Toyota Hilux REVO คาราวานทริป กับหนึ่งเดือนเต็มแห่งการเดินทางเพื่อพิสูจน์ที่สุดแห่งความทรหด

            คาราวาน Toyota Hilux REVO เดินทางครบ 1 เดือนเต็ม  โดยมีเป้าหมายพิชิตเมืองมรดกโลกอีกแห่งหนึ่งของประเทศตุรกีในวันที่ 31 ของการเดินทาง ซึ่งเมืองที่จะเดินทางไปในวันนี้ คือ เมืองคัปปะโดเกีย ด้วยระยะทางกว่า 611 กม. และเริ่มออกเดินทางกันในเวลา 8.00 น. การเดินทางวันนี้ ยังคงใช้เส้นทางนถนน 4 เลน ขับชิดขวาตามกฎจราจรของตุรกี ซึ่งจะต้องมีการเร่งแซงเป็นช่วงๆ ซึ่ง Toyota Hilux REVO สามารถตอบโจทย์ตรงนี้ได้ดีทีเดียว กับเครื่องยนต์อันทรงประสิทธิภาพ ทำให้ทุกการเร่งแซงทำได้อย่างมั่นใจ รวมไปถึงสมรรถนะในการทรงตัวที่โดดเด่น ช่วยให้คาราวาน Toyota Hilux REVO ฟันฝ่าทุกอุปสรรคไปได้แบบไม่มีอะไรต้องกังวล

            เมื่อคณะคาราวาน Toyota Hilux REVO  เดินทางมาถึงเขตเมืองคัปปะโดเกีย จะเริ่มเห็นแท่งหินรูปร่างประหลาดจากฝีมือของธรรมชาติ ท่ามกลางทัศนียภาพอันสวยงาม โดยเมืองแห่งนี้ตั้งอยู่ระหว่างทะเลดำกับภูเขาทอรัส มีความสำคัญมาแต่โบราณ เพราะเป็นส่วนหนึ่งของเส้นทางสายไหมในการค้าขายแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมที่ทอดยาวจากตุรกีไปจนประเทศจีน เป็นพื้นที่พิเศษที่เกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟเมื่อประมาณ 3 ล้านปีมาแล้ว ซึ่งเหตุการณ์นั้น ทำให้ลาวาและเถ้าถ่านที่พ่นออกมาจำนวนมหาศาลกระจายไปทั่วบริเวณ ทับถมเป็นแผ่นดินชั้นใหม่ขึ้นมา จากนั้นกระแสน้ำ ลม ฝน แดด และหิมะ กัดกร่อนภูเขามาเป็นเวลานับล้านปี ทำให้ภูมิประเทศบริเวณนี้เปลี่ยนแปลงดูน่าพิศวง เต็มไปด้วยหินรูปแท่งกรวยคว่ำ ปล่อง กระโจม โดม และอีกสารพัดรูปทรงเท่าที่ธรรมชาติจะสร้างสรร ชนพื้นเมืองจึงเรียกขานกันว่า “ปล่องไฟนางฟ้า” โดยสถานที่แห่งนี้ยังได้รับการรับรองจากยูเนสโกให้เป็นเมืองมรดกโลกอีกด้วย 

            คาราวาน Toyota Hilux REVO เดินทางมาถึงช่วงประมาณ 16.00 น. ทำให้มีเวลาเดินชมประมาณ 2 ชั่วโมง เพื่อเก็บภาพความสวยงามของวิวบนเนินและยอดเขา รวมถึงช่องภายในแท่งหินปูน ก่อนจะเดินทางไปยังที่พักซึ่งได้รับการปรับปรุงจากบ้านอันเป็นที่อยู่อาศัยเดิมของคนยุคก่อน

