เมื่อช่วงปลายปี 2560 ที่ผ่านมา ได้เกิดปรากฎการณ์ครั้งสำคัญที่แฟนๆ ต่างจับตามองถึงการมาของรถคอมแพ็คครอสโอเวอร์รุ่นใหม่ล่าสุด ที่จะทำให้ตลาดรถเซ็กเมนต์นี้กลับมาร้อนแรงอีกครั้ง นั่นคือ Toyota C-HR ที่คราวนี้มาในรูปแบบที่แตกต่างไปจากรถอเนกประสงค์ที่หลายคนรู้จัก มาพร้อมกับบุคลิกโดดเด่น มีสไตล์ เปี่ยมไปด้วความทันสมัย และยังเป็นเจ้าแรกของตลาดที่ส่งขุมพลังไฮบริดที่ทันสมัยที่สุด ประหยัดที่สุดให้แฟนๆ ชาวไทยได้สัมผัสกัน ซึ่งคู่เปรียบเทียบในครั้งนี้ก็คือ Mazda CX-3 ที่มาพร้อมกับเครื่องยนต์ดีเซล 1.5 ลิตร พร้อมเทคโนโลยีอันครบครัน ซึ่งมีเพียงไม่กี่แบรนด์รถเท่านั้นที่แฟนๆ จะได้สัมผัสคอมแพ็คครอสโอเวอร์เครื่องยนต์ดีเซลที่สมบูรณ์แบบที่สุด
สำหรับรุ่นที่จะนำมาเปรียบเทียบในครั้งนี้ ทางโตโยต้า ส่งรุ่น Toyota C-HR 1.8 HV HI ส่วนทางมาสด้าเองนั้น ได้ส่งรุ่น Mazda CX-3 1.5 XDL ประชันรุ่นท็อป ออพชั่นล้ำ ครบทุกความต้องการ
ภายนอก
Toyota C-HR มอบบุคลิกอันปราดเปรียว โดดเด่น รับกับเทคโนโลยีแห่งสมรรถนะอันเหนือชั้น พร้อมออพชั่นภายนอกที่ครบครัน ได้แก่ ไฟหน้าโปรเจคเตอร์แบบ Bi-LED ผสานด้วยไฟ LED Daylight, ไฟตัดหมอก, กระจกมองข้างปรับพับไฟฟ้าและพับเก็บได้พร้อมไฟเลี้ยว LED, ไฟส่องพื้น Welcome Lamp, สปอร์เลอร์ท้ายแนวเดียวกับหลังคาพร้อมไฟเบรกดวงที่ 3, ไฟท้าย LED C-Shape เป็นต้น
Mazda CX-3 ถ่ายทอดความสปอร์ต มีชีวิตชีวาด้วยการนำเสนอ Kodo Design ที่สะท้อนถึงเอกลักษณ์เฉพาะของ Mazda โดยยังมอบบุคลิกอันอเนกประสงค์ ใช้งานได้อย่างคุ้มค่า ด้านออพชั่นมาตรฐาน ประกอบไปด้วย ไฟหน้าโปรเจคเตอร์และไฟส่องกลางวันแบบ LED, ไฟท้าย LED, ไฟตัดหมอก, สปอยเลอร์ท้าย, เสาอากาศครีบฉลาม, กระจกกรองแสงรอบคันพร้อมลดเสียงรบกวนจากภายนอก (Green Tinted Mirror) เป็นต้น
ทางด้านมิติตัวถัง เป็นส่วนสำคัญที่จะสามารถเปรียบเทียบตัวรถได้อย่างชัดเจน ซึ่งรถคู่เปรียบเทียบทั้ง 2 รุ่น มีรายละเอียดดังนี้
มิติตัวถัง | Toyota C-HR | Mazda CX-3 |
ยาว x กว้าง x สูง (มม.) | 4,360 x 1,795 x 1,565 | 4,275 x 1,765 x 1,550 |
ระยะฐานล้อ (มม.) | 2,640 | 2,570 |
ระยะห่างระหว่างล้อคู่หน้า - หลัง (มม.) | 1,550 - 1,570 | 1,525 - 1,520 |
ความสูงใต้ท้องรถ (มม.) | ไม่ได้ระบุ | 160 |
น้ำหนัก (กก.) | ไม่ได้ระบุ | 1,310 |
ขนาดล้อ | 17 | 18 x 7.0 J |
ขนาดยาง | 215/60 R17 | 215/50 R18 |
ความจุถังน้ำมัน (ลิตร) | 43 | 48 |
ภายใน
Toyota C-HR มอบบุคลิกภายในที่ให้ทั้งความทันสมัย หรูหราราวกับยนตกรรมจากอนาคต ส่วนออพชั่นต่างๆ ที่น่าสนใจ ได้แก่ ระบบสตาร์ทอัจฉริยะ (Push Start) และระบบเปิดประตูอัจฉริยะ (Smart Entry) ระบบปรับอากาศอัตโนมัติพร้อมระบบกรองอากาศภายในห้องโดยสาร Nanoe, ระบบจอสัมผัสขนาด 7 นิ้ว, เบาะนั่งด้านหลังแยกพับได้แบบ 60:40, แพลตฟอร์ม TNGA ที่ช่วยขยายความกว้างขวางของกระจกบังลมหน้า เพิ่มทัศนวิสัยได้มากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ยังได้บรรจุเทคโนโลยีระบบ Telematics เชื่อมต่อรถยนต์ด้วยเครือข่ายโทรศัพท์มือถือ กับแอพพลิเคชั่น T-Connect & Find My Car เสมือนเป็นเลขาส่วนตัว อำนวยความสะดวกในการติดตามสภาพรถ ปล่อยสัญญาณ Wifi ระบบนำทาง และอื่นๆ อีกมากมาย
