เขียนโดย: AEFOTO

เมื่อ: 14 ธันวาคม 2562 - 11:29

Chevrolet Captiva vs MG HS ประชัน SUV ที่มาจากบ้านเดียว ใครเด่น ใครล้ำ แตกต่างกันอย่างไร วัดกันให้ดู

          ตลาดรถยนต์ในบ้านเราในตอนนี้รถประเภท SUV นั้นต้องบอกว่ามาแรงอย่างมาก เพราะในทุกๆค่ายต่างส่งรถในเซกเมนต์นี้ เข้ามาห่ำหันกันอย่างเอาจริงเอาจัง โดยโชว์ทั้งจุดเด่นไม่ว่าจะเป็นแบบทั้งท่องเที่ยว เน้นใช้งานใช้งาน สะดวกสบาย กว้างขว้าง หรือแบบแรงเร้าใจ และล่าสุดที่เห็นว่าเป็นคู่ต่อกรที่น่าจะเหมาะสม หรือที่เรียกว่ามวยถูกคู่คงจะหนีไม่พ้นศึกสายเลือดอย่างพี่น้องที่มาจากชายคาบ้านเดียวกัน และได้ถูกเปิดตัวสู่ตลาดในเมืองไทยในเวลาไล่เลี่ยอย่าง Chevrolet Captiva และ MG HS 

          Chevrolet Captiva และ MG HS นั้นมาจาก SAIC มอเตอร์ ที่ประเทศจีน เหมือนกัน ต่างกันตรงที่ Chevrolet Captiva นั้นผลิตที่อินโดนีเซีย ส่วนเจ้า MG HS นั้นประกอบที่ไทยทั้งตัว แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น SUV ทั้ง 2 ค่ายนี้ก็ต่าง เพียบพร้อมไปด้วยออพชั่นอำนวยความสะดวก ฟีเจอร์อันทันสมัย และความปลอดภัยที่ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ รวมไปถึงสมรรถนะที่เท่ากัน จึงเป็นที่มาของการจับมาประชันกัน เป็นรุ่นท็อปทั้งคู่ โดยในค่าย Chevrolet Captiva จะเป็นรุ่น Premier ส่วนในค่าย MG HS จะเป็นรุ่น X ซึ่งเป็นรุ่นท็อปทั้งคู่ ซึ่งในเปรียบเทียบในครั้งนี้ จะมีทีเด็ดอะไรที่ซ่อนอยู่บ้างในทั้งสองแบนด์นี้ มาชมกันได้เลยครับ

 

รูปทรงภายนอก

MG HS รุ่น X

 

          เป็นยนตรกรรมที่ได้รับการออกแบบด้วยการผสมผสานระหว่างความหรูหรากับความสปอร์ต ได้อย่างลงตัว โดดเด่นด้วยเส้นสายตัวถังแบบ British Shoulder Line ที่เน้นเรื่องความโค้งมนของตัวรถ  กระจังหน้าดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของ MG ซึ่งมาพร้อมแนวคิด Stella Magnetic Field ที่ได้แรงบันดาลใจ มาจากกลุ่มดาวบนท้องฟ้าที่ดึงดูดเข้าหากัน ไฟหน้าโฉบเฉี่ยวแบบ LED Projector พร้อมไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่เวลากลางวัน (Daytime Running Lights) และไฟท้ายแบบ Space Light Field ยิ่งไปกว่านั้น ยังมาพร้อมไฟเลี้ยวทั้งด้านหน้าและหลังที่แสดงผลไล่ระดับแบบ Sequential ปิดท้ายด้วยล้ออัลลอยสีทูโทนขนาด 18 นิ้ว

 

Chevrolet Captiva รุ่น Premier

 

           ในรูปลักษณ์ภายนอกได้รับการออกแบบให้ดูโฉบเฉี่ยว และเร้าใจมากยิ่งขึ้น โดยได้รับแรงบันดาลใจ มาจากเครื่องบินรบล่องหน F-35 Stealth ของกองทัพอากาศสหรัฐอเมริกา กระจังหน้ารูปทรงสี่เหลี่ยมคางหมู ดีไซน์ใหม่ทันสมัย ระบายความร้อนได้ดี, ไฟหน้าเป็นแบบ LED แยกส่วน มาพร้อมไฟ Day Time Running Light ที่ได้รับการดีไซน์ที่โฉบเฉี่ยวมาในแบบเรียวบาง พร้อมกับออกแบบให้เป็นไฟเลี้ยวในตัว ส่วนชุดไฟหน้าโปรเจคเตอร์แบบ LED และไฟตัดหมอก ติดตั้งอยู่บริเวณกันชนหน้า อยู่ในกรอบรูปทรงตัว C, พร้อมกับดีไซน์ด้านข้างด้วยเส้นสายที่คมชัด ทำให้ดูสง่างาม และปราดเปรียว เสริมด้วยหลังคาแบบลอยตัว, ส่วนด้านท้ายมากับไฟท้ายแบบ LED, กันชนท้ายแบบสปอร์ต ที่ติดตั้งไฟทับทิมที่กันชนท้ายแบบพาดยาว, ด้านบนติดตั้ง สปอยเลอร์หลัง พร้อมไฟเบรคหลังที่ 3 แบบ LED ดิฟฟิวเซอร์ขนาดใหญ่ ดีไซน์ใหม่ให้เข้าชุดกับท่อไอเสียแบบคู่ แยก ซ้าย-ขวา เพิ่มความโฉบเฉี่ยวด้วยล้ออัลลอยสีทูโทนขนาด 17 นิ้ว ที่ดูโดดเด่น และงดงาม

ด้านบุคลิกตัวรถได้รับการออกแบบจนดูมีความแตกต่างอย่างชัดเจน แต่ "มิติตัวถัง" จะมีรายละเอียดที่ต่างกัน โดยรถทั้ง 2 รุ่น จะมีความแตกต่างด้วยกันดังตารางด้านล่างนี้

 

 มิติตัวถัง  MG HS รุ่น X  Chevrolet Captiva รุ่น Premier
 ความกว้าง (มม.)  1,876  1,835
  ความยาว (มม.)  4,574  4,655
  ความสูง (มม.)  1,664  1,760
  ระยะห่างระหว่างล้อคู่ หน้า-หลัง (มม.)  1,573-1,584  1,554 / 1,549
 ระยะฐานล้อ (มม.)  2,720  2,750
 ระยะต่ำสุดจากพื้น (มม.)  145  175
  น้ำหนักรถ (กก.)  1,705  1,630

 

ฟังช์ชั่นภายในห้องโดยสาร

MG HS รุ่น X

 

 

          ภายในห้องโดยสารได้รับการออกแบบให้มีความโค้งมนโอบรับสรีระ พร้อมการเล่นระดับมีสไตล์และตกแต่งด้วยวัสดุภายในให้สัมผัสนุ่ม (Soft Touch) ทั้งที่คอนโซลหน้า และแผงประตูทั้งด้านหน้าและด้านหลัง

 

 

          เพิ่มความพรีเมี่ยมยิ่งขึ้นด้วยเบาะนั่งคู่หน้าปรับด้วยไฟฟ้าแบบ Bucket Seat ทรงสปอร์ตสีดำสลับแดงที่มี พร้อมหุ้มด้วยหนัง Alcantara

 

 

          เบาะหลังนั่งสบายสามารถปรับพับได้แบบ 60:40 มาพร้อมสามารถปรับองศาได้ มากับที่วางแขนขนาดใหญ่, ไฟในห้องโดยสารจะเป็นแบบ Interactive Ambient Light ที่มีแสงต้อนรับทันทีที่เปิดประตู และสามารถปรับโทนแสงภายในห้องโดยสารได้มากถึง 64 เฉดสี รวมทั้งยังสามารถปรับเปลี่ยนแบบอัตโนมัติตามโหมดการขับขี่

 

 

           หลังคาซันรูฟแบบพาโนรามา (Panoramic Sunroof) ขนาดใหญ่ 1.1 ตารางเมตร ที่เพิ่มสุนทรียภาพในการเดินทาง  นอกจากนั้นยังมีการติดตั้งสิ่งอำนวยความสะดวกในขณะขับขี่อย่างครบครัน อาทิ หน้าจอแสดงผลที่มาตรวัดแบบ Interactive Multi – Function  Display ขนาด 7 นิ้ว ที่แสดงข้อมูลทั้งเรื่องการขับขี่ ระบบความปลอดภัย ระบบความบันเทิง และระบบนำทาง พร้อมหน้าจอหลักแบบ Smart Touchscreen ขนาด 10 นิ้ว

 

 

          พวงมาลัย มัลติฟังก์ชั่น ส่วนระบบปรับอากาศเป็นแบบอัตโนมัติ Dual Zone มาพร้อมช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารด้านหลัง, พร้อมกุญแจระบบ Smart Key และปุ่ม Push Start นอกจากนี้ ยังมีการติดตั้งฝากระโปรงท้ายระบบไฟฟ้า (Electric Liftgate) ช่วยเพิ่มความสะดวกในการใช้งาน และอีกไฮไลท์ในตัว New MG HS นี้มาพร้อมระบบปฎิบัติการอัจฉริยะ i-SMART ที่ช่วยให้ผู้ขับขี่กับรถสามารถสื่อสารกันได้ เพื่อความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็น Smart Command ระบบสั่งการที่สามารถสั่งการได้ด้วยเสียงภาษาไทย ที่มีฟังก์ชั่นการสั่งการที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น การโทรออก สั่งการควบคุมระบบเครื่องเสียง ระบบปรับอากาศ ระบบเปิด-ปิดหน้าต่างฝั่งคนขับ และระบบเปิด-ปิดหลังคาซันรูฟ รวมถึงค้นหาจุดที่น่าสนใจ (Point Of Interest) ผ่าน Navigator เพื่อวางแผนการท่องเที่ยว นอกจากนี้ยังสามารถสั่งการระบบต่างๆ ผ่านหน้าจอทัชสกรีนภายในรถ หรือเลือกสั่งการผ่าน MG Mobile Application บนสมาร์ทโฟน Smart Connect ที่สามารถค้นหาเพลงฮิต เพลงดังผ่าน Online Music และค้นหาร้านอาหารเด็ด สถานที่ท่องเที่ยวและโรงแรม แสดงผลการจราจร รวมถึงอัพเดตข่าวสารในปัจจุบันบนหน้าจอในรถ และ Smart Check ที่สามารถตรวจสอบสถานะ และตรวจเช็กรถได้อย่างง่ายดาย ตลอดจนการสั่งการล็อกหรือปลดล็อก ประตูรถ ตรวจสอบตำแหน่งรถ แจ้งเตือนเมื่อพบสิ่งผิดปกติ และช่วยค้นหาศูนย์บริการ รวมถึงการบันทึกการดูแลรักษารถตามระยะ ผ่าน MG Mobile Application

 

Chevrolet Captiva รุ่น Premier

 

 

          ภายในห้องโดยสารของ Chevrolet Captiva ใหม่ ได้รับการออกแบบอย่างประณีต ห้องโดยสารมาในโทนสีดำ ถูกตกแต่งด้วยวัสดุสีเทา และโครเมียม, ได้รับการออกแบบให้มีความกว้างขวาง โอ่โถง มีแนวหลังคาสูง

 

 

          ยังได้ติดตั้งหลังคาพาโนรามิก ซันรูฟ ที่มอบความรู้สึกโปร่งสบาย และมีชีวิตชีวา เปิดรับความงดงามของแสงธรรมชาติจากภายนอกเข้าสู่ภายในห้องโดยสาร มีความยาวถึง 0.82 เมตร พร้อมกับตัวกระจกยังถูกเคลือบ เพื่อป้องกันความร้อน และรังสียูวี มาพร้อมม่านบังแดดอัตโนมัติ

 

 

          พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นทรง D-Shape หุ้มหนัง ปุ่มสตาร์ทรถอัตโนมัติ Push Start, หน้าจอคอนโซลสีแบบดิจิตอล TFT ขนาด 7 นิ้ว ออกแบบให้มองเห็นง่ายและอ่านข้อมูลได้อย่างชัดเจน ในส่วนระบบปรับอากาศเป็นแบบอัตโนมัติ มาพร้อมกับช่องปรับอากาศสำหรับผู้โดยสารตอนที่ 2 และระบบปรับอากาศแยกส่วนสำหรับผู้โดยสารตอนที่ 3

 

 

          แผงคอนโซลกลางโดดเด่นด้วยหน้าจออินโฟเทนเมนท์ระบบสัมผัสขนาด 10.4 นิ้ว สามารถรองรับการใช้งานได้หลากหลายรูปแบบ ทั้ง วิทยุ การควบคุมระบบปรับอากาศ การปรับแต่งระบบของรถ ระบบตรวจวัดและแจ้งเตือนแรงดันลมยาง และการเชื่อมต่ออุปกรณ์ผ่าน บลูทูธ/USB/AUX ระบบเชื่อมต่อการสื่อสาร และความบันเทิงเชฟโรเลต ลิงค์ (Chevrolet Link) สามารถแสดงผลจากสมาร์ทโฟนที่ใช้ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ มีระบบการใช้งานโทรศัพท์แบบแฮนด์ฟรี และทำให้ผู้ขับขี่สามารถพูดคุยโทรศัพท์โดยไม่ต้องละสายตาจากท้องถนน และรองรับแอพพลิเคชั่นต่างๆ (รองรับ Apple CarPlay ต้นปี 2563) นอกจากนั้นยังแสดงผลจากกล้องมองภาพรอบทิศทาง 360 องศา แบบเรียลไทม์ รวมทั้งภาพมุมสูง ด้วยการใช้กล้องหลายจุดรอบคันเพื่อช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถควบคุมรถเข้าจอดได้อย่างปลอดภัย ในพื้นที่ลานจอดรถ และตรอกที่คับแคบ เมื่อขับขี่ที่ความเร็วสูงสุด 20 กม.ต่อชม. จึงเหมาะกับการใช้งานบนท้องถนนในประเทศไทยเป็นอย่างยิ่ง

 

 

          เบาะนั่งเป็นแบบ 7 ที่นั่ง หุ้มหนังสังเคราะห์ สีชาโคล ที่ให้ความรู้สึกหรูหรา เบาะนั่งฝั่งผู้ขับขี่ปรับด้วยไฟฟ้า 6 ทิศทาง, เบาะนั่งสามารถแยกได้แบบ 60:40 และเบาะที่นั่งแถวสามพับแบนราบแยกส่วนแบบ 50:50 เพื่อการบรรทุกสัมภาระ เสริมด้วยความอเนกประสงค์ด้วยที่วางแก้ว และะช่องชาร์จ USB ในทุกแถวที่นั่ง 

 

สมรรถนะและประสิทธิภาพ

MG HS รุ่น X

 

          MG HS มาพร้อมขุมพลังเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบขนาด 1.5 ลิตร ขับเคลื่อนด้วยระบบเกียร์ TST (Twin Clutch Sportronic Transmission) แบบ 7 สปีด ให้พละกำลังสูงสุดถึง 162 แรงม้า และแรงบิดสูงสุดที่ 250 นิวตัน-เมตร ในรอบที่ต่ำเพียง 1,700 รอบต่อนาที โดยสามารถทำความเร็ว 0 ถึง 100 ได้ในเวลาไม่ถึง 10 วินาที พร้อมรองรับน้ำมัน E85 โดยรุ่น X มาพร้อมปุ่มปรับโหมดการขับขี่ที่สามารถปรับรูปแบบการขับขี่ได้ถึง 4 โหมด คือ โหมด Normal สำหรับการขับขี่แบบทั่วไป โหมด Eco เพื่อการประหยัดน้ำมันยิ่งขึ้น โหมด Sport เพื่อเพิ่มความสนุกในการขับขี่ และโหมด Custom ที่สามารถเลือกรูปแบบการขับขี่ได้ตามต้องการ นอกจากนี้ ยังมาพร้อมปุ่ม Super Sport บนพวงมาลัยที่ช่วยเร่งพลังการขับขี่ให้แรงขึ้น เพิ่มอารมณ์การขับขี่ที่เร้าใจยิ่งขึ้น

