เขียนโดย: Pajingo

เมื่อ: 25 กรกฏาคม 2559 - 17:09

Mercedes-Benz E 220 d AMG Dynamic ที่สุดแห่งความสมบูรณ์แบบทั้งสมรรถนะและสุนทรียภาพแห่งการเดินทาง

 

        Mercedes Benz E-Class เจนเนอเรชั่นล่าสุด เปิดตัวอย่างฮือฮาในงานดีทรอยต์ ออโต้โชว์ เมื่อต้นปีที่ผ่านมา โดยเป็นรุ่นที่กลับมาพร้อมการเปลี่ยนโฉมครั้งยิ่งใหญ่ที่มาพร้อมภาพลักษณ์ที่มีความหรูหรา พรีเมี่ยมเต็มพิกัด พร้อมอัดแน่นด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัยทั้งในส่วนของขุมพลัง ระบบขับเคลื่อน รวมไปถึงสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ที่ช่วยส่งให้ยนตรกรรมซีดานขนาดกลางผู้นี้ ขึ้นแท่นหัวแถวแห่งความครบเครื่องไปตามความคาดหมาย

 

 

                สำหรับ Mercedes Benz E-Class เจนเนอเรชั่นที่ 10 รุ่นล่าสุดที่ทาง บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด นำเข้ามาทำตลาดนั้น มีอยู่ด้วยกันทั้งสิ้น 2 รุ่น ประกอบไปด้วยรุ่น E 220 d Exclusive ราคา 3.99 ล้านบาท และรุ่นท็อปที่มาพร้อมออพชั่นและภาพลักษณ์ที่สปอร์ต เร้าใจยิ่งขึ้นอย่าง E 220 d AMG Dynamic ที่พร้อมจำหน่ายในราคา 4.79 ล้านบาท โดยทั้ง 2 รุ่น มาพร้อมขุมพลังดีเซลคอมมอนเรล เทอร์โบในพิกัด 2.0 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 194 แรงม้า ที่ 3,800 รอบ/นาที พร้อมแรงบิด 400 นิวตัน-เมตร ที่มีมาให้ใช้งานกันแบบยาวๆ ตั้งแต่ 1,600-2,800 รอบ/นาที และที่พิเศษสุดๆ สำหรับ Mercedes Benz E-Class ในเจนเนอเรชั่นนี้ คงหนีไม่พ้นเรื่องของระบบส่งกำลัง ที่มาพร้อมชุดเกียร์แบบ 9 สปีด ที่ทางค่ายขนานนามว่า 9G-Tronic

 

 

                ภาพลักษณ์โดยรวมของตัวรถ Mercedes Benz E-Class ใหม่ ภายใต้รหัส W213 มีขนาดตัวถังที่ใหญ่ รวมถึงฐานล้อที่ยาวและกว้างขึ้น โดยมาในแพลตฟอร์มเดียวกับรุ่นพี่อย่าง S-Class และรุ่นน้องอย่าง C-Class ฝากระโปรงหน้าได้รับการออกแบบให้ดูเรียวยาว เส้นสายของส่วนหลังคาที่ออกแบบในสไตล์รถคูเป้ ทอดตัวเป็นเส้นโค้งยาวจรดด้านหลังของตัวรถ นอกจากนี้ รูปลักษณ์ด้านหลังของตัวรถได้รับการออกแบบให้ซุ้มล้อหลังดูกว้างกว่าซุ้มล้อหน้า เพื่อแสดงเอกลักษณ์ของสมาชิกใหม่ในกลุ่มรถซาลูนของ Mercedes Benz พร้อมติดตั้งโคมไฟท้ายแบบชิ้นเดียว โดยด้านในโคมแบ่งออกเป็นสองส่วนทำให้มีรูปลักษณ์ที่ดูสง่างามอย่างมีระดับ ซึ่งด้วยองค์ประกอบทั้งหมดทั้งมวลที่กล่าวมา พร้อมด้วยดีไซน์ที่ปราดเปรียว ช่วยส่งให้ Mercedes Benz E-Class เจนเนอเรชั่นที่ 10 มีค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานเพียง 0.23 ซึ่งเทียบเท่ากับยนตรกรรมที่มาในรูปแบบสปอร์ตขนานแท้เลยทีเดียว

 

ครั้งแรกกับหน้าจอ 12.3 นิ้ว วางตามแนวยาวถึง 2 จอ

 

 

