ของทุกสิ่งอย่างบนโลกใบนี้ โดยส่วนใหญ่ถูกแบ่งออกเป็น 2 ประเภท เสมอคือ ธรรมดา กับ พิเศษ ไม่ว่าจะเป็นข้าวของเครื่องใช้ หรือของกิน มักจะเพิ่มออพชั่นความพิเศษเข้าไป ยกตัวอย่างเช่นรองเท้า 1 คู่ ที่ออกรุ่นธรรมดา พอได้รับความนิยม ก็ออกรุ่นพิเศษ ที่มีเพียงไม่กี่คู่บนโลก หรือแม้กระทั่งอาหาร เราสั่งก๋วยเตี๋ยวหรือข้าว เรายังมีสั่งธรรมดากับพิเศษเลย รวมไปถึงรถยนต์ก็มีออกรุ่นพิเศษ หรือรุ่น Limited Edition ออกมาเช่นกัน
แล้วทำไมต้องเป็นรุ่นพิเศษด้วยละ ? ทำไมไม่ออกมาทีเดียวเลย ? เพราะว่ามันพิเศษเหมือนชื่อไงล่ะ ผู้บริโภคหลายๆ คนจึงได้หลงใหลและชื่นชอบในคำว่า “พิเศษ” ตรงจุดนี้...เองทำให้ผลิตภัณฑ์หลายๆ อย่างทั่วโลกจึงได้ออก รุ่นพิเศษหรือรุ่น Limited Edition มา รวมไปถึงค่ายรถยักษ์ใหญ่อย่าง Honda ที่ออกรุ่นพิเศษขึ้นมาเพื่อให้ยั่วกิเลสผู้ที่ชื่นชอบรถของค่ายนี้ โดยใช้คำว่า Type R เพื่อหมายถึงคำว่า “พิเศษ” ของรถในค่าย แต่รถของค่ายนี้มีเยอะมากมายหลายรุ่น หลาย Segment เหลือเกิน แต่รุ่นที่ได้รับความนิยมหรือเป็นรุ่นยอดฮิตในบ้านเรา คงหนีไม่พ้นรุ่น Civic โดยรถในรุ่นนี้ถูกเพิ่มคำว่า Type R เข้าไปต่อท้ายมากถึง 5 รุ่น ด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นรุ่น Civic EK9 Type R, Civic EP3 Type R, Civic FD2 Type R, Civic FK2 Type R และรุ่นล่าสุดที่เพิ่งคลอดออกมาสดๆ ร้อนๆ คือ รุ่น Civic FK8 Type R ทีมงาน BoxzaRacing จะพาคุณเข้าไปดูรายละเอียดของแต่ละรุ่นว่ามีความแตกต่างจากรุ่นปกติยังไง ?
Honda Civic EK9 Type R
เริ่มจากรุ่นคุณลุงหรือคุณน้า ก็แล้วแต่ใครจะเรียก เพราะเจ้า Honda Civic EK9 Type R เริ่มผลิตครั้งแรกเมื่อปี 1997 ถือว่าเป็นปลายๆ ของรถยุค 90’ กันแล้ว สำหรับรถรุ่นนี้ถือว่าเป็น Civic รุ่นแรกของค่าย Honda ที่ใส่คำว่า Type R เข้าไป เครื่องยนต์รหัส B16B ฝาแดง ที่ปรับแต่งเครื่องยนต์ใหม่ ด้วยการขัดพอร์ทเพิ่มเติมอากาศไหลลื่นกว่าเดิม พร้อมทั้งเฟืองท้ายแบบลิมิเต็ดสลิป เปลี่ยนอัตราทดเกียร์ใหม่ให้จัดจ้านกว่าเดิม ทำให้รถรุ่นนี้เป็นรถเครื่อง N/A ที่ให้แรงม้าสูงถึง 182 แรงม้า ที่ 8,200 รอบ/นาที ให้แรงบิดสูงถึง 160 นิวตัน-เมตรที่ 7,500 รอบ/นาที สามารถเร่งจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ด้วยเวลาเพียง 6.7 วินาที เท่านั้น ทำ Top Speed ได้ถึง 225 กิโลเมตร/ชั่วโมง เป็นครั้งแรกที่ออกแบบแชสซีเป็น Monocoque เพื่อเพิ่มความแข็งแรงของแชสซี