพแห่งการเดินทาง

 

         Mercedes Benz E350e (เมอร์เซเดส-เบนซ์ อี350อี) เปิดตัวในประเทศไทยเพียง 1 วัน ทางค่ายก็ได้ฤกษ์เชิญชวนคณะสื่อมวลชนเข้าร่วมสัมผัสสมรรถนะของซีดานหรูผู้นี้ บนเส้นทาง กรุงเทพฯ – จ.พังงา ภายใต้ความครบเครื่องที่อัดแน่นตามแบบฉบับความเป็นยนตรกรรมแห่งผู้บริหาร ซึ่งนอกจากจะมี Mercedes Benz E350e ให้สื่อมวลชนได้ทดลองขับกันอย่างเต็มอิ่มแล้ว ก็ยังมียนตรกรรมปลั๊กอินไฮบริดรุ่นอื่นๆ ภายใต้แบรนด์ EQ – Electric Intelligence by Mercedes-Benz (อีคิว – อีเลคทริค อินเทลลิเจนซ์ บาย เมอร์เซเดส-เบนซ์) มาให้ได้สัมผัสขีดสุดแห่งสมรรถนะภายใต้เครื่องหมายการค้าดาวสามแฉกด้วย

 

 

           สำหรับแบรนด์ EQ – Electric Intelligence by Mercedes-Benz เป็นเทคโนโลยีใหม่ภายใต้แบรนด์เมอร์เซเดส-เบนซ์ ซึ่งได้รับการพัฒนามาจากแนวคิดของการเติมเต็ม ทั้งทางด้านสุนทรียภาพในการขับขี่ ผสานกับความชาญฉลาดของยานพาหนะของแบรนด์ Mercedes-Benz สำหรับรถยนต์ที่อยู่ภายใต้แบรนด์ EQ – Electric Intelligence by Mercedes-Benz ครอบคลุมไปถึงรถยนต์ที่ใช้พลังงานไฟฟ้า และรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดทุกรุ่นที่พร้อมมาเติมเต็มทุกแนวคิด เกี่ยวกับการเดินทางแห่งอนาคตและการใช้ชีวิตอย่างเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอย่างครบวงจร ซึ่งเป็นหนึ่งในกลยุทธ์ที่เมอร์เซเดส-เบนซ์ได้วางรากฐานไว้ เพื่อเป็นแนวทางการดำเนินงานอย่างต่อเนื่องไปจนถึงปี 2025 โดยการทดลองขับขี่ในครั้งนี้ ไฮไลท์ คือ Mercedes Benz E350e ยนตกรรมซีดานรุ่นใหม่ล่าสุดที่เพิ่งเปิดตัว เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม ที่ผ่านมา โดนประกอบด้วย 3 รุ่นย่อย ได้แก่ E350e AMG Dynamic, E350e Exclusive และ E350e Avantgarde รวมถึงยนตกรรม รุ่นอื่นๆ ในกลุ่มเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็น Mercedes Benz C350e, S500e  รวมถึง SUV สุดเร้าใจในตระกูบ GLE500e ซึ่งถือเป็นครั้งแรกของเมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) ที่ได้รวบรวมสุดยอดยานยนต์ในกลุ่มปลั๊กอินไฮบริดครบทุกเซ็กเม้นท์ให้สื่อมวลชนได้ทดสอบสมรรถนะกันอย่างเต็มที่ตลอดเส้นทางความยาวกว่า 800 กม.

 

Mercedes Benz E350e AMG Dynamic

 

 

           เป็นโอกาสดีที่ BoxzaRacing ได้เริ่มทดลองขับยนตรกรรมซีดานหรูรุ่นล่าสุดอย่าง Mercedes Benz E350e เป็นรุ่นแรก ซึ่งถือเป็นสื่อมวลชนกลุ่มแรกที่ได้สัมผัสกับรถรุ่นนี้ ซึ่งแว๊บแรกที่เห็นต้องบอกเลยว่า แม้จะเป็นซีดานที่มีเรือนร่างค่อนข้างใหญ่ แต่ก็ให้ภาพลักษณ์ที่แฝงความเป็นสปอร์ตไว้ได้อย่างลงตัว ด้วยอุปกรณ์ส่วนควบต่างๆ ที่ทางค่ายจัดมาให้อย่างเหมาะสมตามรุ่นย่อย เข้ามาภายในห้องโดยสารจะพบกับเบาะนั่งขนาดใหญ่ที่ให้ความรู้สึกโอบกระชับและสะดวกสบายในหนึ่งเดียว ตำแหน่งของพวงมาลัยสามารถปรับได้อย่างอิสระเพื่อให้รับกับสรีระของผู้ขับขี่

