เมื่อประมาณกลางเดือนสิงหามคมที่ผ่านมา ทางเชฟโรเลต เซลส์ ประเทศไทย ได้จัดเปิดตัว Chevrolet Trailblazer ใหม่ (เชฟโรเลต เทรลเบลเซอร์ ใหม่) ภายใต้นิยาม “รถเอสยูวีระดับพรีเมียมสไตล์อเมริกัน” ถือเป็นไฮไลท์ของการเปิดตัวในงาน BIG Motor Sale 2016 ซึ่งได้กระแสตอบรับจากผู้บริโภคชาวไทยอย่างล้นหลามเลยทีเดียว หลังจากนั้นไม่นาน ทางบริษัทก็ได้เชิญชวนคณะสื่อมวลชนร่วมสัมผัสสมรรถนะของ Chevrolet Trailblazer ใหม่ ที่มาพร้อมภาพลักษณ์ที่ดุดัน สะกดทุกสายตา อีกทั้งยังอัดแน่นด้วยลูกเล่นสุดล้ำสมัย ก้าวสู่ความเป็นยนตรกรรมที่มีความพรีเมี่ยมอย่างแท้จริง
Chevrolet Trailblazer ใหม่ รถเอสยูวีระดับพรีเมียมสไตล์อเมริกัน
ไฟหน้า พร้อมกระจังหน้าดีไซน์ใหม่ หัวใจหลักในการเสริมภาพลักษณ์ที่ดุดัน
Chevrolet Trailblazer ใหม่ ได้รับการปรับปรุงรูปลักษณ์ใหม่ ซึ่งโดยหลักๆ แล้วจะอยู่ที่บริเวณด้านหน้า ดูแล้วให้ความรู้สึกที่ดุดัน แข็งแกร่ง แฝงความล้ำสมัยไว้ภายใน ไฟหน้าแบบฮาโลเจนมาพร้อมระบบเปิด-ปิดอัตโนมัติ พร้อม LED Day Light ฝากระโปรงหน้าใหม่ ที่รับกับกระจังหน้าที่ออกแบบมาให้ดุดันยิ่งขึ้น ส่วนในด้านข้างเสริมความหล่อด้วยล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว (รุ่น LTZ) มาพร้อมสีสันใหม่ที่มีให้เลือกอย่างจุใจยิ่งขึ้น
ขุมพลัง Duramax 2.5 VGT กับความเร้าใจถึง 180 แรงม้า
ด้านขุมพลังของ Chevrolet Trailblazer เจนเนเรชั่นนี้ ยืนหยัดอย่างมั่นคงกับเครื่องยนต์ดีเซล Duramax คอมมอนเรล VGT เทอร์โบในพิกัด 2.5 ลิตร 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว ให้กำลังสูงสุด 180 แรงม้า ที่ 3,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 44.8 กก.-ม. ที่ 2,000 รอบ/นาที ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด ที่ได้รับการปรับอัตราทดอย่างเหมาะสม ให้การเปลี่ยนที่นุ่มนวล ต่อเนื่อง สิ่งที่เป็นความแปลกใหม่ของ Chevrolet Trailblazer ใหม่ ก็คือ การติดตั้งยางรองแท่นเครื่อง แท่นเกียร์ รวมไปถึงยางรองตัวถังแบบใหม่ โดยมีจุดประสงค์ในการมุ่งลดเสียงรบกวนและการสั่นสะเทือนภายในห้องโดยสาร โดยระบบกันสะเทือนของ Chevrolet Trailblazer ใหม่ มาในแบบคอยล์สปริง ด้านหลังแบบ Multi Link ที่ช่วยให้การยึดเกาะพื้นถนน ทำได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
แผงคอนโซลดีไซน์เรียบง่าย ให้ความรู้สึกลงตัวทุกการใช้งาน
หน้าจอระบบสัมผัส จัดลูกเล่นมาให้แบบครบครัน