ส่วนภายในเป็นเบาะ Recaro สีแดง แผงการ์ดประตูแดง พรมแดง หัวเกียร์ไทเทเนียม พวงมาลัย MOMO โดยภายในชุดนี้ เป็นชุดที่ขายในญี่ปุ่นเท่านั้นอีกด้วย นอกจากนั้นยังได้ออกรุ่น Type RX Model ขึ้นมาเพื่อคนที่ชอบความสบายโดยเพิ่มออฟชั่น เครื่องเล่นซีดี กระจกมองข้างแบบปรับด้วยไฟฟ้า กระจกไฟฟ้าทั้ง 2 บาน ระบบแอร์อัตโนมัติ เปิดประตูแบบไม่ใช้กุญแจ แป้นเหยียบอลูมิเนียม แผงกลางแบบคาร์บอน เรียกว่ารุ่นพิเศษในพิเศษขึ้นไปอีกขั้น
Honda Civic EP3 Type R
เขยิบปีขึ้นมาอีกหน่อยในปี 2001 ทางค่าย Honda ได้ออกรุ่น Honda Civic EP3 Type R มาแต่รุ่นนี้จัดจำหน่ายที่ สหราชอาณาจักรหรืออังกฤษ EDM Spec และทางฝั่งยุโรปเป็นเครื่อง K20A2 i-VTEC มีแรงม้าให้ใช้ถึง 200 แรงม้า เลยทีเดียว อัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง อยู่ที่ 6.5 วินาที เป็นเกียร์ 6 Speed อัพเกรดระบบเบรคใหม่ เบาะ Recaro สีแดง เหมือนกับในตัว EK9 แต่ก็ไม่ได้ทิ้งตัวที่จัดจำหน่ายในญี่ปุ่น JDM สำหรับสเปคเครื่องที่จัดจำหน่ายในญี่ปุ่นเป็นเครื่องรหัส K20A เช่นกัน แต่ทำการบาลานซ์ข้อเหวี่ยงใหม่ พร้อมทั้งปรับแต่งระบบไอดีใหม่ และปรับแต่งฝั่งไอเสียใหม่ด้วยเช่นกัน ปรับเปลี่ยนองศาระยะลิปของแคมชาฟ์ใหม่ กำลังอัดเพิ่มขึ้น เปลี่ยนพูเล่ใหม่เป็นโครโมลี่ พร้อมอัพเกรดกล่อง ECU ใหม่ โดยรอบของเกียร์ของทางฝั่ง JDM Spec จะจัดจ้านกว่าทางฝั่ง EDM Spec ซึ่งการอัพเกรดเครื่องของทางฝั่ง JDM ทำให้มีแรงม้าถึง 212 แรงม้า สามารถทำอัตราเร่ง 0-100 ด้วยเวลาเพียง 5.8 วินาที
Civic FN2 Type R (EDM Spec)
ปี 2007 Honda Civic FN2 Type R (EDM Spec) สำหรับตัว FN2 ของทางฝั่งยุโรปจะเป็นรถแฮทช์แบ็ค 3 ประตู โดยใช้แชสซีและช่วงล่างของทางฝั่งยุโรป จึงทำให้ช่วงล่างจะไม่ใช้ชุดปีกนก 2 ชั้น แต่เปลี่ยนเป็นทอร์ชั่นบีม (Torsionbeam) จึงทำให้ไม่ได้รับความนิยมเท่าไหร่ ส่วนเครื่องยนต์เป็นรหัส K20A ผลิตกำลังได้ 198 แรงม้า ที่ 7,800 รอบ จับคู่กับเกียร์แมนนวล 6 Speed แบบ Close Ratio ขุมพลังใน Civic รุ่นนี้ ถือว่าเป็นอีกหนึ่งเครื่องยนต์ที่ทรงพลังของทางค่าย Honda เลยก็ว่าได้
Honda Civic FD2 Type R
