บริษัท ทีซี ซูบารุ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้จัดจำหน่ายรถยนต์ Subaru อย่างเป็นทางการในประเทศไทย ได้จัดกิจกรรมสุดพิเศษ Subaru Driving Experience 2016 ขึ้นในวันที่ 27 พ.ค. ณ ลาน P.9 ริมทะเลสาบ อิมแพค เมืองทองธานี โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้สื่อมวลชนได้ร่วมทดสอบประสิทธิภาพและสมรรถนะของรถยนต์ซูบารุทุกรุ่นที่จัดจำหน่ายในประเทศไทย โดยเฉพาะ Subaru Forester ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา พร้อมด้วย Subaru XV, Outback รวมถึงรถในตระกูลมอเตอร์สปอร์ต ระดับโลกอย่าง Subaru BRZ, WRX, WRX STI และ Levorg โดยในงาน Subaru แบ่งสนามทดสอบเป็น 2 สไตล์ คือ
Dirt Track สนามที่จัดเพื่อให้ได้ทดสอบระบบขับเคลื่อนสี่ล้อแบบสมมาตร (Symmetrical AWD) ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการควบคุม ระบบ X-MODE เอกสิทธิ์เฉพาะของ Subaru ที่ช่วยควบคุมการทำงานของเครื่องยนต์ ระบบส่งกำลัง และระบบขับเคลื่อนให้ทำงานร่วมกันอย่างสมบูรณ์ เพิ่มสมรรถนะการขับขี่บนถนนขุขระ เปียกลื่น หรือพื้นถนนที่มีอุปสรรคในการขับขี่ โดยรถซูบารุที่ใช้ทดสอบในสนามนี้ คือ Subaru XV, Forester, และ Outback
โดยในการทดสอบสถานี Dirt Track ทางทีมงาน BoxzaRacing ได้ทดลองสัมผัสสมรรถนะของ Subaru XV ก่อนเป็นรุ่นแรก ซึ่งสถานีดังกล่าวเป็นสถานีที่ถูกจัดขึ้นเพื่อทดสอบสมรรถนะช่วงล่างอันอัจฉริยะของ Subaru XV, Forester และ Outback โดยการตอบสนองของเจ้า Subara XV นั้น ถือว่าทำได้อย่างสมูทนุ่มนวล ไม่ว่าจะเป็นจังหวะทำความเร็ว การเบรค และการเข้าโค้งทั้งแบบโค้งลึก และโค้งกว้าง นั่นก็เป็นเพราะผลพวงของขุมพลัง Subaru Boxer ขนาด 1,995 ซีซี. ที่ให้กำลังสูงถึง 150 แรงม้า ที่ 6,200 รอบ/นาที และมีแรงบิดสูงสุดที่ 196 นิวตัน-เมตร ที่ 4,200 รอบ/นาที ที่มาพร้อมกับระบบช่วงล่างที่ถูกเซ็ทอัพมาอย่างดี ผสานกับระบบ X-Mode ที่ช่วยควบคุมการทำงานของเครื่องยนต์ ระบบส่งกำลัง และระบบขับเคลื่อนให้ทำงานร่วมกันอย่างสมบูรณ์
ต่อมาทางทีมงาน BoxzaRacing ได้เปลี่ยนมาทดลองขับเจ้ารถอเนกประสงค์รุ่นใหม่ล่าสุด Subara Forester รุ่น 2.0XT ที่มาพร้อมเครื่องยนต์ Boxer Direct-Injection Turbo ซึ่งมีการเพิ่มระบบอัดอากาศเข้าไปช่วยให้การทำงานของเครื่องยนต์มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ซึ่งมอบสมรรถนะสูงถึง 241 แรงม้า ที่ 5,600 รอบ/นาที และมีแรงบิดสูงสุดถึง 350 นิวตัน-เมตร ที่ 2,400-3,600 รอบ/นาที นอกเหนือจากความแรงที่รับรู้ได้แล้ว ยังสัมผัสได้ถึงความอัจฉริยะของระบบช่วงล่าง 4 ล้อ ที่มีการถ่ายเทน้ำหนักได้เองแบบอัตโนมัติ ผสานกับการทำงานของระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัวขณะเข้าโค้ง โดยในฐานนี้ จะให้สื่อมวลชนได้ทดลองขับแบบอิสระในสภาพสนามแบบฝุ่นผสมกรวดหินและทราย ผสมผสานกันระหว่างโค้งแคบ และโค้งกว้าง อีกทั้งยังมีอุปสรรคแบบ Slalom ให้ได้ทดลองระบบช่วงล่างของ Subaru ได้อย่างชัดเจน ปิดท้ายด้วยการเข้าโค้งแบบโดนัท (วงกลม 1 รอบ) ให้ได้สาดโค้งสวยๆ กันแบบฝุ่นตลบ เพื่อพิสูจน์ว่าสมรรถนะช่วงล่างของ Subaru สามารถจัดการได้อย่างอยู่หมัด
