Honda Civic Hatchback
Honda Civic Hatchback เปิดตัวในประเทศไทยไปเป็นที่เรียบร้อย หลังจากมีเสียงเรียกร้องจากสาวกตัว H กันมาอย่างหนาหูว่า อยากให้ทางค่ายส่งตัวตายตัวแทนแฮทช์แบคระดับตำนานจากค่าย Honda ที่เคยออกมาโลดแล่นบนท้องถนนเมืองไทยเมื่อกว่า 20 ปีก่อน ซึ่งด้วยความนิยมที่ยาวนานนั้นเอง ทำให้ในปัจจุบัน เรายังได้เห็น Honda Civic Hatchback ภายใต้รหัสตัวถัง EG ยังคงวนเวียนอยู่บนท้องถนนบ้านเราอย่างต่อเนื่อง
เรียกได้ว่าเป็น Talk of the town ตั้งแต่ก่อนเปิดตัวเลยทีเดียว สำหรับ Honda Civic เจนเนอเรชั่นที่ 10 ที่มาในดีไซน์ที่ดูล้ำสมัย สปอร์ต โฉบเฉี่ยว ซึ่งสร้างปรากฏการณ์ในตลาดรถยนต์เมืองไทยได้แบบเกินคาด ด้วยยอดขายจนถึงปัจจุบันกว่า 30,000 คัน จนกระทั่งทางค่ายต่อยอดด้วย Honda Civic Hatchback ที่มาเป็นอีกหนึ่งทางเลือกของการใช้งานที่หลากหลาย และภาพลักษณ์ที่โดนใจยิ่งขึ้น โดยในโฉม Hatchback นั้น เปิดตัวมาเพียงรุ่นย่อยเดียวที่ราคา 1,169,000 บาท ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นค่าตัวที่หลายๆ คนต้องร้องว้าวกันเลยทีเดียว
ไฟหน้า LED ดีไซน์ดุดัน พร้อมด้วย LED Daylight
ไฟท้ายดีไซน์ C-Shape เอกลักษณ์แห่งความเป็น Civic
Honda Civic Hatchback มาพร้อมภาพลักษณ์ที่ดูเป็นสปอร์ตหรู เช่นเดียวกับรุ่นซีดาน โดยยังคงไว้ซึ่งอุปกรณ์มาตรฐานเทียบเท่ารุ่น RS Turbo ที่ถือว่าเป็นรุ่นท็อปของ Civic เจนเนอเรชั่นปัจจุบัน ไม่ว่าจะป็นในส่วนของไฟหน้าดีไซน์สปอร์ตที่จัดเต็มทัศนวิศัยด้วยระบบส่องสว่างแบบ LED รวมไปถึง Paddle Shift ที่ช่วยเติมฟีลลิ่งการขับขี่ให้เร้าใจมากยิ่งขึ้น โดยความต่างแบบชัดเจนจะอยู่ที่ส่วนท้ายที่มีการต่อด้านบนให้ยาวมาด้านหลังกว่ารุ่นซีดาน ซึ่งแน่นอนว่าช่วยเพิ่มพื้นที่ในการเก็บสัมภาระด้านท้าย ส่งผลให้ Honda Civic Hatchback มีพื้นที่เก็บสัมภาระด้านหลังถึง 414 ลิตร โดยมีเงื่อนไข คือ ต้องพับเบาะหลังที่สามารถเลือกได้ตามต้องการแบบ 60:40 นอกจากนี้ยังมาพร้อมม่านปิดสัมภาระที่สามารถเลือกเปิด – ปิด ได้ทั้งซ้ายและขวา เพื่อป้องกันการมองเห็นสัมภาระ นอกจากนี้ในรุ่น Hatchback ยังออกแบบให้มีระยะโอเวอร์แฮงค์ด้านหลังที่สั้นลง ช่วยส่งให้รถรุ่นนี้ ให้ฟีลลิ่งในการขับขี่ที่เป็นสปอร์ตยิ่งขึ้น
เรือนไมล์ TFT บอกค่าการทำงานได้หลากหลายรูปแบบ
