เมื่อเดือนมีนาคม 2020 ทาง Bentley ค่ายรถหรูตัวแรงจากเกาะอังกฤษ ได้จับมือกับ Mulliner ผู้ผลิต และออกแบบตัวถังที่มีอายุเก่าแก่จากเกาะอังกฤษ ได้เปิดตัวรถรุ่นพิเศษไร้หลังคา 2 ที่นั่ง ที่มีชื่อว่า Bentley Mulliner Bacalar โดยจะผลิตออกมาในโลกนี้เพียง 12 เท่านั้น ซึ่งหลังจากที่เปิดตัวออกมาให้ชาวโลกได้เห็นหน้าค่าตาเป็นที่เรียบร้อย
ต่อจากนั้นไม่นานทาง Bentley ได้จัดการแข่งขันลงสีให้กับ Mulliner Bacalar รุ่นพิเศษคันนี้ขึ้นมา โดยเป็นการแข่งขันภายในบริษัท โดยให้ทางครอบครัวของพนักงาน รวมทั้งตัวพนักงานได้ร่วมแข่งขัน โดยผู้แข่งขันจะสามารถส่งรูปเข้าประกวดได้ในทางออนไลน์เท่านั้น ซึ่งผลการแข่งขันปรากฎว่าสีที่เข้าตา และโดนใจของ Stefan Sielaff ผู้อำนวยการด้านการออกแบบรถยนต์ของ Bentley นั้นก็คือสีรุ้งที่หวานแหวว ที่เป็นผลงานของพนักงานหญิงที่ชื่อว่า Eleanor โดยสีรุ้งหวานแหววของผู้ชนะการประกวดครั้งนี้จะได้รับการบรรจุลงในแคตตาล็อกสีเพื่อให้ลูกค้าที่จับจอง Bentley Mulliner Bacalar รุ่นพิเศษที่มีเพียง 12 คัน เป็นอีกช๊อยตัวเลือกที่นอกจากเฉกสีพิเศษที่ทาง Bentley มีไว้อยู่แล้วถึง 7 สีด้วยกันอันได้แก่
สีแดง Dragon Red II เป็นสีแดงเพลิงซึ่งก่อนหน้านี้เป็นสีอยู่บนตัว Continental GT V8 ปี 2012 และตัวบน Bentayga V8 รุ่นล่าสุด
สีส้ม Orange Flame ที่สีมีส่วนผสมของเม็ดสีไมกาและผงอลูมิเนียม
สีแหลือง Yellow Flame ที่เป็นสีโปนโมทของ Bentley Mulliner Bacalar ตอนเปิดตัวครั้งแรก
สีเขียว Apple Green ที่เป็นสีพิเศษที่อยู่บนตัว Bentley Continental GT
สีฟ้า Jetstream II ที่อยู่บนตัว Bentley Continental GTC
สีน้ำเงิน Sequin Blue เป็นสีที่ลูกค้ารายหนึ่ง ที่สั่งให้ทาง Bentley จัดทำขึ้นมาเป็นพิเศษเพื่อ ทำเพื่อให้เข้ากับชุดออกงานของลูกค้า ปัจจุบันสีนี้ได้รับการบรรจุลงชาร์จสีของทาง Bentley โดยที่เห็นล่าสุดอยู่บนตัว Flying Spur ปี 2020
สีม่วง Azure Purple เป็นอีกสีที่ทางลูกค้าสั่งทำเป็นพิเศษ โดยเป็นสีของดอกไม้ชนิดหนึ่งที่อยู่ในแอฟริกา
Bentley Mulliner Bacalar จะเป็นรถรุ่นพิเศษที่จะจัดสร้างขึ้นมาเพียง 12 คัน ซึ่งทั้ง 12 คันดังกล่าวได้มีผู้สั่งจองไปหมดแล้ว โดยสีรุ้งดังกล่าวนี้จะถูกรวมอยู่กับสีพิเศษที่มีอยู่แล้วอีก 7 สี ในแคตตาล็อก เพื่อให้ลูกค้าที่จับจองได้เลือกสรร ส่วนด้านพละกำลังของ Bentley Mulliner Bacalar จะมากับเครื่องยนต์ W12 Twin Turbo ความจุ 6.0 ลิตร ที่ให้กำลังแรงม้ามากถึง 650 ตัว มากับแรงบิกที่มากถึง 900 นิวตัน-เมตร ส่งกำลังด้วยชุดเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด เป็นแบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ส่งผลให้มีอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลา 3.5 วินาที ความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 322 กิโลเมตร/ชั่วโมง ส่วนราคาค่าตัวของโรดสเตอร์รุ่นพิเศษไร้หลังคา 2 ที่นั่งนั้น จะอยู่ที่ 1.5 ล้านปอนด์สเตอร์ลิ่ง หรือราว 58.2 ล้านบาท
Cr.motor1.com
