ออกสตาร์ทไปเป็นที่เรียบร้อย สำหรับการเดินทางสุดยิ่งใหญ่ของ Toyota Hilux REVO คาราวานทริป บทพิสูจน์จริงระดับโลก บนเส้นทางสายไหมที่ยาวที่สุดในโลกและสุดแสนจะหฤโหด จากกรุงเทพมหานคร มุ่งหน้าสู่เมืองเวนิส ประเทศอิตาลี โดยผ่าน 17 ประเทศ ในทวีปเอเซียและยุโรป รวมระยะทางทั้งสิ้น 19,250 กม. และใช้เวลาเดินทางทั้งสิ้น 45 วัน กับสื่อมวลชนกว่า 83 ชีวิต ที่ร่วมขับเคลื่อนภารกิจสุดหฤโหดในครั้งนี้ เพื่อเป็นบทพิสูจน์ถึงความแข็งแกร่งของเครื่องยนต์ GD Efficience Boost และช่วงล่าางสุดแกร่งในปิคอัพขวัญใจมหาชนอย่าง Toyota Hilux REVO
คุณวุฒิกร สุริยะฉันทนานนท์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด
ออกสตาร์ท Toyota Hilux REVO คาราวานทริป ณ โรงแรมดุสิตธานี
สำหรับการเดินทางของ Toyota Hilux REVO คาราวานทริป บทพิสูจน์จริงระดับโลก เริ่มขึ้นตั้งแต่ในช่วงสายของวันที่ 3 มิถุนายน 2559 โดยออกสตาร์ทที่โรงแรมดุสิตธานี ในช่วงปล่อยตัว ได้รับเกียรติจาก คุณวุฒิกร สุริยะฉันทนานนท์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด คณะผู้บริหาร พร้อมทั้งสื่อมวลชนจากหลากหลายสำนักร่วมเป็นสักขีพยาน และร่วมปล่อยตัวรถ Toyota Hilux REVO จำนวน 9 คัน ที่ร่วมเดินทางในคาราวานสุดหฤโหดครั้งนี้
โดยการเดินทางจะแบ่งออกเป็น 5 ช่วงหลักๆ ตั้งแต่ ช่วงที่ 1 กรุงเทพมหานคร ประเทศไทย – เมืองตุนหวง ประเทศจีน เส้นทางประชาคมอาเซียนมุ่งหน้าผ่านฝั่งอารยธรรมตะวันออกถึงตะวันตกของสาธารณรัฐประชาชนจีน จากเทือกเขาถึงเขตทุ่งหญ้า สู่ต้นกำเนิดแม่น้ำฮวงโห ระยะทางกว่า 4,970 กิโลเมตร, ช่วงที่ 2 เมืองตุนหวง ประเทศจีน – เมืองทัชเค้นท์ ประเทศอุซเบกิสถาน เส้นทางสายแพรไหมจีน ย้อนรอยตลาดค้าโบราณท่ามกลางทะเลทราย สู่เอเชียกลางระยะทางกว่า 3,140 กิโลเมตร, ช่วงที่ 3 เมืองทัชเค้นท์ ประเทศอุซเบกิสถาน – เมืองเตหะราน ประเทศอิหร่าน เส้นทางสายแพรไหมไข่มุกเอเชียกลาง เชื่อมต่อยุโรปและแอฟริกา ผ่านต้นกำเนิดอาหรับราตรี สู่ดินแดนเปอร์เซีย ระยะทางกว่า 3,990 กิโลเมตร, ช่วงที่ 4 เมืองเตหะราน ประเทศอิหร่าน – เมืองอีสตันบูล ประเทศตุรกี เส้นทางสายเปอร์เซีย จากศูนย์กลางการค้าตะวันออกกลาง ผ่านดินแดนประวัติศาสตร์แห่งมหาสงครามกรุงทรอย สู่เมืองสองทวีป ระยะทางกว่า 3,710 กิโลเมตร และช่วงที่ 5 เมืองอีสตันบูล ประเทศตุรกี – เมืองเวนีส ประเทศอิตาลี เส้นทางการค้าโบราณรอยต่อสองทวีป ข้ามเทือกเขาเอลป์ สู่เมืองแห่งสายน้ำ ราชินีแห่งทะเลอาเดรียตริก “เวนิส” ระยะทางกว่า 3,440 กิโลเมตร
