ฟอร์ด ประเทศไทย น้อมรำลึกพระมหากรุณาธิคุณพ่อหลวง นำคณะสื่อมวลชนร่วมทริปสุดเอ็กซ์คลูซีฟ "ตามรอยเท้าพ่อ" เยี่ยมชมโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ และร่วมทำกิจกรรมเพื่อช่วยเหลือ และพัฒนาชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คนในชุมชน พร้อมเพลิดเพลินไปกับทัศนียภาพอันงดงามของธรรมชาติ และสัมผัสประสบการณ์การขับขี่เหนือระดับจาก Ford Everest และ Ford Ranger ณ เมืองน่าน
Ford Everest และ Ford Ranger พร้อมลุยเมืองน่าน
โดยตามกำหนดการเริ่มต้นขึ้นในช่วงเช้าที่โรงแรมน่านตรึงใจ โดยได้รับเกียรติจาก คุณศุภรางศุ์ อนุชปรีดา ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารองค์กร ฟอร์ด ประเทศไทย ขึ้นกล่าวต้อนรับบรรดาสื่อมวลชนที่เข้าร่วมทริปสุดเอ็กซ์คลูซีฟ "ตามรอยเท้าพ่อ" และกล่าวถึงวัตถุประสงค์ในการจัดทริปครั้งนี้ พร้อมทั้งบรรยายสรุปถึงข้อมูลผลิตภัณฑ์ และข้อมูลทางเทคนิค เพื่อให้ทราบ และเข้าใจอย่างถ่องแท้เกี่ยวกับสมรรถนะของตัวรถ ก่อนจะเริ่มเดินทางไปยังโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ
คุณศุภรางศุ์ อนุชปรีดา ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารองค์กร ฟอร์ด ประเทศไทย
คุณศุภรางศุ์ อนุชปรีดา ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารองค์กร ฟอร์ด ประเทศไทย เผยว่า “จังหวัดน่าน เป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เสด็จพระราชดำเนินไปเยี่ยมเยียน บำบัดทุกข์ บำรุงสุขแก่พสกนิกรชาวไทย รวมถึงทรงริเริ่มการจัดตั้งโครงการในพระราชดำริต่างๆ ในพื้นที่ เพื่อวางรากฐานในการพัฒนาคุณภาพชีวิตให้กับคนในชุมชนอย่างยั่งยืน การจัดทริปในครั้งนี้ ทาง ฟอร์ด ประเทศไทย และคณะสื่อมวลชนจะได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการเทิดพระเกียรติ แสดงความจงรักภักดี และร่วมเผยแพร่พระราชกรณียกิจผ่านการเยี่ยมชมโครงการในพระราชดำริ และการทำกิจกรรมความดีต่างๆ เพื่อสานต่อพระราชปณิธานของพระองค์ รวมไปถึงทดสอบสมรรถนะการขับขี่เหนือระดับไปกับ Ford Everest และ Ford Ranger ที่สร้างมาเพื่อเป็นที่หนึ่งท่ามกลางทัศนียภาพอันงดงามของจังหวัดน่าน”
คณะสื่อมวลชนร่วมถ่ายภาพหมู่ก่อนออกเดินทาง
เมื่อทราบถึงวัตถุประสงค์ในการจัดทริปสุดเอ็กซ์คลูซีฟ "ตามรอยเท้าพ่อ" และข้อมูลผลิตภัณฑ์อย่างท่องแท้แล้ว ก็ถึงคราวที่คณะสื่อมวลชนจะได้ร่วมทดสอบสมรรถนะการขับขี่เหนือระดับไปกับ Ford Everest และ Ford Ranger ณ เมืองน่าน โดยในวันแรกทางทีมงาน BoxzaRacing ถูกจัดให้ได้สัมผัสประสบการณ์ที่เหนือระดับผ่านรถ SUV ระดับพรีเมียม Ford Everest ที่ได้รับรางวัลมาตรฐานความปลอดภัยระดับ 5 ดาว จากศูนย์ทดสอบมาตรฐานความปลอดภัยด้านยานยนต์แห่งภูมิภาคอาเซียน (ASEAN New Car Assessment Program) และรางวัลรถยนต์ยอดเยี่ยมประจำปี 2558 (Thailand Car of the Year 2015) โดยสมาคมผู้สื่อข่าวรถยนต์ไทย (สรยท.)