          ช่วงล่างตามแบบ Euro Tuning Suspension ที่ให้ทั้งความสบายและความมั่นใจในการ ขับขี่ด้วยช่วงล่างด้านหน้าแบบ MacPherson Strut ที่ได้รับการตั้งค่าให้เหมาะสมกับการขับขี่ของลูกค้า และช่วงล่างด้านหลังแบบ Multi-link ที่รองรับการขับขี่ในสภาพถนนที่หลากหลาย

 

Chevrolet Captiva รุ่น Premier

 

          Chevrolet Captiva ใหม่ จะมาพร้อมกับขุมพลังใหม่ เป็นเครื่องยนต์ เบนซิน เทอร์โบชาร์จเจอร์ 1.5 ลิตร ที่ล้ำสมัย มีประสิทธิภาพ และพละกำลังในการขับขี่ ให้กำลังแรงม้าลงพื้นถึง 143 แรงม้า (105 กิโลวัตต์) ที่ 5,000 รอบต่อนาที มาพร้อมกับแรงบิดสูงสุดที่ 250 นิวตัน-เมตร ทำงานร่วมกับระบบเกียร์อัตโนมัติแปรผันแบบต่อเนื่อง CVT พร้อมโหมด Shift Control + - 8 สปีด สะดวกสบาย ในการขับขี่เปลี่ยนเกียร์ได้อย่างราบลื่นและนุ่มนวล 

          ระบบช่วงล่าง Chevrolet Captiva ใหม่นี้ ด้านหน้าจะเป็นแบบอิสระ แมคเฟอร์สันสตรัท พร้อมเหล็กกันโคลง, ด้านหลังจะเป็น มัลติลิงค์ พร้อมเหล็กกันโคลง ส่วนระบบเบรคจะเป็นแบบ ดิสก์เบรก ทั้งด้านหน้า และด้านหลัง

 

   MG HS  Chevrolet Captiva 
 รุ่นเครื่องยนต์ DOHC 4 สูบ 16 วาล์ว Turbo TGI  เบนซิน ดับเบิลโอเวอร์เฮดแคมชาฟท์ (DOHC) แถวเรียง 4 สูบ 16 วาล์ว พร้อมระบบวาล์วแปรผันคู่ (DVVT) และระบบเทอร์โบชาร์จเจอร์ 
ปริมาตรกระบอกสูบ (ซีซี.)  1,490   1,451
ความกว้างกระบอกสูบ x ระยะชัก (มม.)   74 x 86.6 73.8 x 84.7 
อัตราส่วนกำลังอัด  10 : 1  9.8:1 
 กำลังสูงสุด (กิโลวัตต์ (PS) / รอบต่อนาที)  119 (162) / 5,600 143 (105) / 5,000 
แรงบิดสูงสุด (นิวตัน - เมตร / รอบต่อนาที)  250 / 1,700 - 4,400  250 / 2,400 
ระบบส่งกำลัง  Twin Clutch Sportronic Transmission (TST) 7 Speeds   เกียร์อัตโนมัติ แปรผันแบบต่อเนื่อง CVT พร้อม Shiftting Control 8 สปีด
 อัตราทดเฟืองท้าย  4.563/5.214  5.511
ระบบพวงมาลัย แร็คแอนด์พิเนียน ควบคุมด้วยไฟฟ้า (EPS) แรคแอนด์พิเนียน พร้อมเพาเวอร์ช่วยผ่อนแรงด้วยระบบไฟฟ้า (Electric Power Steering)
ระบบช่วงล่างหน้า แมคเฟอร์ลินสตริท พร้อมเหล็กกันโคลง อิสระ มัลติลิงก์ พร้อมเหล็กกันโคลง
ระบบช่วงล่างหลัง  อิสระ มัลติลิงก์ พร้อมเหล็กกันโคลง แบบมัลติลิงก์อิสระ พร้อมเหล็กกันโคลง
ขนาดล้อ และยาง

