Nissan March The Little Monster อีโคคาร์ กลายพันธุ์เพาะกำลังไว้ 200 แรงม้า

เขียนโดย: D wisanuporn

เมื่อ: 22 กรกฏาคม 2563 - 11:58

 

          ความสนุกสนานในการทำรถของชาวเรา ต้องบอกว่าไม่เคยมีเงื่อนไขตายตัว หลายคนเริ่มต้นจากซากรถก่อร่างสร้างตัวขึ้นมาจนเป็นตัวโชว์ระดับพรมแดง หรือบางคนนำรถที่สืบทอดต่อกันมา แล้วจับแต่งองค์ทรงเครื่องจนเป็นที่สุดของรุ่น ก็สุดแล้วแต่จะทำเล่นกัน อย่างที่บอกว่าโลกของการแต่งรถไม่เคยหยุด เฉกเช่นเดียวกับ Nissan March ตัวโชว์ที่เห็นอยู่ขณะนี้ ถูกนำมาปรับเปลี่ยนลุคให้กลายเป็น ปีศาจตัวน้อย ที่แอบพกพาความแรงมาแบบไม่อาจมองข้ามไปได้

 

 

Inspiration

          จากวัยรุ่นที่อยากได้รถซิ่งอย่าง Honda Civic EK9 มาเป็นรถคู่ใจ ทว่าติดข้อจำกัดบ้างประการทำให้ต้องมองหาหนทางใหม่ ทว่าจุดหมายยังคงเดิม คือ ความแรง โปรเจค The Little Monster อีโคคาร์กลายพันธุ์ จึงเป็นข้อสรุปที่น่าจะลงตัวมากที่สุดสำหรับงานนี้ อย่างที่บอกไปตอนต้นว่ารถ EK9 ไม่ผ่านการนำเสนอ จึงหันไปคบกับ Nissan March ที่ไร้ข้อกังขา แต่ด้วยพื้นฐานของรถสำหรับแม่บ้านทำให้สิ่งที่ต้องการยังไม่บรรลุวัตถุประสงค์ จำต้องดำเนินการสานต่อโปรเจคความแรงต่อไป

         ความแรง ที่ว่านี้คือ จุดประสงค์หลัก ทว่าความสมบูรณ์ของรถก็ต้องมาควบคู่กัน ซึ่งนั่นเป็นข้อจำกัดในตอนแรก และบทสรุปของเรื่องนี้คือ การเปลี่ยนสมรรถนะที่ด้อยกว่าให้สูงขึ้น ด้วยเหตุผลทั้งหมดที่ว่าทำให้เราได้เห็นการปรับเปลี่ยนที่เรียบง่าย เน้นความสมบูรณ์ของ Nissan March รถที่ถูกรื้อเครื่องเก่ารหัส HR12DE 3 แบบ 3 ลูกสูบ ขนาด 1.2 ลิตร ออก แล้วหย่อนเครื่อง K24 a2 แบบ 4 สูบ ที่มีความจุถึง 2.4 ลิตร ของ Honda ลงแทนที่เดิม ผลที่ได้คือ ความแรงตรงตามคอนเซ็พ กำลังเครื่องยนต์เดิมที่ทำได้แค่ 79 แรงม้า ขยับขึ้นไปเป็น 200 แรงม้า แบบไม่ต้องปรับแต่งอะไร เมื่อใช้เครื่องใหม่นี้ แต่อย่างลืมว่างานนี้ต้องสมบูรณ์ จึงเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้สำหรับการปรับเปลี่ยนอุปกรณ์เพื่อรองรับกำลังที่เพิ่มขึ้น ส่วนเรื่องการปรับแต่งความแรงว่ากันในตอนท้าย

 

 

Design

         เมื่อองค์ประกอบหลักอย่างเครื่องยนต์ถูกเปลี่ยนแล้ว หันมาดูรายละเอียดในการปรับภาพลักษณ์โดยรวม เริ่มจากด้านนอกกับรูปทรงเดิมแทบไม่มีการเปลี่ยนแปลงอะไรเลย แต่จะเป็นภายในห้องโดยสาร มากกว่าที่ปรับเปลี่ยนไปจนผิดตา กับอุปกรณ์ตกแต่งหลายรายการ โดดเด่นที่สุดน่าจะอยู่ที่จอแสดงผล AEM กับที่นั่งรูปแบบ Drag Racing ของ Kirkey ที่เปลี่ยนแทนของเดิมทั้ง ตลอดจนพวงมาลัย ATC แบบก้านยก ต่ออยู่กับคอแบบพับได้ของ WB ในส่วนนี้ หากมองเป็นเรื่องของแฟร์ชั่นแล้วก็ไม่ผิด แต่หากมองถึงฟังก์ชั่นการใช้งานจะเห็นถึงความสอดคล้องกันระหว่างอุปกรณ์ทั้ง 3 ชนิด ทั้งที่นั่ง พวงมาลัย และคอต่อพวงมาลัย เมื่อเปลี่ยนที่นั่งมาเป็นทรง Bucket Seat แล้วจะทำให้การเข้าออกรถเป็นเรื่องลำบาก เพราะติดปีกข้างและพวงมาลัย การติดตั้งคอพับทำให้ลดปัญหาในส่วนนี้ได้มาก ขยับมาดูที่บริเวณคอนโซลพาแนล หรือที่หลายคนเรียกว่าซุ้มเกียร์ ถูกตัดแต่งเพื่อติดตั้งชุดคันเกียร์ใหม่ งานนี้เลือกใช้ชุดเปลี่ยนเกียร์งาน CNC ของ K-Tuned ตรงรุ่นกับเครื่องยนต์

 

 