                อีกสิ่งหนึ่งที่ทาง Mercedes Benz แสดงถึงความใส่ใจเอามากๆ เลยก็คือ เรื่องของคุณภาพภายในห้องโดยสาร ที่นอกจากจะออกแบบมาอย่างหรูหรา ด้วยสีในโทนเข้มตัดกับลายไม้ที่ดูวิจิตรบรรจงแล้ว ยังมาพร้อมลูกเล่นและสิ่งอำนวยความสะดวกที่มีความโดดเด่น ไม่ว่าจะเป็น ชุดหน้าจอความละเอียดสูงขนาด 12.3 นิ้ว ที่มีลักษณะเหมือน Tablet จำนวน 2 จอ ซึ่งนับเป็นครั้งแรก ของรถยนต์ในเซ็กเมนต์นี้ที่มีการติดตั้งจอดังกล่าว นอกจากนี้ ยังเพิ่มสุนทรียภาพในการโดยสารด้วยระบบไฟสร้างบรรยากาศในห้องโดยสารที่ปรับสีได้ถึง 64 สี พร้อมเติมอรรถรสความบันเทิงด้วยชุดเครื่องเสียงระดับไฮเอนด์จาก Burmester® ที่พร้อมเติมสุนทรียภาพในทุกการขับขี่ โดยเครื่องเสียงและสิ่ง อำนวยความสะดวก รวมถึงหน้าจอ สามารถควบคุมได้โดยง่ายที่ Touch Pad ที่บริเวณพวงมาลัยดีไซน์ 3 ก้าน และคอนโซลกลาง

 

ภายในกว้างขวาง สะดวกสบายทุกการเดินทาง

 

                เป็นโอกาสดีอีกครั้งที่ทาง BoxzaRacing ได้รับเชิญให้ร่วมสัมผัสสมรรถนะของ Mercedes Benz E-Class ใหม่ บนเส้นทางกรุงเทพฯ – สัตหีบ ภายใต้ระยะทางกว่า 350 กม. โดยรุ่นที่ได้ทดลองขับในครั้งนี้ คือ Mercedes Benz E 220 d AMG Dynamic เริ่มออกสตาร์ทการเดินทางจากโรงแรมสุโขทัย ถนนสาธร ซึ่งแน่นอนว่า...เราต้องฝ่าสภาพการจรจรที่แออัดกันตั้งแต่เริ่มเลยทีเดียว งานนี้ผมรับหน้าที่เป็นผู้ขับไม้แรก ตำแหน่งของเบาะนั่ง รวมถึงพวงมาลัยสามรรถปรับได้อย่างหลากหลายด้วยไฟฟ้า พร้อมมีเมมโมรีความจำเพื่อความสะดวกในการบันทึกข้อมูล ตำแหน่งการจัดท่านั่งทำได้โดยง่ายและค่อนข้างยืดหยุ่น ช่วยให้การขับขี่ทำได้อย่างสบายยิ่งขึ้น รูปแบบของตัวเบาะมาในแนวโอบกระชับ ช่วยสร้างความมั่นใจยามขับขี่

 

เริ่มสตาร์ทการเดินทางจากโรงแรมสุโขทัย 

 

 

               พวงมาลัยให้น้ำหนักในการตอบสนองกำลังดี ไม่เร็วหรือหน่วงจนเกินไป โดยในสภาพการจราจรที่ค่อนข้างแออัด การได้เครื่องเสียงระดับไฮเอนด์ช่วยขับกล่อม ดูจะเป็นอะไรที่ช่วยสร้างความผ่อนคลายได้ไม่น้อย ใช้เวลาสักระยะก็เข้าสู่ถนนมอเตอร์เวย์ที่สามารถเพิ่มความเร็วได้สูงขึ้น เครื่องยนต์ดีเซลบล็อคนี้ต้องบอกว่าให้การตอบสนองได้อย่างเฉียบคม ให้ความรู้สึกถึงพละกำลังที่เต็มเปี่ยม แม้จะมาในพิกัดเพียง 2.0 ลิตร นอกจากนี้ยังมีโหมดการขับขี่ให้เลือกอย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น Eco, Comfort, Sport รวมไปถึง Sport+ สำหรับผู้ที่ต้องการความเร้าใจ รวมถึงอัตรการตอบสนองที่ดุกระฉับกระเฉงยิ่งขึ้น จากการใช้รอบเครื่องยนต์ที่สูงกว่า (ในตำแหน่งเกียร์ที่ต่ำกว่า) และอัตราการตอบสนองของคันเร่งไฟฟ้าที่ค่อนข้างไว โดยนอกจากทั้ง 4 โหมดการขับขี่ที่กล่าวมาแล้ว ทางค่ายยังจัดโหมดพิเศษภายใต้ชื่อ Individual ซึ่งผู้ขับขี่สามารถเลือกรูปแบบการขับขี่ได้ตามต้องการ ด้วยกำลังเครื่องยนต์ที่เหลือล้น บวกกับระบบส่งกำลังที่มีมาให้ใช้งานถึง 9 ระดับ ช่วยให้การขับเคลื่อนของ Mercedes Benz E 220 d AMG Dynamic เป็นไปอย่างราบรื่นและนุ่มนวล เรื่องของอัตราการบริโภคคงไม่ใช่ประเด็นที่ต้องกังวลอะไรมากนัก เพราะการวิ่งที่ความเร็ว 120 กม./ชม. ในเกียร์สูงสุด ใช้รอบเครื่องยนต์ประมาณ 1,4xx รอบ/นาที เท่านั้น ซึ่งสามารถสรุปได้ทันทีว่า ขุมพลังและระบบเกียร์เซ็ตนี้ ให้ประสิทธิภาพที่เกินตัว สมกับความเป็นจ้าวแห่งเทคโนโลยีแห่งการขับเคลื่อนอย่างแบรนด์ Mercedes Benz จริงๆ

