Isuzu จัดทริปย้อนวันวาน ณ เมืองกาญจนบุรี ไปกับ Isuzu D-Max V-Cross Max 4x4

          กลุ่มตรีเพชรประเดิมกิจกรรมฉลองเปิดศักราชใหม่ อีซูซุดีแมคซ์ บลูเพาเวอร์ เพรสทริป (Isuzu D-Max Blue Power Press Trip) นำคาราวานสื่อมวลชนมุ่งหน้าย้อนวันวานกับเส้นทางสู่เมืองประวัติศาสตร์ “กาญจนบุรี” ไปนุ่งโจงห่มสไบ สวมใส่เสื้อราชปะแตน ณ “เมืองมัลลิกา ร.ศ.๑๒๔” แหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมแห่งใหม่ที่เพิ่งแกะกล่องไปหมาดๆ เมื่อปลายเดือนตุลาคมปีที่แล้ว และไปเพลิดเพลินกับบรรยากาศริมน้ำบนจุดที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของแม่น้ำแควน้อยที่ “ครอสทู ริเวอร์แคว รีสอร์ท” (X2 River Kwai Resort) ที่พักสุดเก๋ได้กลิ่นอายแบบอินดัสเตรียลชิค พร้อมสัมผัสความเร้าใจ และความสะดวกสบายอันเหนือระดับไปกับ Isuzu D-Max V-Cross Max 4x4 สปอร์ตออฟโรดรุ่นใหม่ล่าสุด

          หลังจากประสบความสำเร็จในการเดินหน้าสร้างมาตรฐานใหม่ของรถปิกอัพเมืองไทยด้วย “นวัตกรรมเปลี่ยนโลก” จนทำให้ยอดขายรถในตระกูล “อีซูซุบลูเพาเวอร์” แรงไม่หยุดฉุดไม่อยู่จนถึงปัจจุบัน ล่าสุด Isuzu เสิร์ฟความเร้าใจบทใหม่แห่งสปอร์ตออฟโรดเอาใจขาลุย ด้วยการเปิดตัว Isuzu D-Max V-Cross Max 4x4 สปอร์ตออฟโรดรุ่นล่าสุด ที่สุดแห่งปรากฏการณ์รถ 4x4 ที่พลิกโฉมด้านดีไซน์ใหม่ ทั้งภายนอก และภายใน ให้มีความดุดันเร้าใจ เข้มขึ้นทุกองศา เท่ขึ้นทุกมุมมอง ออกสู่ตลาดเมื่อปลายปีที่แล้วจนเป็นที่มาของการเดินทางในทริปนี้

ขบวน Isuzu D-Max V-Cross Max 4x4 เริ่มออกเดินทางจาก บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด

          โดยตามกำหนดการเริ่มต้นขึ้นในช่วงเช้าของวันอังคารที่ 31 มกราคม ณ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด ซึ่งเป็นจุดนัดหมายรวมพลผู้สื่อข่าวที่จะร่วมเดินทางในกิจกรรมครั้งนี้ โดยทาง Isuzu ได้จัดเตรียมรถปิกอัพ Isuzu D-Max V-Cross Max 4x4 สปอร์ตออฟโรดรุ่นใหม่ล่าสุด จำนวน 9 คัน ให้เป็นยานพาหนะคู่ใจในเส้นทางกรุงเทพฯ – กาญจนบุรี เพื่อสัมผัสสมรรถนะของการลุยที่เต็มประสิทธิภาพ ในขุมพลังเครื่องยนต์ 3.0 Ddi Blue Power ภายใต้แรงม้ากว่า 177 ตัว

