เขียนโดย: Pajingo

เมื่อ: 13 กรกฏาคม 2559 - 11:32

Toyota Hilux REVO คาราวานทริป จากกรุงเทพฯ สู่ตุรกี กับความทรหดภายใต้ระยะทางกว่า 12,500 กม.

 

          เข้าสู่วันที่ 27 คณะคาราวาน Toyota Hilux REVO เดินทางมาแล้วด้วยระยะทางกว่า 12,408 กม. ซึ่งในระหว่างทางนั้น เรียกได้ว่าต้องเจออุปสรรคต่างๆ นานา ที่ถาโถมเข้ามาอย่างไม่ขาดสาย แต่ด้วยความแกร่งของ Toyota Hilux REVO ทั้ง 9 คัน ช่วยให้ชาวคาราวาน สามารถผ่านทุกอุปสรรคมาได้อย่างปลอดภัย 

 

หอคอย Azadi Tower หนึ่งในแลนด์มาร์คประจำเมืองหลวงแห่งอิหร่าน

 

 

                ปลายทางของการเดินทางในวันนี้อยู่ที่เมืองทาบริซ เพื่อต้อนรับคณะสื่อมวลชนกลุ่มที่ 4  ภายใต้ระยะทางราว 623 กม. ซึ่งเมืองแห่งนี้ ถือเป็นเมืองสุดท้ายในประเทศอิหร่าน ก่อนที่จะข้ามแดนสู่ทวีปยุโรปอย่างเป็นทางการ โดยคณะคาราวานออกเดินทางเวลา 8.00 น. จากเมืองเตหะราน พร้อมบอกลาหอคอย Azadi Tower ซึ่งเป็นหนึ่งในแลนด์มาร์คประจำเมืองหลวงแห่งอิหร่าน

 

ทุ่งข้าวสาลีสีเหลืองอร่ามระหว่างทางที่ต้องผ่านในวันนี้

 

          ทันทีที่ออกจากเมืองหลวง สภาพเส้นทางหลักเข้าสู่ความเป็นที่ราบกึ่งทะเลทรายอีกครั้ง พร้อมทิวทัศน์ที่เป็นแปลงปลูกข้าวสาลีสีเหลืองทองเป็นระยะๆ สลับกับหุบเขาที่มีลักษณะเป็นดินทราย ตลอดทางจะพบกับด่านตรวจความเร็วเป็นระยะ เพื่อควบคุมความเร็วของผู้ขับขี่บนท้องถนน ซึ่งถือเป็นโอกาสดีที่ทำให้ทีมคาราวานได้ใช้ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ Cruise Control อีกครั้ง สร้างความสบายในการเดินทาง เนื่องจากไม่ต้องเหยียบคันเร่ง เมื่อใกล้เมืองทาบริซ สภาพภูมิประเทศเริ่มแปลกตา โดยมีต้นไม้ปกคลุมบ้างเล็กน้อย จนกระทั่งคณะคาราวาน Toyota Hilux REVO มาถึงเมืองทาบริซอย่างปลอดภัย

 

 

                ทาบริซ เป็นเมืองหลวงของจังหวัดอาเซอร์ไบจานตะวันออก และยังเป็นเมืองใหญ่ที่มีความเติบโตเป็นอันดับที่ 4 ของประเทศอิหร่าน โดยตั้งอยู่บริเวณที่ราบของหุบเขา ซึ่งเป็นที่ราบต่ำไปยังด้านตะวันออกของทะเลสาบโอรูมิเยห์ ในอดีตเคยถูกตั้งเป็นเมืองหลวงหลายครั้ง พร้อมด้วยประวัติศาสตร์ที่แสนยาวนานและซับซ้อน เคยมีคนบอกว่าเมืองทาบริซ ได้ชื่อว่าเป็นสรวงสวรรค์ เพราะความอุคมสมบูรณ์ของพื้นดิน และยังเป็นเมืองสำหรับการพักร้อน และเป็นศูนย์กลางทางการค้า อุตสาหกรรม และการคมนาคมที่ค่อนข้างสะดวกสบาย ที่นี่มีระบบรถประจำทางสาธารณะ BRT ด้วย ซึ่งทำเป็นเลนเดินรถเฉพาะเหมือนกับประเทศไทย

 

ความสวยงามยามโพล้เพล้ที่เมืองทาบริส

 

                คณะคาราวาน Toyota Hilux REVO มาถึงเมืองทาบริซในช่วงเย็น ซึ่งมีเวลาพอให้เดินเล่นพักผ่อนชมวัฒนธรรมของคนในชุมชน เล็กน้อย บรรยากาศเมืองนี้ค่อนข้างสบายๆ ไม่แออัดวุ่นวาย เดินไปตามทางจนมาถึง มัสยิดบลูมอสก์ ซึ่งเป็นมัสยิดเก่าแก่ที่ถูกสร้างขึ้นมาตั้งแต่ปี คศ.1465 ใกล้ๆ กันยังมีจตุรัสกลางเมืองที่มี City Hall เปิดไฟสวยงาม รับกับน้ำพุที่กำลังร่ายรำอยู่เบื้องหน้า 