ล้ออัลลอยด์ 18 นิ้ว

235 / 50R18

ล้ออัลลอยด์ 17 นิ้ว

215/60 R17

ความจุถังน้ำมัน (ลิตร) 55  52

 

อุปกรณ์ความปลอดภัย

MG HS รุ่น X

 

          ส่วนระบบความปลอดภัยนั้นทาง MG HS จัดเต็มเรียกว่าให้มากที่สุดในบรรดารถระดับเดียวกัน โดย MG HS มากับโครงสร้างตัวถังนิรภัย FSF (Full Space Frame) พร้อมติดตั้งระบบความปลอดภัยเหนือระดับมาตรฐานยุโรป หรือ Advanced Synchronized Protection System มากถึง 25 ระบบ ประกอบด้วยระบบ Synchronized Protection System ซึ่งเป็นระบบความปลอดภัยเชิงป้องกันก่อนเกิดอุบัติเหตุที่ช่วยทั้งเรื่องระบบเบรกและช่วยรักษาเสถียรภาพในการขับขี่ 14 ระบบ อาทิ ระบบควบคุม การเบรกขณะเข้าโค้ง CBC (Curve Brake Control) ระบบลดความเสี่ยงที่จะทำให้รถพลิกคว่ำ ARP (Anti Rolling Program) ระบบตรวจสอบความผิดปกติของลมยาง TPMS (Tire Pressure Monitor System) และมีอีก 4 ระบบที่ช่วยป้องกันอุบัติเหตุที่อาจเกิดจากมุมอับสายตา ประกอบด้วย

  • ระบบช่วยเตือนการเปิดประตู (DOW
  • ระบบช่วยเตือนเมื่อต้องการเปลี่ยนเลน (LCA
  • ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตา (BSD
  • ระบบช่วยเตือนขณะถอยหลัง (RCTA

          รวมไปถึงระบบความปลอดภัยอัจฉริยะ Advanced Driver Assistance Systems (ADAS) มากถึง 7 ระบบประกอบด้วย

  • ระบบเปิด-ปิดไฟสูงอัตโนมัติ (IHC)
  • ระบบช่วยเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการชนรถยนต์คันหน้าในขณะขับขี่ (FCW
  • ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน (ACC)
  • ระบบช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน (LDW
  • ระบบช่วยควบคุมรถเมื่อรถจะออกนอกเลน (LDP)  
  • ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน (LKA)  
  • ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติเมื่อความเร็วต่ำ (TJA)  

 

Chevrolet Captiva รุ่น Premier

 

 

          ในระบบความปลอดภัยของ Chevrolet Captiva นี้ก็จัดมาให้ไม่น้อยหน้าคู่แข่ง อัดแน่นด้วยเทคโนโลยีชั้นนำ เพื่อตอบโจทย์ความปลอดภัย

  • กล้องมองภาพหลังพร้อมเส้นกะระยะช่วยเพิ่มความมั่นใจและความปลอดภัยในการขับขี่ในที่แคบ
  • กล้องมองภาพรอบทิศทาง 360 degree Camera 4 ตำแหน่งรอบคัน 
  • เซ็นเซอร์หน้า และเซ็นเซอร์หลังช่วยในการนำรถเข้าจอด (Front & Rear Park Assist)
  • ระบบตรวจวัดและแจ้งเตือนแรงดันลมยาง (TPMS)
  • ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก (ABS) พร้อมระบบกระจายแรงเบรก (EBD)
  • ระบบเสริมแรงเบรก (BA)
  • ระบบป้องกันการลื่นไถลและล้อหมุนฟรี (TCS)
  • ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัวของรถ (ESC)
  • ระบบช่วยการออกตัวขณะรถอยู่บนทางลาดชัน (HSA)
  • ระบบไฟกระพริบฉุกเฉินอัตโนมัติขณะเบรกกระทันหัน (ESS)
  • ระบบเบรกมือไฟฟ้า (EPB)
  • ระบบหน่วงเบรกอัตโนมัติ (Auto Vehicle Hold)

 

 บทสรุป

 