          ย้ายไปด้านห้องโดยสานตอนหลัง ที่ไม่ถูกใช้งาน ชิ้นส่วนและอุปกรณ์ถูกรื้อออกทั้งหมด จะมีเพียงแค่อุปกรณ์ที่จำเป็นเท่านั้น พร้อมกันนี้ยังเสริมความแข็งแรงเบื้องต้นด้วยชุดโรลบาล์แบบ 4 จุด สำหรับส่วนนี้ ต้องบอกว่าน้อยมากสำหรับรถแต่งบ้านเราที่ให้ความสำคัญ ซึ่งจริงแล้วการติดตั้งโรลบาล์นั้นไม่เพียงแค่ลด หรือป้องกันความรุนแรงที่จะถึงตัวผู้ขับหรือผู้โดยสารเท่านั้น แต่ยังส่งผลต่อด้านบวกในการขับได้อีกด้วย เพราะเหล็กที่ติดตั้งไปตามจุดต่างๆ เสริมเป็นตัวค้ำตัวถังให้ขยับตัวน้อยลง พูดง่ายๆ คือลดการบิดตัวของตัวถังได้มากขึ้น สำหรับนักแข่งหรือนักทดสอบรถมากประสบการณ์จะรู้ดีว่า การบิดของตัวถังนั้น มีผลอยากมากสำหรับการแข่งโดยเฉพาะการวิ่งในโค้ง

 

 

Power

          ข้ามมาว่ากันที่เรื่องของพลังการขับเคลื่อน ซึ่งกล่าวไว้ตั้งแต่ตอนต้น แม้ว่าเครื่องยนต์ใหม่จะมีกำลังมากขึ้นก็ตาม ทว่างานนี้ยังมีการปรับแต่งเล็กๆ ในส่วนต่างๆ แบบไม่ยุ่งเกี่ยวกับชิ้นส่วนภายในเครื่องหรือที่เรียกว่า Light Tuned เริ่มจากระบบอากาศที่เปลี่ยนมาใช้กรองอากาศแบบเปลือย พร้อมท่อทางเดินงานไทยที่ต่อกับเรือนลิ้นเร่งขนาด 72 มิลลิเมตร ซึ่งอุปกรณ์ดังกล่าวเป็นของ K-Tuned ก่อนจะรวมอากาศไว้ที่ท่อรวมขนาดใหญ่กว่าเดิมของ Skunk2 พร้อมกันนี้ ยังเปลี่ยนรางหัวฉีดใหม่ ของ K-Tuned เช่นกัน แล้วงานนี้เลือกใช้กล่อง ECU ของ AEM ประมวลผลในเรื่องของการจุดระเบิด

 

 

          ยังมีในเรื่องของการจัดการกับความแรง เพื่อมาใช้งานได้แบบเต็มเม็ดเต็มหน่วย ซึ่งต้องมีองค์ประกอบหลายด้าน และสำคัญที่สุดน่าต้องอยู่ที่ระบบส่งกำลัง ปีศาจน้อยคันนี้ ได้ปรับเปลี่ยนเรื่องการตัดต่อกำลังกับการใช้เกียร์ธรรมดา 5 สปีด ของ DC5 เสริมด้วยชุดคลัทช์ของ ORC ที่ส่งกำลังไปยังเฟืองท้ายได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และงานนี้เลือกใช้ล้อขนาด 15 นิ้ว ของ Weds Sport  และส่วนที่ติดพื้นเพียงส่วนเดียวคือ ยาง ที่เลือกใช้ขนาด 195/50 R15 ผลผลิตของ Toyo Tire รุ่นยอดนิยม R1 R ระบบรองรับน้ำหนัก หรือช่วงล่างที่ต้องรับแรงม้าและแรงบิดซึ่งสูงขึ้นกว่า 3 เท่าตัว ถูกจัดการด้วยช็อคอับของ GAB HE ส่วนการหยุดความแรงระดับ 200 แรงม้า เป็นหน้าที่ของ ชุดเบรกของ Endless ที่มาทั้งคาลิเปอร์และจาน

 

 

           ต้องบอกว่าการปรับเปลี่ยนรถที่ถูกสร้างมาเพื่อใช้งานในชีวิตประจำ ให้กลายเป็นปีศาจตัวย่อม นั้น นอกจากนี้ระบบรองรับน้ำหนัก หรือช่วงล่างที่ต้องรับแรงม้าและแรงบิดให้ได้ เรื่องระบบเบรกที่ต้องสามารถหยุดความเร็วของรถได้ก็เป็นสิ่งสำคัญ อย่าลืมว่าแรงม้าต่อน้ำหนักเปลี่ยนไปมาก เบรกเดิมที่โรงงานให้มาไม่สามารถหยุดความแรงระดับนี้ได้ และอย่างที่เห็นคันนี้ ได้เพิ่มสมรรถนะในการหยุดความแรงด้วยชุดเบรกคุณภาพสูงเรียบร้อย เช่นเดียวกับล้อและยางที่ปรับให้เหมาะสมตามไปด้วย รวมถึงองค์ประกอบในหลายด้าน

 

 

          ซึ่งต้องบอกว่าเป็นการเริ่มต้นที่ดี ถึงแม้ว่าอุปกรณ์บางชนิดจะมีผลในด้านลบสำหรับใช้งานจริงก็ตาม แต่หากมีการปรับให้ลงตัวมากขึ้นกว่านี้ ก็จะสามารถควบคุม Nissan March The Little Monster อีโคคาร์ กลายพันธุ์ ที่มีกำลัง 200 แรงม้า ได้อย่างสบาย

รถซื้อสอง ซื้อขายรถ ของแต่งรถ

แสดงความคิดเห็นด้วย Facebook