จริง ๆ แล้วการที่เราให้ผู้สูงอายุขับรถ โดยเฉพาะท่านที่ขับเป็นประจำอยู่แล้วนั้นมีผลดี ช่วยให้ท่านไม่รู้สึกเบื่อ ลดอาการซึมเศร้า และยังเป็นการบริหารสมองได้อีกด้วย แต่ถึงแม้ว่าข้อดีของการที่ผู้สูงอายุขับรถเองจะมีเยอะ แต่ก็ยังมีข้อควรระวังจากสภาพร่างกาย และฮอร์โมนที่เปลี่ยนแปลงไปด้วยเช่นกัน การทำประกันรถยนต์ไว้จึงช่วยให้อุ่นใจได้มากขึ้นทีเดียว เรามาดูกันดีกว่า ว่าหากจะเลือกประกันรถยนต์สำหรับผู้สูงอายุแล้ว ควรมีปัจจัยอะไรที่ต้องคำนึงบ้าง
สิ่งที่ควรระวังในการขับรถของผู้สูงอายุ
กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ในสังกัดกระทรวงมหาดไทยได้ออกมาแนะนำวิธีขับขี่ปลอดภัยสำหรับผู้สูงอายุเพื่อลดความเสี่ยงการเกิดอุบัติเหตุ ดังนี้
ปัจจัยที่ต้องคำนึงในการเลือกประกันรถยนต์สำหรับผู้สูงอายุ
1. โรคประจำตัว
ผู้สูงอายุที่ต้องการขับรถ หรือ ลูกหลานควรสังเกตด้วยว่า ผู้สูงอายุมีโรคประจำตัว หรือมีอาการดังต่อไปนี้หรือไม่
ทั้งนี้ผู้สูงอายุที่มีโรคประจำตัวร้ายแรงด้านบนที่ระบุไว้ เช่น โรคหัวใจ โรคสมองเสื่อม โรคพาร์กินสัน โรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง โรคเบาหวานในระยะรุนแรง ไม่ควรขับรถอย่างเด็ดขาด เพราะอาจเกิดอุบัติเหตุเป็นอันตรายทั้งต่อตนเองและผู้อื่น หากมีโรคประจำตัว ให้นำยารักษาโรค บัตรบันทึกประวัติของโรค และบัตรประจำตัวผู้ป่วยติดตัวไปด้วยเสมอในกรณีที่ต้องขับรถเอง ดังนั้น หากจะเลือกประกันรถยนต์ที่มีความคุ้มครองเพิ่มเติมด้านสุขภาพของผู้สูงอายุแล้วล่ะก็ อย่าลืมพิจารณาเงินชดเชยค่าอุปกรณ์ทางการแพทย์ เช่น ไม้เท้า, รถเข็น, อุปกรณ์ช่วยเดิน หรือ เครื่องช่วยฟัง (ตามคำสั่งแพทย์) เพิ่มเติมด้วย
2. รถยนต์ที่ใช้
หากต้องการซื้อรถใหม่เพื่อให้ผู้สูงอายุขับโดยเฉพาะ คุณอาจเลือกพิจารณาจากความจำเป็นในการใช้รถของท่าน ขับบ่อยแค่ไหน นอกจากนี้การเลือกรถที่มีขนาดเล็กจะช่วยให้ประหยัดค่าเบี้ยประกันลงได้ด้วย และผู้สูงอายุยังสามารถขับขี่บังคับควบคุมได้ง่าย ซึ่งหากซื้อรถใหม่ ประกันรถยนต์ก็ควรใช้ประกันชั้น 1 ครับ เพราะนอกจากประกันรถยนต์ชั้น 1 จะคุ้มครองทั้งผู้ขับขี่และคู่กรณีแล้ว ยังคุ้มครองความเสียหายต่อตัวรถยนต์ในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุแบบไม่มีคู่กรณี เช่น ขับชนรั้ว ชนต้นไม้ด้วย
3. เงินชดเชย
แน่นอนว่าการขับขี่ปลอดภัยนั้นสำคัญที่สุด ไม่มีใครอยากให้มีอุบัติเหตุ แต่หากมีเหตุการณ์ไม่คาดฝันการเลือกประกันที่มอบเงินชดเชยผลประโยชน์รายได้รายวัน กรณีผู้ขับขี่หรือผู้โดยสารบาดเจ็บจนต้องเข้ารักษาตัวเป็นผู้ป่วยในของโรงพยาบาล ถือว่าเป็นตัวเลือกที่สำคัญ เพราะลูกหลานอาจจะต้องลางานมาดูแลพ่อแม่ เป็นสาเหตุที่ทำให้ขาดรายได้ ซึ่งประกันที่ผลประโยชน์เงินชดเชยนอนโรงพยาบาลถือว่าทำให้อุ่นใจทั้งครอบครัว
แต่ขณะหากเดียวกันหากท่านเป็นคนชอบวางของไว้ในรถ หรืออาจจะหลงลืมตามวัย ทำให้ทรัพย์สินนั้นถูกโขมยไปแม้ว่ารถจะจอดอยู่ ก็ควรมองหาประกันรถยนต์ที่คุ้มครองด้านเงินชดเชยการโจรกรรมสำหรับทรัพย์สินส่วนบุคคลที่อยู่ภายในรถด้วย
4. ความช่วยเหลืออื่น ๆ
เพราะเหตุไม่คาดฝันนั้นเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ กรณีที่รถของผู้สูงอายุประสบอุบัติเหตุ การมอบความช่วยเหลือด้านอื่น ๆ เช่น ศูนย์ติดต่อช่วยเหลือตลอด 24 ชั่วโมง มีบริการขับรถรับหรือส่งรถยนต์ที่เกิดอุบัติเหตุเข้าอู่ซ่อม และบริการนัดหมายรับรถ ก็จะช่วยอำนวยความสะดวกให้ท่านได้มากเลยทีเดียว
ประกันรถยนต์ รุ่นใหญ่ ใจเก๋า จากกรุงไทยพานิชประกันภัย (KPI) ลองไปดูกันดีกว่า ว่าประกันตัวนี้มีความคุ้มครองที่น่าสนใจอย่างไรบ้าง
สิทธิประโยชน์ที่คุณจะได้รับ
1. รับค่าชดเชยกรณีเข้ารักษาตัวเป็นผู้ป่วยในวันละ 1,000 บาท
2. รับเงินชดเชยค่าเดินทางกรณีนำรถยนต์เข้าซ่อม
3. คุ้มครองทรัพย์สินภายในรถจากการโจรกรรม 20,000 บาทต่อปี
4. รับเงินชดเชยค่าอุปกรณ์ทางการแพทย์ 50,000 บาทต่อปี
5. บริการขับรถ รับ-ส่ง รถยนต์เข้าอู่ซ่อม 2 เที่ยวต่อปี
6. บริการแจ้งนัดหมายและติดตามงานซ่อมรถยนต์
เมื่อได้ทราบทั้งความเสี่ยง และวิธีการเลือกประกันรถยนต์สำหรับผู้สูงอายุแล้ว เราก็จะสามารถเลือกประกันรถยนต์ที่ครอบคลุมกับความต้องการได้ดี ทั้งนี้สำหรับผู้สูงอายุที่ต้องการซื้อประกันรถยนต์ให้ตนเอง หรือจะเป็นลูกหลานที่ต้องการซื้อประกันรถไว้ให้ท่านเพื่อความอุ่นใจ สามารถเลือกซื้อออนไลน์โดยคลิก ที่นี่ หรือโทร 02-624-1111 ต่อ 4774 เพื่อรับคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญประกันรถยนต์