เขียนโดย: Monster Racing

เมื่อ: 26 พฤษภาคม 2560 - 14:50

BMW เปิดบททดสอบ All-New 5 Series สัมผัสสุนทรียะแห่งการขับขี่ ในยนตรกรรมสปอร์ตซีดานพรีเมี่ยมโฉมใหม่

 

          บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย พาสื่อมวลชนสัมผัสสุนทรียะแห่งการขับขี่ที่แท้จริง ของยนตรกรรมสปอร์ตซีดานระดับพรีเมี่ยมโฉมใหม่ ภายใต้กิจกรรม The All-New BMW 5 Series Press Drive 2017 ที่จัดขึ้น ณ อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา ระหว่างวันที่ 15 – 19 พฤษภาคม 2560 ซึ่งคณะสื่อมวลชนจะได้ร่วมทดสอบสมรรถนะการขับขี่ พร้อมสัมผัสนวัตกรรมล่าสุดจากรถยนต์ BMW 530i M Sport และ BMW 520d Luxury

 

BMW 5 Series ใหม่ ภายใต้รหัสตัวถัง G30 มีน้ำหนักเบากว่ารุ่นก่อนถึง 100 กิโลกรัม

 

          สำหรับ BMW 5 Series ใหม่ ทั้ง 2 รุ่น ได้รับการเผยโฉมครั้งแรกของโลกเมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2017 และเผยโฉมในประเทศไทยเป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นเจเนอเรชั่นที่ 7 ของตระกูล 5 Series ภายใต้รหัสตัวถังใหม่ "G30" ที่ได้รับการพัฒนาภายใต้แนวคิด BMW Efficient Lightweight ซึ่งเน้นการใช้วัสดุอลูมิเนียม, เหล็กกล้า และแมกนีเซียม ซึ่งถือเป็นครั้งแรกในรถยนต์ของ BMW โดย BMW 5 Series ใหม่ มีน้ำหนักเบากว่ารุ่นก่อนถึง 100 กิโลกรัม (สำหรับรุ่น BMW 530i M Sport) และ 70 กิโลกรัม (สำหรับรุ่น BMW 520d Luxury)

 

กุญแจ Display Key สามารถสั่งการทำงานของระบบปรับอากาศในรถ แสดงสถานะปริมาณของน้ำมัน และระยะทางที่รถสามารถวิ่งได้

 

          นอกจากนี้ BMW 5 Series ใหม่ ทั้ง 2 รุ่น ยังมาพร้อมกับระบบกุญแจ Display Key ที่มีฟังก์ชั่นการใช้งานที่หลากหลาย เช่น การสั่งการทำงานของระบบปรับอากาศในรถ นอกจากนี้ กุญแจดังกล่าวยังมาพร้อมหน้าจอสีแสดงผลแบบระบบสัมผัส ซึ่งแสดงสถานะต่างๆ ของรถ ทำให้ผู้ขับขี่สามารถรู้สถานะปริมาณของน้ำมัน และระยะทางที่รถสามารถวิ่งได้ รวมถึงข้อมูลที่สำคัญอื่นๆ โดยกุญแจนี้ สามารถชาร์จได้ด้วยเครื่องชาร์จไร้สาย ที่ติดตั้งมากับรถหรือจากพอร์ต USB ทั่วไป

 

BMW 530i M Sport ราคา 4,399,000 บาท

 

BMW 530i M Sport

          สำหรับ BMW 530i M Sport มาพร้อมกับดีไซน์สปอร์ตหรู ภายใต้ชุดแต่ง M Aerodynamics เริ่มจากไฟหน้าแบบ LED (ปรับตามทิศทางการหมุนของพวงมาลัย) พร้อมระบบไฟสูง-ต่ำอัตโนมัติ เข้าชุดกับกระจังหน้าใหม่แบบไตรคู่ พร้อมแผ่นเปิด-ปิดอัตโนมัติ เพื่อรีดอากาศเข้าสู่ห้องเครื่อง และลดแรงเสียดทาน, ไฟตัดหมอกแบบ LED, กันชนหน้า-หลัง และสเกิร์ตข้างใหม่จาก M Aerodynamics ปิดท้ายด้วยล้ออัลลอย M ขนาด 19 นิ้ว แบบ Double-spoke

