Isuzu MU-X 1.9 Ddi BluePower
ตลาดรถ PPV ในเมืองไทยเรียกได้ว่าดุเดือดท้าลมร้อนอย่างมาก หลายๆ ค่ายได้ส่งรถ PPV 7 ที่นั่งรุ่นใหม่ ที่ยกระดับทั้งรูปลักษณ์, อ็อพชั่น, เทคโนโลยีที่ทันสมัย พร้อมขับขุมพลังแรงๆ ที่พาคุณเดินทางสู่ความท้าทายได้มากยิ่งขึ้น โดยในคู่เปรียบเทียบครั้งนี้ คือ รถอเนกประสงค์ PPV 7 ที่นั่ง ที่บรรจุเครื่องยนต์ขนาดพอเหมาะ ที่มอบความประหยัดเชื้อเพลิง ปล่อยไอเสียน้อย และสบายใจในด้านราคา จึงเป็นตัวเลือกในการตัดสินใจซื้อรถ PPV ที่มอบความประหยัดได้มากยิ่งขึ้น
Ford Everest 2.2L
ซึ่งในวันนี้ ทีมงานได้นำรถ PPV เครื่องยนต์ขนาดเพอเหมาะ 2 ค่าย มาประชันกัน ได้แก่ รถอเนกประสงค์สัญชาติญี่ปุ่น Isuzu ที่ส่งรถ MU-X 1.9 Ddi BluePower รุ่น DA A/T ประชันกับค่ายรถจากอเมริกัน Ford ที่ส่งรถ Everest รุ่น 2.2L เพื่อเป็นการไม่เสียเวลา มาชมพร้อมกันได้เลย
ภายนอก
เริ่มจาก Isuzu MU-X มาพร้อมรูปลักษณ์ที่แสดงถึงความหรูหราอย่างมีระดับ แสดงถึงความแข็งแกร่ง วิ่งลุยได้ทุกสภาพถนน ทั้งกระจังหน้าแบบ 3-Dimension ที่มีมิติเฉียบคมอารมณ์สปอร์ต, ไฟส่องสว่างเวลากลางวัน Super Daylight พร้อมไฟตัดหมอกที่แยกจากกันชัดเจน, กระจกมองข้างสีเดียวกับตัวรถ กระจกข้างพร้อมไฟเลี้ยวและปรับพับด้วยไฟฟ้า, ล้ออัลลอย Dynamic Black ขนาด 17 นิ้ว, ไฟท้ายดีไซน์พิเศษ Arc-Dimension, บันไดข้างรถ, ราวหลังคา, เสาอากาศครีบฉลาม
ทางด้าน Ford Everest ก็ได้รับการออกแบบรูปลักษณ์ภายนอกที่แสดงถึงความแข็งแกร่ง ดุดัน บ่งบอกถึงสมรรถนะที่เหนือชั้น พร้อมอ็อพชั่นภายนอกที่จัดอย่างครบครัน ทั้งกระจังหน้า 6 เหลี่ยม, ไฟหน้าแบบโปรเจ็คเตอร์, ไฟตัดหมอกหน้า-หลัง, กระจกมองข้างสีเดียวกับตัวรถ ที่ปรับและพับไฟฟ้าพร้อมไฟเลี้ยว, บันไดข้าง, ราวหลังคา และล้ออัลลอย 18 นิ้ว
ภายนอกที่ดูบึกบึน สวยงาม ทันสมัยของรถ PPV ทั้ง 2 รุ่น ที่สูสีขนาดนี้ ยังมีข้อมูลเปรียบเทียบอีกรายการที่น่าสนใจ นั่นคือ มิติตัวถัง
มิติตัวถัง | Isuzu MU-X 1.9 Ddi Bluepower | Ford Everest 2.2L |
พื้นที่ตัวรถทั้งหมดยาวxกว้างxสูง (มม.) |
4,825 x 1,860 x 1,860 | 4,893 x 1,862 x 1,836 |
ระยะฐานล้อ (มม.) | 2,845 | 2,850 |
ความกว้างช่วงล้อหน้า-หลัง (มม.) |
1,570 - 1,570 | 1,560 - 1,565 |
ระยะต่ำสุดจากพื้น (มม.) | 230 | 225 |
น้ำหนักตัวรถ | 1,945 | ไม่ได้ระบุ |
ความจุถังน้ำมัน | 65 | 80 |
ภายใน