 

แม้วิ่งด้วยความเร็วสูง แต่ตัวรถยังคงนิ่ง ให้ความมั่นใจในระดับที่ดีเยี่ยม

 

 

                นอกจากเครื่องยนต์และระบบส่งกำลังจะให้การตอบสนองที่เป็นเลิศแล้ว สิ่งหนึ่งที่ Mercedes Benz E 220 d AMG Dynamic  ทำได้อย่างไร้ที่ติ นั่นก็คือ เรื่องของสมรรถนะการทรงตัว โดยนอกจากความนุ่ม สบายที่มอบให้ตามสไตล์ที่รถซีดานหรูควรจะเป็นแล้ว ซีดานผู้นี้ยังสร้างความมั่นใจได้ในทุกการขับขี่ ด้วยเสถียรภาพแห่งการทรงตัวที่มีความโดดเด่น ไม่ว่าจะเป็นในย่านความเร็วต่ำ หรือแม้แต่ความเร็วสูงๆ ขึ้นไป ก็ยังไม่รู้สึกว่าตัวรถออกอาการไม่สู้ความเร็ว โดยยังเคลื่อนที่ไปแบบนิ่งๆ ไม่ต้องออกแรงในการควบคุมอะไรกันมากมาย ซึ่งน้ำหนักพวงมาลัยจะถุกปรับอย่างเหมาะสมตามความเร็วที่เพิ่มขึ้น ส่วนระบบเบรกนั้นต้องบอกว่าทำงานได้อย่างไร้ที่ติ โดยการเบรกแบบเลียๆ ปกติสามารถชะลอความเร็วได้อย่างนุ่มนวล ส่วนถ้าเพิ่มน้ำหนักลงไป เบรกชุดนี้ก็พร้อมจะสยบความเร็วได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด สร้างความมั่นใจในยามขับขี่ได้มากขึ้นอีกระดับ

 

              นอกจากนี้ทาง เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) ยังได้สาธิตระบบช่วยจอด รวมถึงระบบช่วยออกจากช่องจอดที่มาในชื่อ Active Parking Assist ที่สามารถใช้งานได้โดยง่ายเพียงแค่กดปุ่มเท่านั้น ส่วนที่เหลือ “ระบบ” จะเป็นผู้จัดการให้ทั้งหมด ตั้งแต่การคำนวณเรื่องพื้นที่ในการจอด ซึ่งผู้ขับขี่เพียงแค่นั่งเฉยๆ ไม่ต้องจับพวงมาลัย ไม่ต้องเปลี่ยนเกียร์ ไม่ต้องเร่ง ไม่ต้องเบรก เพียงไม่กี่อึดใจ  Mercedes Benz คันเก่งของท่าน ก็พร้อมอยู่ในที่จอดอย่างเรียบร้อยแล้วล่ะครับ

 

 

                ทั้งหมดที่ว่ามา...เป็นแค่ส่วนหนึ่งของความเป็นพรีเมี่ยมของยนตรกรรมซาลูนที่ทาง Mercedes Benz ตั้งใจนำเสนอตอลอดมาจนถึงเจเนอเรชั่นที่ 10 ซึ่งจะถูกอกถูกใจผู้ที่กำลังมองหายนตรกรรมพรีเมี่ยมขนาดไหน BoxzaRacing คงไม่สามารถบรรยายสรรพคุณได้เกินกว่า...การที่คุณลองสัมผัสและเปิดรับความเป็นที่สุดด้วยตัวเองครับ

รถซื้อสอง ซื้อขายรถ ของแต่งรถ

ข่าวที่ใกล้เคียง

แสดงความคิดเห็นด้วย Facebook