ภายในห้องโดยสารของ Chevrolet Trailblazer ใหม่ ได้รับการปรับโฉมใหม่ให้มีความสวยงาม หรูหรา ลงตัวกว่าเดิม ด้วยการดีไซน์แผงคอนโซลกลาง และแผงคอนโซลหน้าใหม่ พร้อมปรับตำแหน่งของสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ให้สามารถใช้งานได้ง่าย คล่องตัวยิ่งขึ้น พร้อมจอแสดงข้อมูลการขับขี่ที่สามารถแสดงผลเป็นภาษาไทย สำหรับออพชั่นต่างๆ ประกอบไปด้วย ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (Cruise Control), หน้าจอสัมผัส พร้อมโปรแกรมอำนวยความสะดวกต่างๆ ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบแยกส่วน, เบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง
รีโมทสตาร์ท ลูกเล่นใหม่ที่ใช้ประโยชน์ได้จริง โดยเฉพาะกับสภาพอากาศเมืองไทย
Side Blind Zone Alert ตัวช่วยที่เสริมควาามปลอดภัยได้มากยิ่งขึ้น
ส่วนที่เป็นกิมมิคเฉพาะตัวของ Chevrolet Trailblazer ใหม่ ที่อดพูดถึงไม่ได้เลยก็คือ กุญแจรีโมทพร้อมฟังก์ชั่นรีโมทสตาร์ท ที่สามารถเปิดระบบปรับอากาศสำหรับเตรียมตัวออกเดินทาง นับเป็นรุ่นแรกในคลาสที่บรรจุระบบนี้, ระบบอินโฟเทนเมนต์ใหม่ที่รองรับ Apple Carplay และ Siri Eye Free ซอฟต์แวร์สั่งงานด้วยเสียง ทำให้ผู้ขับขี่สามารถสั่งงานด้วยเสียงโดยไม่ต้องละมือจากพวงมาลัย รวมถึงกระจกหน้าต่างคู่หน้าเลื่อนลงเล็กน้อยเพื่อช่วยให้ปิดประตูทำได้ง่ายยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังอัดแน่นด้วยระบบความปลอดภัยด้วยสัญญาณเตือน หากมีรถกำลังวิ่งผ่านในขณะที่ถอยหลัง หรือสัญลักษณ์เตือนในกระจกมองข้างหากมีรถที่อยู่ในมุมอับสายตา
การทดลองขับ Chevrolet Trailblazer ใหม่ ในครั้งนี้ เริ่มออกสตาร์ทจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ มุ่งหน้าสู่เกาะช้าง จ.ตราด ระยะทางไป-กลับ รวมกว่า 700 กม. เส้นทางที่ใช้โดยส่วนใหญ่เป็นไฮเวย์สลับเส้นทางท้องถิ่นที่มีทางโค้งและภูเขาให้ได้ทดลองพละกำลังของ Chevrolet Trailblazer ใหม่ กันแบบครบรส สำหรับรุ่นที่ทาง BoxzaRacing ได้ทดลองขับเป็น Chevrolet Trailblazer 2.5 VGT 4×2 AT LTZ โดยผู้เขียนเริ่มจากการเป็นผู้โดยสารในที่นั่งตอนหลัง ความรู้สึกที่สัมผัสได้หลังจากที่ได้ลองนั่ง คือ ความสะดวกสบาย ตัวเบาะออกแบบให้รับกับสรีระ อีกทั้งยังสามารถปรับเอนได้เล็กน้อย สร้างความผ่อนคลายยามเดินทางได้อีกขั้น ระบบปรับอากาศกระจายความเย็นได้อย่างทั่วถึง โดยในตอนหลังจะมีสวิตช์แยกเพื่อปรับความแรงของลมได้ตามต้องการ (แค่ระดับหนึ่งก็แรงเหลือๆ รับกับสภาพอากาศเมืองไทยได้สบาย) สิ่งอำนวยความสะดวกมีให้ครบ ทั้งที่วางแก้ว และช่องเสียบไฟแบบ 12 โวลต์ ฟีลลิ่งในการนั่งด้านหลังออกแนวแข็งนิดๆ อาจเป็นเพราะการเติมลมในระดับกว่า 40 ปอนด์ (ถ้าลดลมยางลงมาอีกนิด น่าจะเพิ่มความนุ่มนวลได้พอสมควร) ซึ่งทำให้ไม่รู้สึกถึงอาการเหวี่ยง โดยรวมแล้วถือว่าโอเคเลยทีเดียว
