เขียนโดย: OTIZ THE OG

เมื่อ: 21 กุมภาพันธ์ 2558 - 21:22

ฟิล์มกรองแสงรถยนต์เลือกอย่างไร หากต้องการจะติด

 

ฟิล์มกรองแสงรถยนต์เลือกอย่างไร หากต้องการจะติด

 


ฟิล์มกรองแสงถือเป็นอีก1สิ่งที่จำเป็นจะต้องติดมนปัจจุบัน
 

          วันนี้ทางทีมงาน BoxzaRacing จะพาเพื่อนๆไปพบกับเกร็ดความรู้เกี่ยวกับรถยนต์ในเรื่อง การเลือกฟิล์มกรองเเสงรถยนต์ หลังจากที่ทางทีมงานนั้นเคยนำเสนอเรื่อง การดูแลรักษาฟิล์มรถยนต์กันไปแล้ว ซึ่งเรื่องราวในครั้งนี้เราจะพาทุกท่านไปดูกันว่าการเลือกซื้อฟิล์มติดรถยนต์นั้นต้องดูอะไรกันบ้าง เดี๋ยวเราไปชมกันเลยครับกับเกร็ดความรู้เกี่ยวกับรถยนต์ในวันนี้

 
 

การเลือกความเข้มของฟิล์มกรองแสงนั้นก็มีให้เลือกตามต้องการ
 
          ฟิล์มรถยนต์ถือว่าเป็นสิ่งที่จำเป็นอีก1สิ่ง กับผู้ที่ใช้รถยนต์ในบ้านเป็นอย่างมากเนื่องจาก สภาพอากาศในบ้านเรานั้นร้อนมาก ขับรถเปิดแอร์ปกติในตอนนี้กลางวันบ้างครั้งก็ยังร้อนอยู่ จึงทำให้หลายๆท่านนั้นหันมาพึ่งตัวช่วยอีก1สิ่งนั้นก็คือ ฟิล์มกรองแสงรถยนต์ แต่หลายท่านก้ยังไม่ทราบว่าฟิล์มกรองแสงนั้นมีกี่ประเภท และมีคุณสมบัติอะไรบ้าง ซึ่งฟิล์มกรองแสงรถยนต์นั้นสามารถแยกย่อยได้ดังนี้

 

1.ฟิล์มกรองแสงที่ไม่มีส่วนผสมของสารที่ป้องกันรังสีที่มากับแดด

ฟิล์มกรองแสงรถยนต์ ประเภทนี้จะสามารถลดความเข้มของแสงได้เพียงอย่างเดียว จะไม่สามารถป้องกันรังสีต่างๆที่มากับแสงแดดได้ ซึ่งนอกจากจะแสงแดดจะทำให้เราร้อนแล้ว รังสีที่มากับแสงแดดก็ถือว่าเป็นอีก1สิ่งอันตรายที่เรามองไม่เห็น ด้วยเช่นกันและฟิล์มกรองแสงประเภทนี้จะมีการกันความร้อนได้ไม่ถึง50 %และจะเป็นฟิล์มราคาถูกในท้องตลาด ราคาในการติดฟิล์มประเภทนี้จะอยู่ที่ 800-1,500 กับรถทั้งคันการใช้งานของฟิล์มรถยนต์ประเภทนี้ค่อนข้างสั้น ประมาณ 3-5 ปี

2.ฟิล์มกรองแสงที่มีสารป้องกันรังสีจากแสงแดด

           ฟิล์มกรองแสงรถยนต์ประเภทนี้ จะมีการเพิ่มวัสดุพิเศษเข้าไปเพื่อที่จะไว้ป้องกันรังสีจากแสงแดด ที่เป็นอันตราย ซึ่งตัวฟิล์มกรองแสงรถยนต์ประเภทนี้นั้นก็ยังมีแยกย้อยในส่วนของส่วนที่จะต้องโดนกับแสงแดดได้อีกดังนี้

           2.1 ประเภทของฟิล์มปรอท ฟิล์มที่มีการเคลือบโลหะ ฟิล์มลดความร้อน โดยเนื้อฟิล์มประเภทนี้จะมีการเคลือบสีสะท้อนที่ตัวเนื้อฟิล์ม ทำให้เวลาที่เรามองจากด้านนอกนั้นจะสะท้อนเหมือนกระจกเงา ในเรื่องของคุณภาพในการกรองเเสงฟิล์มรถยนต์ประเภทนี้จะมีประสิทธิภาพในการลดความร้อนของแสงแดดอยู่ที่ 35-95%  ส่วนราคาในการติดตั้งทั้งคันจะอยู่ที่ 2,000-5,000.- กับรถทั้งคัน อายุการใช้งานจะอยู่ที่ 3-7 ปีโดยประมาณ

          2.2ฟิล์มที่ป้องกันอินฟาเรด(Infraed Film)  ฟิล์มประเภทนี้นั้นจะมีการเคลือบสารที่ป้องกันรังสีอินฟเรด ไว้ที่ตัวฟิล์ม ซึ่งถือว่าฟิล์มกรองแสงรถยนต์ประเภทนี้สามารถกันความร้อนได้ดีที่สุด แต่สิ่งที่ตามาก็คือมีราคาสูง แต่ ณ ปัจจุบันหลายบริษัทได้มีการผลิตฟิล์มประเภทนี้ออกมามากมายทำให้ราคาของฟิล์มกรองแสงประเภทนี้เริ่มปรับราคาลงมา