          สำหรับ Isuzu D-Max V-Cross Max 4x4 สปอร์ตออฟโรดรุ่นใหม่ล่าสุด ได้มีการอัพเกรดด้านดีไซน์ใหม่ทั้งภายนอก และภายในให้มีความเป็นสปอร์ตออฟโรดที่ดุดันยิ่งขึ้น ด้วยชุดแต่งโทนสีเทาดำ ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของกระจังหน้า, กรอบไฟตัดหมอก, โลโก้ V-Cross ด้านข้างประตูหน้า, กระจกมองข้าง, ชุดบันไดข้าง, Roof Rack หลังคา รวมไปถึงฝาครอบขอบกระบะท้าย และชุดกันชนท้าย จึงส่งผลให้ Isuzu D-Max V-Cross Max 4x4 กลายเป็นสปอร์ตออฟโรดที่มีความดุดันเร้าใจทุกมุมมอง ผสานกับความเท่ลงตัวที่สะกดทุกสายตา

Isuzu D-Max V-Cross Max 4x4 เดินทางถึงเมืองมัลลิกา ร.ศ.๑๒๔ จ.กาญจนบุรี

          ขบวน Isuzu D-Max V-Cross Max 4x4 สปอร์ตออฟโรดรุ่นใหม่ล่าสุด เคลื่อนตัวออกจาก บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด มุ่งหน้าสู่ จ.กาญจนบุรี ซึ่งใช้เวลาในการเดินทางเพียง 2 ชั่วโมง ขบวนคาราวานก็ได้มาถึงจุดหมายของการเดินทาง นั่นคือ “เมืองมัลลิกา ร.ศ.๑๒๔” จ.กาญจนบุรี ซึ่งคณะสื่อมวลชนต่างก็ได้สัมผัสถึงสรรถนะอันมาจากขุมพลัง 3.0 Ddi Blue Power รุ่น 4JJ1-TCX สมรรถนะสูงสุด 177 แรงม้า ที่ 3,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงแบบต่อเนื่อง (High Flat-torque) ถึง 380 นิวตัน-เมตร ที่ 1,800-2,600 รอบ/นาที โดยได้รับการพัฒนาให้ประหยัดน้ำมันได้ดีเยี่ยม และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมยิ่งขึ้น ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด พร้อมโหมดการขับขี่แบบสปอร์ต Rev Tronic และสวิตช์ปรับระบบการขับเคลื่อนระหว่าง 2 ล้อ และ 4 ล้อ ด้วยระบบมอเตอร์ไฟฟ้า Terrain Command

คณะสื่อมวลชนร่วมถ่ายภาพหมู่ ณ เมืองมัลลิกา ร.ศ.๑๒๔

          เมืองมัลลิกา ร.ศ.๑๒๔ เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมแห่งใหม่ ที่จะพาทุกคนย้อนกลับไปยังยุคทองในช่วงปลายสมัยรัชกาลที่ 5 ตั้งอยู่ตรงทางเข้าปราสาทเมืองสิงห์ อำเภอไทรโยค ห่างจากตัวเมืองกาญจนบุรีไป 32 กิโลเมตร ภายในมีเนื้อที่กว่า 60 ไร่ ซึ่งจะมีการจำลองความเป็นอยู่ของชาวสยามในอดีต หลังผ่านกำแพงสีขาวสูงใหญ่อลังการ สัมผัสวิถีชีวิตของผู้คนในสมัยก่อน รวมทั้งบ้านเรือน ตลาด ร้านค้า และอาหารไทยรสเลิศบนหมู่เรือนไทยที่จัดเตรียมไว้รับแขกบ้านแขกเมือง