 

 

                วันที่ 28 ของการเดินทาง ชาวคณะคาราวาน Toyota Hilux REVO เตรียมความพร้อมเพื่อข้ามแดนไปยังประเทศตุรกี ซึ่งห่างจากเมืองทาบริซ ประมาณ 290 กม. โดยออกเดินทางตั้งแต่เวลา 8.00 น. เพื่อให้มีเวลาเพียงพอในการยื่นเอกสารผ่านแดนเข้าสู่ดินแดนแห่งไก่งวง เส้นทางวันนี้ 2 ข้างทางยังคงเป็นที่ราบสลับภูเขาดินทรายตลอดจนกระทั่งมาถึงด่านตรวจคนเข้าเมือง ซึ่งเห็นคิวรถลากตู้คอนเทนเนอร์รอข้ามแดนต่อซ้อนคัน 2 แถวยาวมากๆ แต่ยังโชคดีที่เป็นคนละแถวกับทีมคาราวาน

 

สวยงามและมีความเป็นธรรมชาติมากๆ สำหรับทิวทัศน์ที่ได้เจอในวันนี้

 

                ณ ด่านตรวจคนเข้าเมือง ผู้เดินทางยื่นเอกสารผ่านด่านใช้เวลาไม่มากนัก ก็เข้าสู่ประเทศตุรกีได้สำเร็จ โดยการจะเข้าประเทศนี้ ไม่จำเป็นจะต้องขอวีซ่า ส่งผลให้ขั้นตอนไม่ซับซ้อน แต่สำหรับรถยนต์ที่จะผ่านแดน ต้องมีการตรวจสอบกันละเอียดสักหน่อย เมื่อผ่านด่านกันเรียบร้อย คณะคาราวานทั้งคนและ Toyota Hilux REVO ทั้ง 9 คัน มุ่งหน้าเพื่อเข้าเมืองโดคูเบยาซิต โดยผ่านภูเขาอารารัต ซึ่งมีความสูงถึง 5,137 เมตร เป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในตุรกี และมีหิมะปกคลุมตลอดปี มีรูปทรงคล้าย ๆ ภูเขาไฟฟูจิ สร้างความอุดมสมบูรณ์ให้กับแถบที่ราบอนาโตเลีย โดยที่ราบส่วนใหญ่ใช้ปลูกหญ้าหรือพืชผลไม้สำหรับเป็นอาหารสัตว์ในฤดูหนาว

 

ภูเขาอารารัต เปรียบดั่งฟูจิแห่งตุรกี

 

 

          ส่วนใหญ่บ้านแถบนี้จะทำมาจากดินเหนียว เพื่อเพิ่มความอบอุ่นในฤดูหนาว โดยชาวเปอร์เซียจะเรียกภูเขาลูกนี้ว่า “โคอินูห์” หลังจากนั้นทีมงานมีโอกาสได้แวะชมเรือโนอาห์ ซึ่งเป็นเรือขนาดใหญ่ที่กล่าวถึงในคัมภีร์ไบเบิลของชาวยิว รวมไปถึงคัมภีร์อัลกุราอ่านของชาวมุสลิม โดยเล่ากันว่าพระผู้เป็นเจ้าของชาวยิวได้ช่วยเหลือโนอาห์กับสมาชิกในครอบครัว 7 คน และสัตว์ชนิดต่างๆ อย่างละหนึ่งคู่ จากเหตุการณ์น้ำท่วมครั้งใหญ่ที่คร่าชีวิตคนไปหมดโลก โดยบอกให้โนอาห์ต่อเรือยาวขนาด 137 เมตร และนำทุกคนกับสัตว์ต่าง ๆ ไว้บนนั้น เมื่อเกิดเหตุการณ์เรือโนอาห์ก็ลอยอยู่บนผืนน้ำเป็นเวลา 6 เดือน เมื่อน้ำลด เรือก็ลอยมาติดที่เทือกเขาแห่งนี้ และทุกคนก็ปลอดภัย จากนั้นทีมคาราวาน Toyota Hilux REVO ก็เข้าไปที่ตีนเขา Ararat ก่อนจะออกเดินทางไปยังเมืองโดคูเบยาซิต อันเป็นจุดหมายของวันนี้

 

เมืองโดคูเบยาซิตกับบรรยากาศสุดชิลล์

 