เมื่อสาสมใจ และได้รับรู้ถึงสมรรถนะของรถในสถานี Dirt Track เรียบร้อยแล้ว ทางทีมงาน BoxzaRacing ก็ย้ายมายัง สถานี Performance Track ซึ่งถือเป็นครั้งแรกในการจัดสนามเพื่อทดสอบความเร็วของรถในตระกูลมอเตอร์สปอร์ตของ Subaru โดยมีรุ่นที่ใช้ทดสอบคือ Subaru BRZ, WRX และ WRX STI พร้อมทั้ง Subaru Levorg ที่เพิ่งเข้าร่วมการแข่งขันรถยนต์ในรายการระดับโลกเช่นกัน
โดยในสถานี Performance Track ทางทีมงาน BoxzaRacing ได้มุ่งหน้าตรงไปยัง Subaru WRX ก่อนเป็นรุ่นแรก ซึ่งเจ้า Subaru WRX ก็ไม่ทำให้ทางทีมงาน BoxzaRacing ผิดหวังเลยจริงๆ โดยเจ้า WRX คันนี้ เป็นรุ่นเกียร์ธรรมดา ซึ่งให้อารมณ์การขับขี่แบบสปอร์ตเต็มอารมณ์ ประดุจได้เข้าไปขับแข่งขันอยู่ในรายการ WRC อย่างไรอย่างนั้น สำหรับเจ้า Subaru WRX มาพร้อมกับสมรรถนะขุมพลังที่ค่อนข้างเอาเรื่อง ด้วยเครื่องยนต์ Subaru Boxer ขนาด 2.0 ลิตร ที่มาพร้อมระบบเทอร์โบชาร์จ และระบบหัวฉีดเชื้อเพลิงโดยตรง (DIT) ที่มอบสมรรถนะสูงถึง 270 แรงม้า และแรงบิดสูงถึง 350 นิวตัน-เมตร ที่ 2,400 รอบ/นาที นอกจากนี้ยังมาพร้อมระบบขับเคลื่อนแบบ 4 ล้อแบบสมมาตร ที่มาช่วยเพิ่มความเสถียรภาพในการทรงตัว ไม่ว่าจะโค้งแคบ โค้งหักศอก หรือโค้งกว้างๆ เจ้า Subaru WRX ก็แสดงศักยภาพในการขับขี่ได้อย่างน่าเหลือเชื่อ
จากนั้นทางทีมงาน BoxzaRacing ได้ย้ายถิ่นฐานมาประจำการเจ้ารถสปอร์ตขวัญใจวัยรุ่น Subaru BRZ ซึ่งให้อารมณ์ที่แตกต่างไปจาก WRX อย่างสิ้นเชิง อย่างแรกคือความสปอร์ตของห้องโดยสาร เบาะนั่งที่ต่ำลงไป ให้อารมณ์การขับขี่ที่สปอร์ตเร้าใจ โดยเจ้า Subaru BRZ ก็ยังสามารถตอบสนองได้อย่างดุเดือดเผ็ดมันส์เหมือนเช่นเคย จากผลพวงของขุมพลัง Subaru Boxer ขนาด 2.0 ลิตร ที่ให้พละกำลังสูงถึง 200 แรงม้า ที่ 7,000 รอบ/นาที และมีแรงบิดสูงสุดที่ 205 นิวตัน-เมตร ที่ 6,400-6,600 รอบ/นาที ที่มาพร้อมระบบเฟืองท้ายลิมิเต็ดสลิปแบบ Torsen
สำหรับการทดสอบครั้งนี้ ถือว่า Subaru สอบผ่านในทุกประการ ไม่ว่าจะเป็นจังหวะการเร่ง อัตราเร่ง การเบรค และการทรงตัวขณะเข้าโค้ง โดยหากจะให้พูดถึงความประทับใจของรถที่ได้ร่วมทดสอบครั้งนี้ คงต้องยกให้เป็นเจ้า Subaru WRX ที่ตอบสนองการขับขี่ได้อย่างชัดเจนที่สุด
สำหรับใครที่สนใจสามารถสัมผัสสมรรถนะที่เหนือชั้นของ Subaru The New Forester ได้แล้ววันนี้ ที่โชว์รูมซูบารุทั่วประเทศ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 02-725-1888 หรือชมข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://www.subaru.asia/th