Isuzu MU-X 1.9 Ddi BluePower ได้รับการออกแบบห้องโดยสารที่แสดงความหรูหรา ทันสมัย สไตล์ Modern Art Deco ควบคู่กับการใช้งานง่ายทุกฟังก์ชั่น ด้วยแนวคิด Isuzu Universal Disign พร้อมอ็อพชั่นอำนวยความสะดวกต่างๆ ประกอบไปด้วย หน้าปัดแบบ 3D Shap Point พร้อมจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบสี, พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น, เบาะปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง สำหรับผู้ขับขี่, ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ พร้อมช่องแอร์ด้านหลัง, ปลั๊กไฟ DC 12 โวลต์ 3 จุด กับปลั๊กไฟ AC 220 โวลต์ 1 จุด เป็นต้น ด้านระบบความบันเทิงจะมาพร้อมกับเครื่องเล่นวิทยุ AM/FM เครื่องเล่น DVD, หน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว พร้อมระบบเชื่อมต่อ USB/ AUX/ HDMI/ Bluetooth แถมรองรับ Isuzu Connect World และระบบนำทาง i Smart Navi Thailand นอกจากนี้ยังมีจอสำหรับมอบความบันเทิงให้ในบริเวณที่นั่งด้านหลังด้วย
ด้านพื้นที่โดยสาร 7 ที่นั่ง มาพร้อมเบาะหุ้มหนัง โดยเบาะแถว 2 สามารถพับได้แบบ 40:60 กับเบาะแถวสามพับแบบ 50:50 เพื่อขยายพื้นที่สัมภาระท้าย โดยทั้งแถว 2 และแถว 3 จะเป็นแบบพับจังหวะเดียว
Ford Everest ได้รับการออกแบบภายในที่ให้ความหรูหรา เรียบง่ายที่ประกอบไปด้วยหน้าจอทัชสกรีนขนาด 8 นิ้ว พร้อมลำโพง 10 จุด รอบห้องโดยสาร, แผงมาตรวัดดีไซน์พิเศษด้วยหน้าจอแสดงข้อมูล TFT สี ขนาด 4.2 นิ้ว, พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น, ระบบสั่งงานด้วยเสียง SYNC 2 ระบบเครือข่ายไร้สาย, ปลั๊กไฟบ้าน 220 โวลต์, ระบบปรับอากาศสำหรับผู้โดยสารตอนหลังแบบแยกส่วนจากห้องโดยสารตอนหน้าพร้อมสวิตช์ควบคุม, เบาะนั่งปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง แต่ที่เจ๋งยิ่งกว่า คือ มีระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติในรุ่นนี้ด้วย
ด้านพื้นที่โดยสาร 7 ที่นั่ง มาพร้อมเบาะหุ้มหนัง โดยเบาะแถว 2 พับได้แบบ 40:60 กับเบาะแถว 3 พับแบบ 50:50 เพื่อขยายพื้นที่สัมภาระท้าย โดยจะเป็นแบบพับจังหวะเดียวเช่นกัน
เครื่องยนต์
Isuzu MU-X โฉมใหม่ที่นำมาเปรียบเทียบนี้ บรรจุเครื่องยนต์ดีเซล 1.9 ลิตร Ddi BluePower ที่ได้รับการพัฒนาให้มีความทนทานมากขึ้น บำรุงรักษาง่ายขึ้น และให้ประสิทธิภาพการระบายความร้อนที่ดีกว่าเดิม โดยให้สมรรถนะสูงสุด 150 แรงม้า ที่ 3,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 350 นิวตัน-เมตร ที่ 1,800-2,600 รอบ/นาที ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติแบบ 6 สปีด พร้อมโหมด REV Tronic เพิ่มความสนุกและความสุนทรีย์ในการขับขี่
Ford Everest บรรจุขุมพลังเครื่องยนต์ดีเซล ขนาด 2.2 ลิตร แบบ 4 สูบ ที่ให้สมรรถนะสูงสุด 160 แรงม้า แรงบิด 385 นิวตัน-เมตร พร้อมระบบเทอร์โบแปรผัน (VGT) ช่วยเพิ่มพละกำลังและแรงบิดของเครื่องยนต์ให้มีแรงบิดสูงในช่วงรอบต่ำ เพิ่มประสิทธิภาพการประหยัดที่ดีขึ้น ส่งกำลังด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติแบบ 6 สปีด ที่ได้รับการปรับแต่งเพื่อการตอบสนองที่รวดเร็ว ให้การขับขี่ที่นุ่มนวล ช่วยให้สามารถควบคุมรถได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
