Honda CR-V VS Mazda CX-5 เทียบเอสยูวีดีเซลสุดพรีเมียม เต็มเปี่ยมความอเนกประสงค์สุดลงตัว

           งานเทียบรถใหม่ครั้งนี้มาแนวหรู กับเอสยูวีระดับราคาล้านกลางๆ ที่จัดสเปคมาชนกันตรงๆ ด้วยเครื่องดีเซลที่กำลังเป็นกระแสมาแรง ฝ่ายหนึ่งก็ยอดนิยม อีกฝ่ายก็เด่นไม่แพ้ใคร เพื่อให้สูสีกัน การเทียบครั้งนี้ จึงนำรุ่นท็อปสุดของรุ่นดีเซลขับเคลื่อน 2 ล้อ จับมาปะทะกัน นั่นคือ Honda CR-V ราคา 1,549,000 บาท และ Mazda CX-5 ราคา 1,530,000 บาท

รูปทรงภายนอก

Honda CR-V

          พื้นฐานโครงสร้างได้รับการออกแบบใหม่ ให้มีจุดศูนย์ถ่วงที่ต่ำลง เพื่อสมรรถนะการขับขี่ที่ดีขึ้น โดดเด่นด้วยไฟหน้าและไฟท้ายแบบ LED โดยเฉพาะไฟท้ายที่เป็นครั้งแรกกับดีไซน์ไฟรูปตัว L สอดรับกับคิ้วโครเมียมเหมือนรถราคาแพง ฝาท้ายพิเศษกว่าด้วยระบบเปิด-ปิดด้วยไฟฟ้า เพียงสอดเท้าเข้าที่ใต้กันชน

Mazda CX-5

          ดีไซน์ภายนอกสวยสุดๆ ด้วยภาษาการออกแบบ Kodo Design หรือจิตวิญญาณแห่งการเคลื่อนไหว ซึ่งได้แรงบันดาลใจมาจากความสวยงามในการเคลื่อนไหวของสิ่งมีชีวิตในธรรมชาติ มีความสูงตัวรถและฐานล้อมากกว่าคู่แข่ง ซึ่งมีผลกับห้องโดยสาร และความนิ่งในการขับขี่

ฟังก์ชั่นภายใน

          ภายในทั้งสองรุ่น มีออพชั่นมาตรฐานครบเหมือนกัน ประกอบด้วยเบาะปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง หุ้มด้วยหนังแท้ เครื่องปรับอากาศอัตโนมัติ ครูสคอนโทรล กุญแจ keyless เครื่องเสียงสามารถเชื่อมต่อ AUX/USB โทรศัพท์ Bluetooth และระบบนำทาง ต่างกันตรงที่ดีไซน์และฟังก์ชั่นเพิ่มเติมดังนี้

Honda CR-V

         ภายในมีเบาะโดยสารมากกว่าถึง 7 ที่นั่ง สามารถพับเพิ่มเนื้อที่เก็บของได้มากกว่า พร้อมเครื่องปรับอากาศตอน 2 กับ 3 ส่วน เกียร์เป็นแบบปุ่มกดหรือเล่นระดับได้กับแป้นแพดเดิ้ลชิฟต์ เครื่องเสียงพร้อมจอสัมผัสขนาด 5 นิ้ว พร้อมลำโพง 8 ตำแหน่ง

Mazda CX-5

          ภายในแตกต่างกว่าด้วยดีไซน์ HMI (Human-Machine Interface) คอนโซลกลางมีหน้าจออินโฟเทนเม้นท์ขนาด 7 นิ้ว พร้อมลำโพง 6 ตำแหน่ง เพิ่มระบบสั่งการด้วยเสียงผ่านระบบ MZD Connect พร้อมมีปุ่มเลือกโหมดการขับ Drive selection

สมรรถนะและประสิทธิภาพ

Honda CR-V

          ขุมพลังจากเครื่องดีเซล 1.6 ลิตร เทอร์โบ 2 จังหวะ ให้กำลัง 160 แรงม้า มีแรงบิด 350 นิวตัน-เมตร ให้ใช้ได้ที่รอบต่ำเพียง 2,000 รอบ/นาที ถึงแม้พลังอาจจะน้อยกว่าคู่แข่ง แต่ก็นับว่าพอเพียงต่อการใช้งาน แถมด้วยอัตราทดเกียร์ 9 สปีด ที่มากกว่า ผสานการทำงานของเฟืองท้ายทดจัดกว่า ทำให้มีอัตราการกินน้ำมันน้อยกว่าคู่แข่งเล็กน้อย ส่วนล้อและยางขนาด 17 นิ้ว ก็เซ็ตมาเพื่อเน้นการโดยสารได้ 7 คน อย่างนิ่มสบาย

