การเลือกเครื่องยนต์ดีเซลมาโมดิฟาย ถ้าใช้เครื่องพื้นฐานดี ทนทาน ! มีชัยไปกว่าครึ่งแน่นอน จริงหรือไม่?
มอเตอร์สปอร์ต หรือ การแข่งขันรถยนต์ จัดว่าเป็นกิจกรรมสุดโปรดที่วัยแรงอย่างเราๆ ท่านๆ ทุกคนชื่นชอบ ซึ่งการแข่งขันรถยนต์แต่ละรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น Drag, Drift, Circuit, Gymkhana หรือแม้แต่วงการทางฝุ่นอย่าง Off Road ก็จะมีสไตล์และความมันส์ที่แตกต่างกันออกไป แต่สิ่งหนึ่งที่เหมือนหรือมีความคล้ายคลึงกันนั่นก็คือ เรื่องพื้นฐานของตัวรถ และเครื่องยนต์ที่ต้องมีความทนทาน สามารถพร้อมรับกับภารกิจ การทำงานในสภาวะที่หนักกว่าการใช้งานทั่วๆ ไปหลายเท่าตัว ดังนั้นการเลือกเครื่องยนต์ที่มีความเหมาะสม จึงเป็นหัวใจสำคัญของการแข่งขัน ที่ไม่สามารถมองข้ามไปได้เลยทีเดียว
เครื่องยนต์ นับเป็นปัจจัยหลักในการสร้างแรงขับเคลื่อนให้กับรถแข่ง จะแรงหรือไม่แรง ก็ล้วนแล้วแต่ต้องพึ่งพละกำลังจากเครื่องยนต์ทั้งสิ้น (ไม่นับรวมการจับแรงม้าลงพื้น ซึ่งเป็นหน้าที่ของระบบส่งกำลังที่แยกย่อยเป็นหลายๆ ส่วน ตั้งแต่เกียร์ คลัทช์ เพลา เฟืองท้าย และยาง) การจะโมดิฟายเครื่องยนต์ให้มีความแรงมากกว่าสแตนดาร์ดที่ถูกกำหนดมานั้น จะต้องอาศัยปัจจัยพื้นฐานหลักๆ หลายประการ ซึ่งทุกชิ้นส่วนนั้น ต้องออกแบบมาให้สามารถทนทานต่อการเค้นเพื่อรีดพละกำลังให้มากขึ้น โดยมีเงื่อนไขว่าต้องไม่เสื่อมสภาพ หรือพังในขณะที่ทำการแข่งขัน
รูปแบบของเครื่องยนต์ที่ถูกนำมาโมดิฟายเรียกว่ามีอยู่มากมาย ซึ่งรูปแบบหนึ่งที่ถือว่ากระแสกำลังมาแรงในปัจจุบันก็คือ การโมดิฟายเครื่องยนต์ดีเซลที่ในบ้านเรากำลังได้รับความนิยม โดยสำนักต่างๆ ได้คิดค้นสูตรการเพิ่มความเร้าใจเพื่อให้รถของทางสำนักมีความแรงระดับแนวหน้า ซึ่งเครื่องยนต์ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างสูงในขณะนี้ คงหนีไม่พ้นขุมพลังแบรนด์ชั้นนำอย่าง Isuzu ที่ประจำการอยู่ใน Isuzu All New D-MAX ที่หลายๆ สำนักประสบความสำเร็จและสร้างชื่อจากเครื่องยนต์แบรนด์ Isuzu มาอย่างต่อเนื่อง ด้วยพื้นฐานที่มีความแข็งแกร่ง ทนทาน เหมาะกับการโมดิฟายต่อยอด ตั้งแต่ในส่วนบนของเครื่องยนต์ตระกูล 4J ที่มีให้เลือกทั้ง 2.5 และ 3.0 ลิตร ไม่ว่าจะเป็นฝาสูบ แคมชาฟท์ ท่อร่วมไอดี ที่ได้รับการออกแบบมาอย่างเหมาะสม ส่งผลให้การรีดเค้นกำลังนั้น ทำได้ดีกว่าเครื่องยนต์ดีเซลทั่วๆ ไปที่มีอยู่ในท้องตลาด และไฮไลท์สำคัญที่ขาดไม่ได้เลยก็คือ เรื่องพื้นฐานและความทนทานของท่อนล่าง ทั้งลูกสูบ ข้อเหวี่ยง ชาฟต์อก ชาฟต์ก้าน ที่ได้รับการออกแบบให้สามารถทนต่ออัตราการบูสต์สูงๆ จากเทอร์โบได้ อันเป็นหัวใจสำคัญสู่ความสำเร็จในการแข่งขันเลยก็ว่าได้ ทั้งหมดที่กล่าวมานี้เอง เป็นปัจจัยที่ทำให้นักแข่งกระบะดีเซลระดับชั้นนำของประเทศไทย เลือกที่จะใช้เครื่องยนต์ Isuzu ในการแข่งขันรูปแบบต่างๆ อย่างแพร่หลายนั่นเอง
พื้นฐานดี...มีชัยไปกว่าครึ่ง คงไม่ใช่คำพูดที่เกินจริง เมื่อเรากำลังกล่าวถึงความอึด ทนทายาทของขุมพลังดีเซลจาก Isuzu ที่สร้างชื่อทั้งในและต่างประเทศมาแล้วมากมาย โดยผลงานของนักแข่งและสำนักแต่ชั้นนำ ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นก้าวสำคัญที่ช่วยประกาศศักดาให้ชาวโลกได้รู้ว่า “ดีเซลไทย ไม่แพ้ชาติใดในโลก” จากผลิตผลที่ยอดเยี่ยมจาก Isuzu นั่นเอง