ขบวน Ford Everest และ Ford Ranger ออกเดินทางแบบราคาวานไปยัง พิพิธภัณฑ์ทหาร
จากนั้นขบวน Ford Everest และ Ford Ranger ก็เริ่มออกเดินทางไปยังอำเภอทุ่งช้าง ในรูปแบบการขับขี่แบบคาราวาน เพื่อไปเยี่ยมชมอนุสรณีย์วีรกรรม พลเรือน ตำรวจ ทหาร ณ พิพิธภัณฑ์ทหาร เป็นที่แรก เพื่อสดุดีวีรกรรมของวีรชนไทย รวมไปถึงสักการะพระบรมรูปของสมเด็จพระนเรศวรมหาราชที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชได้พระราชทานเพื่อเป็นมิ่งขวัญ และกำลังใจในการต่อสู้กับผู้ก่อการร้ายกับชาวบ้านในท้องถิ่นเมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2519 ซึ่งในช่วงเวลาที่พระองค์ได้เสด็จฯ ไปนั้น จังหวัดน่านยังเป็นพื้นที่สีแดงที่เต็มไปด้วยภัยอันตราย แต่พระองค์ทรงห่วงใยพสกนิกรของพระองค์เหนือสิ่งอื่นใด นำมาซึ่งความปลื้มปิติ และเป็นที่เล่าขานจากรุ่นสู่รุ่นของชาวเมืองน่านถึงน้ำพระราชหฤทัยที่เปี่ยมไปด้วยพระมหากรุณาธิคุณอันใหญ่หลวง
สื่อมวลชนร่วมถ่ายภาพอนุสรณีย์วีรกรรม พลเรือน ตำรวจ ทหาร ณ พิพิธภัณฑ์ทหาร
อนุสรณีย์วีรกรรม พลเรือน ตำรวจ ทหาร ณ พิพิธภัณฑ์ทหาร
สื่อมวลชนร่วมสักการะพระบรมรูปของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชได้พระราชทานเพื่อเป็นมิ่งขวัญ
จากนั้นขบวน Ford Everest และ Ford Ranger ได้เดินทางต่อไปยังอุทยานแห่งชาติดอยภูคาเพื่อสัมผัสอากาศเย็นอันบริสุทธิ์ และความงดงามจากธรรมชาติโดยรอบ ตลอดเส้นทางอันคดเคี้ยวและลาดชัน ซึ่งทาง BoxzaRacing ได้มีโอกาสทดสอบสมรรถนะ และเทคโนโลยีช่วยขับขี่อัจฉริยะ (Advanced-Driving Assist Technology) ของ Ford Everest อย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็น ระบบควบคุมความเร็วแบบรักษาระยะห่างอัตโนมัติ (Adaptive Cruise Control) ที่คอยควบคุมความเร็วแบบอัตโนมัติเพื่อให้รถอยู่ห่างจากรถคันหน้าในระยะที่ปลอดภัยตามความเร็วที่ตั้งไว้ ระบบเตือนการชนด้านหน้า (Forward Collision Warning System) ที่ช่วยลดความเสียหายจากการกระแทกหรือหลีกเลี่ยงโอกาสการชน ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทาง (Lane Keeping System) ทำงานร่วมกับกล้องที่ติดตั้งบริเวณหน้ารถ รวมไปถึง ระบบแจ้งเตือนการขับขี่ (Driver Alert System) ซึ่งจะส่งสัญญาณแจ้งเตือนเมื่อตรวจพบว่าผู้ขับขี่มีอาการเหนื่อยล้า ทำให้มั่นใจได้ว่าทุกช่วงการขับขี่จะเป็นไปอย่างปลอดภัย สะดวกสบาย และคล่องตัวในทุกสภาพถนน สำหรับดีไซน์ภายในห้องโดยสารของ Ford Everest ได้รับการออกแบบให้แลดูกว้างขวาง สะดวกสบาย ทำให้ผู้ขับขี่ผ่อนคลาย รวมไปถึงช่องเสียบ USB ด้านหน้าที่มีให้เลือกใช้ถึง 2 ช่อง เพื่อชาร์จโทรศัพท์มือถือ และนำเข้าระบบมัลติมีเดียจากโทรศัพท์อย่างง่ายดาย และด้านหลังที่มาพร้อมช่องจ่ายไฟ AC 230V ให้คุณสะดวกสบายในการชาร์จ Note Book ร่วมไปถึงอุปกรณ์อิเล็คทรอนิกส์ต่างๆ ได้อย่างครบครัน
ทดสอบสมรรถนะ และเทคโนโลยีช่วยขับขี่อัจฉริยะ Advanced-Driving Assist Technology ของ Ford Everest