 

เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบรุ่นใหม่ BMW Twin Power Turbo ขนาด 2.0 ลิตร 252 แรงม้า

 

          สำหรับ BMW 530i M Sport ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ รุ่นใหม่ BMW Twin Power Turbo ขนาด 2.0 ลิตร พร้อมมอบกำลังสูงสุด 185 กิโลวัตต์/252 แรงม้า ที่ 5,200-6,500 รอบ/นาที พร้อมแรงบิด 350 นิวตัน-เมตร ที่  1,450-4,800 รอบ/นาที โดยสามารถให้อัตรเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ได้ภายในระยะเวลาเพียง 6.2 วินาที และสามารถทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 250 กม./ชม. ภายใต้อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงที่ 17.5 กิโลเมตร/ลิตร และมีอัตราการปล่อย CO2 ที่ 129 กรัม/กิโลเมตร ลดลงจากรุ่นก่อน 11%

 

BMW 530i M Sport มาพร้อมกับระบบช่วยจอดอัจฉริยะ Parking Assistance

 

          นอกจากนี้ BMW 530i M Sport ยังมาพร้อมกับระบบช่วยจอดอัจฉริยะ (Parking Assistance) ซึ่งถือเป็นไฮไลท์สำคัญของโมเดลนี้เลยก็ว่าได้ โดยสามารถจอดรถให้อย่างอัตโนมัติทั้งแบบแนวขนาน และจอดแบบเข้าซอง ซึ่งระบบจะจัดการให้อย่างอัตโนมัติ ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนเกียร์, คันเร่ง และเบรค โดยที่ผู้ขับขี่เพียงแค่กดปุ่ม Parking Assistance อย่างเดียวเท่านั้น ระบบอัลตร้าโซนิคเซ็นเซอร์ (Ultrasonic Sensors) จะช่วยค้นหาพื้นที่จอดที่เหมาะสม และทำการเข้าจอดให้อย่างปลอดภัย

 

ภายในของ BMW 530i M Sport มาพร้อมพวงมาลัยหนังแบบ M

 

หน้าจอสัมผัสขนาด 10.25 นิ้ว มาพร้อม ระบบ Gesture Control ควบคุมฟังก์ชันหลักด้วยท่าทางการเคลื่อนไหวของมือ

 

          อีกทั้ง BMW 530i M Sport ยังมาพร้อมระบบ Gesture Control ซึ่งเป็นฟีเจอร์ควบคุมฟังก์ชันหลักด้วยท่าทางการเคลื่อนไหวของมือ ผ่านหน้าจอความละเอียดสูงขนาด 10.25 นิ้ว ที่แสดงผลได้ทั้งข้อมูลระบบนำทาง, โทรศัพท์, เพลง หรือเมนูฟังก์ชันต่างๆ ของตัวรถ นอกจากจะสั่งการได้ผ่านทางปุ่ม iDrive Controller แล้ว ระบบควบคุมนี้ยังรองรับการสั่งงานด้วยการเคลื่อนไหวของมือ เสียง หรือการสัมผัสปุ่มบนหน้าจอ สำหรับระบบ Gesture Control นั้น นำเสนอการใช้งานในรูปแบบที่เข้าใจง่ายและสะดวกสบายในทุกฟังก์ชัน ทั้งระบบ infotainment และโทรศัพท์ ผ่านการขยับมือหรือนิ้วมือ ซึ่งจะถูกตรวจจับโดยระบบเซ็นเซอร์ 3D บริเวณคอนโซลและแปลเป็นคำสั่งต่างๆ ตามการเคลื่อนไหว เช่น สามารถรับโทรศัพท์ได้ด้วยการชี้นิ้วชี้ไปที่หน้าจอ หรือสามารถปัดมือเพื่อปฏิเสธสายเรียกเข้า

 

BMW 520d Luxury ราคา 3,899,000 บาท

 

BMW 520d Luxury

          มาต่อกันที่รุ่น BMW 520d Luxury ซึ่งเป็นรุ่นเครื่องยนต์ดีเซล โดยดีไซน์ภายนอกมาพร้อมความเรียบหรูแบบ Luxury Line เริ่มจากไฟหน้าแบบ LED (ปรับตามทิศทางการหมุนของพวงมาลัย) พร้อมระบบไฟสูง-ต่ำอัตโนมัติ เข้าชุดกับกระจังหน้าใหม่แบบไตรคู่ พร้อมแผ่นเปิด-ปิดอัตโนมัติ เพื่อรีดอากาศเข้าสู่ห้องเครื่อง และลดแรงเสียดทาน, ไฟตัดหมอกแบบ LED, กันชนหน้า-หลัง และสเกิร์ตข้างดีไซน์ใหม่แบบเรียบหรู ปิดท้ายด้วยล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว แบบ W-spoke

 

เครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ BMW Twin Power Turbo ขนาด 2.0 ลิตร 190 แรงม้า

 

          สำหรับ BMW 520d Luxury มาพร้อมเครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ BMW Twin Power Turbo ขนาด 2.0 ลิตร พร้อมมอบกำลังสูงสุด 140 กิโลวัตต์/190 แรงม้า ที่ 4,000 รอบ/นาที พร้อมแรงบิด 400 นิวตัน-เมตร ที่ 1,750-2,500 รอบ/นาที โดยสามารถให้อัตรเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ได้ภายในระยะเวลาเพียง 7.5 วินาที และสามารถทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 235 กม./ชม. ภายใต้อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงที่ 20 กิโลเมตร/ลิตร และมีอัตราการปล่อย CO2 ที่ 132 กรัม/กิโลเมตร

 

ภายในห้องโดยสารของ BMW 520d Luxury สไตล์เรียบหรู

 

หน้าจอสัมผัสขนาด 10.25 นิ้ว รองรับการควบคุมผ่านทาง iDrive Controller

 

          BMW 520d Luxury มาพร้อมกับปุ่มควบคุมฟังก์ชั่นพร้อมระบบสัมผัส iDrive พร้อมแสดงระบบนำทาง ระบบโทรศัพท์ ระบบความบันเทิง และระบบการทำงานของรถผ่านจอแสดงผลความละเอียดสูงขนาด 10.25 นิ้ว โดยรองรับการควบคุมผ่านทาง iDrive Controller สั่งงานด้วยเสียงหรือท่าทาง หรือสัมผัสที่หน้าจอโดยตรง ภายในห้องโดยสาร นอกเหนือจากพื้นที่วางขาสำหรับผู้โดยสารในห้องโดยสารที่เพิ่มขึ้น เทคโนโลยี SYNTAK (Special Synergy Thermoacoustic Capsule) ยังช่วยเสริมการเก็บเสียงเพื่อความผ่อนคลายสูงสุดในห้องโดยสาร

 

ทดสอบระบบช่วยจอดอัจฉริยะ Parking Assistance ใน BMW 530i M Sport

 

          สำหรับการทดสอบในครั้งนี้ ทางทีมงาน BoxzaRacing ได้สัมผัสกับสุนทรียะแห่งการขับขี่ของยนตรกรรมซีดานสปอร์ตรุ่นใหม่ครบทั้ง 2 รุ่น โดยแบ่งการทดสอบออกเป็น 3 สถานี โดยในสถานีแรกเป็นการทดสอบระบบช่วยจอดอัจฉริยะ Parking Assistance ซึ่งบรรจุอยู่ใน BMW 530i M Sport โดยมี Instructor ผู้เชี่ยวชาญเป็นผู้ทดสอบให้รับชม และอธิบายถึงหลักการทำงานให้ทราบก่อนเริ่มทดสอบด้วยตัวเอง

 

ระบบ Parking Assistance จะดำเนินการถอยจอดให้เองทั้งหมดโดยอัตโนมัติ เพียงผู้ขับกดปุ่ม Parking Assistance ค้างเอาไว้

 