ม่านปิดสัมภาระด้านท้าย ช่วยลดโอกาสในการถูกโจรกรรม
จุใจสำหรับพื้นที่เก็บสัมภาระด้านท้ายเมื่อใช้ร่วมกับการพับเบาะ
ภายในห้องโดยสารของ Honda Civic Hatchback ยังคงอัดแน่นด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกแบบครบครัน โดยยังคงยึดถือในหลักการ Man Maximum, Machine Minimum ซึ่งให้ความสำคัญกับผู้ขับขี่และผู้โดยสารเป็นหลัก สิ่งที่สังเกตได้อย่างชัดเจนเลยก็คือ การเลือกใช้วัสดุที่มีคุณภาพสูงมาเป็นส่วนประกอบภายใน ให้สัมผัสที่สื่อถึงความเป็นสปอร์ตพรีเมี่ยม กว้างขวาง สะดวกสบาย และดูทันสมัย ในส่วนของหน้าปัดเรือนไมล์มาพร้อมมาตรวัดในรูปแบบจอสี TFT ที่สามารถแสดงผลได้อย่างหลากหลายและครบถ้วนทุกข้อมูล ถัดออกมาเป็นที่อยู่ของพวงมาลัยแบบมัลติฟังค์ชั่นที่สามารถสั่งการลูกเล่นต่างๆ ได้แบบครบครัน พร้อมทั้งยังมี Paddle Shift ที่ช่วยเติมเต็มอารมณ์การขับขี่ที่เร้าใจยิ่งขึ้นอีกระดับ ในส่วนของคอนโซลกลางได้รับการออกแบบให้แยกเป็น 2 ชั้น พร้อมจัดวางสิ่งอำนวยความสะดวกให้สามารถใช้งานได้ง่าย ไม่ว่าจะเป็นระบบความบันเทิงที่มาพร้อมหน้าจอสัมผัส Advanced Touch ขนาด 7 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อที่หลากหลาย ส่วนเบาะนั่งมาพร้อมระบบปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง ในด้านคนขับ และ 4 ทิศทาง สำหรับผู้โดยสารตอนหน้า
ขุมพลัง 1.5 ลิตร เทอร์โบ ให้ความเร้าใจในระดับ 173 แรงม้า
สิ่งที่เหนือกว่าปุ่น Engine Start คือ ระบบสตาร์ทจากระยะไกลด้วยรีโมท
Paddle Shift เติมฟีลลิ่งการขับขี่ที่เร้าใจยิ่งขึ้น
หัวใจหลักแห่งความเป็น Honda Civic Hatchback อีกหนึ่งประการ คงหนไม่พ้นขุมพลังที่มาในรูปแบบเบ็นซิน 1.5 ลิตร เทอร์โบ ที่ได้รับการพัฒนาภายใต้เทคโนโลยี Earth Dream โดยมาในรูปแบบ DOHC 16 วาล์ว พร้อมระบบวาล์วแปรผัน Dual VCT จ่ายเชื้อเพลิงด้วยระบบ Direct Injection ตรงเข้าสู่ห้องเผาไหม้ เพื่อประสิทธิภาพสูงสุดในการจุดระเบิด ให้ทั้งพละกำลังบนพื้นฐานความประหยัด โดยทางค่ายเคลมไว้ว่าเครื่องยนต์บล็อคนี้ ให้กำลังเท่าเครื่องยนต์ในพิกัด 2.4 ลิตร โดยมีอัตราการสิ้นเปลืองเทียบเท่าเครื่องยนต์ 1.8 ลิตร เท่านั้น กำลังสูงที่สุดที่ทำได้ คือ 173 แรงม้า ที่ 5,500 รอบ/นาที พร้อมกับแรงบิด 220 นิวตัน-เมตร ที่เรียกมาใช้งานยาวๆ ตั้งแต่ 1,700 – 5,500 รอบ/นาที ส่งกำลังด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติ CVT ที่เน้นเรื่องความต่อเนื่อง นุ่มนวลในการใช้งาน
