Nissan Sylphy Turbo VS. MG 6 Turbo ประชันซีดานกลางสุดเร้าใจ
หลังจากที่ Nissan ได้เปิดตัวซีดานรุ่นเอาใจคนรักความสปอร์ตด้วยรุ่น Sylphy 1.6 DIG Turbo ที่จัดหนักทั้งเครื่องยนต์ 1.6 ลิตร พ่วงเทอร์โบชาร์จใหม่, ชุดแต่งสปอร์ตรอบคันพร้อมซันรูฟ ที่สำคัญ...มีราคาไม่ถึงหลักล้านอีกด้วย ถือได้ว่าเป็นรถที่มีความน่าสนใจในการขับขี่ไม่น้อยทีเดียว และในวันนี้ก็เป็นวันดี ที่จะขอเทียบกับรถซีดานพ่วงเครื่องเทอร์โบอีกรุ่นหนึ่ง อย่าง MG 6 ตัวถังซีดานพร้อมซันรูฟที่ให้ความลงตัวในการขับขี่ที่ดีทีเดียว
เพื่อการเปรียบเทียบที่สมน้ำสมเนื้อ ทางด้านนิสสัน ขอส่ง Nissan Sylphy 1.6 DIG Turbo ส่วนทางด้าน MG ขอส่งรุ่น MG 6 1.8X Turbo Sunroof
ภายนอก
Nissan Sylphy ในรุ่น 1.6 DIG Turbo นี้ ได้เพิ่มความสปอร์ตมากขึ้นด้วยชุดแต่งสปอร์ตรอบคัน ทั้งกระจังหน้าโครเมียมรมดำ, กันชนใหม่, สเกิร์ตข้าง, กันชนท้าย, ล้ออัลลอย 17 นิ้ว สีพิเศษ Hyper Black พร้อมตราสัญลักษณ์ DIG Turbo ที่บ่งบอกความเป็นรถสปอร์ตที่แรงจากนิสสัน นอกจากนี้ยังมีอ็อพชั่นมาตรฐานที่ให้ความสดใหม่ทันสมัย ทั้งไฟหน้าโปรเจคเตอร์เลนส์ ซีนอน พร้อม LED Daylight ในตัว และระบบทำความสะอาดโคมไฟหน้า (Headlight washer) ไฮไลท์พิเศษคือหลังคาซันรูฟที่เสริมความหรูมากขึ้น
MG6 มาพร้อมกับตัวถังที่ใหญ่กับการออกแบบตัวรถที่หรูหรา เพิ่มความสปอร์ตหรูด้วยไฟหน้า BI-XENON HID พร้อมโคมมัลลิรีแฟลกเตอร์และระบบทำความสะอาดโคมไฟหน้า (Headlight washer), LED Daylight ทรง L ที่สามารถใช้เป็นไฟตัดหมอกในตัวได้, เสาอากาศทรงครีบฉลาม และล้ออัลลอย 17 นิ้ว ลายเอกลักษณ์เฉพาะตัว และมีหลังคาซันรูฟให้ด้วย ที่สำคัญการออกแบบตัวรถโดยรวมที่ให้ความสุขุม สง่างามราวกับผู้ใหญ่
ทางด้านดีไซน์รถที่ออกแบบมาได้อย่างสวยงามพร้อมอ็อพชั่นที่ครบครัน ก็ต้องตัดสินกันที่มิติตัวถังของรถทั้ง 2 รุ่น ว่าจะมีขนาดต่างกันแค่ไหน
| มิติตัวถัง | Nissan Sylphy | MG 6 |
| พื้นที่ตัวรถทั้งหมดยาวxกว้างxสูง (มม.) |
4,615 X 1,760 X 1,495 |
4,653 X 1,827 X 1,467 |
| ความยาวช่วงล้อ (มม.) | 2,700 | 2,705 |
| ความกว้างช่วงล้อ หน้า-หลัง (มม.) |
1,545 - 1,540 | 1,557 - 1,555 |
| ระยะต่ำสุดจากพื้น (มม.) | 165 | 118 |
| ความจุถังน้ำมัน (ลิตร) | 52 | 62 |
ภายใน
Nissan Sylphy ภายในของรุ่นเทอร์โบที่นอกจากจะเพิ่มความสะดวกสบายและความหรูหราจากหลังคาซันรูฟเปิด-ปิดด้วยไฟฟ้าแล้ว ยังตกแต่งด้วยชุดแต่งสปอร์ตอีกมากมาย ทั้งชุดแป้นคันเร่ง แป้นเบรกแบบสปอร์ต พรมปูพื้นลายใหม่ ห้องโดยสารโทนสีดำ เสริมด้วยอุปกรณ์ตกแต่งสีเงิน ที่จะปลุกหัวใจความสปอร์ตให้คุณได้สนุกกับการขับขี่มากขึ้น