          สำหรับหลักการทำงานของระบบ ช่วยจอดอัจฉริยะ Parking Assistance เริ่มต้นด้วยการกดปุ่ม Parking Assistance ที่บริเวณคอนโซลกลาง จากนั้นเปิดไฟเลี้ยวเพื่อบ่งบอกทิศทางที่ต้องการจะจอด (เปิดไฟซ้ายระบบจะจับเซ็นเซอร์ฝั่งซ้าย, เปิดไฟขวาระบบจะจับเซ็นเซอร์ฝั่งขวา) ภายใต้ความเร็วไม่เกิน 35 กม./ชม. เมื่อระบบจับได้ว่ามีช่องสำหรับการจอด (ระบบจะต้องการพื้นที่ว่างด้านข้างตัวรถเพียงข้างละ 40 เซนติเมตร เท่านั้น) จะมีคำสั่งให้เลือกที่หน้าจอสัมผัสว่าจะจอดแบบเทียบข้าง หรือจอดแบบเข้าซอง ให้กดปุ่มได้ที่น่าจอสัมผัสตามความต้องการ จากนั้นผู้ขับก็เพียงแค่กดปุ่ม Parking Assistance ค้างไว้ โดยสามารถเอามือออกจากพวงมาลัย และเท้าออกจากแป้นคันเร่ง-เบรคได้ทันที ระบบจะทำการถอยจอดรถให้เองทั้งหมดโดยอัตโนมัติ ไม่ว่าจะเป็นการเลือกเกียร์, การหมุนพวงมาลัย ตลอดจนผ่อนคันเร่งหรือเบรค จนเข้าจอดได้อย่างปลอดภัย โดยการจอดให้อัตโนมัตินั้น ทาง BMW ได้คำนวณพื้นที่ช่องว่างฝั่งคนขับให้มากกว่า เพื่อการเข้า-ออกตัวรถที่สะดวก ซึ่งถือเป็นนวัตกรรมด้านยานยนต์ และเทคโนโลยีอันล้ำสมัย ที่ถูกบรรจุไว้ใน BMW 530i M Sport อย่างสมบูรณ์แบบ

 

บรรยากาศการทดสอบในสถานีที่ 2

 

          เมื่อได้สัมผัสกับเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด ที่ได้บรรจุลงใน BMW 5 Series เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็ถึงคราวย้ายสถานีไปทดสอบสมรรถนะการขับขี่กันต่อ โดยสถานีที่ 2 เป็นการทดลองขับ BMW 5 Series ทั้ง 2 รุ่น ไม่ว่าจะเป็น BMW 530i M Sport และ BMW 520d Luxury ซึ่งเป็นสถานีที่จำลองสถานการณ์ในการขับขี่จริง เริ่มจากการขับแบบสลาลอม (Slalom) หลบหลีกสลับซ้าย-ขวา เพื่อสัมผัสกับระบบช่วงล่างอันแน่นหนึบ และต่อเนื่องด้วยโค้งซ้าย-ขวาแบบแคบๆ ก่อนจะทดสอบรัศมีวงเลี้ยวที่แคบ และแม่นยำแบบ U-Turn ปิดท้ายด้วยการทดสอบขุมพลังเครื่องยนต์ BMW Twin Power Turbo ขนาด 2.0 ลิตร กับทางตรงระยะ 402 เมตร ซึ่งในช่วงทดสอบนั้นฟ้าฝนได้ตกลงมาตลอดช่วงการทดสอบ ซึ่งถือเป็นงานที่ท้าทายมากยิ่งขึ้น สำหรับ BMW 5 Series ทั้ง 2 รุ่น

 

BMW 520d Luxury ควบคุมได้อย่างใจสั่ง

 

BMW 520d Luxury โดดเด่นด้านแรงบิดอย่างชัดเจน

 