ระบบความปลอดภัย
ทั้ง Isuzu MU-X1.9 Ddi BluePower และ Ford Everest 2.2L ได้บรรจุระบบความปลอดภัยดังนี้
ระบบความปลอดภัย | Isuzu MU-X1.9 Ddi BluePower | Ford Everest 2.2L |
โครงสร้างตัวถัง | High Tensile Strength Steel | - |
คานเหล็กเสริมนิรภัย | * | * |
ถุงลมนิรภัย | คู่หน้า | คู่หน้า, ด้านข้าง และม่านถุงลมนิรภัย |
เข็มขัดนิรภัย ELR แถวหน้า | 3 จุด สองที่นั่ง | 3 จุด สองที่นั่ง |
เข็มขัดนิรภัย ELR แถวสอง | 3 จุด 3 ที่นั่ง | 3 จุด 3 ที่นั่ง |
เข็มขัดนิรภัย ELR แถวสาม | 3 จุด 2 ที่นั่ง | 3 จุด 2 ที่นั่ง |
สัญญาณเตือนคาดเข็มขัดนิรภัยคนขับและผู้โดยสารตอนหน้า | - | * |
จุดยึดสำหรับเบาะนั่งเด็ก (มี) | * | * |
ระบบเบรคป้องกันล้อล็อก (ABS) | * | * |
ระบบกระจายแรงเบรก (EBD) | * | * |
ระบบเสริมแรงเบรค (BA) | * | - |
ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว (ESP) | ESC | ESP |
ระบบช่วยการออกตัวขณะจอดบนทางลาดชัน | HSA | HAS |
ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี และควบคุมการลื่นไถล | * | * |
ระบบลดความเสี่ยงจากการพลิกคว่ำ(Rollover Mitigation ) | - | * |
ระบบควบคุมการทรงตัวขณะลากจูง(Trailer Sway Mitigation) | - | * |
กระจกมองหลังแบบปรับลดแสงสะท้อนได้ | * | * |
ไฟตัดหมอกหน้า | * | * |
ไฟตัดหมอกหลัง | - | * |
LED Daylight | Super Daylight | - |
ไฟเบรคดวงที่ 3 | * | * |
ไฟเลี้ยวบนกระจกมองข้าง | * | * |
สัญญาณเตือนระยะจอดด้านหลัง | * | * |
กล้องมองหลัง | * | - |
ระบบกุญแจนิรภัย Immobilizer | * | * |
สัญญาณกันขโมย | * | * |
ราคา
Isuzu MU-X 1.9 Ddi Bluepower รุ่น DA A/T ราคา 1,324,000 บาท
Ford Everest รุ่น 2.2L ราคา 1,389,000 บาท
สรุป
Isuzu MU-X 1.9 Ddi Bluepower เป็นรถ PPV ที่มีขนาดเครื่องยนต์ที่เล็กที่สุด แต่ให้สมรรถนะการขับเคลื่อนกำลังดี แต่โดยรวมแล้วรถรุ่นนี้ จะเน้นความหรูหราพรีเมี่ยมอย่างมีระดับ โดดเด่นในด้านการขับขี่ในเมือง พร้อมกับอ็อพชั่นที่โดนใจผู้นั่งด้านหลังแถว 2 และแถว 3 โดยเฉพาะ
Ford Everest จะชูจุดเด่นเอสยูวีที่ความกว้างขวาง เป็นรถที่ใช้งานขาลุยได้ดีเพราะในรุ่นนี้ได้บรรจุอ็อพชั่นเด็ดระบบควบคุมการทรงตัวขณะลากจูง (Trailer Sway Mitigation) แถมขับขี่ได้อย่างสบายๆ ด้วยระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ กับระบบสั่งการด้วยเสียง Sync 2 โดยรวมจึงให้ความทันสมัยมากกว่า
สำหรับโอกาสหน้า BoxzaRacing จะนำรถอะไรมาเปรียบเทียบคู่ต่อไป อย่าลืมติดตามชมกันให้ดีนะครับ