Mazda CX-5 VS. Honda CR-V ประชันอเนกประสงค์คันเก่งจากแดนปลาดิบ
ในวันนี้ BoxzaRacing ขอเปรียบเทียบจุดเด่นเด็ดๆ ของรถยนต์ประเภท SUV ที่ถือว่าได้รับความนิยมไม่แพ้กัน ด้วยประสิทธิภาพการใช้งานที่คุ้มค่า, จุของได้เยอะ, ขับขี่ลุยถนนที่หลากหลาย พร้อมระบบความปลอดภัยเป็นเลิศ จึงเป็นรถที่ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่เป็นอย่างดี โดยเฉพาะรถเอสยูวี 2 คัน ที่ได้รับความนิยมอันดับต้นๆ ในไทย อย่าง Mazda CX-5 และ Honda CR-V
สำหรับคู่ที่จะประชันในวันนี้ ทางมาสด้า ได้ส่ง Mazda CX-5 รุ่น 2.0 C และทางฮอนด้า ขอส่ง Honda CR-V รุ่น 2.0 S โดยทั้งคู่จะเป็นรุ่นเครื่องเบนซิน 2.0 ลิตร รุ่นมาตรฐานราคาสบายกระเป๋า
ภายนอก
Mazda CX-5 การออกแบบภายนอกที่ใช้แรงบันดาลใจจากจิตวิญญาณแห่งการเคลื่อนไหว (Kodo Design) ที่ไม่ใช่แค่การเสริมความสปอร์ตหรือความหรูเท่านั้น แต่ยังทำให้ตัวรถมีชีวิตชีวาผ่านการออกแบบไฟหน้าโปรเจคเตอร์แบบ Halogen และไฟท้าย LED ให้เหมือนดวงตา, กระจังหน้าขนาดใหญ่อันดุดัน, สปอยเลอร์ท้าย, เสาอากาศครีบฉลาม พร้อมตัวถังยกสูงและล้ออัลลอย 17 นิ้ว
Honda CR-V จะออกแบบให้สามารถแสดงความหรูหราในตัวมันเอง ซึ่งโฉมนี้ได้เพิ่มความหรูหราด้วยไฟหน้ามัลติรีแฟล็กเตอร์ แต่มีไฟ LED Daylight เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน การดีไซน์โคมไฟหน้าที่รับกับกระจังหน้าให้เป็นเนื้อเดียวกัน, กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยวอันเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน การดีไซน์ด้านล่างที่ดุดัน, ตัวถังยกสูง, สปอยเลอร์ท้ายขนาดย่อมๆ, เสาอากาศครีบฉลาม และล้ออัลลอย 17 นิ้ว แม้จะมีความหรูหราที่มากและให้ความคุ้มค่าด้านอ็อพชั่นภายนอก แต่การดีไซน์ยังดูเรียบง่าย
ดีไซน์ภายนอก คือ สเน่ห์สำคัญที่รถแต่ละคันสะท้อนออกไม่เหมือนใคร การประชันด้านมิติตัวถังจึงเป็นอีกปัจจัยที่ไม่ควรมองข้าม โดยรถทั้งสองรุ่น มีรายละเอียดดังนี้
| มิติตัวถัง | Mazda MX-5 | Honda CR-V |
| พื้นที่ตัวรถทั้งหมดยาวxกว้างxสูง (มม.) |
4,540 x 1,840 x 1,670 |
4,582 x 1,820 x 1,685 |
| ความยาวช่วงล้อ (มม.) | 2,700 | 2,620 |
| ความกว้างช่วงล้อ หน้า-หลัง (มม.) |
1,585 - 1,590 | 1,580 - 1,579 |
| ระยะต่ำสุดจากพื้น (มม.) | 215 |
170 |
| น้ำหนักรถ (กก.) | 1,459 |
1,485 |
| ความจุถังน้ำมันเชื้อเพลิง(ลิตร) | 58 |
58 |
ภายใน