เตรียมข้ามชายแดนไทยที่ อ.เชียงของ
เส้นทางจากลาว - จีน กับสภาพสองข้างทางที่เป็นเขาสูง คดเคี้ยว
ในวันแรกจะเป็นการเดินทางจากกรุงเทพฯ มหานคร มุ่งหน้าสู่ อ.เชียงของ จ.เชียงราย โดยใช้ทางหลวงหมายเลข 1 โดยส่วนตัวผมเอง ได้ขับในรุ่น 4 ประตู เครื่องยนต์ 2.8 ลิตร ขับเคลื่อน 4 ล้อ ซึ่งการเดินทางด้วยรถกระบะอย่าง Toyota Hilux REVO เป็นไปอย่างราบรื่น และสะดวกสบาย เนื่องจากสิ่งอำนวยความสะดวกที่จัดมาให้ในรถ ถือว่าช่วยสร้างความผ่อนคลายได้ไม่น้อย ทั้งกับการเป็นผู้ขับขี่ หรือแม้แต่การเป็นผู้โดยสารทั้งที่เบาะนั่งด้านหน้า หรือแม้แต่ในเบาะแถวหลัง แม้จะต้องเดินทางด้วยระยะเวลาที่ยาวนานกว่า 12 ชม. นอกจากนี้ยังสามารถตอบรับกับการเดินทางพร้อมสัมภาระจำนวนมากๆ ได้อย่างไม่มีอะไรต้องเป็นกังวลอีกด้วย และด้วยความสะดวกสบายที่ได้รับใน Toyota Hilux REVO ทำให้การเดินทางในวันแรกกว่า 930 กม. ผ่านไปได้ฉลุย และไม่สร้างความอ่อนล้าให้กับชาวคณะมากนัก
ข้ามแดนจากลาว - จีน ณ ด่านบ่อเต็น
วันที่ 2 ของการเดินทาง คณะ Toyota Hilux REVO คาราวานทริป บทพิสูจน์จริงระดับโลก ออกตัวกันที่ อ.เชียงของ มุ่งหน้าชายแดนเพื่อข้ามสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 4 เข้าสู่เมืองห้วยทราย ประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว เส้นทางที่ใช้ คือ หมายเลข R3A หรือที่นักเดินทางรู้จักกันดีในชื่อของ “เส้นทางเชื่อมต่อกรุงเทพฯ – คุณหมิง” เพื่อเป็นทางผ่านเข้าสู่ประเทศจีน
จุดมุ่งหมายต่อไปอยู่ที่หม่องหล้า
ก่อนนำรถเข้าไปใช้ในขับในประเทศจีน รถทุกคันต้องผ่านการตรวจสภาพเสียก่อน
สำหรับเส้นทางนี้จะเชื่อมต่อระหว่าง สปป ลาว และประเทศจีนที่ด่านพรมแดนบ่อเต็น (ลาว) และด่านโม่หัน (จีน) หลังจากประทับตราหนังสือเดินทางเป็นที่เรียบร้อย ชาวคณะก็เดินทาบต่อโดยใช้เส้นทางชนบท เพื่อเข้ารับการตวรจสภาพรถยนต์ที่เมืองหม่องหล้า (คล้ายๆ กับการตรวจสภาพรถ ตรอ. ในบ้านเรา) ซึ่งถือเป็นข้อบังคับสำหรับการนำรถเข้ามาขับในประเทศจีน
เส้นทางโลคัลบนเขาสูง คดเคี้ยวมุ่งหน้าสู่สิบสองปันนา
