เขียนโดย: Monster Racing

เมื่อ: 24 มีนาคม 2560 - 17:20

Isuzu Mu-X เอกลักษณ์แห่งเอกสิทธิ์ของยนตรกรรม PPV สปอร์ตพรีเมี่ยม ยอดเยี่ยมเรื่องสมรรถนะ

 

          Isuzu เชิญสื่อมวลชนร่วมสัมผัสเอกลักษณ์แห่งเอกสิทธิ์กับ “The New Isuzu MU-X Press Trip” การเดินทางครั้งแรกหลังจากเปิดตัวสู่ตลาดเมื่อต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ร่วมสัมผัสประสบการณ์เหนือชั้นของรถยนต์อเนกประสงค์สุดหรูที่ปรับโฉมใหม่ จัดเต็มทั้งภายนอก และภายใน เน้นความหรู งามสง่า ภายใต้นิยาม Signature of Privilege ที่มาพร้อมกับดีไซน์อันน่าหลงใหล และสมรรถนะน่าประทับใจ กับสถานที่ท่องเที่ยวที่งดงามในจังหวัดเชียงราย

 

The New Isuzu Mu-X

 

          สำหรับ The New Isuzu Mu-X ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันที่ 4 มีนาคมที่ผ่านมา เพื่อเป็นการตอกย้ำความสำเร็จของขุมพลัง Blue Power และเพื่อเป็นการเฉลิมฉลองครบรอบ 60 ปี ของ Isuzu ในการทำตลาดประเทศไทย ที่ครองใจมหาชนในทุกยุคทุกสมัย และล่าสุดทาง บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด ได้ร่อนจดหมายเชิญทีมงาน BoxzaRacing เหินฟ้าจากกรุงเทพฯ ไปสัมผัสประสบการณ์ขับขี่ที่สุดแสนประทับใจ ณ ดอยตุง จังหวัดเชียงราย ภายใต้ยนตรกรรม PPV สปอร์ตพรีเมี่ยม The New Isuzu Mu-X

 

ดีไซน์สปอร์ตหรู โฉบเฉี่ยวสะกดทุกสายตา

 

ไฟหน้าดีไซน์ใหม่ แบบ Bi-LED ปรับระดับสูง-ต่ำอัตโนมัติ พร้อมไฟ Daytime Running Light แบบ LED Guiding Light

 

ไฟท้าย LED ดีไซน์ใหม่ แบบ Sharp Horizon

 

          โดย The New Isuzu Mu-X ได้รับการปรับโฉมครั้งใหญ่ ให้สง่างาม และโดดเด่นยิ่งขึ้น ในสไตล์สปอร์ตพรีเมียม โฉบเฉี่ยวตั้งแต่หัวจรดท้าย อาทิ กระจังหน้าดีไซน์ใหม่ แบบ Sport 3D, ไฟหน้าดีไซน์ใหม่ แบบ Bi-LED ปรับระดับสูง-ต่ำอัตโนมัติ พร้อมไฟ Daytime Running Light อยู่ในโคมเดียวกัน โดดเด่นด้วยเส้นนำแสง LED Guiding Light เพิ่มลุคโฉบเฉี่ยวทันสมัยแบบรถยนต์นั่งระดับหรู, กันชนหน้า – หลังดีไซน์ใหม่เสริมลุคสปอร์ตให้ทันสมัยยิ่งขึ้น พร้อมไฟท้าย LED ดีไซน์ใหม่ แบบ Sharp Horizon พร้อมติดตั้ง Roof Spoiler ใหม่สีทูโทน ปิดท้ายด้วยล้ออัลลอยดีไซน์ใหม่ขนาด 18 นิ้ว Cross Star อันสง่างาม

 

ห้องโดยสารใหม่สีทูโทน ภายใต้ Universal Design ลงตัวกับทุกไลฟ์สไตล์

 

เบาะนั่งกึ่งหนังแท้ดีไซน์ใหม่ Sport Cut โอบกระชับรับกับสรีระ

 