Mazda CX-5 การออกแบบโดยรวมของรถรุ่นนี้ จะให้ความเรียบง่ายแต่หรูหราราวกับรถยุโรป พร้อมกับการออกแบบอุปกรณ์ภายในรถให้มีความสะดวกสบายในการใช้งานมากที่สุด สำหรับรายละเอียดปลีกย่อย ขอเริ่มจากแผงคอนโซลสีดำพร้อมตกแต่งด้วยสีเงินซาตินโครม ทั้งพวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นและหัวเกียร์ แถมหุ้มหนังสีดำจับกระชับมือ แผงมาตรวัด ด้านความบันเทิงติดตั้ง วิทยุ FM/AM พร้อมเครื่องเล่น CD/MP3 และหน้าจอสี TFT แบบสัมผัสขนาด 5.8 นิ้ว พร้อมลำโพง 6 ตำแหน่งรอบคัน จอแสดงผลข้อมูลการขับขี่ MID
ที่สำคัญ ในรุ่นเกรดมาตรฐานยังได้มอบทั้ง ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบ Dual Zone พร้อมที่กรองอากาศ, กระจกมองหลังแบบตัดแสง, ระบบควบคุมความเร็วคงที่ (Cruise Control), กุญแจรีโมทธรรมดาและระบบเซ็นทรัลล็อค, ระบบเชื่อมต่อโทรศัพท์เคลื่อนที่ผ่านบลูทูธ (Bluetooth), ช่องจ่ายไฟสำรอง 12V รวม 3 จุด เรียกได้ว่าคุ้มสุดๆ
ไม่พูดถึงจุดนี้ก็ไม่ได้ ในด้านของห้องสัมภาระท้าย โดยเบาะนั่งด้านหลังจะมีปุ่มพับเบาะหลังตอนเดียว ที่แบ่งสัดส่วนพับเบาะนั่งได้ 3 ส่วน แบบ 40:20:40 อิสระจากกัน ด้วยการออกแบบเบาะนั่งด้านหลังและห้องสัมภาระท้ายจึงสามารถพับให้เรียบกับพื้นได้โดยที่มีความลาดชันต่ำ และแผ่นผ้าใบปิดสัมภาระด้านท้ายเพื่อถนอนสัมภาระท้าย
Honda CR-V ได้ออกแบบให้มีความหรูหรา แต่ด้วยความเป็นรุ่นเกรดมาตรฐาน จึงทำให้มีอ็อพชั่นภายในดรอปลงไปจำนวนหนึ่ง เริ่มจากห้องโดยสารหนังแท้ผสมหนังสังเคราะห์สีดำหรือสีเบจ, พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นพร้อมปุ่มควบคุมจอแสดงข้อมูลการขับขี่และปุ่มรับโทรศัพท์ แผงคอนโซลสีดำหรือสีเบจตกแต่งด้วยแถบโลหะแทนลายไม้ในรุ่นท็อป มีจอแสดงข้อมูลการขับขี่ i-MID จอสี สำหรับระบบความบันเทิงในรุ่นเกรดมาตรฐาน จะได้แค่วิทยุ-ซีดี MP3 แบบ 1 แผ่น โดยมีระบบเชื่อมต่อบลูทูธพร้อมช่องต่อ USB 1 ตำแหน่ง กับลำโพง 4 ตำแหน่ง
สำหรับสิ่งอำนวยความสะดวกสบายที่น่าสนใจสำหรับรุ่นนี้ ไม่ว่าจะเป็นกระจกมองหลังแบบตัดแสง, ระบบควบคุมความเร็วคงที่ (Cruise Control), ระบบสตาร์ทเครื่องอัจฉริยะ, ระบบควบคุมเปิดประตูอัจฉริยะ, ช่องปรับอากาศตอนหลัง, เบรคมือบังคับที่เท้า แต่น่าเสียดายที่ในรุ่นนี้ไม่มีระบบปรับอุณหภูมิแบบแยกซ้ายขวา เพราะจะได้ระบบนี้ก็ต้องจัดรุ่น 2.0 E 4WD ขึ้นไป
ห้องสัมภาระท้าย ของรถรุ่นนี้จะมีรูปแบบการพับที่พิเศษกว่า โดยใช้วิธีพับเบาะแถวหลังแบบจังหวะเดียว (One Motion) พร้อมแยกพับ 60:40 โดยคันโยกจะอยู่ที่ผนังในห้องสัมภาระท้ายรถ พับง่ายเพียงแค่อยู่บริเวณท้ายรถ จึงให้ความสะดวกกว่า แต่พื้นที่ของห้องสัมภาระท้ายจะมีหลุมเล็กๆ บริเวณรอยต่อของเบาะหลังกับห้องสัมภาระ จึงต้องระวังการบรรทุกของที่มีชิ้นเล็ก แต่ถ้าชิ้นใหญ่ก็ไม่มีปัญหา
