Mercedes-Benz GLE500e 4MATIC
โลดแล่นไปกับยนตรกรรมเหนือระดับสำหรับผู้นำตัวจริง เมื่อทางค่ายดาวสามแฉกนำเสนอ Mercedes-Benz GLE500e 4MATIC เอสยูวีปลั๊กอินไฮบริดรุ่นใหม่ล่าสุด ที่มอบความแข็งแกร่งและความสง่างามของภายนอก, ความหรูหรา สะดวกสบายเหนือระดับภายในห้องโดยสาร พร้อมด้วยเทคโนโลยีปลั๊กอินไฮบริด ที่ได้รับการพัฒนาเพื่อรีดขีดสุดแห่งสมรรถนะ ร่วมกับการทำงานของระบบเกียร์อัตโนมัติ 7G-TRONIC PLUS แบบ DIRECT SELECT และระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ 4 MATIC ซึ่งในเวลานี้ มีให้เลือกด้วยกันถึง 2 รุ่นย่อย ได้แก่รุ่น GLE500e 4MATIC Exclusive และรุ่น GLE500e 4MATIC AMG Dynamic
ภายนอก
Mercedes-Benz GLE500e 4MATIC Exclusive
Mercedes-Benz GLE500e 4MATIC ได้รับการออกแบบที่ผสมผสานทั้งความแข็งแกร่งและความหรูหราเข้าด้วยกัน ด้านออพชั่นมาตรฐานภายนอก ประกอบไปด้วยกระจังหน้าพร้อมเครื่องหมายการค้าดาวสามแฉก คาดด้วยแถบโครเมียม 2 แถบ, กันชนดีไซน์สปอร์ต, ราวหลังคาอลูมิเนียม, ไฟหน้า LED Intelligent Light System ที่ได้รับการเสริมระบบปรับลำแสงตามการเลี้ยวของพวงมาลัย ( ALS - Active Light System), เพิ่มความส่องสว่างขณะเลี้ยวโค้ง (Cornering Light), กระจกมองข้างแบบปรับพับด้วยไฟฟ้า พร้อมไฟเลี้ยว LED, ไฟท้าย LED, ระบบไล่ฝ้าที่กระจกหลังแบบหน่วงเวลา, ระบบเปิด-ปิด บานประตูท้ายอัตโนมัติด้วยระบบไฟฟ้า, ช่องเสียบปลั๊กชาร์จไฟ, ราวบันได ปลายท่อไอเสียโครเมียม 2 ท่อ และล้ออัลลอย ขนาด 20 นิ้ว สี Himalayas Grey เป็นต้น
Mercedes-Benz GLE500e 4MATIC AMG Dynamic
ส่วนรุ่น AMG Dynamic จะมาพร้อมกับความสปอร์ตโดดเด่นยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็น กันชนหน้า-หลัง AMG Bodystyling, ดิสก์เบรกหน้าแบบมีช่องระบายความร้อน พร้อมตราสัญลักษณ์ Mercedes-Benz ที่คาลิเปอร์เบรกหน้า, ล้ออัลลอยดีไซนสปอร์ตจาก AMG ขนาด 20 นิ้ว สี Titanium Grey และยังได้เพิ่มออพชั่นพิเศษ เติมความหรูหราด้วยหลังคาพาโนรามิคซันรูฟ เลื่อนเปิด - ปิด ได้ด้วยระบบไฟฟ้า
ไฟหน้า LED Intelligent Light System
ไฟท้าย LED
หลังคาพาโนรามิคซันรูฟ
กาบข้างบันไดที่ได้รับการออกแบบมาอย่างหรูหรา สมบุกสมบัน
สำหรับสีตัวถังทั้ง 2 รุ่น จะมีสีให้เลือกด้วยกันดังนี้
ภายใน
แผงคอนโซลกลางและพวงมาลัย
Mercedes-Benz GLE500e 4MATIC รถเอสยูวี 5 ที่นั่ง ได้รับการรังสรรค์ให้มีความหรูหรา ทันสมัย นั่งสบาย ซึ่งในรุ่น Exclusive สามารถเลือกเบาะนั่งแบบสีเดี่ยวได้มากถึง 3 สี ทั้งสีน้ำตาล, สีเทา และสีดำ, วัสดุตกแต่งลายไม้สีน้ำตาล ส่วนออพชั่นมาตรฐาน ประกอบไปด้วย มาตรวัดสไตล์สปอร์ต พร้อมจอแสดงข้อมูลการขับขี่, ฟังก์ชั่น ECO Start/Stop, ระบบ Dynamic Select, พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นพร้อมระบบผ่อนแรง และปรับน้ำหนักตามความเร็วรถ, เบาะนั่งสำหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสารด้านหน้า ที่สามารถปรับระดับด้วยระบบไฟฟ้า พร้อมหน่วยบันทึกความจำ, เบาะนั่งผู้โดยสารด้านหลังพับได้แบบ 1/3 และ 2/3, ระบบควบคุมอุณหภูมิอัตโนมัติ THERMATIC แบบ 2 โซน, ช่องแอร์ด้านหลัง, ไฟเรืองแสงล้อมรอบห้องโดยสาร (Ambient Lighting) 3 สี, ระบบเชื่อมต่อโทรศัพท์เคลื่อนที่ Bluetooth, ระบบนำทาง, ที่วางแก้วน้ำแบบควบคุมอุณหภูมิ, แผ่นปิดสัมภาระท้ายรถ เป็นต้น
