เขียนโดย: Pajingo

เมื่อ: 28 พฤศจิกายน 2559 - 19:19

Toyota Innova Crysta ลบทุกความทรงจำ สู้ความล้ำค่าแห่งการเดินทางเหนือระดับ ที่ใครๆ ก็จับต้องได้

              เมื่อช่วงปลายเดือนกันยายน ที่ผ่านมา ทางค่าย Toyota ได้เปิดตัวยนตรกรรมอเนกประสงค์สำหรับครอบครัวอย่าง Toyota Innova Crysta ซึ่งถือว่าเป็นเจนเนอเรชั่นที่ 2 ที่เปิดตัวในบ้านเรา โดยการกลับมาในครั้งนี้ เรียกได้ว่าเป็นการสลัดภาพลักษณ์เดิมๆ ของ Innova ที่เราๆ ท่านๆ เคยได้พบเห็นมาก่อนหน้านี้อย่างสิ้นเชิง โดยสิ่งที่เพิ่มขึ้นมาคงหนีไม่พ้นเรื่องของภาพลักษณ์ ความหรูหราเหนือระดับ พร้อมขุมพลังที่ได้รับการอัพเกรดให้พร้อมตอบทุกการเดินทางได้อย่างไร้ขีดจำกัด

 

Toyota Innova Crysta กับภาพลักษณ์ที่หรูหรา เหนือชั้นกว่าที่เคย

 

                ก่อนที่จะพูดอะไรไปมากกว่านี้ ผมอยากให้ทุกท่านลบความทรงจำในภาพของ Innova เจนเนอเรชั่นก่อนๆ ออกไปให้หมดสิ้น แล้วมาซึบซับกับความเหนือชั้นของ Toyota Innova Crysta กันให้ลึกซึ้ง โดยยนตรกรรม MPV รุ่นนี้ ได้รับการอัพเกรดภาพลักษณ์ให้ดูหรูหราตั้งแต่หัวจรดท้าย จากการสำรวจความต้องการของผู้บริโภคในภูมิภาคนี้เป็นอย่างดี โดยแม้ตัวรถจะประกอบและนำเข้าจากประเทศอินโดนิเซีย แต่ก็ได้รับการปรับรายละเอียดหลายๆ อย่างให้ตรงกับความต้องการของผู้บริโภคชาวไทยมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะเรื่องของสิ่งอำนวยความสะดวก พร้อมขุมพลังดีเซลเทอร์โบในพิกัด 2.8 ลิตร เพื่อตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์การใช้งาน

 

 

                Toyota Innova Crysta ที่ได้ทดลองขับในครั้งนี้เป็นรุ่น 2.8V เกียร์อัตโนมัติ ซึ่งถือว่าเป็นรุ่นท็อป ราคา 1,399,000 บาท ซึ่งมาพร้อมภาพลักษณ์ที่ดูหรูหราตั้งแต่หัวจรดท้าย ด้วยลูกเล่นที่ล้ำสมัย และพร้อมเติมความปลอดภัยในการเดินทาง ไม่ว่าจะเป็นไฟหน้าแบบ LED Projector ควบคุมการเปิด-ปิด และปรับสูง-ต่ำ อัตโนมัติ พร้อม Day Light ด้านสีตัวถังมีให้เลือกด้วยกัน 3 สี คือ Attitude Black Mica, Silver Metallic และ White Pearl Crystal โดยทุกสีสันจะถูกแต่งแต้มความหรูหราด้วยวัสดุโครเมี่ยมในหลายๆ จุด พร้อมประกบด้วยล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว จับคู่ยาง 215/55 R17 ด้านมิติตัวถังของ Toyota Innova Crysta อยู่ที่ ความกว้าง 1,830 มม. ความยาว 4,735 มม. ความสูง 1,795 มม. ระยะความยาวฐานล้อ: 2,750 มม. ระยะต่ำสุดจากพื้น: 178 มม. และรัศมีวงเลี้ยวแคบสุด 5.4 ม.