Ford Everest และ Ford Ranger เดินทางต่อไปยังอุทยานแห่งชาติดอยภูคา เพื่อสัมผัสอากาศเย็นอันบริสุทธิ์ และความงดงามจากธรรมชาติโดยรอบ ตลอดเส้นทางอันคดเคี้ยว และลาดชัน
ทัศนียภาพ 2 ข้างทาง ณ ดอยภูคา
เมื่อเดินทางใกล้ถึงดอยภูคาในช่วงหัวค่ำ Ford Everest ยังมาพร้อมเทคโนโลยีเปิด-ปิดไฟสูงอัจฉริยะ (Auto High Beam Control) ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างมากเมื่อเดินทางในบริเวณที่มืด และไม่มีแสงไฟจากรถ และสิ่งอื่นๆ โดยรอบ หลังจากถึงอุทยานแห่งชาติดอยภูคา คณะสื่อมวลชนก็ได้พักผ่อนท่ามกลางไอหนาวตามธรรมชาติที่สวยงาม พร้อมร่วมกิจกรรมดูดาวจากดอยภูคาที่ไม่เหมือนใครจากภายในห้องโดยสารที่โอ่โถง หรูหรา ของ Ford Everest ผ่านหลังคาแบบพาโนรามิค มูนรูฟ แบบปรับไฟฟ้า (Power Panoramic Moonroof) ขนาดใหญ่ พร้อมเติมเต็มความสุขยามค่ำคืนผ่านเสียงเพลงซึ่งควบคุมโดยระบบสั่งงานด้วยเสียงซิงค์ 3 (SYNC 3) พร้อมรองรับการทำงานร่วมกับแอพพลิเคชั่นบนมือถือ Apple Car Play และ Android Auto ทำให้สามารถใช้งานฟังก์ชั่นต่างๆ ในสมาร์ทโฟนผ่านหน้าจอทัชสกรีนขนาด 8 นิ้ว ได้อย่างสะดวกสบาย
Ford Everest และ Ford Ranger ณ ดอยภูคา
Ford Ranger Wildtrak 3.2
หลังจากที่คณะสื่อมวลชนได้พักผ่อนอย่างเต็มอิ่มท่ามกลางบรรยากาศสุดเอ็กซ์คลูซีฟ เพลิดเพลินกับวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม ชมเมฆหมอกบนยอดดอย และสัมผัสกับอากาศอันแสนบริสุทธิ์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็ถึงคราวที่จะต้องเดินทางกันต่อ เพื่อไปยังโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ซึ่งในวันที่ 2 ของการเดินทาง ทางทีมงาน BoxzaRacing ถูกเปลี่ยนให้มาสัมผัสความเร้าใจของรถกระบะ Ford Ranger Wildtrak 3.2 ซึ่งเริ่มเดินทางออกจากดอยภูคา เพื่อไปยัง "โครงการปิดทองหลังพระ" บ้านเปียงก่อ ตำบลขุ่นน่าน หนึ่งในโครงการสืบสานแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
ขบวน Ford Ranger และ Ford Everest เคลื่อนตัวไปยัง โครงการปิดทองหลังพระ
บรรยากาศ 2 ข้างทางอันสวยงามของขบวน Ford Everest และ Ford Ranger
โดยในระหว่างทางเป็นเส้นทางที่เป็นเทือกเขาสูงสลับซับซ้อน มีป่าที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยพืชพรรณ และสัตว์ป่าที่มีความสำคัญต่อระบบนิเวศน์ ทั้งยังเป็น แหล่งกำเนิดของแม่น้ำหลายสาย เช่น แม่น้ำน่าน, ลำน้ำปัว และลำน้ำว้า ที่คอยหล่อเลี้ยงชีวิตของชาวจังหวัดน่าน ซึ่งในระหว่างการเดินทางไป "โครงการปิดทองหลังพระ" จะเป็นเส้นทางที่คดเคี้ยว อีกทั้งยังเป็นทางลงเขาที่ลาดชัน แต่ Ford Ranger Wildtrak 3.2 ก็สามารถเอาอยู่ทุกสถานการณ์ พร้อมทั้งมอบประสบการณ์การขับขี่ที่สะดวกสบาย และการควบคุมได้อย่างมั่นใจ ด้วยระบบพวงมาลัยพาวเวอร์ไฟฟ้า (Electric Power-Assisted Steering หรือ EPAS) ที่จะปรับให้พวงมาลัยมีน้ำหนักเบาในขณะขับขี่ที่ความเร็วต่ำ และเน้นความแม่นยำเมื่อขับขี่ที่ความเร็วสูง ช่วยลดความวิตกกังวลให้แก่ผู้ขับขี่ทุกครั้งที่ต้องบังคับพวงมาลัย แม้ในสถานการณ์การขับขี่ที่ยากลำบาก นอกจากนี้ยังมี ระบบช่วยการออกตัวขณะจอดรถบนทางลาดชัน (Hill Launch Assist) สามารถช่วยให้ผู้ขับขี่ขับรถบนทางลาดชันได้อย่างมั่นใจ ระบบควบคุมความเร็วขณะลงเขา (Hill Descent Control) ที่ช่วยควบคุมการขับลงเขาที่เสริมแรงเบรกในระดับความเร็วต่อเนื่อง ผสานกับ ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี (Traction Control System) และ ระบบเบรกฉุกเฉิน (Emergency Brake Assistance) ที่ช่วยส่งน้ำหนักไปที่ระบบเบรกเพื่อเพิ่มพลังในการเบรกเมื่อผู้ขับขี่ต้องเบรกกะทันหันในสถานการณ์ฉุกเฉินอีกด้วย
เส้นทางสุดหฤโหด ที่เป็นบททดสอบสมรรถนะของ Ford Ranger และ Ford Everest
ฟันฝ่าทุกอุปสรรค ไปกับ Ford Ranger และ Ford Everest เพื่อตามรอยเท้าพ่อ
นอกจากนั้น Ford Ranger Wildtrak 3.2 ยังมาพร้อมเทคโนโลยีอีกมากมาย ได้แก่ ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว (Electronic Stability Program) เพื่อการควบคุมทุกการขับขี่ ซึ่งมาพร้อม ระบบลดความเสี่ยงจากการพลิกคว่ำ (Rollover Mitigation) ,ระบบลดอาการส่ายขณะลากจูงเทรลเลอร์ (Trailer Sway Control) ช่วยให้รถอยู่ในความควบคุมเสมอแม้ในสภาวะการขับขี่ที่ท้าทาย และ ระบบควบคุมการบรรทุก (Adaptive Load Control) ช่วยรักษาระบบควบคุมการทรงตัวตามน้ำหนักของสัมภาระ
ขบวน Ford Ranger และ Ford Everest เดินทางถึงโครงการปิดทองหลังพระ
โครงการปิดทองหลังพระ หนึ่งในโครงการสืบสานแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
คณะสื่อมวลชนร่วมปลูกพืชเศรษฐกิจในโครงการปิดทองหลังพระ
ใช้เวลาไม่ถึง 2 ชั่วโมง ผ่านขุนเขา แม่น้ำ ลำธาร และโค้งซ้าย-ขวาเป็นร้อยๆ โค้ง ในที่สุดขบวน Ford Ranger และ Ford Everest ก็ได้เดินทางมาถึง "โครงการปิดทองหลังพระ" บ้านเปียงก่อ ตำบลขุ่นน่าน หนึ่งในโครงการสืบสานแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เพื่อให้ความรู้ และฝึกอบรมด้านการพัฒนาพื้นที่ทำกินตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง และการปรับเปลี่ยนจากการถางป่าเพื่อทำไร่ข้าวโพดมาเป็นการทำการเกษตรแบบยั่งยืน พร้อมกันนี้ สื่อมวลชนยังได้ร่วมด้วยช่วยกันปลูกพืชเศรษฐกิจใน "โครงการปิดทองหลังพระ" อย่างสนุกสนาน ก่อนจะออกเดินทางกลับไปยังที่พักคืนที่ 2 ณ โรงแรมน่านตรึงใจ
คณะสื่อมวลชนเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นเทศบาลตำบลเวียงสา