ความมหัศจรรย์ของเมืองคัปปะโดเกียจากมุมสูง

            วันที่ 32 ของการเดินทาง ชาวคาราวาน Toyota Hilux REVO ร่วมทำกิจกรรมเพื่อผ่อนคลายกันสักเล็กน้อย ก่อนที่จะออกเดินทางไปยังเมืองพามูคคาเล่ โดยคณะคาราวานขึ้นบอลลูนเพื่อชมวิวสวยๆ ในบรรยากาศแสงแรกของเมือง สำหรับบอลลูน 1 ลูก มีพื้นที่สามารถจุผู้โดยสารได้ 14-16 คน เมื่อทุกอย่างพร้อม กัปตันก็เรียกทุกคนขึ้น พร้อมกับประกาศต้อนรับผู้โดยสาร หลังจากนั้นไม่นาน บอลลูนก็ค่อยๆ ลอยขึ้นสู่ผืนฟ้าอย่างช้าๆ วิวเบื้องล่าง คือ ความมหัศจรรย์ของเมืองคัปปะโดเกีย ที่สวยงามตระการตา ซึ่งเวลาในการเดินทางอยู่ประมาณ 1 ชั่วโมง

            หลังจากที่ชมความงามของเมืองคัปปะโดเกียกันเป็นที่เรียบร้อย คณะคาราวาน Toyota Hilux REVO  ก็เตรียมตัวเดินทางกันต่อ โดยระยะทางสู่เมืองเมืองพามูคคาเล่ในวันนี้ อยู่ที่ประมาณ 648 กม. เส้นทางวันนี้มีความสวยงามพอสมควร มีโค้งขึ้น-ลงเนินให้ Toyota Hilux REVO ได้ทดสอบสมรรถนะกันอยู่ตลอดทาง ระยะทางวันนี้วิ่งกันยาวๆ แน่นอนว่า ซึ่งอาจสร้างความเหนือยล้าหรือเบื่อหน่ายให้กับผู้ขับขี่และผู้โดยสารภายในรถ แต่ไม่ใช่กับผู้ที่เดินทางด้วย Toyota Hilux REVO เพราะนอกจากรถจะให้สมรรถนะที่โดดเด่น ควบคุมและขับขี่ได้ง่ายจากพวงมาลัยให้การตอบสนองดี บังคับง่าย ให้ความมั่นใจในการขับขี่ ด้วยขนาดเส้นรอบวงจับได้กระชับพอดีมือแล้ว ยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย พร้อมเบาะนั่งที่ออกแบบมาอย่างเหมาะสมกับสรีระ ซึ่งให้ความนุ่มนวล กระชับ และลดอาการเมื่อยล้าในการเดินทางได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังมาพร้อมช่วงล่างที่ให้ความหนึบ แน่น แกร่ง สามารถรับแรงสั่นสะเทือนจากพื้นถนนที่ขุรขระ ไม่เรียบ ช่วยให้การขับขี่นุ่มนวล ผู้ขับขี่และผู้โดยสารจึงไม่เพลีย 

            ในช่วงตกเย็น คณะคาราวาน Toyota Hilux REVO ขับมาจนถึงเมืองพามูคคาเล่ ซึ่งตั้งอยู่ทางภาคตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศตุรกี เป็นที่ตั้งของลานหินปูนสีขาว กว้าง 300 ม. ยาว 2,600 ม. และเป็นที่ตั้งของนครโบราณชื่อว่า เฮียราโปลิส รวมไปถึงบ่อน้ำแร่ในอดีตที่เคยเป็นสระน้ำร้อนที่มีอุณหภูมิอยู่ที่ 35 องศาเซลเซียส พามูคคาเล่ หรือเรียกอีกอย่างว่า ปราสาทปุยฝ้าย เกิดจากน้ำแร่ร้อนที่มีแร่ธาตุแคลเซียม คาร์บอเนต มาตกตะกอนกลายเป็นหน้าผาซ้อนกันเป็นชั้นน้ำตก มีสีขาวคล้ายสร้างมาจากปุยฝ้าย โดยมีความสูงประมาณ 100 ม. ในยุคโรมันสถานที่แห่งนี้ใช้เป็นเมืองตากอากาศที่สวยงาม