Mazda CX-5

          เครื่องยนต์ SKYACTIV-D พิกัด 2.0 ลิตร เทอร์โบ เลืองชื่อของมาสด้า ผลิตกำลังได้ 175 แรงม้า และที่เครื่องหมุน 2,000 รอบ/นาที ได้แรงบิดถึง 420 นิวตัน-เมตร ซึ่งมากกว่าคู่แข่ง แถมยังมีน้ำหนักน้อยกว่า ทำให้ความแรงมีมากสำหรับการขับได้สนุกกว่าคู่แข่งชัดเจน ส่วนล้อแม็กขอบ 19 นิ้ว ช่วยเรื่องความสปอร์ตและเฟิร์มแน่นในการขับขี่ไม่มีย้วย แต่ก็ต้องแลกมาด้วยอัตราการกินน้ำมันมากกว่าคู่แข่งเช่นกัน

อุปกรณ์ความปลอดภัย

          เอสยูวีทั้งคู่มีระบบความปลอดภัยมาตรฐาน คือ ดิสก์เบรค 4 ล้อ มีระบบ ABS แบบกระจายแรงเบรค, ระบบช่วยทรงตัว, ระบบช่วยออกตัวบนทางชัน, ไฟฉุกเฉินอัตโนมัติเมื่อเบรคกะทันหัน, ระบบแจ้งเตือนเมื่อตรวจจับได้ว่าผู้ขับเหนื่อยล้า, ระบบล็อคประตูอัตโนมัติ, กล้องมองหลัง, ถุงลมนิรภัย 6 จุด ที่คู่หน้า ด้านข้าง และม่านศีรษะ แต่มีจุดต่างที่สำคัญ คือ

Honda CR-V

          เพิ่มเติมกล้องมองหลังแบบปรับระยะได้ 3 ทิศทาง ทั้งแบบ 130 องศา, 180 องศา และมุมมองจากด้านบน ใส่ระบบเตือนมุมอับ Honda LaneWatch ใส่ระบบ Auto Brake Hold ระบบจะทำการหน่วงเบรกต่อให้อัตโนมัติ หลังจากเหยียบเบรกให้รถหยุดนิ่ง เพื่อป้องกันไม่ให้รถเคลื่อนตัวโดยไม่จำเป็นต้องเหยียบเบรกค้างไว้ และสุดท้ายระบบล็อกรถอัตโนมัติเมื่อกุญแจรีโมทอยู่ห่างจากตัวรถ

Mazda CX-5

          เพิ่มเติมกล้องมองหลังที่ทำงานควบคู่กับเซนเซอร์ 8 จุด ทั้งหน้าและหลัง ส่วนไฟหน้าปรับการทำงานสูง-ต่ำ แยกอิสระซ้าย-ขวา ให้เหมาะสมกับระยะรถคันหน้า การหักเลี้ยวพวงมาลัย และรถที่สวนมา  นอกจากนี้ยังมีระบบเตือบเมื่อรถออกนอกเลนพร้อมรักษารถกลับเข้าเลนอัตโนมัติ ระบบหยุดรถอัตโนมัติป้องกันการเกิดอุบัติเหตุทั้งด้านหน้า (Smart city brake support) และเบรคอัตโนมัติเมื่อมีรถวิ่งตัดท้ายรถขณะถอยหลัง (Smart city brake support-rear) และระบบเตือนแรงดันลมยางต่ำ

บทสรุป

         รถเอสยูวีเครื่องดีเซลขับเคลื่อน 2 ล้อคู่นี้ สูสีกินกันไม่ลง คันหนึ่งก็สวยสปอร์ต อีกคันก็หรูหราสะดวกสบาย มีข้อดีข้อเสียต่างกันในแต่ละมุม โดยสรุปคือ Honda CR-V นั่งได้ 7 ที่นั่ง แถมจิบน้ำมันน้อย ปลอดภัยกว่าด้วยกล้อง 3 มุมมอง พร้อมเตือนมุมอับได้ มีฝาท้ายเปิด-ปิดด้วยไฟฟ้า พร้อมระบบเซ็นเซอร์ที่ใต้กันชน และมีแป้นแพดเดิ้ลชิฟต์ให้เล่น Mazda CX-5 ดีไซน์สวยแนวสปอร์ต เครื่องแรงกว่า หน้าจออินโฟฯ ใหญ่กว่า พร้อมระบบช่วยเหลือความปลอดภัย ทั้งเบรคอัตโนมัติ รักษาเลนอัตโนมัติ และเซนเซอร์สารพัดด้าน โดยทั้งคู่มาพร้อมการรับประกัน 3 ปี หรือ 100,000 กม.

          การโคจรมาเจอกันระหว่าง Honda CR-V VS Mazda CX-5 รุ่นดีเซลขับเคลื่อน 2 ล้อ มีข้อดีข้อเสียในมุมต่างกัน ซึ่งสามารถตอบโจทย์ลูกค้าแต่ละกลุ่มได้อย่างสมบูรณ์แบบ ผู้ซื้อควรไปลองขับรถจริง เพื่อค้นพบสไตล์ที่ใช่ของตัวเองในทุกฟังก์ชั่น พร้อมให้สัมผัสตัวจริงแล้วทั้งสองรุ่นแล้วที่โชว์รูม Honda และ Mazda ทุกสาขา