          เริ่มทดสอบกันที่รุ่นเครื่องยนต์ดีเซลกันก่อน กับเจ้า BMW 520d Luxury ซึ่งต้องบอกเลยว่าครั้งแรกที่ได้ควบคุม BMW 520d Luxury ให้ฟิลลิ่งกับขับขี่ที่สนุก และคล่องแคล่วกว่าเดิมค่อนข้างมาก เนื่องด้วยน้ำหนักที่ลดลงถึง 70 กก. ผสานกับระบบช่วงล่างที่ถูกอัพเกรดใหม่ ทำให้การเข้าโค้งในการขับแบบสลาลอม (Slalom) สามารถทำได้อย่างต่อเนื่อง และแม่นยำ รวมไปถึงการเข้าโค้งด้วยความเร็วสูง ก็ไม่มีอาการท้ายสะบัด หรือเสียการควบคุมแต่อย่างใด ซึ่งเป็นผลพวงจากระบบ DSC (ระบบควบคุมเสถียรภาพการขับขี่) ที่สามารถจัดการได้ทุกสถานการณ์ แม้ถนนจะเปียกลื่นก็ตาม ไม่เพียงแต่ระบบช่วงล่างที่ตอบสนองได้อย่างใจสั่งเท่านั้น ด้านขุมพลังเครื่องยนต์ BMW 520d Luxury ก็ถ่ายทอดออกมาได้อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย โดยเฉพาะเรื่องแรงบิดที่ระดับ 400 นิวตัน-เมตร ที่ 1,750-2,500 รอบ/นาที ที่พร้อมจะพาทะยานไปอย่างไม่รีรอ รวมไปถึงการเปลี่ยนเกียร์ที่นุ่มนวล และต่อเนื่อง จนไม่รู้สึกเลยว่านี่ใช้ความเร็วระดับ 160 กม./ชม. แล้วหรือเนี่ย !

 

BMW 530i M Sport ให้ฟิลลิ่งการขับขี่สปอร์ตเต็มอารมณ์ สมรรถนะการเกาะถนนดีเยี่ยม

 

          เมื่อได้ทดลองรุ่นเครื่องยนต์ดีเซลกันไปพอสมควรแล้ว ก็เปลี่ยนอารมณ์มาจับตัวแรงกันบ้าง กับ BMW 530i M Sport ซึ่งขอบอกไว้ตรงนี้เลยว่า ทางทีมงาน BoxzaRacing ประทับใจเอามากๆ เหมาะกับสายซิ่ง หัวใจสปอร์ตอย่างแฟนๆ BoxzaRacing เป็นที่สุด ด้วยน้ำหนักตัวรถที่เบากว่าเดิมถึง 100 กก. ผสานกับเครื่องยนต์บล็อคใหม่ที่แรงขึ้น กับดีไซน์ผ่านชุดแต่ง M Aerodynamic ที่ให้ความรู้สึกสปอร์ตเต็มอารมณ์ และให้การควบคุมที่คล่องแคล่ว โดยทันทีที่ก้าวขึ้นไปนั่งอยู่หลังพวงมาลัย ทางทีมงาน BoxzaRacing ขอสารภาพตรงนี้เลยว่า (แอบปรับโหมดเป็นโหมด Sport) เพื่อความเร้าใจถึงขีดสุด โดยโหมด Sport ของ BMW 5 Series จะเป็นการปรับใน 3 ส่วน ได้แก่ เครื่องยนต์, เกียร์ และพวงมาลัย เพื่อให้มีความสปอร์ต และฉับไวมากยิ่งขึ้น

 

แรงม้าระดับ 252 ตัว ลงพื้นครบทุกตัว เร่งจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลา 6.2 วินาที ไม่มีโกหก

 

          เมื่อเริ่มทดสอบ ทางทีมงาน BoxzaRacing ก็ไม่รอช้า จัดเต็มให้เห็นอาการกันไปเลย เริ่มจากการขับแบบสลาลอม (Slalom) แบบไม่ใช้เบรคเข้าช่วย การตอบสนองของระบบช่วงล่าง และพวงมาลัย ถือว่าทำได้ดีเกินคลาด มีความแม่นยำ และฉับไว ไว้ใจได้ รวมไปถึงระบบ DSC ที่เข้ามาให้การช่วยเหลือเป็นระยะๆ แบบไม่ทำให้เสียอาการ การเข้าโค้งในความเร็วสูง หรือแบบ U-Turn ก็ทำได้อย่างแม่นยำ โดยมีอาการอันเดอร์สเตียร์ (Understeer) บ้างเล็กน้อย แต่ระบบ DSC ก็จัดการให้อยู่หมัด เข้าสู่ทางตรง จากที่ทาง BMW ได้เคลมไว้ว่า สามารถให้อัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ได้ในระยะเวลาเพียง 6.2 วินาที ถือเป็นเรื่องจริง เพราะทางทีมงาน BoxzaRacing ได้พิสูจน์มาแล้วกับตัวเอง อีกทั้งความเร็วปลายยังพุงทะยานแบบไม่มีชะงัก แต่น่าเสียดายที่ระยะทางมีเพียง 402 เมตร แต่แอบกระซิบเลยว่า เกือบๆ แตะ 200 กม./ชม. เหมือนกัน