Auto Brake Hold ฟังค์ชั่นมากประโยชน์ในสภาพการจราจรที่แออัด
กล้องมองหลังปรับองศาได้ 3 ระดับ
Honda Civic Hatchback มาพร้อมโครงสร้างที่ได้รับการออกแบบให้มีความแข็งแกร่ง มีน้ำหนักเบา ผสานการทำงานกับชุดช่วงล่างแบบอิสระ 4 ล้อ โดยในด้านหน้ามาในแบบแม็คเฟอร์สันสตรัท และด้านหลังแบบมัลติลิ้งค์ โดยนับเป็นครั้งแรกที่มีการนำบู๊ชยางแบบไฮดรอลิคมาใช้เพื่อเสถียรภาพในการทรงตัว ด้านระบบบังคับเลี้ยวมาในรูปแบบดูอัลพีเนียน พร้อมพาวเวอร์ผ่อนแรงแบบไฟฟ้าที่ช่วยให้การบังคับควบคุมมีความเป็นธรรมชาติและบังคับทิศทางได้อย่างแม่นยำ นอกจากนี้ Honda Civic Hatchback ยังมาพร้อมฟังค์ชั่นโดนใจอื่นๆ อีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นระบบ Engine Remote Start ที่สามารถสตาร์ทเครื่องยนต์พร้อมเปิดระบบปรับอากาศได้จากระยะไกล เพื่อปรับอุณภูมิภายในห้องโดยสารก่อนเดินทาง, ถุงลมนิรภัย 6 ตำแหน่ง ระบบป้องกันล้อล็อค ABS, ระบบกระจายแรงเบรก EBD, ระบบควบคุมการทรงตัว VSA, ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HAS และที่ขาดไม่ได้เลยก็คือ Auto Brake Hold ที่ช่วยหน่วงเบรคอัตโนมัติโดยไม่ต้องเพยียบที่แป้นเบรค
ขุมพลังแรง เร่งแซงฉับไว ไต่ความเร็วได้อย่างต่อเนื่อง
ในโค้งมั่นใจ เกาะหนึบ เลี้ยวคมทุกองศา
สำหรับการทดลองขับ Honda Civic Hatchback ในครั้งนี้ ทางค่ายจัดเส้นทางทาง อ.หัวหิน – อ.แก่งกระจาน จะยะทางไป – กลับ ราว 240 กม. โดย BoxzaRacing เดินทางพร้อมเพื่อนสื่อมวลชนอีกหนึ่งท่าน และรับหน้าที่เป็นผู้โดยสารก่อนในเบื้องต้น ซึ่งการเป็นผู้โดยสารก่อน ทำให้มีโอกาสได้ทดลองฟังค์ชั่นภายในตัวรถหลายๆ อย่าง ไม่ว่าจะเป็นระบบปรับอากาศที่สามารถปรับอุณหภูมิได้อย่างอิสระ รวมถึงระบบเครื่องเสียงที่เชื่อมต่ออุปกรณ์ความบันเทิงได้อย่างหลากหลาย โดยไม่ต้องใช้ความพยายาม หรือสร้างความยุ่งยากมากนัก ดูแล้วน่าจะเป็นมิตรต่อผู้ใช้ได้มากทีเดียว ในส่วนของเบาะนั่งมาในรูปแบบสบายๆ ให้ความโอบกระชับแบบพอดีคำ ช่วยลดอาการเมื่อยล้าในขณะเดินทางได้เป็นอย่างดี พร้อมมีระบบช่วยเหลืออื่นๆ ที่ช่วยเติมความปลอดภัยได้ในขณะเดินทางได้อย่างเต็มพิกัด เช่น