ต่อกันที่วันที่ 3 ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของการเดินทางในทริปสุดเอ็กซ์คลูซีฟ "ตามรอยเท้าพ่อ" ซึ่งในวันนี้ทางทีมงาน BoxzaRacing ถูกจัดให้ทดลองสมรรถนะของ Ford Ranger Wildtrak 3.2 อีกครั้งหนึ่ง ซึ่งที่หมายแรกของวันนี้ก็คือ "พิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นเทศบาลตำบลเวียงสา" อำเภอเวียงสา เพื่อน้อมรำลึกถึงองค์พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในคราวเสด็จเยือนจังหวัดน่านครั้งแรก พร้อมเยี่ยมชมการจัดแสดงพระที่นั่ง ภาพถ่าย และของใช้ในสมัยโบราณ และเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับพระราชกรณียกิจ ศิลปวัฒนธรรม และภูมิปัญญาท้องถิ่น
ร่วมทดสอบระบบช่วยจอดอัจฉริยะ (Active Park Assist) ใน Ford Everest
นอกจากนี้ คณะสื่อมวลชนยังได้ทดลอง ระบบช่วยจอดอัจฉริยะ (Active Park Assist) ซึ่งเป็นระบบช่วยสแกนหาช่องว่างในการจอดรถที่เหมาะสม รวมไปถึงระบบตรวจจับรถในจุดบอด (BLIS – Blind Spot Information System) ที่มาพร้อมระบบตรวจจับรถขณะออกจากซองจอด (Cross Traffic Alert) ที่จะคอยแจ้งเตือนผู้ขับขี่ในกรณีที่มีรถคันอื่นอยู่ในจุดบอดหรือเมื่อมีรถตัดผ่านในขณะถอยออกจากซองจอด ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถถอยรถออกจากช่องจอดได้อย่างมั่นใจยิ่งขึ้น
ขบวน Ford Ranger และ Ford Everest เดินทางไปยังโรงเรียนริมฝั่งว้าวิทยา เพื่อสมทบทุน และมอบสิ่งของเครื่องใช้ที่จำเป็นแก่น้องๆ
ฟอร์ด ประเทศไทย มอบสื่อการเรียนการสอน และอุปกรณ์การเรียนแก่โรงเรียนริมฝั่งว้าวิทยา
ในช่วงบ่ายสื่อมวลชนยังได้ร่วมทำกิจกรรมเพื่อสังคมกับ ฟอร์ด ประเทศไทย ด้วยการสมทบทุนในการสร้างห้องสมุดให้กับโรงเรียนริมฝั่งว้าวิทยา และส่งมอบหนังสือเกี่ยวกับพระราชกรณียกิจ นิทาน และวีดิทัศน์เกี่ยวกับคำสอนของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชและอุปกรณ์การเรียนการสอนต่างๆ ให้กับทางโรงเรียน
Ford พร้อมทั้งคณะสื่อมวลชน ร่วมสร้างร่วมยิ้ม และเสียงหัวเราะให้กับน้องๆ โรงเรียนริมฝั่งว้าวิทยา
ส่งมอบหนังสือเกี่ยวกับพระราชกรณียกิจ นิทาน และวีดิทัศน์เกี่ยวกับคำสอนของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และอุปกรณ์การเรียนการสอนต่างๆ ให้กับทางโรงเรียนริมฝั่งว้าวิทยา
พร้อมกันนี้คณะสื่อมวลชนยังได้รับชมการแสดงฟ้อนรำจากน้องๆ โรงเรียนริมฝั่งว้าวิทยา ก่อนจะร่วมมอบของบริจาค มอบรอยยิ้ม และเสียงหัวเราะ พร้อมถ่ายภาพหมู่กับน้องๆ เป็นการปิดทริปสุดเอ็กซ์คลูซีฟ "ตามรอยเท้าพ่อ" ที่มีทั้งรอยยิ้ม เสียงหัวเราะ ความสนุกสนาน อิ่มเอมใจกันทั่วหน้า และที่สำคัญยังได้สัมผัสประสบการณ์ขับขี่ที่เหนือระดับจากทั้ง Ford Ranger และ Ford Everest ที่แข็งแกร่ง พร้อมลุยทุกอุปสรรค์อย่างแท้จริง
Ford Everest
Ford Ranger
หลังจากจบกิจกรรมตามรอยเท้าพ่อในครั้งนี้ Ford Everest และ Ford Ranger ได้พิสูจน์ให้เห็นถึงสมรรถนะการขับขี่ที่ยอดเยี่ยม ครบครันด้วยเทคโนโลยีอันชาญฉลาด ที่เปิดประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือระดับสำหรับทุกไลฟ์สไตล์ ที่พร้อมจะสานต่อพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชในการทำความดีเพื่อสังคม และประโยชน์ของส่วนรวมต่อไป