 

 

           สิ่งที่เป็นไฮไลท์ของ Mercedes Benz E350e คงหนีไม่พ้นเรื่องของขุมพลังที่มาในรูปแบบของปลั๊กอินไฮบริด ซึ่งแม้จะมาในบล็อคที่เราเคยนำเสนอไปก่อนหน้านี้อย่าง C350e แต่กลับมีรายละเอียดที่ต่างออกไปไม่น้อยทีเดียว โดยเฉพาะเรื่องของระบบส่งกำลังที่เลือกจับคู่กับชุดเกียร์อัตโนมัติเดินหน้า 9 จังหวะ (9G-TRONIC PLUS) แทนที่แบบ 7 สปีด เดิม ช่วยให้อัตราทดเกียร์สามารถทำได้อย่างต่อเนื่อง กระชับมากยิ่งขึ้น ส่งผลโดยตรงต่อเรื่องของอัตราเร่ง รวมถึงอัตราการสิ้นเปลืองจากการใช้รอบเครื่องยนต์ที่ต่ำมาก โดยในการวิ่งที่ความเร็ว 100 กม./ชม. ในเกียร์สุดท้าย จะใช้รอบเครื่องยนต์เพียงไม่เกิน 1,300 รอบ/นาที เท่านั้น สำหรับเครื่องยนต์ที่ประจำการอยู่ใน Mercedes Benz E350e มาในรูปแบบเบนซิน 4 สูบแถวเรียง ความจุกระบอกสูบ 1,991 ซีซี. พร้อมเทอร์โบ อินเตอร์คูลเลอร์ ให้สมรรถนะสูงสุดที่ 211 แรงม้า ที่ 5,500 รอบ/นาที แรงบิด 350 นิวตัน-เมตร ที่ 1,200-4,000 รอบ/นาที และกำลังจากมอเตอร์ไฟฟ้า สมรรถนะสูงสุด 88 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 440 นิวตัน-เมตร เมื่อรวมกันทั้งระบบจะสร้างกำลังขับเคลื่อนได้สูงสุดถึง 286 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 550 นิวตัน-เมตร

 

เครื่องยนต์ปลัีกอินไฮบริด ให้กำลังขับเคลื่อนทั้งระบบ 286 แรงม้า และแรงบิด 550 นิวตัน-เมตร

 

 

           Mercedes Benz E350e มากับสมรรถนะการขับขี่ที่เรียกได้ว่าโดดเด่น ด้วยขุมพลังอันทรงประสิทธิภาพ ซึ่งถ้าหากเน้นใช้งานในเมืองเป็นหลัก รู้จุดเริ่มต้นและจุดหมายในการเดินทางค่อนข้างแน่นอน สามารถชาร์จไฟให้เต็มจากที่บ้าน แล้วขับเคลื่อนด้วย E-Mode ที่พร้อมรองรับความเร็วและระยะทางสำหรับการใช้งานในเมืองได้อย่างไร้ปัญหา ส่วนสำหรับการเดินทางออกต่างจังหวัด หรือต้องการเรียกสมรรถนะที่สูงขึ้นอีกระดับ การเลือกใช้งานในโหมด Hybrid ดูน่าจะตอบโจทย์ทุกการเดินทางได้อย่างน่าพอใจ ไม่ว่าคุณจะเป็นผู้ขับขี่เอง ก็สามารถที่จะสนุกไปกับพละกำลัง และการตอบสนองของช่วงล่างและเครื่องยนต์สามารถเลือกปรับได้ตามต้องการ หรือแม้แต่จะเป็นผู้โดยสารในตอนหลัง ก็สัมผัสได้ถึงความสะดวกสบายด้วยออพชั่นที่ทางค่าย Mercedes Benz จัดมาให้แบบครบๆ ตามแบบฉบับยนตรกรรมระดับพรีเมี่ยมแท้ๆ

 

Mercedes Benz GLE500e 4MATIC

 

 