หลังจากที่รับบทเป็นผู้โดยสารมาพอควรแล้ว ก็ได้เวลาที่ผู้เขียนจะทำหน้าที่ขับ โดยก่อนที่จะเริ่มขับต้องมีการปรับเบาะ จัดท่าทางกันเล็กน้อย สิ่งที่รู้สึกว่าแอบขัดใจอยู่เล็กๆ คงหนีไม่พ้นเรื่องของตำแหน่งท่านั่ง เนื่องจากพวงมาลัยสามารถปรับระดับได้เพียงขึ้น-ลง เท่านั้น ไม่สามารถปรับเข้า-ออกได้ อาจสร้างปัญหาเรื่องท่าทางการขับขี่ให้กับผู้ขับขี่มีรูปร่างค่อนข้างเล็ก (ตัวผู้ขับสูง 168 ซม.) คือ แม้จะเลื่อนเบาะมาในตำแหน่งหน้าสุด แต่กลับรู้สึกว่าพวงมาลัยไกลตัวเกินไปนิด (ถ้าตัวใหญ่ หรือแขนยาว จะไม่พบปัญหาในจุดนี้) เบาะนั่งมาพร้อมระบบปรับไฟฟ้า ให้ความรู้สึกที่กำลังดี กระชับ นั่งสบาย ฟีลลิ่งในการขับขี่ทำได้ดี ให้ความรู้สึกนุ่มนวล การเก็บเสียงเครื่องยนต์รวมถึงเสียงลมที่เล็ดลอดเข้ามาในห้องโดยสารทำได้ดีสมราคา อัตราเร่งของเครื่องยนต์ในพิกัด 2.5 ลิตร ทำได้อย่างต่อเนื่อง ราบรื่น โดยเฉพาะในย่านความเร็วที่ใช้งานเป็นส่วนใหญ่ คือ ตั้งแต่จุดหยุดนิ่งถึงประมาณ 140 กม./ชม. เช่นเดียวกับระบบส่งกำลังที่ให้ความต่อเนื่อง นุ่มนวล ไม่มีกาการสะดุด พวงมาลัยปรับน้ำหนักการทำงานมาอย่างพอเหมาะ ช่วงล่างให้การทรงตัวที่ดีแม้ในย่านความเร็วสูง ก็ยังคงความรู้สึกมั่นใจ สิ่งที่สร้างความประทับใจยามขับขี่อีกอย่างหนึ่ง คงหนีไม่พ้นระบบสัญญาณเตือนมุมอับสายตาที่จะมีสัญลักษณ์ขึ้นเตือนที่กระจกมองข้าง สามารถทำงานได้ดีและช่วยได้มากในยามใช้งานจริง
รุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อ ยังสบาย แม้ต้องลุยแบบนี้
Chevrolet Trailblazer ใหม่ ในภาพรวมของคลาสนี้ จัดว่าเป็นรถอีกรุ่นที่ “น่าใช้” ด้วยภาพลักษณ์ที่มีความโดดเด่น บวกกับลูกเล่นล้ำสมัยที่สามารถใช้งานได้จริงในราคาค่างวดที่ไม่ได้สูงจนเกินไป ซึ่งจะว่าไป...สำหรับการใช้งานในรูปแบบทั่วๆ ไปแล้ว รุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อ LTZ ดูจะเป็นทางเลือกที่เหมาะสม เนื่องจากให้ออพชั่นมาแบบครบๆ สามารถตอบรับกับการใช้งานได้แทบจะทุกรูปแบบ ถือว่าเพียงพอต่อความต้องการแล้วครับ
ราคา
The All-New Trailblazer 2.5L VGT 4X2 AT LT ราคา 1,244,000 บาท
The All-New Trailblazer 2.5L VGT 4X2 AT LTZ ราคา 1,379,000 บาท
The All-New Trailblazer 2.5L VGT 4X4 AT LTZ ราคา 1,479,000 บาท