            เมื่อมาถึงพามูคคาเล่ ทีมคาราวาน Toyota Hilux REVO ไม่รอช้าที่จะทดลองเอาเท้าแช่น้ำแร่ที่มีอุณหภูมิอุ่นๆ เพราะเชื่อกันว่าน้ำแร่นี้สามารถช่วยรักษาโรคหัวใจ ไขข้ออับเสบ ความดันโลหิตสูง และอีกหลาย เรียกได้ว่าสบายตัวกันไปทีเดียว

            ออกสตาร์ทการเดินทางวันที่ 33 วันนี้คาราวาน Toyota Hilux REVO ออกเดินทางกันด้วยความสดชื่น หลังจากที่พักผ่อนกันมาอย่างเต็มอิ่ม โดยระยะทางสู่เมืองเมียร์ อันเป็นจุดหมายปลายทางในวันนี้ ไม่ใกล้ไม่ไกล เพียงแค่ 310 กม. เท่านั้น โดยระหว่างทางมีสถานที่สำคัญอย่างเมืองเอฟฟิซุส อันเป็นเมืองโบราณที่เคยเป็นที่อยู่ของชาวโยนกจากกรีก ที่อพยพเข้ามาปักหลักสร้างเมืองอยู่ที่นี่ตั้งแต่เมื่อ 1,000 ปีก่อนคริสตกาล ปัจจุบันตั้งอยู่ที่เมืองคูซาดาสีของตุรกี

            เส้นทางในช่วงแรกๆ ของการเดินทาง โดยส่วนใหญ่เป็นถนน 4 เลน ผ่านธรรมชาติอันสวยงามสลับกับชุมชนขนาดย่อม แต่หลังจากรับประทานอาหารกลางวันเสร็จ วิวสองข้างทางเริ่มเปลี่ยนสู่ความสวยงามของทะเลอีเจียน ที่มาขนาบอยู่สองข้างของถนน ใช้เวลาไม่นาน คณะคาราวาน Toyota Hilux REVO ก็มาถึงเมืองคูซาดาสี ที่ตั้งของเมืองโบราณเอฟฟิซุส โดยเมืองแห่งนี้ เป็นเมืองโบราณที่สร้างขึ้นมาตั้งแต่เมื่อ 1,000 ปีก่อนคริสตกาล ก่อนจะเติบโตในยุคของกรีก และรุ่งเรืองสูงสุดในยุคโรมัน สมัยจักรพรรดิออกุสตุส ซีซาร์ ผู้มีชัยเหนือมาร์กุส อันโตนิอุส หรือที่รู้จักกันในนามมาร์ก แอนโทนี ชู้รักของพระนางคลีโอพัตรา ท่านได้สถาปนาให้เอฟฟิซุสเป็นเมืองหลวงของโรมันในเขตการปกครองแถบเอเซีย ในอดีตเป็นเมืองที่มั่งคั่งที่สุดในเเถบทะเลเมดิเตอร์เรเนียน และรุ่งเรืองถึงขีดสุดภายใต้การปกครองของโรมัน มีความยิ่งใหญ่และสวยงามจนได้รับการจารึกว่า “มหานครแห่งแรกและยิ่งใหญ่ที่สุดในเอเซีย” ที่นี่ถือเป็นเมืองโบราณที่มีการบำรุงรักษาไว้อย่างดีที่สุดเมืองหนึ่ง โดยส่วนใหญ่เป็นสถาปัตยกรรมที่สร้างขึ้นในสมัยจักรพรรดิออกุสตุส ราวศตวรรษที่ 11 ล้วนแต่เป็นศิลปะแบบเฮเลนนิสติก