          2.3 ฟิล์มรถยนต์ประเภทนิรภัย  ฟิล์มกรองแสงประเภทนี้ จะมีความหนาตั้งแต่ 4 Mil ขึ้นไป (1mil =  0.025 mm. ) ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นฟิล์มที่ใช้กับอาคาร แต่ในปัจจุบันได้เริ่มมีการนำมาใช้กับรถยนต์ โดยจะมีทั้งแบบช่วยลดความร้อนและไม่ลดความร้อน คุณสมับติเด่นๆของฟิล์มกรองแสงประเภทนี้ จะช่วยในเรื่องของการคงรูปของกระจกเมื่อเกิดการกระแทก ให้อยู่ในรูปแบบเดิมให้มากที่สุดอีกด้วย

          2.4ฟิล์มรถยนต์ประภทนาโน   ฟิล์มกรองแสงประเภทนาโนหรือเรียกสั้นๆว่านาโนฟิล์ม จะเป็นฟิล์มกรองแสงรถยนต์ที่แสงส่องผ่านได้มากถึง 60% และจะไม่ทำให้เกิดเงา แต่เป็นฟิล์มกรองแสงที่สามารถลดความร้อนได้สูงทั้งหมดนี้จะขึ้นอยู่กับวัสดุที่นำมาใช้ผลิตและสารที่นำมาเคลือบฟิล์ม และจะมีราคาค่อนข้างสูง

 

ฟิล์มกรองแสงรถยนต์ ควรติดกี่เปอร์เซน

          ก่อนที่เราจะไปดูว่าควรติดฟิล์มกรองแสงรถยนต์กี่เปอร์เซน เราไปทำความรู้จักกันก่อนว่าเปอร์เซนของฟิล์มนั้นคืออะไร  ตามจริงก็คือความเข้มของฟิล์มกรองแสงรถยนต์โดยแบ่งได้ดังนี้

  • ฟิล์มกรองแสง 40% หรือที่หลายๆท่านชอบแรกว่าฟิล์มใส ฟิล์มรถยนต์ประเภทนี้แสงจะสามารถส่องผ่านได้ ประมาณ 35%ขึ้นไป โดยจะมีตัวเลขระบุบนเนื้อฟิล์ม ตัวอย่างเช่น APL35N , POP35N , APL45NX , L80BL
  • ฟิล์มกรองแสง 60% จะหมายถึง ฟิล์มกรองแสงที่แสงสามารถส่งผ่านได้ ประมาณ 20% ตัวอย่างเลขที่ติดบนเนื้อฟิล์มจะเป็น ANL20N , ARL20C , ARL20BX , L20N POP20N
  • ฟิล์มกรองแสง 80% หมายถึง ฟิล์มกรองแสงรถยนต์ที่มีความเข็มที่สุด ทำให้มีแสงส่งผ่านได้ 5 % ตัวอย่างเช่น ARL05C , ANL05N , POP5C L05 Digital CTX

          ในปัจจุบันกฎหมายที่บังคับใช้เรื่องเกี่ยวกับการติดฟิล์มกรองแสงนั้นได้มีการยกเลิกไปแล้วเป็นที่เรียบร้อย ซึ่งก่อนหน้านี้ได้มีการออกกฎหมายเกี่ยวกับการติดฟิล์มกรองแสงรถยนต์ โดยกำหนดไว้ว่าห้ามติดฟิล์มกรองแสงรถยนต์ที่มีระดับความเข้มเกิน 40% ด้วยสาเหตุของของการเสียดุลการค้ากับต่างประเทศ จึงทำให้ยกเลิกข้อบังคับใช้เรื่องฟิล์มกรองแสงรถยนยต์ ส่วนเรื่องของการเลือกซื้อฟิล์มกรองแสงรถยนต์นั้นก็ขึ้นอยู่กับงบประมาณ ของแต่ละท่านแต่สิ่งที่สำคัญควรซื้อฟิล์มกรองแสงจากตัวแทนจำหน่ายที่มีคุณภาพจะทำให้เราได้ฟิล์มกรองแสงรถยนต์ที่มีคุณภาพและการบริการที่ดี รวมถึงเรื่องประกันคุณภาพของฟิล์มกรองแสงรถยนต์อีกด้วย



รูปนี้ทำให้เห็นว่าเมื่อติดฟิล์มกรองแสงไปแล้วทำให้แสงที่ส่องเข้ามาน้อยลง
 
          เป็นอย่างไรกันบ้างครับกับเกร็ดความรู้เกี่ยวกับรถยนต์เรื่องการเลือกซื้อฟิล์มกรองแสงที่ทางทีมงานได้นำมาให้เพื่อนๆได้ชมกันในวันนี้ และเพื่อนๆคงได้ทราบแล้วว่าควรดูอะไรบ้างในการเลือกซื้อฟิล์มกรองแสงรถยนต์ ครั้งหน้าจะเป็นเรื่องราวเกร็ดความรู้เกี่ยวกับรถยนต์ เรื่องอะไรสามารถติดตามได้ที่ BoxzaRacing.com กันได้เลยครับ
 
 
รถซื้อสอง ซื้อขายรถ ของแต่งรถ

ข่าวที่ใกล้เคียง

แสดงความคิดเห็นด้วย Facebook