เครื่องยนต์และระบบขับเคลื่อน
Mazda CX-5 ใช้เครื่องยนต์เบนซิน SKYACTIV-G 2.0 ลิตร DOHC แถวเรียง 4 สูบ
พร้อมระบบวาล์วแปรผันคู่อัจฉริยะ Dual S-VT 16 วาล์ว และระบบหังฉีดอิเล็กทรอนิคไดเร็คอินเจ็คชั่น ให้กำลังขับเคลื่อนสูงสุด 165 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิด 210 นิวตัน-เมตร ที่ 4,000 รอบ/นาที ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ SKYACTIV-DRIVE 6 สปีด พร้อมแมนนวลโหมด Activematic ขับเคลื่อนสองล้อ
ระบบขับเคลื่อน เริ่มจากระบบกันสะเทือนที่ประกอบไปด้วย อิสระแม็คเฟอร์สันสตรัท พร้อมเหล็กกันโคลงที่ด้านหน้า ส่วนด้านหลังเป็นอิสระมัลติลิงค์ พร้อมเหล็กกันโคลง ระบบเบรคด้านหน้าเป็นดิสก์เบรค พร้อมครีบระบายความร้อน ส่วนล้อหลังเป็นดิสก์เบรค และพวงมาลัยแร็คแอนด์พีเนียน พร้อมพาวเวอร์ช่วยผ่อนแรงแบบไฟฟ้า (EPAS) ที่ให้รัศมีวงเลี้ยวแคบสุด 5.5 เมตร
Honda CR-V ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร i-VTEC SOHC แถวเรียง 4 สูบ 16 วาล์ว พร้อมหัวฉีดมัลติพอยท์ PGM-Fi ให้กำลังสูงสุด 155 แรงม้า ที่ 6,500 รอบ/นาที แรงบิด 190 นิวตัน-เมตร ที่ 4,300 รอ/นาที ด้วยเทคโนโลยีเอิร์ธดรีม ที่เพิ่มสมรรถนะในการขับขี่ด้วยเกียร์อัตโนมัติ 5 สปีด พร้อมระบบควบคุมอิเล็กทรอนิค ปิดท้ายด้วยระบบ ECON Mode ที่จะช่วยลดการใช้พลังงานที่สิ้นเปลืองอีกด้วย
ระบบขับเคลื่อนของรุ่นนี้ เริ่มจากระบบกันสะเทือนที่ประกอบไปด้วย อิสระแม็คเฟอร์สันสตรัท พร้อมเหล็กกันโคลงที่ด้านหน้า ส่วนด้านหลังเป็นดับเบิลวิชโบน พร้อมเหล็กกันโคลง ระบบเบรคด้านหน้าเป็นดิสก์เบรค พร้อมครีบระบายความร้อน ส่วนล้อหลังเป็นแบบดิสก์ และพวงมาลัยแร็คแอนด์พีเนียน พร้อมพาวเวอร์ช่วยผ่อนแรงแบบไฟฟ้า (EPAS) ที่ให้รัศมีวงเลี้ยวแคบสุด 5.5 เมตร
ระบบความปลอดภัย
ทางด้านระบบความปลอดภัย ไม่ว่าจะเป็น Mazda CX-5 หรือ Honda CR-V ต่างก็จัดเต็มกันทั้งคู่ แต่ด้วยระดับเกตรมาตรฐานก็อาจโดนหั่นไปบางรายการ แต่ใครจะจัดอุปกรณ์ความปลอดภับเยอะที่สุดแม้อยู่ในระดับเกรดนี้ ตารางนี้จะบอกคุณได้
| ระบบความปลอดภัย (ทั้งหมด) |
Mazda CX-5 |
Honda CR-V |
| โครงสร้างนิรภัย | SKYACTIV-BODY |
G-CON |
| คานเหล็กเสริมนิรภัย | ด้านหน้า ด้านข้าง และด้านหลัง |
* |
| ชุดถุงลงนิรภัย | SRS 6 ตำแหน่ง |
SRS 6 ตำแหน่ง |
| เข็มขัดนิรภัยคู่หน้า ELR |
* |
* |
| เข็มขัดนิรภัยเบาะหลัง ELR | * | * |
| จุดยึดสำหรับเบาะนั่งสำหรับเด็ก | * | * |