 

BMW 520d Luxury สามารถเข้าโค้งได้อย่างแม่นยำ แม้ถนนจะเปียกลื่น

 

เฉียบคม แม่นยำ ทุกการเคลื่อนไหว

 

          เมื่อคุ้นเคย และเข้าใจตัวรถทั้ง 2 รุ่นได้อย่างถ่องแท้ ก็ถึงคราวประลองฝีไม้ลายมือกันในสถานีที่ 3 ซึ่งเป็นการขับขี่แบบสลาลอม (Slalom) แล้ว U-Turn กลับมาสลาลอม (Slalom) อีกครั้ง พร้อมทั้งต้องเบรคให้อยู่ในช่องที่ Instructor ได้กำหนดเอาไว้ ซึ่งเป็นการแข่งขันแบบจับเวลา โดยใช้ BMW 5 Series รุ่น BMW 520d Luxury เป็นตัวทดสอบ โดยในสถานีนี้ ทาง Instructor ได้ให้คำแนะนำว่าควรใช้คันเร่งให้เหมาะสม และสามารถปล่อยให้ตัวรถมีอาการได้อย่างเต็มที่ไม่มีกั๊ก ไม่มีหวงยาง ว่าแล้วก็ไม่รอช้า ปิดประปรับเป็นโหมด Sport ใส่เต็มแบบไม่มียั้ง โดยเป็นการวอร์มก่อน 3 รอบ และจับเวลาจริงในรอบที่ 4 ซึ่งจากการที่ใส่เต็ม เข้าหนักทุกโค้ง ก็รับรู้ได้ถึงความนิ่งสงบของเจ้า BMW 520d Luxury ที่ไม่อาการที่รู้สึกว่าควบคุมไม่ได้เลยแม้แต่น้อย คันเร่ง และเบรค รวมไปถึงระบบช่วงล่างมีความสัมพันธ์กันอย่างลงตัว ควบคุมง่าย และแม่นยำ ซึ่งในรอบจับเวลาทางทีมงาน BoxzaRacing ทำเวลาต่อรอบได้ 24.05 วินาที โดยเวลาที่เร็วที่สุดจากการทดสอบของบรรดาสื่อมวลชนทั้งหมดอยู่ที่ 22.51 วินาที ซึ่งถือเป็นเวลาที่ทำไม่ได้อย่างแน่นอน ถ้าไม่ใช่ BMW 5 Series รุ่นใหม่นี้

 

คณะสื่อมวลชนที่เข้าร่วมทดสอบ The All-New BMW 5 Series

 

          สำหรับการทดสอบในครั้งนี้ ทางทีมงาน BoxzaRacing ต้องขอขอบคุณ บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย ที่พาไปสัมผัสประสบการณ์การขับขี่ที่เร้าใจ ภายใต้ยนตรกรรมสปอร์ตซีดานโฉมใหม่ The All-New BMW 5 Series ซึ่งทั้ง 2 รุ่น ถือเป็นยนตรกรรมที่เปี่ยมไปด้วยสมรรถนะ และเทคโนโลยีอันล้ำสมัย กับราคาค่าตัวที่ 3,899,000 บาท สำหรับรุ่น BMW 520d Luxury และราคา 4,399,000 บาท สำหรับรุ่น BMW 530i M Sport ถือว่าคุ้มค่ามากๆ

รถซื้อสอง ซื้อขายรถ ของแต่งรถ

ข่าวที่ใกล้เคียง

แสดงความคิดเห็นด้วย Facebook