เบาะหนังสีน้ำตาลมีเฉพาะในรุ่น Mercedes-Benz GLE500e 4MATIC Exclusive
เบาะนั่งสีทูโทนมีเฉพาะในรุ่น Mercedes-Benz GLE500e 4MATIC AMG Dynamic
ส่วนรุ่น AMG Dynamic มาพร้อมกับการตกแต่งภายในที่พิเศษกว่า เช่น เบาะนั่งหุ้มหนัง nappa ที่มีทั้งสีดำและสีทูโทน, วัสดุตกแต่งลายไม้สีดำ พร้อมออพชั่นอันทันสมัยที่จัดเต็มอย่างคับคั่ง ได้แก่ กุญแจแบบ KEYLESS - GO, ระบบ COMAND Online, เครื่องเล่น DVD แบบ 6 แผ่น, ฟังก์ชั่นเชื่อมต่อโทรศัพท์มือถือระบบปฏิบัติการ iOS (Apply CarPlayTM), ระบบเสียงรอบทิศทาง (Surround Sound System) Harman Kardon ® Logic 7 ® และระบบควบคุมหลังคาโนรามิคซันรูฟด้วยไฟฟ้า
ระบบปรับเบาะไฟฟ้าพร้อมหน่วยบันทึกความจำ และลำโพงระดับพรีเมี่ยมจาก Harman Kardon
มาตรวัดเรือนไมล์พร้อมจอ TFT
ที่วางแก้วแบบควบคุมอุณหภูมิ
ระบบเปิด-ปิด ประตูท้ายด้วยไฟฟ้า
ระบบขับเคลื่อน
เครื่องยนต์เบนซิน V6 ทวินเทอร์โบ ความจุ 2,996 ซีซี.
เทคโนโลยีขุมพลังปลั๊กอินไฮบริดที่บรรจุลงใน Mercedes-Benz GLE 500e 4MATIC ทั้ง 2 รุ่น ประกอบด้วยเครื่องยนต์เบนซิน V6 ทวินเทอร์โบ ความจุ 2,996 ซีซี. ให้สมรรถนะ 333 แรงม้า ที่ 5,250-6,000 รอบ/นาที แรงบิด 480 นิวตัน-เมตร ที่ 1,600 - 4,000 รอบ/นาที และกำลังจากมอเตอร์ไฟฟ้าที่ 116 แรงม้า ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 7G-TRONIC PLUS แบบ DIRECT SELECT พร้อมระบบเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย
มอเตอร์ไฟฟ้าสุดทรงพลังถึง 116 แรงม้า
ระบบเกียร์อัตโนมัติ 7G-TRONIC PLUS
แบตเตอรี่ลิเธียมไอออน ขนาดความจุ 8.7 กิโลวัตต์ น้ำหนัก 114 กิโลกรัม มีระบบหล่อเย็นจากน้ำ และฝาป้องกันการกระแทกที่ผลิตจากแผ่นโลหะปิดทับไว้อีกชั้นหนึ่ง โดยแบตเตอรี่นี้ สามารถชาร์จไฟให้เต็มได้ภายในเวลาประมาณ 4 ชั่วโมง เมื่อทำงานทั้งระบบ Mercedes-Benz GLE 500e 4MATIC ให้อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ที่ 5.3 วินาที ความเร็วสูงสุด 245 กม/ชม. และยังมีระบบปรับรูปแบบการขับขี่ (DYNAMIC SELECT) เพื่อรองรับสภาพถนนที่หลากหลาย
โหมดขับขี่ทั้ง 4 โหมด
ที่ขาดไม่ได้สำหรับเทคโนโลยีปลั๊กอินไฮบริด ก็คือ โหมดขับขี่ต่างๆ ที่ผู้ขับขี่สามารถเลือกโหมดเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและความประหยัดในการเดินทาง ซึ่งมีให้เลือกถึง 4 โหมด ประกอบไปด้วย
ระบบปรับรูปแบบการขับขี่ (DYNAMIC SELECT)
ช่องสำหรับเสียบชาร์จไฟ จะถูกซ่อนไว้บริเวณท้ายรถ
ระบบความปลอดภัย
ระบบช่วยการนำรถเข้าจอดอัตโนมัติพร้อมกล้องมองรอบทิศทาง
Mercedes-Benz GLE500e 4MATIC มอบความอุ่นใจในการเดินทางทั้งผู้ขับขี่และผู้โดยสาร ด้วยการบรรจุระบบความปลอดภัยอันทันสมัยครบครันรอบด้าน ทั้ง
สำหรับรุ่น AMG Dynamic จะได้รับกล้องมองรอบทิศทาง แทนกล้องมองหลังในรุ่น Exclusive
ราคา