            หลังจากที่ชื่นชมความงามกันอย่างเต็มอิ่ม คาราวาน Toyota Hilux REVO ก็ออกเดินทางกันต่อ ผ่านเส้นทางที่เป็นถนน 4 เลน ก่อนจะเข้าสู่เส้นทางท้องถิ่นที่เป็นเลนสวน ผ่านไปไม่นานเริ่มปรากฎบ้านเรือนที่สร้างลดหลั่นกันตามไหล่เขา เป็นสัญญาณว่าคณะคาราวาน Toyota Hilux REVO ได้เข้าสู่เมืองอิซเมียร์ เป็นที่เรียบร้อย โดยเมืองแห่งนี้ตั้งอยู่ในภูมิภาคอีเจียน มีเนื้อที่ 12,012 ตร.กม. มีประชากรประมาณ 4 ล้านคน ถือเป็นเมืองใหญ่อันดับ 3 รองจากอิสตันบูลและอังการา โดยเป็นเมืองท่าและเมืองเศรษฐกิจที่สำคัญของตุรกี ในอดีตยังเป็นทั้งเมืองท่าและศูนย์กลางการค้าหลักของจักรวรรดิออตโตมันอีกด้วย 

            อิซเมียร์จัดว่าเป็นเมืองที่มีความคึกคักและทันสมัยที่สุด เมื่อเทียบกับหลายๆ เมืองของตุรกีที่คณะคาราวาน Toyota Hilux REVO เดินทางผ่านมา บ้านเรือนจำนวนมากสร้างเรียงรายลดหลั่นกันตามไหล่เขาติดกับริมอ่าวทะเลเมดิเตอร์เรเนียน วันนี้คณะคาราวานมีโอกาสได้ไปสำรวจเมืองกันเล็กน้อย โดยสถานที่แรก คือ ปราสาท Kadifekale ซึ่งตั้งอยู่บนยอดเขา เป็นปราสาทเก่าที่เหลือเพียงซากปรักหักพัง และมีแนวกำแพงเหลือพอให้เห็นแค่บางส่วน แต่ไฮไลท์ของที่นี่ คือ การได้ชมวิวของเมืองอิซเมียร์จากมุมสูง ได้เห็นภาพของอาคารบ้านเรือนที่ตั้งเรียงรายเคียงคู่กับทะเลเมดิเตอร์เรเนียนอย่างสวยงาม และเนื่องจากช่วงนี้เป็นฤดูร้อน ทำให้เวลากลางวันยาวนานกว่าปกติ ซึ่งกว่าจะหมดแสงสุดท้ายของวันก็เป็นเวลาเกือบ 21.00 น. คณะคาราวานจึงพอมีเวลาช่วงเย็นได้ไปเดินเล่นริมอ่าว ดูวิถีชีวิตคนท้องถิ่น และไปชมจตุรัส Konak สัญลักษณ์สำคัญของเมืองที่มีหอฬิกาหินอ่อนประจำเมืองตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่กลางจตุรัส 

            คาราวาน Toyota Hilux REVO เดินทางกันต่อเนื่องมาถึงวันที่ 34 กับภารกิจสุดท้ายในทวีปเอเชียที่อิสตันบูล โดยคณะคาราวาน Toyota Hilux REVO เริ่มออกเดินทางจากเมืองอิซเมียร์กันตั้งแต่เช้า เนื่องจากระยะทางที่ยาวไกลถึง 670 กม. และมีภารกิจแวะเยี่ยมชมสถานที่สำคัญระหว่างทางอีกหนึ่งแห่ง ทำให้ต้องทำเวลากันพอสมควร โดยสภาพถนนในวันนี้ เป็นถนน 4 เลน ทำให้การขับขี่ค่อนข้างสบายๆ คาราวานจึงเลือกใช้ Power Mode ในการเร่งความเร็ว เพื่อให้ไปถึงจุดหมายโดยเร็วที่สุด ขับผ่านวิวทะเลสวยๆ ต่อด้วยที่ราบหุบเขาเน้นเพาะปลูกพืชเศรษฐกิจเป็นหลัก พร้อมเพลิดเพลินกับบรรยากาศสองข้างทางได้สักพัก คณะคาราวาน Toyota Hilux REVO ก็มาถึงสถานที่สำคัญที่ต้องแวะชมแห่งแรก นั่นคือ กรุงทรอย