           หลังจากที่ได้ทดลองขับ Mercedes Benz E350e อย่างจุใจแล้ว ทางค่ายก็เปิดโอกาสให้ทดลองความประหยัดจาก EQ – Electric Intelligence by Mercedes-Benz ที่จัดมาให้ดลองขับในครั้งนี้ ซึ่งทาง BoxzaRacing จับฉลากได้พี่ใหญ่อย่าง Mercedes Benz GLE500e 4MATIC ภายใต้กติกา คือ ให้ขับถึงจุดหมายประมาณ 100 กม. ภายในเวลา 1 ชั่ว หลังจากที่ชาร์จแบตเตอรี่มาอย่างเต็มเหนี่ยวด้วยการเลือกใช้โหมด Charge ที่สามารถกักเก็บไฟเข้าแบตเตอรี่ได้อย่างรวดเร็วเป็นที่เรียบร้อย BoxzaRacing ก็เริ่มเดินทางออกจากจุดเริ่มต้นด้วยการใช้ E-Mode คือ วิ่งด้วยไฟฟ้าล้วนๆ ด้วยความเร็วนิ่งๆ ประมาณ 100-120 กม./ชม. ตามสภาพการจราจรและสภาพอากาศ เนื่องจากมีสายฝนโปรยปรายอย่างหนักเป็นระยะ ทำให้การใช้ความเร็วในบางช่วงทำได้ค่อนข้างลำบาก ด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัย เมื่อเดินทางไปได้ประมาณ 21 กม. ไฟในแบตเตอรี่คงเหลือราว 10% เครื่องยนต์จะตัดเข้าสู่โหมด Hybrid โดยอัตโนมัติ ซึ่งเรายังคงเดินทางด้วยความเร็วเท่าเดิม จนกระทั่งถึงจุดหมาย ตัวเลขบนหน้าปัดแสดงอยู่ที่ 9.0 ลิตร/100 กม. ที่ความเร็วเฉลี่ย 89.7 กม./ชม. ช้ากว่าที่กำหนดเล็กน้อย เนื่องจากฝนตกหนัก เน้นความปลอดภัยในการเดินทางเป็นหลัก ซึ่งเมื่อคำนวณออกมาแล้วอยู่ที่ราว 11 กม./ลิตร สำหรับการใช้ความเร็วระดับนี้ เทียบกับสมรรถนะที่ได้ เรียกว่าน่าพอใจไม่น้อยเลยครับ

 

Mercedes-Benz มอบทุนการศึกษาจำนวน 500,000 บาท พร้อมมอบอุปกรณ์การเรียนให้กับโรงเรียนเยาววิทย์ จ.พังงา  

 

          นอกจากการทดลองขับยนตรกรรมปลั๊กอินไฮบริดภายใน้แบรนด์ EQ – Electric Intelligence by Mercedes-Benz อย่างจุใจแล้ว ทางค่ายยังจัดกิจกรรมเพื่อสาธารณะกุศล โดยมอบเงินสนับสนุนทางการศึกษาเป็นจำนวน 500,000 บาท รวมถึงอุปกรณ์เครื่องเขียนที่ต่อยอดมาจากกิจกรรมจัดทำชุดเครื่องเขียนเพื่อเด็กนักเรียนผู้ยากไร้ที่จัดขึ้นที่ “เมอร์เซเดส มี บ็อกซ์” เมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมา ให้แก่เด็กนักเรียน โรงเรียนเยาววิทย์ จ.พังงา เพื่อสานต่อเจตนารมณ์ด้านความรับผิดชอบต่อสังคมที่เมอร์เซเดส-เบนซ์ ได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องมาเป็นระยะเวลากว่า 11 ปี นับตั้งแต่โรงเรียนแห่งนี้ได้รับการก่อตั้งขึ้นในปีพ.ศ. 2549 เพื่อช่วยเหลือเด็กที่ได้รับผลกระทบจากภัยสึนามิ ทั้งในเรื่องของเงินทุนสนับสนุนด้านการศึกษา อุปกรณ์การเรียนต่างๆ การลงพื้นที่เพื่อร่วมปรับปรุงภูมิทัศน์บริเวณโรงเรียน ตลอดจนการมอบโอกาสทางการศึกษาให้กับเด็กด้อยโอกาสเพื่อให้พวกเขาได้มีศักยภาพในการใช้ชีวิต และประกอบอาชีพการงานที่ดีในอนาคต ซึ่งกิจกรรมต่างๆ เหล่านี้ ล้วนเป็นสิ่งสะท้อนถึงวิสัยทัศน์ของบริษัทฯ ในด้านความมุ่งมั่นและการเล็งเห็นถึงความสำคัญในการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมและส่วนรวมได้เป็นอย่างดี

รถซื้อสอง ซื้อขายรถ ของแต่งรถ

ข่าวที่ใกล้เคียง

แสดงความคิดเห็นด้วย Facebook