เขียนโดย: Monster Racing

เมื่อ: 1 ตุลาคม 2561 - 17:28

Toyota New Global Architecture (TNGA) คืออะไร? ส่งผลดีต่อการขับขี่อย่างไร?

          เทคโนโลยีของโลกยานยนต์ในปัจจุบัน ได้พัฒนาขึ้นไปทุกวันอย่างไม่หยุดยั้ง ซึ่งก็ส่งผลดีต่อผู้บริโภคอย่างเราๆ ทั้งหลายที่ได้รับ และสัมผัสกับนวัตกรรม ความสะดวกสบายที่มากขึ้น ซึ่งหลากหลายค่ายผู้ผลิตชั้นนำต่างก็พากันคิดค้น และพัฒนาออกแบบยนตรกรรมให้สอดรับกับไลฟ์สไตล์การขับขี่ที่เปลี่ยนแปลงไป อย่างเช่น Toyota ค่ายผู้ผลิตรถยนต์ยักษ์ใหญ่ของโลก ที่ได้พัฒนาแพลตฟอร์มใหม่ที่มีชื่อว่า Toyota New Global Architecture หรือเรียกสั้นๆ ว่า "TNGA" ที่ได้ติดตั้งลงในรถยนต์รุ่นใหม่ของโตโยต้า ซึ่งวันนี้ทาง BoxzaRacing จะพาไปเจาะลึกว่าแพลตฟอร์ม TNGA คืออะไร และส่งผลดีต่อการขับขี่อย่างไร?

 

 

          สำหรับ Toyota New Global Architecture หรือ "TNGA" นั้น คือสถาปัตยกรรมโครงสร้างยานยนต์ใหม่ ที่ผสมผสานที่สุดแห่งการขับขี่ทั้งในด้าน Performance และ Design เพื่อก่อให้เกิดความรู้สึกใหม่ของการขับขี่ที่ไม่เคยมีมาก่อน ประกอบไปด้วย

  • Stability ช่วงล่างที่แข็งแรง มั่นคง และเกาะถนนได้ดีขึ้นอย่างสัมผัสได้ โดยเฉพาะเมื่อขับขี่เร็ว และช่วงทางโค้ง
  • Agility ความคล่องแคล่ว คล่องตัว เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันกับผู้ขับขี่ เข้าโค้งแล้วรู้สึกกระชับ และมั่นคง
  • Visibility ให้วิสัยทัศน์แห่งการขับขี่ที่กว้างขึ้น ด้วยมุมมองที่โล่ง โปร่ง ลดจุดบอดจุดอับสายตา
  • Comfort ความนุ่มของการนั่งโดยสารที่ไม่เคยพบมาก่อนในรถญี่ปุ่น ลดทอนแรงกระแทกในทุกสถานการณ์
  • Design ด้วยแพลตฟอร์ม TNGA ที่ทำให้โครงสร้างของรถมีความ freeform และยืดหยุ่นต่อการดีไซน์ภายนอกมากขึ้น ทำให้สามารถออกแบบตัวรถได้อย่างอิสระ และไม่มีข้อจำกัด

 

 

องค์ประกอบหลักของแพลตฟอร์ม TNGA มีอะไรบ้าง? เหตุใดจึงให้การขับขี่ที่ดีขึ้น

1. Body Rigidity

          เพิ่มความมั่นคงของรถจากการออกแบบโครงสร้างใหม่ ด้วยเหล็กกล้าที่มีความแข็งแรงสูง พร้อมเพิ่มจำนวนจุดเชื่อมตัวรถ (Spot Welding) ซึ่งช่วยรองรับแรงบิดที่มีต่อตัวถัง และเพิ่มประสิทธิภาพในการทรงตัว และเกาะถนน

 

 

2. Low Center Of Gravity

          ออกแบบจุดศูนย์ถ่วงตัวรถให้อยู่ในองศาที่ต่ำลง ช่วยลดอาการโคลงของตัวรถ และเพิ่มเสถียรภาพในการทรงตัว และเข้าโค้งได้ดีขึ้น

 

 

3. Good Handling

          ปรับจูนพวงมาลัยใหม่ ที่ให้การตอบสนองที่แม่นยำ และเฉียบคมมากยิ่งขึ้น เพื่อให้สามารถควบคุมรถได้อย่างง่าย และมั่นใจเฉกเช่นคุณนั่งอยู่ในรถสปอร์ต

 

 

4. Double Wishbone Suspension

          การออกแบบระบบช่วงล่างแบบปีกนกคู่อิสระ (Double Wishbone Suspension) ซึ่งช่วยซับแรงกระแทกได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังสามารถกระจายแรงกระแทก และถ่ายเทน้ำหนักได้ดี พร้อมมีเหล็กกันโคลงขนาดใหญ่ช่วยค้ำอยู่ ส่งผลให้เพิ่มความนุ่มนวลในการขับขี่ แต่ยังคงไว้ซึ่งการเกาะถนนที่ดีเยี่ยม

 

 

5. Excellent Visibility

          การออกแบบภายในห้องโดยสารที่เหมาะกับสรีระผู้ขับขี่ ช่วยเพิ่มทัศนวิสัย และลดจุดอับสายตา ด้วยการเปลี่ยนแกนเสา A ใหม่ ส่งผลให้คุณมองเห็นได้กว้างกว่าที่เคย

 

 

          ซึ่งแพลตฟอร์ม TNGA นั้น ทุกท่านสามารถสัมผัสได้จาก Toyota C-HR ยนตรกรรมซับคอมแพค SUV ที่พึ่งเปิดตัวไปล่าสุด โดยมีให้เลือกด้วยกัน 4 รุ่นย่อยได้แก่

  • Toyota C-HR 2018 รุ่น 1.8 Entry ราคา 979,000 บาท
  • Toyota C-HR 2018 รุ่น 1.8 MID ราคา 1,039,000 บาท
  • Toyota C-HR 2018 รุ่น HV MID ราคา 1,069,000 บาท
  • Toyota C-HR 2018 รุ่น HV HI ราคา 1,159,000 บาท

          และในปลายปีนี้ทุกคนจะได้สัมผัสกับแพลตฟอร์ม TNGA ในรถ Toyota อีกรุ่นคือ New Camry 2018  และในอนาคต Toyota ยังได้ตั้งเป้าให้รถรุ่นใหม่กว่า 50% ทั่วทั้งโลก ต้องพัฒนาสร้างขึ้นบนแพลตฟอร์ม TNGA ภายในปี 2020

 

สามารถติดตามบทความรีวิว Toyota C-HR ได้ที่ : Toyota C-HR รีวิว SUV สายพันธุ์ใหม่ ใส่เต็มสมรรถนะ พร้อมฟังค์ชั่นอัจฉริยะตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนทันสมัย

รถซื้อสอง ซื้อขายรถ ของแต่งรถ

ข่าวที่ใกล้เคียง

แสดงความคิดเห็นด้วย Facebook