 

ไฟหน้า LED เติมความปลอดภัยด้วยทัศนวิสัยที่โดดเด่น

 

 

                ห้องโดยสารของ Toyota Innova Crysta ได้รับการออกแบบให้สามารถสร้างอรรถรสที่เหนือระดับทุกการเดินทางด้วยไฟส่องภายในห้องโดยสารแบบซ่อนฝ้าที่สามารถปรับระดับความสว่างได้ตามต้องการ เบาะนั่งมาในรูปแบบที่เรียกว่า Captain Seat ที่ออกแบบมาอย่างกว้างขวาง รับกับสรีระ อีกทั้งเบาะตอนที่ 2 และ 3 ยังสามารถปรับรูปแบบการใช้งานได้อย่างอิสระ เพื่อเพิ่มพื้นที่ในการบรรทุกสัมภาระ ด้านอุปกรณ์ความบันเทิงและสิ่งอำนวยความสะดวก เรียกว่าทางค่ายจัดมาให้แบบครบครัน ไม่ว่าจะเป็น Head Unit ขนาด 8 นิ้ว ที่รองรับการเล่น DVD, Navigator รวมถึงกล้องมองหลัง (ปรับการทำงานได้ 3 รูปแบบ) ซึ่งสามารถเชื่อมต่อได้อย่างหลากหลาย ทั้งช่องต่อ USB รวมถึง Bluethooth ระบบปรับอากาศมาในแบบอัตโนมัติแยกอิสระระหว่างผู้โดยสารตอนหน้าและตอนหลัง บังคับควบคุมการขับขี่พร้อมลูกเล่นต่างๆ ได้โดยง่ายด้วยพวงมาลัยแบบมัลติฟังค์ชั่นที่ช่วยให้ผู้ขับขี่ไม่ต้องละมือจากพวงมาลัย ซึ่งข้อมูลการขับขี่ที่จำเป็น จะถูกแสดงผลบนหน้าจอมาตรวัด Optitron MID TFT ขนาด 4.2 นิ้ว ขนาบด้วยมาตรวัดความเร็วและรอบเครื่องยนต์แบบอนาล็อก

 

พับเบาะได้หลากหลายรูปแบบ หากต้องการพื้นที่บรรทุกสัมภาระ

 

โต๊ะพับอเนกประสงค์ แปลงห้องโดยสารให้เป็นห้องทำงานเคลื่อนที่

 

                เครื่องยนต์ คือ อีกหนึ่งหัวใจหลักที่ได้รับการอัพเกรดให้เหนือชั้นยิ่งขึ้นในเจนเนอเรชั่นนี้ โดยเฉพาะบล็อคดีเซลในรหัส 1GD-FTV เช่นเดียวกับ Hilux REVO และ Fortuner โดยเครื่องยนต์ที่ประจำการใน Toyota Innova Crysta ได้รับการอัพเกรดให้มีประสิทธิภาพในการเผาไหม้สูงสุด ด้วยการลดแรงเสียดทานระหว่างลูกสูบและเสื้อสูบ ให้กำลังสูงสุด 174 แรงม้า ที่ 3,400 รอบ/นาที พร้อมแรงบิดในระดับ 360 นิวตัน-เมตร แบบยาวๆ ตั้งแต่ 1,200-3,400 รอบ/นาที ซึ่งหากเทียบสเปคกับ 2 รุ่นก่อนหน้าแล้ว เรื่องของตัวเลขแรงม้า (Hilux REVO และ Fortuner ให้กำลัง 177 แรงม้า) และแรงบิด (Hilux REVO มีแรงบิด 420 นิวตัน-เมตร ที่ 1,400-2,600 รอบ/นาที ส่วน Fortuner มีแรงบิด 450 นิวตัน-เมตร ที่ 1,600-2,400 รอบ/นาที)  อาจลดลงไปเล็กน้อย แต่หากมองให้ลึกจะพบว่า ย่านแรงบิดในระดับ 360 นิวตัน-เมตร ของ Toyota Innova Crysta มีมาให้ใช้งานกันแบบยาวๆ ตั้งแต่ 1,200-3,400 รอบ/นาที เลยทีเดียว ซึ่งการที่มีแรงบิดสูงสุดมาให้ใช้งานในช่วงกว้าง นั่นก็หมายความว่า รถอเนกประสงค์สำหรับครอบครัวคันนี้ พร้อมจะให้การตอบสนองอย่างรวดเร็วและต่อเนื่องในทุกๆ ย่านการใช้งาน โดยจะมาพร้อมระบบส่งกำลังในรูปแบบเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด พร้อม Sequential Shift ซึ่งเกียร์ 5 และ 6 มาในอัตราทดต่ำ (Overdrive) ที่ช่วยในเรื่องอัตราการสิ้นเปลืองที่ต่ำลงอีกด้วย