ระบบไฟฉุกเฉินที่กระพริบขึ้นมาโดยอัตโนมัติในกรณีที่มีการใช้เบรคอย่างรุนแรงจากเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด ในช่วงแรกของการเดินทางใช้ความเร็วค่อนข้างสูง ซึ่งดูน่าจะเกินมาตรฐานของระดับการขับขี่โดยทั่วไป แต่สถานการณ์ในภาพรวมก็ไม่ได้รู้สึกถึงความน่าหวาดเสียวหรือสถานการณ์ที่เกินจะควบคุมได้ใน Honda Civic Hatchback
ทรงตัวได้อย่างโดดเด่น แม้ในย่านความเร็วสูง
หลังจากที่เดินทางถึง อ.แก่งกระจาน ก็ได้เวลาสลับผู้ขับ BoxzaRacing ถึงเวลาในการวาดลวดลายแบบจัดหนัก จัดเต็มตามสไตล์ที่เคยปฏิบัติมาโดยตลอด ซึ่งเป็นโอกาสดีที่ระหว่างเส้นทางมีโค้งน้อยใหญ่ให้ได้ลองเล่น รวมไปถึงมีช่วงเนินต่างๆ ให้ได้ทดลองพละกำลังและฟีลลิ่งของตัวรถกันอย่างเต็มอิ่ม ซึ่งจากที่ได้ลองมากว่า 120 กม. ก็พบว่า Honda Civic Hatchback เป็นรถที่มีพละกำลังค่อนข้างสูง และถือว่าเพียงพอต่อทุกการใช้งาน ประหยัดในการขับขี่ทั่วๆ ไป และทรงพลังหากต้องการรีดเค้นขีดสุดแห่งสมรรถนะออกมา สามารถไต่ความเร็วได้อย่างต่อเนื่องในทุกย่านความเร็ว โดยที่ไม่ต้องเค้นคันเร่งมากเกินไปนัก ส่วนการเร่งแซง หากทำความเข้าใจกับจังหวะของคันเร่งได้เป็นอย่างดีแล้ว เรียกได้ว่าทำได้อย่างมั่นใจสูงสุด ระบบช่วงล่างให้ประสิทธิภาพในการทรงตัวที่โดดเด่นแม้ในย่านความเร็วสูง หรือแม้แต่ในโค้งรูปแบบต่างๆ ที่ยังคงให้ความมั่นใจกับผู้ขับขี่ได้อย่างเต็มเปี่ยม ไม่ได้แข็งจนรู้สึกว่ากระด้าง หรือนุ่มนวลจนขาดความกลมกล่อม การบังคับพวงมาลัยทำได้อย่างแม่นยำ ให้น้ำหนักที่พอเหมาะตามความเร็วที่ใช้ เช่นเดียวกับระบบเบรกที่ได้รับการพัฒนาไปมาก ออกแรงเท่าไหน ก็ให้ประสิทธิภาพในการชะลอความเร็วได้เท่านั้น ช่วยให้การบังคับควบคุม ทำได้แบบอยู่ในมือทุกการเคลื่อนไหว
Honda Civic Hatchback หากจะว่ากันตามเนื้อผ้า แล้วบอกว่านี่คือ ยนตรกรรมที่มีความเป็นที่สุดในคลาสก็คงจะไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะด้วยองค์ประกอบต่างๆ BoxzaRacing ดูแล้วว่าทางค่ายจัดมาให้ค่อนข้างที่จะลงตัวและมีเสน่ห์เหลือเกิน ตอบโจทย์ทั้งกับการใช้งานทั่วๆ ไป หรือแม้แต่การที่สายแต่งสายซิ่งจะนำไปต่อยอดในสไตล์ของตัวเอง ซึ่งผมกล้าพูดว่า...กับค่าตัวที่ 1,169,000 บาท ดูจะสมน้ำสมเนื้อกับสิ่งที่ได้รับจาก Honda Civic Hatchback อย่างแน่นอน