Mazda CX-3 ดีไซน์ภายในที่มอบความสปอร์ตพรีเมี่ยม หรูหราราวกับรถยนต์จากยุโรป สวยงามกว้างขวางลงตัว ด้านออพชั่นเด่นๆ ในรถรุ่นนี้ ประกอบไปด้วยระบบสตาร์ทอัจฉริยะ (Push Start) และระบบเปิดประตูอัจฉริยะ (Smart Entry) ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ, หน้าจอ Active Driving Display แสดงข้อมูลการขับขี่แบบสี, สวิตช์ Drive Selection, ระบบอินโฟเทนเมนต์ MZD Connect พร้อมจอสัมผัสขนาด 7 นิ้ว เสริมด้วยปุ่มควบคุมอัจฉริยะ Center Commander, ช่องใส่ SD Card (สำหรับระบบนำทาง Navigator) รวมไปถึงเบาะหลังพับแยกส่วน 60:40 เป็นต้น
เครื่องยนต์
Toyota C-HR ในรุ่นนี้ใช้เครื่องยนต์ไฮบริด ที่ประกอบไปด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 2ZR-FXE แบบ 4 สูบ แถวเรียง DOHC 16 วาล์ว ความจุ 1.8 ลิตร สมรรถนะสูงสุด 98 แรงม้า ที่ 5,200 รอบ/นาที แรงบิด 142 นิวตัน-เมตร ที่ 3,600 รอบ/นาที ผสานด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าชนิดมอเตอร์ซิงโครนัสแม่เหล็กถาวร แรงดันไฟฟ้าสูงสุด 600 โวลต์ กำลังสูงสุด 53 กิโลวัตต์ แรงบิดสูงสุด 163 นิวตัน-เมตร และแบตเตอรี่นิกเกิลเมตัลไฮดราย 28 โมดูล แรงดันไฟฟ้า 201.6 โวลต์ ความจุไฟฟ้า 6.5 แอมแปร์/3 ชั่วโมง
ทั้งหมดนี้ให้สมรรถนะสูงสุด 122 แรงม้า ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ E-CVT พร้อม Shift Lock และโหมดขับขี่ที่มีให้เลือกทั้ง Sport, ECO Drive และ EV Drive
Mazda CX-3 บรรจุเครื่องยนต์ดีเซล Skyactiv-D เทอร์โบแปรผัน 4 สูบ 16 วาล์ว ความจุ 1.5 ลิตร สมรรถนะสูงสุด 105 แรงม้า ที่ 4,000 รอบ/นาที แรงบิด 270 นิวตัน-เมตร ที่ 1,600 - 2,500 รอบ/นาที ด้านระบบส่งกำลังใช้เกียร์อัตโนมัติ Skyactiv-DRIVE 6 สปีด พร้อมแมนนวลโหมด Activematic
ระบบความปลอดภัย
ทั้งคู่ไม่ได้เป็นเพียงแค่รถอเนกประสงค์สำหรับคนเมืองเท่านั้น แต่ยังเป็นรถรุ่นใหม่ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีความปลอดภัยที่อัดแน่น ตอบรับไลฟส์ไตล์และความอุ่นใจได้มากยิ่งขึ้น ส่วนใครจะมีระบบใดบ้าง มาชมพร้อมกันในตารางนี้ได้เลย
ระบบความปลอดภัย | Toyota C-HR | Mazda CX-3 |
โครงสร้างตัวถังนิรภัย | * | Skyactiv-Body |
คานเหล็กเสริมกันกระแทกด้านหน้า ด้านข้าง และด้านหลัง | - | * |
พวงมาลัยยุบตัวแปรผันตามการทำงานของถุงลมนิรภัยและแป้นเบรกยุบตัวได้ | - | * |