 

ขุมพลัง 1GD-FTV ให้กำลัง 174 แรงม้า ตอบโจทย์ทุกการเดินทาง

 

                ด้านแชสซีส์ของ Toyota Innova Crysta ได้รับการพัฒนาขึ้นใหม่ เพื่อความแข็งแรง มีเสถียรภาพ และตอบโจทย์การใช้งานได้อย่างครอบคลุมยิ่งขึ้น โดยในส่วนของตัวถังได้รับการสปอตเพิ่มเป็น 394 จุด (จากเดิม 328 จุด) เช่นเดียวกับในส่วนของซับเฟรมที่มาในรูปแบบดับเลิ้ลวิชโบน คอยล์สปริง พร้อมเหล็กกันโคงในด้านหน้า ส่วนด้านหลังมาในแบบคานแข็ง คอยล์สปริง พร้อมเหล็กกันโคลง โช้คอัพมีการปรับใหม่โดยใช้โช้คที่มีขนาดแกนใหญ่ขึ้น พร้อมปรับหูยึดใหม่เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทรงตัวและดูดซับแรงกระแทก ชุดเบรกเป็นแบบหน้าดิสค์ หลังดรัม โดยสิ่งที่อดที่จะพูดถึงไม่ได้สำหรับ Toyota Innova Crysta ก็คือ ระบบ Brake Over Ride ที่ช่วยลดความผิดพลาดที่เกิดจากตัวผู้ขับขี่ โดยหากมีการเหยียบแป้นคันแร่ง และแป้นเบรกไปพร้อมๆ กัน ระบบจะตัดกำลังของเครื่องยนต์ และยึดการทำงานของแป้นเบรกเป็นอันดับแรก เพื่อลดโอกาสการชนที่จะเกิดขึ้น ด้านระบบพวงมาลัยทำงานด้วยไฟฟ้า EPS ปรับน้ำหนักตามความเร็ว และที่ขาดไม่ได้ คือ การเติมระบบตัวช่วยต่างๆ ที่ช่วยเติมประสิทธิภาพและความปลอดภัย ไม่ว่าจะเป็น ABS, EBD, BA, TRC และ VSC

 

สาดโค้งแคบๆ ในทางเปียกลื่นยังมั่นใจด้วยตัวช่วยที่มีให้

 

 

                สำหรับการทดลองขับขี่ Toyota Innova Crysta ในครั้งนี้ ใช้เส้นทางกรุงเทพฯ ผ่าน จ.ฉะเชิงเทรา และใช้ทางหลวงหมายเลข 304 สู่ อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี และมุ่งหน้าสู่เขาใหญ่ รวมระยะทางทั้งสิ้นเกือบ 280 กม. โดยมีผู้โดยสารที่ร่วมเดินทางอีก 2 ชีวิต ซึ่งก่อนที่จะออกเดินทาง มีการเรียกน้ำย่อยโดยการทดลองระบบความปลอดภัยต่างๆ ที่ติดตั้งมาให้ ทั้ง ABS, TRC และ VSC ณ ศูนย์ทดสอบรถยนต์ Toyota Driving Experience ซึ่งทั้ง 3 ระบบนี้ เป็นอีกหนึ่งหัวใจสำคัญที่ช่วยเติมความปลอดภัย และเสถียรภาพในการขับขี่ ซึ่งหากเกิดการลื่นไถล กำลังของเครื่องยนต์จะถูกตัด และระบบจะประมวลผลเพื่อรักษาอาการของตัวรถให้กลับสู่สภาวะปกติ  