          ไม่เพียงแต่ภายนอกเท่านั้นที่ได้รับการอัพเกรดใหม่ ด้านภายในห้องโดยสารก็ได้รับการปรับปรุงใหม่ ให้มีความหรูหรา สะดวกสบาย และทันสมัยตามขึ้นไปด้วย เริ่มจากห้องโดยสารใหม่สีทูโทน Sandstone Beige, เบาะนั่งดีไซน์ใหม่ Sport Cut ที่โอบกระชับรับกับสรีระได้ดี, ลายไม้ Fine Walnut ที่แผงข้างประตู, หัวเกียร์ และคอนโซลหน้าสีดำตัดด้วยลายไม้ Fine Walnut เสริมลุคให้ดูหรูหรายิ่งขึ้น ซึ่งเป็นที่ประทับของหน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว ที่ให้ความบันเทิงเต็มรูปแบบ สามารถเชื่อมต่อการใช้งานทั้งแบบไร้สาย หรือผ่านจุดเชื่อมต่อ USB, AUX พร้อม Built in Navigator และกล้องมองหลังขณะถอยจอดในจอเดียว นอกจากนั้น The New Isuzu Mu-X ยังมาพร้อมกล้องหน้ารถฝังในกระจกมองหลัง และจอเพดานหลังขนาด 10.5 นิ้ว คอยให้ความบันเทิงแก่ผู้โดยสารตอนหลังตลอดการเดินทาง

 

The New Isuzu Mu-X มีให้เลือกทั้งเครื่องยนต์ขนาด 1.9 Ddi Blue Power และ 3.0 Ddi Blue Power

 

The New Isuzu Mu-X เดินทางถึงร้าน Hacienda เพื่อรับประทานอาหารกลางวัน

 

          สำหรับการเดินทางในครั้งนี้ ทางทีมงาน BoxzaRacing ได้สัมผัสความเร้าใจใน The New Isuzu Mu-X ภายใต้เครื่องยนต์ 3.0 Ddi Blue Power รหัส 4JJ1-TCX สมรรถนะสูงสุด 177 แรงม้า ที่ 3,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงแบบต่อเนื่อง (High Flat-torque) ถึง 380 นิวตัน-เมตร ที่ 1,800-2,600 รอบ/นาที โดยได้รับการพัฒนาให้ประหยัดน้ำมันได้ดีเยี่ยม และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมยิ่งขึ้น ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด พร้อมโหมดการขับขี่แบบสปอร์ต Rev Tronic โดยในการเดินทางครั้งนี้ ขบวนคาราวาน The New Isuzu Mu-X ได้โลดแล่นผ่านตัวเมืองจังหวัดเชียงราย เพื่อไปแวะเติมพลัง ณ ร้านแฮซซิเอนด้า คอฟฟี่เฮ้าส์ (Hacienda Coffee House) ร้านอาหารสไตล์ยุโรป ตกแต่งด้วยตุ๊กตาเซรามิค พร้อมเสิร์ฟอาหารฟิวชั่นรสชาติกลมกล่อม ที่ทางร้านคัดวัตถุดิบมาอย่างพิถีพิถันให้ทุกคนได้อิ่มอร่อย ก่อนจะออกเดินทางกันต่อเพื่อมุ่งหน้าไปยังดอยตุง

 

ขบวนคาราวาน The New Isuzu Mu-X เดินทางมุ่งหน้าไปยังดอยตุง

 

The New Isuzu Mu-X เอาอยู่ทุกสถานการณ์ ลุยได้ทุกเส้นทาง

 

The New Isuzu Mu-X มาพร้อมระบบ HSA (Hill Start Assist) และ HDC (Hill Decent Control)

 