ถุงลมนิรภัย | SRS 7 ตำแหน่ง ได้แก่ คู่หน้า, ด้านข้าง, ม่านด้านข้าง และหัวเข่าฝั่งคนขับ | SRS 6 ตำแหน่ง ได้แก่ คู่หน้า, ด้านข้าง, ม่านด้านข้าง และหัวเข่าฝั่งคนขับ |
เข็มขัดนิรภัย | ELR 3 จุดทั้ง 5 ที่นั่ง โดยคู่หน้ามีระบบดึงรั้งกลับและผ่อนแรงอัตโนมัติ | ELR 3 จุดทั้ง 5 ที่นั่ง โดยคู่หน้ามีระบบดึงรั้งกลับและผ่อนแรงอัตโนมัติ |
จุดยึดเบาะนั่งสำหรับเด็ก (ISO-FIX) | * | * |
ระบบป้องกันล้อล็อค (ABS) | * | 4W-ABS |
ระบบกระจายแรงเบรก (EBD) | * | * |
ระบบเสริมแรงเบรก (BA) | * | - |
ระบบควบคุมการทรงตัว | VSC | DSC |
ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี | TRC | TCS |
ระบบช่วยการออกตัวบนทางลาดชัน | HAC | HLA |
ระบบควบคุมเกียร์ AAS (Active Adaptive Shift) | - | * |
ระบบความปลอดภัยก่อนการชน (PRE-Collision System) | * | ระบบช่วยหยุดรถอัตโนมัติ SCBS, ระบบช่วยหยุดรถอัตโนมัติขณะถอยหลัง SCBS-R และระบบเตือนการชนด้านหน้าและช่วยเบรกอัตโนมัติ SRS |
ระบบควบคุมและปรับความเร็วอัตโนมัติ (Cruise Control) | Dynamic Radar Cruise Control | Mazda Radar Cruise Control |
ระบบควบคุมไฟสูงอัตโนมัติ (Automatic High Beams) | * | ALH |
ระบบเตือนเมื่อรถออกนอกเลน พร้อมพวงมาลัยหน่วงอัตโนมัติ (Lane Departure Alert With Steering Assist) | * | LDWS |
กล้องมองภาพขณะถอยหลัง | * | * |
ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตาที่กระจกมองข้าง (Blind Spot Monitor) | * | ABSM |
ระบบช่วยเตือนขณะถอยรถ RCTA (Rear Cross Traffic Alert) | * | * |
ระบบช่วยเตือนเมื่อเหนื่อยล้าขณะขับขี่ | * | DAA |
ระบบสัญญาณไฟฉุกเฉินเตือนอัตโนมัติ เมื่อเบรกกะทันหัน (ESS) | - | * |
เซ็นเซอร์กะระยะถอยหลัง | - | * |
ระบบล็อกประตูอัตโนมัติ | * | * |
ระบบแจ้งเตือนลมยาง (TPMS) | * | - |
ชุดซ่อมยางฉุกเฉิน | * | - |
ระบบเตือนการโจรกรรม | TDS | * |
ระบบกุญแจนิรภัย Immobilizer | * | * |
ราคา
Toyota C-HR 2018 รุ่น 1.8 HV HI ราคา 1,159,000 บาท
Mazda CX-3 รุ่น 1.5 XDL ราคา 1,193,000 บาท
สรุป
Toyota C-HR มีมิติตัวถังที่ยาวและใหญ่กว่าคู่เปรียบเทียบเล็กน้อย แต่ในด้านการดีไซน์นั้นมีความโดดเด่น แปลกตากว่าใคร ร่วมกับการนำเสนอเทคโนโลยีใหม่ๆ ตอบรับไลฟส์ไตล์คนยุคดิจิตอลอย่างระบบ Telematics ส่วนขุมพลังไฮบริดสามารถรีดสมรรถนะได้สูงสุดถึง 122 แรงม้า ซึ่งเรียกได้ว่าจัดจ้าน และเพียงพอต่อการใช้งาน
Mazda CX-3 แม้จะมีราคาที่สูงกว่าคู่เปรียบเทียบ แต่มีบุคลิกที่สปอร์ตเฉพาะตัว ออพชั่นก็ทันสมัยครบครัน การตกแต่งที่ประณีตราวกับรถยนต์หรู และตัวเครื่องยนต์ดีเซล 1.5 ลิตร ที่ให้พละกำลังโดดเด่น ใช้งานง่าย ด้วยกำลัง 105 แรงม้า และแรงบิด 270 นิวตัน-เมตร ทั้งนี้รถทั้ง 2 รุ่น ต่างจัดออพชั่นครบครันตามกระแสยนตกรรมรุ่นใหม่ ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับไลฟ์สไตล์ของผู้ชมเองว่าแบบไหนโดนใจมากกว่ากัน