          ถ้าจะให้วัดกันตรงๆ ทั้ง 2 ค่ายต่างก็ขนเทคโนโลยีความล้ำสมัยเข้ามาในรถทั้ง 2 รุ่นนี้อย่างเต็มพิกัด Chevrolet Captiva จะชูในเรื่องความสะดวกสบายการใช้งานภายนห้องโดยสาร ที่จะมากับความกว้างขวาง ส่วนทางฝากฝั่ง MG HS จะได้เรื่องของสมรรถะในการขับขี่ กับอารมณ์สปอร์ตเร้าใจ แต่ได้เปรียบตรงที่การดีไซน์ออกจะทันสมัยกว่าเล็กน้อย

          โดยในเรื่องของเครื่องยนต์นั้นถึงแม้ว่าจะมีขนาดใกล้เคียงกัน แต่การปรับเซ็ตนั้นแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ส่งผลให้กำลังแรงม้าต่างกัน 19 ตัว รวมถึงในสมรรถนะในการขับขี่ด้วย ซึ่งเป็นผลมาจากชุดส่งกำลัง โดย MG HS มาในแบบ TST 7 Speeds ที่จะให้อารมณ์สปอร์ตมากกว่า รวมถึงยังมี Paddle Shift และปุ่ม Super Sport ที่จะมาเพิ่มความเร้าใจในการขับขี่มากยิ่งขึ่น ส่วนของฝากฝั่ง Chevrolet Captiva จะเป็นระบบส่งกำลังแบบ CVT 8 Speeds ที่จะมากับความสุภาพ และนิ่มนวลกว่า        

 

 

          ส่วนในเรื่องของห้องโดยสารนั้น Chevrolet Captiva จะมีขนาดที่ใหญกว่า MG HS รวมถึงในเรื่องของเบาะที่นั่งที่มีมาให้เลือกมากกว่าโดยใน Chevrolet Captiva จะเป็นแบบ 3 แถว 7 ที่นั่ง ส่วน MG HS จะเป็น 5 ที่นั่ง แบบ 2 แถว ส่วนเรื่องอุปกรณ์อำนวยความสะดวก เรียกได้ว่าจัดมาใกล้เคียงกันเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นในส่วนซันรูฟ ที่มีขนาดพอฟัดกัน แต่ Chevrolet Captiva จะมากินตรงลูกเล่นที่มากับหน้าจอขนาดใหญ่ถึง 10.4 นิ้ว ที่สามารถใช้ระบบ Chevrolet Link ส่งสัญญาณหน้าจอโทรศัพท์ไปยังหน้าจอกลาง ส่วนของ MG HS จะมีขนาดเพียงขนาด 7 นิ้ว ส่วนด้านระบบความปลอดภัย MG HS จัดมาให้เยอะกว่า เรียกว่าให้มากที่สุดในบรรดารถระดับเดียวกัน

          ทว่าสิ่งที่ทำให้ทั้งสองรุ่นระหว่าง Chevrolet Captiva Premier และ MG HS รุ่น X ที่เป็นรุ่น Top ทั้งคู่ แตกต่างกันแบบชัดเจน คงเป็นเรื่องราคาค่าตัวที่ต่างกันถึง 8 หมื่นบาท แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเงินในกระเป๋าเป็นของคุณ และทั้งหมดก็เป็นเพียงข้อมูลเบื้องต้น สำหรับในการตัดสินใจ แต่ที่แน่นอนที่สุดควรไปทดลองนั่ง และสัมผัสแบบใกล้ชิด และทดลองขับรถทั้ง 2 รุ่นนี้ก่อนที่โชว์รูม เพื่อหารุ่นที่สามารถตอบโจทย์การใช้งานของคุณได้คุ้มค่าที่สุด ส่วนจะเป็นรุ่นไหนนั้น คุณเท่านั้นที่จะสามารถตอบได้

 

  รุ่น   ราคา
MG HS รุ่น X    1,119,000 บาท
  Chevrolet Captiva Premier   1,199,000 บาท
รถซื้อสอง ซื้อขายรถ ของแต่งรถ

ข่าวที่ใกล้เคียง

แสดงความคิดเห็นด้วย Facebook