สัมผัสวิถีความเป็นอยู่ของชาวสยามในช่วงปลายสมัยรัชกาลที่ 5

เมืองมัลลิกา ร.ศ.๑๒๔

ทีมงาน Isuzu และคณะสื่อมวลชนสวมชุดไทย เก็บภาพความประทับใจเมืองมัลลิกา ร.ศ.๑๒๔

          สื่อมวลชนได้สัมผัสรสชาติไทยแท้ ร่วมกับเสียงเจรจาเจื้อยแจ้ว “เจ้าคะ”,  “เจ้าค่ะ”, “ขอรับ” จากบรรดาแม่ค้าพ่อขายหลากรุ่นอายุในชุดแต่งกายแบบโบราณ เชื้อเชิญให้ลองชิมขนม และผลไม้ไปตลอดทาง หลังจากอิ่มท้องใครที่อยากเก็บภาพประทับใจก็สามารถไปเช่าชุดไทย มีทั้งชุดโจงกระเบนห่มสไบหรือเสื้อลูกไม้ ชุดราชปะแตน ชุดกุยเฮง ฯลฯ มาแต่งเดินเที่ยวถ่ายรูป จับจ่ายซื้อของในย่านการค้า แวะชิมขนมไทยสูตรชาววังขนานแท้ แต่การซื้อสิ่งใดในเมืองนี้ก็ต้องแลกเหรียญสตางค์มีรูตรงกลางเพื่อเอาไว้จับจ่ายใช้สอย การลงรายละเอียดกันทุกจุดทำให้ เมืองมัลลิกา ร.ศ.๑๒๔ แห่งนี้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม และวิถีชุมชนที่เหมือนมีชีวิตจริงๆ เพื่อถ่ายทอดวิถีชีวิต และภูมิปัญญญาของชาวไทยสมัยโบราณ ตอบโจทย์นักท่องเที่ยวที่ต้องการสัมผัสบรรยากาศที่แท้จริงในสมัยก่อน รวมทั้งส่งต่อความทรงจำอันงดงามในอดีตที่เกือบจะเลือนหายสู่คนรุ่นหลัง

X2 River Kwai Resort ที่พักสุดเท่ เก๋มีสไตล์ไม่เหมือนใคร

บรรยากาศภายในห้องพัก X2 River Kwai Resort

          จากนั้นขบวนคาราวานได้ออกเดินทางต่อไปยัง “ครอสทู ริเวอร์แคว รีสอร์ท” (X2 River Kwai Resort) ที่พักสุดเท่ เก๋มีสไตล์ไม่เหมือนใคร อยู่ติดริมแม่น้ำแคว หนึ่งในสถานที่ “ห้ามพลาด” ของจังหวัดกาญจนบุรี สามารถนั่งชมทัศนียภาพของแม่น้ำแควน้อยได้อย่างไม่มีอะไรมาบดบังได้พักใหญ่ๆ ก่อนที่ตะวันจะลับขอบฟ้า ที่พักตกแต่งสไตล์อินดัสเทรียลเน้นงานไม้ งานเหล็กได้อย่างลงตัว อีกทั้งมีความเป็นส่วนตัวสูง โดยห่างจากตัวเมืองเพียง 15 กิโลเมตร ไม่ไกลจากแหล่งท่องเที่ยวยอดฮิต ไม่ว่าจะเป็นสะพานข้ามแม่น้ำแคว, ทางรถไฟสายมรณะ, สุสานสัมพันธมิตร หรืออื่นๆ ที่ชวนให้ย้อนรำลึกถึงประวัติศาสตร์ยุคสงครามโลก ก่อนเติมเต็มมื้อเย็นสุดพิเศษด้วยอาหารรสเลิศจาก The Bridge Bar & Bistro ห้องอาหารของรีสอร์ท และพักผ่อนในห้องพักริมน้ำที่มีสายลมโชยสดชื่นตลอดทั้งคืนเพื่อเก็บพลังจากธรรมชาติ และความประทับใจในทริปสนุกๆ ที่ Isuzu จัดขึ้นเพื่อตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ที่มีไลฟ์สไตล์ชอบชีวิตอิสระ ไร้ขีดจำกัดได้เป็นอย่างดี สำหรับผู้ที่สนใจติดตามความเคลื่อนไหวเพิ่มเติมได้ที่ www.isuzu-tis.com และ LINE: @isuzuthai