          โดยเส้นทางที่มุ่งหน้าไปยังดอยตุงนั้น เป็นการลัดเลาะสันเขา ไต่เนิน สลับกับโค้งซ้าย-ขวา กว่า 100 โค้ง ภายใต้ทัศนียภาพอันเป็นธรรมชาติของสองข้างทาง ทำให้ทีมงาน BoxzaRacing ได้สัมผัสสมรรถนะของขุมพลังเครื่องยนต์ 3.0 Ddi Blue Power และระบบช่วงล่างแบบ 5-Link ได้อย่างเต็มที่ ซึ่ง The New Isuzu Mu-X ก็ได้แสดงศักยภาพให้เห็นแล้วว่า สามารถเอาอยู่ในทุกสถานการณ์อย่างแท้จริง ไม่ว่าจะเป็นโค้งแคบ โค้งกว้างแบบใช้ความเร็ว The New Isuzu Mu-X ก็สามารถจัดการได้อยู่หมัด ซึ่งเป็นผลพวงจากการกระจายน้ำหนักที่เป็นเลิศ ด้วยการจัดวางตำแหน่งเครื่องยนต์เยื้องหลังเพลาหน้าแบบ Semi-Midship เช่นเดียวกับรถสปอร์ต ผสานการทำงานของช่วงล่างหลังแบบ 5-Link ที่ให้การทรงตัวดีเยี่ยม ยึดเกาะถนนพร้อมมอบการขับขี่ที่แสนนุ่มสบาย ให้ทุกเส้นทางเต็มไปด้วยความสมบูรณ์แบบอย่างแท้จริง นอกจากนั้น The New Isuzu Mu-X ยังมาพร้อมระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HSA (Hill Start Assist) และระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน HDC (Hill Decent Control) ที่ทำให้การเดินทางในครั้งนี้สะดวกสบาย และปลอดภัยไร้กังวล

 

คณะสื่อมวลชนร่วมถ่ายภาพ ณ พระตำหนักดอยตุง

 

          จุดท่องเที่ยวแรกที่พลาดไม่ได้ “โครงการพัฒนาดอยตุง” ที่เกิดขึ้นตามพระราชปณิธาน และพระราชกระแสรับสั่งว่า "ฉันจะปลูกป่าบนดอยตุง" ของสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี หรือ สมเด็จย่าของชาวไทย จนสามารถปรับเปลี่ยนป่าเสื่อมโทรมจากการบุกรุกทำลายป่า และปลูกฝิ่นให้กลายเป็นพื้นที่ป่าไม้แห่งต้นน้ำลำธารที่อุดมสมบูรณ์ โดยมี “พระตำหนักดอยตุง” ที่ประทับของพระองค์ท่านที่งดงาม ในสไตล์สวิสเซอร์แลนด์ ผสมผสานกับสถาปัตยกรรมล้านนาเป็นแลนด์มาร์คสำคัญ อีกทั้งยังมี “สวนแม่ฟ้าหลวง” สวนไม้ดอกไม้ประดับเมืองหนาวขนาด 30 ไร่ บริเวณลานหน้าพระตำหนัก ที่ทำให้คนไทยที่ไม่มีโอกาสไปต่างประเทศได้เห็นไม้ดอกเมืองหนาวนานาชนิด

 

สื่อมวลชนได้สัมผัสประสบการณ์อันแปลกใหม่บน Doitung Tree Top Walk

 

          นอกจากนี้สื่อมวลชนยังได้สัมผัสประสบการณ์อันแปลกใหม่ กับ “Doitung Tree Top Walk” กิจกรรมใหม่ภายในสวนแม่ฟ้าหลวงด้วยทางเดินเรือนยอดไม้ยาว 300 เมตร และสูงกว่า 30 เมตรจากพื้นดิน จนได้สัมผัสความอุดมสมบูรณ์ของผืนป่าอันร่มรื่น บนสะพานสลิงที่ยึดโยงกับต้นไม้ใหญ่ ที่แกว่งไกวไปมาพอให้ตื่นเต้นขณะเดินผ่าน แต่มีความปลอดภัยสูงด้วยสลิงที่ติดอยู่กับตัวซึ่งรองรับน้ำหนักได้ 1.2 ตัน สร้างความประทับใจมิรู้ลืมสำหรับผู้ที่ได้มาสัมผัสกับกิจกรรมต่างๆ ณ สวนแม่ฟ้าหลวงแห่งนี้

 

เดินทางมาชมพระอาทิตย์ตก ณ ฐานปฏิบัติการดอยช้างมูบ

 