| กระจกไฟฟ้านิรภัยด้านคนขับ | - | * |
| ระบบป้องกันล้อล็อกขณะเบรค (ABS) | * | * |
| ระบบกระจายแรงเบรค(EBD) | * | * |
| ระบบเสริมแรงเบรค (BA) | * | * |
| ระบบควบคุมเสถียรภาพ การทรงตัว |
DSC | VSA |
| ระบบช่วยออกตัว บนทางลาดชัน (HAC) |
* | * |
| ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี | * | - |
|
ระบบช่วยควบคุมการบังคับพวงมาลัย |
- | * |
| พวงมาลัยยุบตัวได้ | * | * |
| ระบบควบคุมเกียร์ (AAS) | * | - |
| ระบบสัญญาณไฟฉุกเฉินเตือนอัตโนมัติ เมื่อเบรกกะทันหัน (ESS) |
* | * |
| ไล่ฝ้ากระจกหลัง | * | * |
| ไฟเบรคดวงที่ 3 | * | * |
| ไฟส่องสว่างเวลากลางวัน (Daytime Running Lights) |
- | * |
| ไฟตัดหมอกหน้า | * | * |
| ระบบเตือนแรงดันลมยาง (TPMS) | * | - |
| ระบบล็อกประตูอัตโนมัติ | - | * |
| กล้องมองหลัง | * | - |
| ระบบกุญแจป้องกันการโจรกรรม Immobiliser | * | * |
| ระบบแจ้งเตือนกันขโมย | * |
* |
ราคา
Mazda CX-5 ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 1,200,000 บาท
Honda CR-V ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 1,200,000 บาท
สรุป
แม้ทั้งคู่จะเป็นเครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร เหมือนกัน, ขับเคลื่อนสองล้อเหมือนกัน และมีราคาที่เท่ากัน แต่ในด้านรายละเอียดจุดเด่นทั้ง 2 รุ่น ไม่ว่าจะเป็นภายนอก, ภายใน, สมรรถนะและระบบความปลอดภัย กลับมีความแตกต่างกันสิ้นเชิง ดังนี้
Mazda CX-5 ได้เปรียบในด้านการออกแบบตัวรถที่มีชีวิตชีวาและมีเอกลักษณ์เฉพาะในยุค Mazda Newgen, ความเรียบง่ายของห้องโดยสาร, การจัดอ็อพชั่นมาตรฐานที่จุใจและการปรับขนาดของพื้นที่บรรทุกสัมภาระที่หลากหลายขนาด พร้อมสมรรถนะเครื่องยนต์ Skyactiv ที่แรงจัด 165 แรงม้า ที่ให้สมรรถนะสูงแถมลดมลพิษได้ดี และระบบความปลอดภัยที่จัดตัวสำคัญๆ เพื่อปกป้องชีวิตให้ได้มากสุดๆ แม้จะเป็นรุ่นมาตรฐาน แต่โดยรวมถือว่าคุ้มสุดๆ
Honda CR-V ได้เปรียบทั้งความหรูหราในการออกแบบภายนอก และอ็อพชั่นภายนอกที่ครบครัน ด้านภายในอาจไม่ทันสมัยเท่าเพราะเป็นการเปรียบเทียบเกรดมาตรฐาน แต่ให้ความลงตัวในการใช้งานพร้อมความกว้างขวางที่เหนือชั้น ด้านสมรรถนะก็ถือได้ว่ากำลังดีพร้อมโหมดประหยัดพลังงาน ECON ที่เพิ่มความประหยัดที่เหนือชั้น ด้านระบบความปลอดภัยก็จัดเต็มกำลังดีเช่นกัน เรียกได้ว่าเป็นเกรดมาตรฐานที่จัดสรรอ็อพชั่นได้เหมาะสมตรงความต้องการ แต่ถ้าจ่ายหนักหน่อยก็ได้มากกว่าเดิม
โอกาสหน้า BoxzaRacing จะนำรถอะไรมาเปรียบเทียบคู่ต่อไป ก็อย่าลืมติดตามชมกันให้ดีนะครับ
