ในช่วงนี้ต้องยอมรับเลยว่า กระแสของ Down Size Engine กำลังมาแรงเลยทีเดียว ค่ายรถยนต์หลายๆ ค่าย ล้วนพัฒนายนตรกรรมตัวเก่งให้มีสมรรถนะที่โดดเด่นภายใต้ขุมพลังที่มีขนาดเล็กลง ทั้งนี้ก็เพื่อประสิทธิภาพในการลดการใช้เชื้อเพลิงและปล่อยมลพิษที่ต่ำลง เพื่อตอบรับกับกระแสลดโลกร้อนและใช้ทรัพยากรธรรมชาติได้อย่างคุ้มค่าสูงสุด
Ford นับเป็นอีกหนึ่งค่ายยนตรกรรมชั้นนำที่ตอบรับนโยบายระดับโลกนี้ โดยล่าสุดได้ส่งแฮทช์แบคสุดร้อนแรงอย่าง Focus 1.5 EcoBoost ที่ถือเป็นคู่ปรับตัวฉกาจของซีดานจากแดนปลาดิบที่มาในเทรนด์รับกระแสโลกเช่นเดียวกัน ซึ่งต้องบอกเลยว่า Ford Focus 1.5 EcoBoost นับเป็นรถอีกหนึ่งรุ่นที่ทาง BoxzaRacing อยากลองสัมผัสมากที่สุด ณ เวลานี้ก็ว่าได้ ซึ่งล่าสุดทางฟอร์ด ประเทศไทย ก็ได้เชิญชวนคณะสื่อมวลชนร่วมสัมผัสประสบการณ์กับรถรุ่นนี้เป็นครั้งแรก หลังจากที่เปิดตัวพร้อมสร้างความฮือฮาไปเมื่องาน Motor Show 2016 ที่ผ่านมา โดยเส้นทางที่ใช้ในการทดลองขับครั้งนี้ เป็นเส้นทางในช่วงระหว่างพัทยา – อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี พร้อมการทดลองหวดแบบจัดเต็มในสนามพีระ อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ซึ่งแน่นอนว่าเป็นโอกาสดีที่ BoxzaRacing จะได้ทดลองสมรรถนะที่แท้จริงของ Ford Focus 1.5 EcoBoost ได้แบบถึงกึ๋นเลยทีเดียว
ขุมพลัง EcoBoost 1.5 ลิตร เร้าใจสุดพลัง
ภูมิประเทศและเส้นทางที่ใช้ในการทดลองขับครั้งนี้ โดยส่วนใหญ่จะเป็นทางโค้งหลากหลายรูปแบบสลับเนินเขา มีทางตรงยาวให้พอทำความเร็วได้บ้าง หลังจากเริ่มออกสตาร์ท BoxzaRacing ก็ได้สัมผัสถึงสมรรถนะและความเร้าใจในทันที ขุมพลังเบ็นซิน เทอร์โบ EcoBoost ในพิกัด 1.5 ลิตร ให้การตอบสนองที่โดดเด่นตั้งแต่ในช่วงต้น เพียงแค่แตะคันเร่งเบาๆ ตัวรถก็พร้อมตอบสนองการเคลื่อนที่อย่างไม่รีรอ กำลังเครื่องยนต์มีมาให้ใช้อย่างต่อเนื่องตลอดทุกช่วงความเร็ว สมราคากับตัวเลขแรงม้าในพิกัด 180 แรงม้า กับแรงบิด 240 นิวตัน-เมตร โดยจับคู่กับระบบส่งกำลังอัตโนมัติ 6 สปีด แบบทอร์คคอนเวอร์เตอร์ พร้อมแป้น Paddle Shift เพื่อสร้างความเร้าใจในยามขับขี่ให้มากยิ่งขึ้น
ช่วงโค้ง S ลองสาดให้เกือบหลุด แต่ตัวช่วย...เอาอยู่
สาดโค้งด้วยความเร็วสูง ให้ความมั่นใจได้ถึงขีดสุด