สื่อมวลชนร่วมถ่ายภาพ ณ แนวเขตชายแดนไทย-เมียนมา

 

          หลังจากสนุกสนานกับกิจกรรม ณ สวนแม่ฟ้าหลวง คณะสื่อมวลชนได้ออกเดินทางต่อเพื่อชมอาทิตย์อัสดง ณ ดอยช้างมูบ ซึ่งห่างจากสวนแม่ฟ้าหลวง ประมาณ 7 กิโลเมตร ซึ่งดอยช้างมูบนั้น เป็นดอยที่สูงที่สุดบนแนวเทือกเขาดอยนางนอน มีความสูง 1,485 เมตรจากระดับน้ำทะเล บนแนวสันเขาแบ่งเขตแดนไทย-พม่า ซึ่งเป็นจุดชมความงามของทะเลหมอก และพระอาทิตย์ตกที่สวยงาม หลังจากนั้นจึงเข้าพัก ณ ดอยตุง ลอด์จ ซึ่งเดิมเป็นสำนักงานและที่พักของหน่วยอนุรักษ์ต้นน้ำที่ 31 กรมป่าไม้ และเป็นบ้านพักสำหรับขบวนเสด็จ และพนักงานของโครงการพัฒนาดอยตุง ปัจจุบันเปิดเป็นที่พักให้นักท่องเที่ยวได้มีโอกาสมาค้างคืนบนดอยตุง และนำรายได้ไปดูแลรักษาห้องพัก และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ดอยตุง ลอด์จ จึงเป็นแหล่งสร้างงานอีกแห่งหนึ่ง และช่วยให้คนในพื้นที่ได้เรียนรู้วิชาชีพด้านการโรงแรม มีรายได้ที่ดีและมั่นคง ไม่ต้องทิ้งถิ่นฐานไปหางานทำในถิ่นอื่น ณ ดอยตุง ลอดจ์ แห่งนี้ ทำให้พวกเราได้อิ่มเอม และเติมเต็มความรู้สึกดีๆ ไปกับบรรยากาศที่แนบชิดกับธรรมชาติ อากาศเย็นสบาย แม้จะย่างเข้าสู่ฤดูร้อนในเดือนเมษายน

 

เยี่ยมชม พิพิธภัณฑ์บ้านดำ ซึ่งสร้างขึ้นโดย อาจารย์ถวัลย์ ดัชนี ศิลปินแห่งชาติ

 

พิพิธภัณฑ์บ้านดำ

 

          ในเช้าวันรุ่งขึ้น คณะสื่อมวลชน ได้แวะเยี่ยมชม พิพิธภัณฑ์บ้านดำ ซึ่งสร้างขึ้นโดย อาจารย์ถวัลย์ ดัชนี ศิลปินแห่งชาติ สาขาทัศนศิลป์ (จิตรกรรม) ลักษณะของบ้านดำแห่งนี้ จะเป็นกลุ่มบ้านที่เป็นศิลปะแบบล้านนา โดยทุกหลังทาด้วยสีดำ ซึ่งเป็นที่มาของคำว่า “บ้านดำ” ภายในบ้านแต่ละหลังนั้นถูกประดับด้วยไม้แกะสลักที่มีลวดลายงดงาม นอกจากไม้แกะสลักแล้วยังประดับด้วยเขาสัตว์ และกระดูกสัตว์ ถึงแม้ในวันนี้ อาจารย์ถวัลย์ จะถึงแก่อนิจกรรมไปแล้ว แต่บ้านดำ ก็ยังเปิดให้นักท่องเที่ยวได้เข้ามาสัมผัสความงดงาม เป็นการปิดท้ายทริปก่อนโบกมืออำลาเชียงรายด้วยความม่วนอกม่วนใจ๋ แล้วขึ้นเครื่องกลับถึงกรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ ร่วมติดตามข่าวสารอีซูซุได้ที่ http://isuzu-tis.com/

รถซื้อสอง ซื้อขายรถ ของแต่งรถ

ข่าวที่ใกล้เคียง

แสดงความคิดเห็นด้วย Facebook