สำหรับอุปกรณ์มาตรฐานอื่นๆ อาทิ มาตรวัดความเร็วแบบหน้าปัดเรืองแสงพร้อมจอแสดงข้อมูลการขับขี่, ระบบจออินโฟเทนเมนต์รองรับระบบ Nissan Connect พร้อมระบบมัลติมีเดียอื่นๆ, เบาะนั่งคนขับปรับ 6 ทิศทาง, ช่องปรับอากาศสำหรับที่นั่งด้านหลัง ห้องสัมภาระท้ายที่จุของได้มากถึง 510 ลิตร เป็นต้น
MG 6 จะออกแบบห้องโดยสารให้มีความสวยงาม หรูหราดุจรถยนต์จากยุโรป พร้อมอุปกรณ์อำนวยความสะดวกรอบด้าน ทั้งมาตรวัดเรืองแสงพร้อมจอแสดงข้อมูลการขับขี่, พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น, จออินโฟเทนเมนต์, เบาะนั่งปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง ทั้งที่นั่งคนขับและที่นั่งโดยสารด้านหน้า, ช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง และหลังคาซันรูฟเปิด-ปิดด้วยไฟฟ้า
แต่ทีเด็ดที่ทำให้รถรุ่นนี้ ได้คะแนนำในการเปรียบเทียบก็คือ การจัดอุปกรณ์ช่วยเหลือการขับขี่สมัยใหม่ที่มากกว่าใคร ทั้งระบบการควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย (Paddle Shift), ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (Cruise Control), ระบบจำกัดความเร็ว ASL (Active Speed Limit), และระบบควบคุมรถอัจริยะ inkanet เอกสิทธิ์พิเศษจากผู้ใช้ MG เท่านั้น
เครื่องยนต์
Nissan Sylphy สำหรับรุ่น DIG Turbo ใหม่ล่าสุด ใช้เครื่องยนต์MR16DDT ขนาด 1.6 ลิตร หัวฉีด ไดเร็ค อินเจคชั่น ระบบวาล์วแปรผันคู่ พร้อมเทอร์โบชาร์จเจอร์ ให้กำลังสูงสุดถึง 190 แรงม้า ที่ 5,600 รอบ/นาที ให้แรงบิดแบบต่อเนื่องสูงสุดถึง 240 นิวตัน-เมตร ที่ 2,400 – 5,200 รอบ/นาที จึงให้สมรรถนะการขับขี่ที่แรงเทียบเท่าเครื่องยนต์ขนาด 2.5 ลิตร พร้อมการพัฒนาเทคโนโลยีที่สามารถดึงประสิทธิภาพของเครื่องยนต์ได้ดีโดยที่ใช้น้ำมันที่น้อย ประหยัดเหนือชั้น ส่งกำลังด้วยเกียร์ XTRONIC CVT และขับเคลื่อนสองล้อ
MG 6 ในรุ่นนี้ใช้เครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ ขนาด 1.8 ลิตร พร้อมอินเตอร์คูลเลอร์ ให้กำลังสูงสุดถึง 161 แรงม้า ที่ 5,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 215 นิวตัน-เมตร ที่ 2,000 – 4,500 รอบ/นาที สามารถรองรับน้ำมันแก๊สโซฮอล์ E85 ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด DCT (Dual Clutch Transmission) ช่วยลดระยะเวลาในการเปลี่ยนเกียร์ลงเหลือเพียง 0.2 วินาที และเสริมด้วย Paddle Shift ที่ช่วยอำนวยความสะดวกในการเปลี่ยนควบคุมความเร็วที่ง่ายยิ่งขึ้น
ระบบความปลอดภัย
ในด้านระบบความปลอดภัยที่สำคัญสำหรับการเดินทาง ทั้ง Nissan Sylphy และ MG 6 ได้เสริมระบบความปลอดภัยที่น่าสนใจดังนี้
| ระบบความปลอดภัย (ทั้งหมด) | Nissan Sylphy | MG 6 |