 

อัตราเร่งดี นุ่มนวล ทรงตัวมั่นใจ...ใช่เลย

 

13.2 กม./ลิตร กับการขับขี่ด้วยความเร็ว 120-140 กม./ชม. ถือว่าไม่เลวทีเดียว

 

                ทันทีที่การทดลองขับในสนามเสร็จสิ้น ก็ได้เวลาออกเดินทาง การจราจรในช่วงถนนบางนา-ตราด ค่อนข้างจะแออัด แต่ Toyota Innova Crysta ก็ยังให้อัตราเร่งในการออกตัวได้อย่างน่าประทับใจ ตัวรถเคลื่อนที่ไปได้อย่างรวดเร็วและนุ่มนวลด้วยกำลังและแรงบิดที่มีมาให้ใช้งานอย่างต่อเนื่อง แม้จะต้องเร่งสลับการเบรกอยู่หลายครั้ง แต่ก็ไม่รู้สึกว่าเป็นปัญหา จนกระทั่งเข้าสู่ช่วงมอเตอร์เวย์ ทีมงานมีโอกาสได้ทดลองไต่ความเร็วขึ้นไปก็พบว่า Toyota Innova Crysta สามารถสร้างความเร็วได้อย่างต่อเนื่อง แม้จะไม่หวือหวาเหมือนกับ 2 รุ่น ที่ใช้เครื่องยนต์เดียวกัน แต่ก็ถือว่าทำความเร็วได้อย่างน่าประทับใจในทุกช่วงรอบ แม้แต่การเร่งแซงในบางโอกาสที่แทบจะไม่ต้องคลิ๊กดาวน์ก็สามารถแซงผ่านได้อย่างปลอดภัย การเดินทางในย่านความเร็วราว 110-120 กม./ชม. รอบเครื่องยนต์ราวพันกลางๆ ถือว่าน่าจะเป็นย่านความเร็วที่พอเหมาะต่อการใช้งาน ช่วงล่างทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ให้ความนุ่มนวลในการเดินทาง เสียงลมและเสียงเครื่องยนต์ที่เล็ดลอดเข้ามาในห้องโดยสารเพียงน้อยนิดเท่านั้น น้ำหนักพวงมาลัยที่รู้สึกว่าแอบเยอะไปนิดในย่านความเร็วต่ำ กลับให้ความรู้สึกที่พอดีในย่านความเร็วเดินทาง ไม่ไวจนรูสึกวูบวาบ แม้จะขับขี่ในย่านความเร็วที่สูงขึ้นไป (แต่อาจต้องแลกมาด้วยเสียงลมที่ปะทะกับกระจกมองหลังอยู่บ้าง) การเดินทางในช่วงทางราบเกือบๆ 230 กม. ด้วยความเร็วประมาณ 120-140 กม./ชม. อัตราสิ้นเปลืองที่แสดงบนหน้าปัดอยู่ที่ 13.2 กม./ลิตร ซึ่งถือว่าน่าพอใจไม่น้อย

 

การทรงตัวแม้ในสภาพถนนเปียก ทำได้อย่างมั่นใจทุกโค้ง

 

 