                การเดินทางอย่างยาวนานบนเส้นทางสายไหม เข้าสู่วันที่ 29 ซึ่งการเดินทางในช่วง 4-5 วันนี้ จะเดินทางกันแบบยาวๆ ในประเทศตุรกี ซึ่งมีพื้นที่ค่อนข้างกว้างใหญ่ และมีเส้นทางที่หลากหลาย โดนดินแดนแห่งไก่วงนี้ มีเมืองหลวงชื่อเมืองอังการา และเมืองอิสตันบูลเป็นเมืองที่มีพื้นที่ใหญ่ที่สุด ใช้ภาษาตุรกีเป็นภาษาประจำชาติ มีประชากรประมาณ 77 ล้านคน ตั้งอยู่คาบสมุทรอนาโตเลีย เชื่อมต่อระหว่างทวีปเอเชียและยุโรป การปกครองมีการเปลี่ยนแปลงกันมายาวนาน ไม่ว่าจะเป็นจักรวรรดิของชาวฮิตไตต์ จักรวรรดิไบเซนไทน์ จักรวรรดิออตโตมัน เป็นต้น และเหตุการณ์ที่สำคัญ คือ สงครามครูเสด เป็นสงครามศาสนาระหว่างชาวคริสต์ในยุโรปกับชาวมุสลิมเติร์ก โดยจุดมุ่งหมายของการเดินทางของคณะคาราวาน Toyota Hilux REVO ในวันนี้ มุ่งหน้าสู่เป้าหมายที่ที่เมืองมาร์ดิน ที่ห่างออกไปประมาณ 700 กม.

 

ทะเลสาปวาน นับเป็นทะเลสาปที่ใหญ่ที่สุดในประเทศตุรกี

 

                เส้นทางในวันนี้เป็รนถนน 4 เลน ท่ามกลางธรรมชาติที่สวยงาม โดยสองข้างทางเป็นที่ราบสลับ สลับกับถนน 2 เลน ที่ตัดผ่านขุนเขา เส้นทางมีโค้งบ้างเป็นระยะ แต่ด้วยความหนึบและแกร่งของช่วงล่วง ช่วยให้คาราวานเดินทางมาอย่างปลอดภัย วันนี้ทีมคาราวานแวะพักทานอาหารกลางวันที่ทะเลสาบวาน ซึ่งเป็นทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดในตุรกี ที่มีสีสันสวยงามจากสีเทอร์ควอยส์ของน้ำที่กลืนกับสีสดของท้องฟ้าได้อย่างลงตัว ในขณะที่บางช่วงก็มีฉากหลังเป็นภูเขาหิมะ มื้อนี้ทีมคาราวานหุงข้าวทานกันเองกับอาหารที่เตรียมมาจากกรุงเทพฯ แบบง่ายๆ เพราะยังอยู่ในช่วงถือศีลอดของชาวมุสลิม ก่อนที่จะแวะถ่ายภาพสะพานโบราณสมัยยุคออตโตมัน อายุประมาณ 600 ปี ซึ่งคล้ายกับสะพานมรดกโลกที่เมืองโมสตาร์

 

มื้อเที่ยงแบบบ้านๆ ริมฝั่งน้ำ

 

 

                ยิ่งขับไปเรื่อยๆ เส้นทางก็ยิ่งใกล้เมืองมาร์ดิน นั่นหมายความว่าทีมคาราวาน Toyota Hilux REVO เข้าใกล้ชายแดนประเทศซีเรีย และเมื่อพระอาทิตย์ลับขอบฟ้าไปเส้นทางเริ่มแคบเป็นเลนสวน โค้งเขา และยังขรุขระตลอดทาง ช่วงล่าง DCS ยังคงความหนึบและเกาะถนน อีกทั้งยังได้ทัศนวิสัยที่โดดเด่นจากไฟหน้า LED Projector ช่วยพาคาราวานมุ่งหน้าสู่เมืองมาร์ดินได้อย่างไร้ปัญหา

 

เมืองมาร์ดีน จุดมุ่งหมายของการเดินทางในวันที่ 29

 

                เมืองมาร์ดิน ตั้งอยู่บนที่ราบเมโสโปเตเมียและเป็นเมืองที่เก่าแก่ที่สุดในยุคนั้น อยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศตุรกี เป็นเมืองโบราณและมีสถาปัตยกรรมที่สร้างขึ้นมาจากการนำหินมาวางซ้อน กับบ้านที่ไล่ลงมาเป็นชั้นๆ ตามแนวผา โดยพื้นที่ในเมืองมาร์ดินยังคงหลงเหลือโครงสร้างของเมืองเก่าที่มีอายุย้อนไปถึง 4,000 ปี ซึ่งบางหลังมีการบูรณะต่อเติม แต่ยังคงไว้ซึ่งประวัติศาสตร์และความคลาสสิกมาจนทุกวันนี้ เมืองมาร์ดินมีชื่อเสียงในเรื่องเครื่องประดับ ถั่วพิสตาซิโอ และละครซีรี่ส์หลายๆ เรื่อง โดยเมืองนี้มีพรมแดนติดกับประเทศซีเรีย