| คานเหล็กนิรภัย | ด้านข้าง | ด้านข้าง |
| โครงสร้างนิรภัย | Zone Body Concept | USD |
| ถุงลงนิรภัย | คู่หน้า ด้านข้าง และม่านนิรภัย |
คู่หน้าและด้านข้าง |
| เข็มขัดนิรภัยคู่หน้า ELR |
3 จุด สองที่นั่ง |
3 จุด สองที่นั่ง |
| เข็มขัดนิรภัยเบาะหลัง ELR | 3 จุด สามที่นั่ง |
3 จุด สามที่นั่ง |
| กระจกนิรภัย | * |
* |
| ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว (SCS) | - | * |
|
ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี |
* | * |
| ระบบป้องกันล้อล็อกขณะเบรก และระบบกระจายแรงเบรกแบบอิเล็กทรอนิกส์ (ABS with EBD) |
* | * |
| ระบบเสริมแรงเบรค (BA) | * | EBA |
| ระบบช่วยการออกตัวบนทางลาดชัน (HAS) | - | * |
| ระบบป้องกันการลื่นไถล เมื่อเกรียร์ลดต่ำอย่างฉับพลัน (MSR) |
- | * |
| ระบบควบคุมการเบรกในขณะเข้าโค้ง (CBC) | - | * |
| ระบบควบคุมรถขณะเข้าโค้ง | ควบคุมการลื่นไถล (VDC) |
ควบคุมแรงบิด (DWTC) |
| ระบบแจ้งเตือนทิศทางของพวงมาลัย หลังการสตาร์ทเครื่องยนต์ |
- | * |
| ระบบออโต้โฮลด์ (Auto Hold) | - | * |
| ระบบรักษาความเร็ว (Cruise Control) | - | * |
| ระบบจำกัดความเร็ว (ASL) | - | * |
| ระบบเบรคมือไฟฟ้า | - | * |
| ไล่ฝ้ากระจกหลัง | * | * |
| ไฟเบรกดวงที่ 3 | * | * |
| ไฟเบรคกะพริบฉุกเฉิน | - | - |
| ไฟส่องสว่างเวลากลางวัน (Daytime Running Lights) |
* | * |
| ไฟตัดหมอกหน้า | * | * |
| กล้องมองหลัง ขณะถอยจอด | * | * |
| สัญญาณเตือนกะระยะถอยหลัง | * | * |
| เซ็นทรัลล็อก | * | * |
| ระบบเตือนแรงดันลมยาง | - | ITPMS |
| ระบบกุญแจป้องกันการโจรกรรม Immobiliser | * | * |
ราคา
Nissan Sylphy 1.6 DIG Turbo มีราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 999,000 บาท
MG 6 1.8X Turbo Sunroof มีราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 1,028,000 บาท
สรุป
Nissan Sylphy รุ่น เป็นรุ่นที่ยกระดับความสปอร์ตอีกระดับ ทั้งชุดแต่งภายนอกรอบคันพร้อมเครื่องยนต์ 1.6 ลิตร เทอร์โบใหม่ ที่แรงจัด 190 แรงม้า แถมมีราคาที่ไม่แพง อ็อพชั่นก็ไม่จุกจิกมากด้วย แต่ด้วยตัวถังที่กะทัดรัดสไตล์รถญี่ปุ่น น่าจะโดนใจขาซิ่งพอควร
MG 6 เป็นยนตกรรมกลิ่นอายยุโรปที่เน้นในด้านความใหญ่ของตัวถัง พร้อมภายในที่กว้างขวาง, ระบบความปลอดภัยแบบจัดหนัก แต่เครื่องยนต์ 1.8 ลิตร เทอร์โบที่ให้กำลังเพียง 161 แรงม้า อาจจะยังไม่สามารถจุดประกายความสปอร์ตได้ จึงเหมาะกับการเป็นรถครอบครัวราคาไม่แพง ที่ต้องการความกว้างขวาง ขับขี่เป็นมิตร และเน้นความอุ่นใจในการเดินทาง
โอกาสหน้า BoxzaRacing จะนำรถอะไรมาเปรียบเทียบคู่ต่อไป ก็อย่าลืมติดตามชมกันให้ดีนะครับ