                นอกจากเครื่องยนต์และช่วงล่างจะทำงานได้อย่างราบรื่น สมูท และเงียบตามสไตล์ของตัวรถแล้ว อุปกรณ์ความบันเทิงต่างๆ ก็ถือว่าออกแบบมาให้ช่วยสร้างความผ่อนคลายในการเดินทางได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นระบบเครื่องเสียงที่สามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ต่างๆ ได้โดยง่าย ระบบนำทางที่บอกพิกัดและจุดสำคัญต่างๆ ได้อย่างแม่นยำ รวมไปถึงตัวเบาะที่ออกแบบมาเพื่อสร้างความสบายสูงสุด โดยเมื่อถามความรู้สึกจากผู้ที่ร่วมโดยสารมาด้วย ทั้งคู่ต่างให้ความเห็นเป็นเสียงเดียวกันว่า...สบายจนไม่อยากตื่นเลยทีเดียว ซึ่งตรงนี้เอง น่าจะเป็นจุดขายที่ Toyota Innova Crysta ตอบโจทย์ความต้องการของผู้ที่อยากครอบครองรถประเภทนี้ได้เป็นอย่างดี

 

แม้จะลงทางชันด้วยความเร็วสูง แต่ชุดเบรกของ  Toyota Innova Crysta เอาอยู่ !

 

 

                ไฮไลท์อีกช่วงของการเดินทางในการทดลองขับครั้งนี้ อยู่ที่ช่วงขึ้นเขาใหญ่จากฝั่งปราจีนบุรี ไปจบที่ฝั่งปากช่อง เพื่อพิสูจน์ถึงพละกำลังในการปีนไต่ทางชันของ Toyota Innova Crysta ซึ่งในช่วงนี้ เป็นโอกาสดีที่จะได้ทดลองขับขี่ในโหมด Power รวมถึงระบบส่งกำลัง Sequential Shift ที่เลือกใช้เกียร์ได้ตามต้องการ ภายใต้สภาพเส้นทางที่มีฝนโปรยปรายตลอดช่วง เรื่องของกำลังคงไม่ต้องสาธยายกันให้มากความ แต่สิ่งที่โดดเด่นอีกอย่างก็คือ การทรงตัวในโค้ง แม้สภาพถนนที่เปียกลื่น แต่ก็ดูจะไม่เป็นปัญหาหากใช้ความเร็วที่เหมาะสม การไหลลงเขาด้วยความเร็วสูง ระบบเบรกทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ให้ความมั่นใจในทุกการเบรก และจะมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น หากใช้เกียร์ Sequential Shift  ช่วยเติม Engine Brake เพื่อลดภาระของชุดเบรกหากต้องลงเขา (ลูกอื่นๆ) ในสภาวะที่ชัน ยาว และมีความคดเคี้ยวมากกว่านี้ ซึ่งความชันในระดับเขาใหญ่ มิอาจสร้างปัญหาให้กับชุดเบรกของ Toyota Innova Crysta ได้แม้แต่น้อย ส่วนเรื่องอัตราสิ้นเปลืองเมื่อรวมระยะทางทั้งทางราบและขึ้น-ลงเขาราว 280 กม. อยู่ที่ 12.7 กม./ลิตร

 

 

                Toyota Innova Crysta สลัดทุกความทรงจำที่เคยเห็น พร้อมอัพตัวเองสู่ความเป็นยนตรกรรมอเนกประสงค์ระดับพรีเมี่ยมได้อย่างเต็มภาคภูมิ ซึ่งหากเทียบกับค่าตัวที่ 1.399 ล้าน ก็ถือว่าไม่แพงจนเกินงาม เมื่อบวกลบคูณหารกับความสะดวกสบายและอรรถประโยชน์ที่ได้รับ ซึ่งนอกจากรุ่น 2.8V แล้ว ก็ยังมีรุ่น 2.8G ราคา 1,235,000 บาท และรุ่น 2.0E เครื่องยนต์เบ็นซิน เกียร์ธรรมดา ราคา 1,129,000 บาท เป็นทางเลือกที่เน้นคุ้มค่ามาเป็นทางเลือกอีกด้วย

รถซื้อสอง ซื้อขายรถ ของแต่งรถ

ข่าวที่ใกล้เคียง

แสดงความคิดเห็นด้วย Facebook