สิ่งที่น่าประทับใจอีกประการใน Ford Focus 1.5 EcoBoost คงหนีไม่พ้นเรื่องของช่วงล่างที่เซ็ตมาในแนวนุ่มหนึบ ให้ความมั่นใจในทุกรูปแบบการขับขี่ ไม่ว่าจะเจอโค้งแบบไหนก็พร้อมรับมือได้แบบไร้ปัญหา โดยในช่วงที่ได้ทดลองขับในสนามพีระฯ ผมเริ่มจากการใช้ความเร็วปกติในรอบแรกๆ เพื่อสร้างความคุ้นเคย พวงมาลัยตอบสองการเลี้ยวได้แบบคมกริ๊บ หมุนไปเท่าไหนก็เลี้ยวได้ตามต้องการ ช่วงล่างสุดเฟิร์ม รองรับการเข้าโค้งด้วยความเร็วสูงได้อย่างไม่หวาดหวั่น เช่นเดียวกับระบบเบรกที่ตอบสนองต่อการชะลอความเร็วได้อย่างแม่นยำ ทำให้สามารถกำหนดความเร็วในการเข้าโค้งได้อย่างเหมาะสม เมื่อทดลองจนเริ่มคุ้นชินกับไลน์ของสนามและสไตล์ของรถแล้ว ผมเริ่มขยับความเร็วให้มากขึ้น โดยอยากทดลองประสิทธิภาพในระบบความปลอดภัยรวมทั้งตัวช่วยต่างๆ ซึ่งเมื่อลองสะบัดในโค้ง S อย่างรุนแรงจนรถเริ่มเสียอาการ ความรู้สึกที่ได้รับ คือ ตัวช่วยต่างๆ จะเริ่มทำงานเพื่อจับให้อาการรถมาอยู่ในสภาวะปกติเพื่อความปลอดภัย สร้างความมั่นใจได้มากขึ้นอีกระดับ
ไม่ว่าจะเป็นการจอดตามแนวยาว หรือถอยเข้าซอง ระบบช่วยจอดอัจฉริยะ ก็ทำงานได้อย่างดีเยี่ยม
หลังจากที่ขับขี่ในสนามเป็นที่เรียบร้อย ก็เข้าสู่ Station การทดลองระบบช่วยจอด ที่สามารถทำหน้าที่ได้ทั้งการจอดตามยาว หรือแม้แต่การถอดเข้าซอง เพียงแค่กดปุ่ม เลือกเกียร์ ใช้คันเร่งและเบรกอย่างเหมาะสม เพียงเท่านี้ ผู้ขับขี่ก็สามารถเข้าจอดได้อย่างปลอดภัย นอกจากนี้ Ford Focus 1.5 EcoBoost ยังมาพร้อมระบบช่วยเบรก ที่ช่วยแก้ไขสถานการณ์เฉพาะหน้าและลดโอกาสการปะทะที่สามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย
ระบบ SYNC 3 รองรับการเชื่อมต่อทั้ง Apple CarPlay และ Android Auto
Ford Focus 1.5 EcoBoost นับเป็นรถรุ่นแรกของฟอร์ดในประเทศไทยที่มาพร้อมระบบสั่งการด้วยเสียง SYNC 3 ซึ่งก่อนหน้าระบบ SYNC อาจไม่ใช่ลูกเล่นที่เหมาะกับรูปแบบการใช้งานของคนไทยสักเท่าไหร่ เนื่องจากยังเป้นฟังคืชั่นที่ใช้งานค่อนข้างยาก แต่แน่นอนว่าไม่ใช่กับระบบ SYNC 3 ที่ผู้ขับขี่รวมถึงผู้โดยสารสามารถสั่งการสิ่งอำนวยความสะดวกรวมถึงอุปกรณ์ความบันเทิงต่างๆ ได้ง่ายยิ่งขึ้น โดยสามารถสั่งการได้ด้วยเสียงภาษาไทย ซึ่งระบบ SYNC 3 ก็จะโต้ตอบกับผู้ใช้งานด้วยภาษาไทยเช่นเดียวกัน เรียกได้ว่าเป็นความสะดวกสบายที่เพิ่มเข้ามาใน Ford Focus 1.5 EcoBoost ได้อย่างชัดเจนยิ่งขึ้น
หากจะกล่าวว่า Ford Focus 1.5 EcoBoost คือ ยนตรกรรมอีกหนึ่งรุ่นที่เพียบพร้อมและสามารถตอบโจทย์การใช้งานได้หลากหลายรูปแบบ พร้อมอัดแน่นด้วยเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย สมกับความเป็นผู้นำในวงการยานยนต์อย่างแท้จริง ทั้งหมดที่กล่าวมาเป็นเพียงส่วนหนึ่งของการรีวิว Ford Focus 1.5 EcoBoost เท่านั้น ในเร็วๆ นี้ เรายังมีเวอร์ชั่นจัดเต็มเสริฟให้ชาว BoxzaRacing ได้สัมผัสกันอีกครั้งอย่างแน่นอนครับ