ซึ่งเมื่อตรวจสภาพรถเสร็จเรียบร้อย คณะก็เดินทางต่อไปยังเมืองสิบสองปันนา อันเป็นจุดหมายของคาราวานในวันนี้ รวมระยะทางทั้งสิ้น 420 กม. กับเส้นทางภูเขาสูง ที่มากมายด้วยโค้งน้อยใหญ่ และสภาพถนนชนบทในหลายๆ ช่วง เรียกได้ว่าได้ดึงเอาสมรรถนะของ Toyota Hilux REVO ออกมาใช้อย่างเต็มที่ ซึ่งปิคอัพรุ่นนี้ ก็ได้พิสูจน์ให้เราได้เห็นแล้วว่า ขุมพลังดีเซล 2.8 ลิตร 177 แรงม้า ให้สมรรถนะที่โดดเด่น เร่งแซงทันใจเนื่องจากมีแรงบิดมาให้ใช้งานอย่างเหลือเฟือถึง 450 นิวตัน-เมตร ตั้งแต่ในรอบต่ำ อีกทั้งช่วงล่าง DCS ยังให้การทรงตัวที่ดี เกาะถนนทุกสภาพอย่างแน่นหนึบ ทำให้ในทุกโค้ง เราสามารถก้าวผ่านมาได้อย่างมั่นใจ แม้จะต้องเจอกับเส้นทางที่โหดเกินความคาดหมาย แต่ตัวช่วยต่างๆ ที่มีมาให้ ไม่ว่าจะเป็น ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HAC มีประโยชน์มากในยามที่ต้องหยุดรถและออกตัวในช่วงภูเขาสูง รวมถึงระบบ DAC ที่ช่วยรักษาความเร็วให้สม่ำเสมอขณะลงทางชัน ช่วยเติมความสะดวก มั่นใจ ปลอดภัยได้อย่างมากเลยทีเดียว
เส้นทางไฮเวย์มุ่งหน้าสู่ตงชวน
การเดินทางในวันที่ 3 ออกสตาร์ทกันตั้งแต่เมืองสิบสองปันนา ไปยังจุดมุ่งหมายต่อไป ณ เมืองตงชวน ซึ่งตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของคุณหมิง ระยะทางทั้งสิ้น 700 กม. แม้จะดูเป็นระยะทางที่ค่อนข้างไกล แต่แน่นอนว่าไม่ยากเกินความสามารถของชาวคณะ และปิคอัพคู่ใจอย่าง Toyota Hilux REVO อย่างแน่นอน
สะพานตอม่อสูง และอุโมงค์ลอดเขา จัดว่าเป็นคาแร็กเตอร์ของถนนในประเทศจีนเลยก็ว่าได้
สำหรับเส้นทางในวันนี้ กว่า 80% จะเป็นเส้นทางบนทางด่วนยกระดับที่ต้องผ่านยอดเขาและสะพานสูงมากมาย หนึ่งในนั้น คือ สะพานหงเห่อ ที่เคยเป็นสะพานที่มีตอหม้อสูงติดอันต้นๆ ของโลก นอกจากจะได้พิสูจน์สมรรถนะของตัวรถอย่างเต็มที่ กับการทรงตัวในย่านความเร็วสูง และเข้าโค้งยาวๆ อย่างต่อเนื่องตลอดการเดินทางแล้ว โดยส่วนตัวผมเอง กลับรู้สึกถึงอัจฉริยภาพและแนวความคิดในการสร้างถนนเพื่อให้รับกับสภาพภูมิประเทศของชาวจีน ซึ่งแตกต่างจากถนนบ้านเราโดยสิ้นเชิง จุดเด่นอยู่ที่การเจาะอุโมงค์และสร้างตอม่อสูง เพื่อลดความต่างของระดับ รวมถึงลดความคดเคี้ยวของถนนที่ต้องตัดผ่านภูเขามากมาย ช่วยให้การสัญจรของชาวท้องถิ่นที่นี่ ทำได้โดยสะดวกมากขึ้น ส่งผลให้...แม้ว่าจะต้องเดินทางไกลถึง 700 กม. แต่วันนี้ นับเป็นวันแรกที่ชาวคณะเข้าที่พักได้ก่อนเวลา 20.30 น.