            หลายคนที่เคยชมภาพยนตร์เรื่อง Troy ในปี 2004 อาจจะสงสัยว่ากรุงทรอยแห่งนี้ มีอยู่จริงหรือเป็นเพียงเรื่องแต่งเท่านั้น คาราวาน Toyota Hilux REVO ได้มาพิสูจน์และหาคำตอบให้ถึงที่ พร้อมยืนยันได้ว่ากรุงทรอยนั้นเป็นสถานที่ที่มีอยู่จริง โดยที่นี่ เป็นเมืองโบราณที่ถูกสร้างขึ้นมาตั้งแต่เมื่อ 4,000 ปีก่อน ในอดีตมีชื่อเสียงมาก แต่คนส่วนใหญ่เข้าใจว่าเป็นเพียงนิยายที่แต่งขึ้น จนกระทั้งในศตวรรษที่ 19 นักโบราณคดีได้มีการขุดค้นและพบซากเมืองโบราณที่เป็นเมืองทรอยในอดีต ซึ่งเป็นการพิสูจน์ว่าเมืองนี้มีจริง ปัจจุบันตั้งอยู่ที่เมือง Canakkale บนฝั่งทะเลใกล้ช่องแคบดาร์ดะเนลส์ ที่แยกยุโรปกับเอเชียออกจากกัน เช่นเดียวกับช่องแคบบอสฟอรัส โดยตุรกีได้สร้างม้าไม้จำลองขึ้นที่นี่ เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก ที่หลงใหลในมหากาพย์อีเลียด 

            คณะคาราวาน Toyota Hilux REVO เก็บภาพบรรยากาศของกรุงทรอยกันสักพัก ก็รีบออกเดินทางต่อ โดยวิ่งเรียบชายทะเลมุ่งหน้าไปยังท่าเรือเฟอร์รี่เพื่อนำรถข้ามมามาร์ลา แล้วเดินหน้าต่อไปยังอิสตันบูล ขั้นตอนที่ท่าเรือไม่ยุ่งยากนัก ใช้เวลาเพียง 20 นาที คาราวาน Toyota Hilux REVO ก็ข้ามฟากกันมาได้อย่างปลอดภัย จากนั้นมุ่งหน้าสู่อิสตันบูล ผ่านวิวสวยๆ ของทุ่งดอกทานตะวันที่ปลูกกันตลอดสองข้างทาง แต่เพลิดเพลินได้ไม่นาน คาราวาน Toyota Hilux REVO ต้องเจอกับอุปสรรคที่คาดไม่ถึงอีกครั้ง นั่นคือ การจราจรที่ติดขัด ทำให้รถติดเป็นแถวยาว คาราวานจึงเปลี่ยนมาใช้ Eco Mode เพื่อช่วยประหยัดน้ำมัน ซึ่งกว่าจะพ้นมาได้ก็เสียเวลาไปพอสมควร โชคดีที่ห้องโดยสารค่อนข้างกว้าง เบาะนั่งสบาย ทำให้ไม่เหนื่อยล้ามากนัก ซึ่งกว่าจะเข้าอิสตันบูลก็เป็นช่วงเวลาค่ำแล้ว ถนนบางช่วงค่อนข้างมืด ต้องอาศัยไฟหน้าโปรเจคเตอร์ของ Toyota Hilux REVO มาช่วยนำทางจนถึงที่พักในอิสตันบูลโดยสวัสดิภาพ

          ในวันรุ่งขึ้น เป็นอีกหนึ่งโอกาสดีที่คณะคาราวาน Toyota Hilux REVO จะได้ร่วมสำรวจเมืองอิสตันบูล ก่อนที่จะเตรียมต้อนรับคณะสื่อมวลชนกลุ่มที่ 5 จะมารับช่วงต่อเดินทางเข้ายุโรป โดยทุกท่านสามารถติดตามการเดินทางในช่วงต่อไปได้ทาง BoxzaRacing รวมถึง www.facebook.com/toyotahiluxthailand และ www.toyota.co.th/hiluxrevocaravantrip