 

 

                ภารกิจในวันที่ 30 คือ การเดินทางไปยังเมืองอะดิยามัน ด้วยระยะทาง 441 กม. เส้นทางช่วงแรกเป็นถนน 4 เลนขับผ่านที่ราบ สลับกับเขา มีทางโค้งตามแนว บางช่วงก็เป็นเมือง เมื่อผ่านเข้าเมืองจะพบกับสัญญาณไฟจราจรเป็นระยะ ๆ แต่ด้วยความที่ Toyota Hilux REVO มีระบบตัดการทำงานของเครื่องยนต์อัตโนมัติ ซึ่งจะตัดการทำงานของเครื่องยนต์ชั่วขณะ ทำให้ประหยัดน้ำมัน และยังช่วยรักษาสิ่งแวดล้อม จนกระทั่งในช่วงเที่ยง คระคาราวานแวะเติมพลังกันที่อ่างเก็บน้ำหลังเขื่อน Ataturk ที่ได้ชื่อว่าใหญ่ที่สุดในตุรกี น้ำในเขื่อนมีสีสันสวยงาม คล้ายกับสีของทะเลสาบวาน หลังจากนั้นออกเดินทางต่อเพื่อไปเทือกเขาเนมรุต โดยเส้นทางช่วงนี้เป็นการขึ้น-ลงเขา ทางโค้งสลับทางราบตลอดทาง จนกระทั่งมาถึงจุดขึ้นเขา เส้นทางเป็นเลนสวน แคบ มีทางโค้งและชัน จนมาถึงยอดเขาเนมรุต สูงจากระดับน้ำทะเล  2,134 เมตร

 

 

                ภูเขาเนมรุต เป็นสถานที่ที่ได้รับการรับรองให้เป็นมรดกโลกจากยูเนสโก โดยที่นี่เป็นสุสานของกษัตริย์แอนติโอนุสที่ 1 ของอาณาจักรคอมมาจเน ซึ่งเป็นหนึ่งในอาณาจักรที่เกิดขึ้นหลังจากการสิ้นยุคของพระเจ้าอเล็กซานเดอร์ ยอดเขามีลานฝั่งตะวันออกและลานฝั่งตะวันตกที่มีรูปแกะสลักหินยักษ์ ตรงกลางเป็นยอดเขาที่ถูกถมขึ้น ซึ่งน่าจะเป็นที่ฝังศพที่ยังไม่ถูกค้นพบ ที่ลานฝั่งตะวันออกรูปแกะสลักหินถูกตั้งเรียงแถว มีลักษณะเป็นรูปหน้าของกษัตย์แอนติโอนุสที่ 1, นกอินทรี, สิงโต, เทพเจ้าของกรีก, อาร์มีเนียและเปอร์เซีย ได้แก่ ซุส อารามาสต์ และ เฮอร์คิวลิส วาฮาน นอกจากจะเป็นสถานที่ที่มีความสำคัญทางศาสนาแล้ว ที่นี่สามารถเห็นวิวทิวเขาและผืนดินแบบพาโนราม่า 360 องศา

 

ยอดเขาเนมรุตกับมุมมองแบบ 360 องศา

 

 

                หลังจากที่เมื่อดื่มด่ำธรรมชาติอันสวยงามและอากาศบริสุทธิ์กันจนจุใจแล้ว คณะคาราวาน Toyota Hilux REVO ก็ได้ทดลองสมรรถนะตัวรถ ไม่ว่าจะเป็นระบบ DAC ที่ช่วยในการลงเขาโดยไม่ต้องเหยียบเบรก เพราะระบบจะคำนวณความลาดชันกับความเร็วในการลงเขา ช่วยให้การเดินทางปลอดภัย มั่นใจยิ่งขึ้น นอกจากนี้คณะคาราวานยังได้ทดลองสมรรถนะของระบบเกียร์ Sequential Shift ซึ่งช่วยให้การลงเขาลาดชันทำได้อย่างนุ่มนวล จนกระทั่งเดินทางมาถึงจุดหมายที่เมืองอะดิยามันในที่สุด แต่การเดินทางยังคงไม่หยุดเพียงแค่นั้น คระคาราวานยังต้องเจอกับความท้าทายอีกมากมายที่รออยุ่เบื้องหน้า ซึ่งทุกท่านสามารถติดตามการเดินทางครั้งนี้อย่างใกล้ชิดได้ทาง BoxzaRacing รวมถึง www.facebook.com/toyotahiluxthailand และ www.toyota.co.th/hiluxrevocaravantrip

รถซื้อสอง ซื้อขายรถ ของแต่งรถ

ข่าวที่ใกล้เคียง

แสดงความคิดเห็นด้วย Facebook