เมื่อต้องเจอกับเส้นทางหินลอย เขาชัน คดเคี้ยว ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อช่วยเติมความมั่นใจได้มาก
เมื่อชีวิตไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ สำหรับการเดินทางก็เช่นกัน วันที่ 4 ของคาราวาน Toyota Hilux REVO คงไม่ต่างอะไรจากประโยคฮิตสุดอมตะนี้อย่างไม่ต้องสงสัย กับอุปสรรคน้อยใหญ่มากมายที่ชาวคณะได้ประสบพบเจอ โดยในช่วงแรกของการเดินทางออกจากเมืองตงชวน เราจะต้องใช้เส้นทางชนบทที่มีสภาพภูมิประเทศเป็นภูเขาชัน คดเคี้ยว และพื้นผิวที่มาในลักษณะของลูกรังหรือหินลอยสลับกันไป โชคดีที่ Toyota Hilux REVO คู่ใจในทริปนี้ มาพร้อมระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ จึงทำให้ทุกอุปสรรคผ่านพ้นไปอย่างไม่ยากเย็นนัก ก่อนจะเข้าสู่เส้นทางที่เป็นไฮเวย์หมายเลข G85 เพื่อมุ่งหน้าสู่จุดหมายที่เมืองเฉินตู โดยระยะทางที่กำหนดไว้ในตอนแรกประมาณ 750 กม. แต่อย่างที่บอกครับว่า...เส้นทางมักไม่ได้โดยด้วยกลีบกุหลาบเสมอไป เมื่อขบวน Toyota Hilux REVO คาราวานทริป บทพิสูจน์จริงระดับโลก ต้องเจอกับเหตุการณ์ไม่คาดฝันในช่วงพลบค่ำ เมื่อดินจากภูเขาสไลด์ลงมากีดขวางการจรจร ทำให้ถนนถูกปิดและใช้เวลาเคลียร์ทางอยู่พักใหญ่จึงสามารถเดินทางได้ต่อ แต่...ยังไม่จบแค่นั้นครับ เพราะหลังจากที่คณะรับประทานอาหารมื้อเย็นเป็นที่เรียบร้อย ก็ปรากฎว่าเกิดเหตุการณ์เช่นเดียวกัน ส่งผลให้เส้นทางที่เรากำลังจะมุ่งหน้าไป ถูกปิดการจราจรอย่างไม่มีกำหนด ทำให้ต้องหลีกเลี่ยงไปใช้เส้นทางอื่น ซึ่งต้องขับรถอ้อมไกลขึ้นไปอีกประมาณ 200 กม. อันเป็นคอนดิชั่นที่พอจะรับมือได้ไม่ยากนัก แต่ในขณะที่เดินทางมุ่งหน้าสู่เฉินตู เหตุการณ์ไม่คาดฝันหลายๆ อย่างก็โหมกระหน่ำขึ้นมาอีกครั้ง ไล่มาตั้งแต่ฝนตกหนักชนิดที่ว่าขับที่ความเร็ว 20 กม./ชม. ยังไม่สามารถมองเห็นเส้นทางในระยะ 50 เมตร ข้างหน้า พายุลูกเห็บ ดินสไลด์ น้ำท่วม ไฟดับ และต้นไม้ล้มกีดขวางการจราจร ส่งผลให้การเดินทางไม่สามารถทำได้เร็วนัก เฉลี่ยราว 60 กม./ชม. กับระยะทางอันแสนไกลที่เหลือ ซึ่งงานนี้ต้องยกเครดิตให้กับรถบบควบคุมเสถียรภาพ TSC ที่ช่วยเก็บอาการของตัวรถให้สามารถเดินทางต่อได้อย่างปลอดภัย ก่อนที่เวลาล่วงเลยถึงช่วงดึกและสภาพร่างกายของผู้ขับขี่เริ่มอ่อนล้า จึงต้องตัดสินใจแวะพักกันที่เมืองยี่บิน ซึ่งอยู่ในเขตติดต่อระหว่างมลฑลยูนานและมลฑลเสฉวน รวมระยะทางทั้งสิ้น 780 กม.
เมื่อเกิดดินสไลด์ ทำให้การเดินทางของคาราวานต้องชะงักไปชั่วครู่
ฝนตก น้ำท่วม ไฟดับ พายุลูกเห็บ เป็นอีกหนึ่งสถานการณ์ที่ชาวคณะต้องเจอในวันนี้
โดยในวันรุ่งขึ้นขบวน Toyota Hilux REVO คาราวาน ทริป บทพิสูจน์จริงระดับโลก ต้องเดินทางไกลขึ้น เพื่อชดเชยระยะทางที่เหลือ ซึ่งจะต้องไปเจอกับอุปสรรคอะไรอีกบ้างนั้น รอเกาะติดสถานการณ์กันอย่างใกล้ชิดทาง BoxzaRacing รวมถึง www.facebook.com/toyotahiluxthailand และ www.toyota.co.th/hiluxrevocaravantrip