ในปี 2007 ค่าย Honda ได้ออกรุ่น Honda Civic FD2 Type R ออกมาเพื่อยั่วต่อมความอยากของสาวก Honda ถือว่าเป็นรุ่นแรกของ Type R ที่เป็นรถ 4 ประตู สำหรับรุ่นนี้ ปรับเปลี่ยนฐานล้อใหม่ให้กว้างขึ้นกว่ารุ่น EP3 Type R ถึง 170 มิลลิเมตร โดยในรุ่น FD2 Type R จะมีฐานล้อกว้างถึง 2,700 มิลลิเมตร ทำให้เข้าโค้งได้ดีกว่ารุ่น EP3 รุ่นนี้มีแรงม้าให้ใช้งานถึง 222 ตัว ที่ 8,000 รอบ/นาที แรงบิดอยู่ที่ 215 นิวตัน-เมตรที่ 6,100 รอบ/นาที ระบบเกียร์ของรุ่นนี้เป็นเกียร์ธรรมดา 6 Speed ระบบเบรกใช้คาร์ลิเปอร์ 4 POT ของ Brembo พร้อมจานขนาด 320 มิลลิเมตร ทำให้รถคันนี้ มีอัตราเร่งดีขึ้น ฐานล้อกว้างขึ้น และมีระบบเบรกที่ดีขึ้น ส่วนภายนอกของรุ่นนี้ ให้ความสำคัญของอากาศพลศาสตร์มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบชุดกันชน กันชนหลัง รวมไปถึง สปอยเลอร์หลังมีขนาดใหญ่ขึ้น ทำให้อากาศพลศาสตร์ของรถคันนี้ดีขึ้น ห้องโดยสารเป็นโทนสีดำ-แดง ตัวเบาะเป็นสีดำ-แดง ไม่ใช่ยี่ห้อ Recaro เหมือนรุ่นก่อนหน้านี้ แต่เป็นการออกแบบโดยค่าย Honda เอง รวมไปถึงพวงมาลัยที่ค่าย Honda เป็นผู้ออกแบบเอง เช่เดียวกับอุปกรณ์ภายในต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นหัวเกียร์หรือพรมสีแดงซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของตัว Type R
Honda Civic FK2 Type R
ในปี 2015 ที่งาน Geneva Motor Show ครั้งที่ 85 ได้เปิดตัว Honda Civic FK2 ซึ่งเป็นครั้งแรกในการเปิดตัวเครื่อง Turbo สำหรับรถ Honda Civic Type R อีกด้วย สำหรับเครื่องยนต์ของเจ้า Civic FK2 เป็นเครื่องรหัส K20C1 ซึ่งเป็นเครื่องเทอร์โบเทคโนโลยี Earth Dream ฉีดน้ำมันตรงเข้าห้องเผาไหม้ ให้แรงม้าสูงถึง 310 แรงม้า ที่ 6,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 400 นิวตัน-เมตร ที่ 2,500–4,500 รอบ/นาที มาพร้อมกับเกียร์ธรรมดา 6 Speed พร้อมลิมิเต็ดสลิป สำหรับเจ้า Honda Civic FK2 Type R คันนี้ สามารถเร่งความเร็วจาก 0–100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ด้วยเวลาเพียง 5.7 วินาที สำหรับตัว Civic Type R โฉมนี้ เน้นไปในเรื่องของความปลอดภัยเป็นหลัก โดยใส่ถุงลมนิรภัยคู่หน้า และถุงลมนิรภัยด้านหลัง จานเบรกหน้ามีขนาด 351 มิลลิเมตร ส่วนระบบเบรกหลังเป็นดิสก์มาพร้อมกับจานขนาด 305 มิลลิเมตร นอกจากนี้ยังใส่ระบบกระจายแรงเบรกเพิ่มเสริมความปลอดภัย โดยรถรุ่นนี้ถูกส่งข้ามมาขายในประเทศญี่ปุ่นอีกด้วย แต่ไม่ได้การตอบรับที่ดีเท่าไหร่เพราะสามารถขายได้เพียงแค่ 750 คันเท่านั้น จึงไม่แปลกที่ทำไมรุ่นนี้จะเป็นอีกหนึ่งรุ่นที่หายากจริงๆ
เดือนกันยายน 2016 ที่งาน Paris Motor Show ซึ่งเป็นงานโชว์รถยนต์งานใหญ่อีกหนึ่งงานบนโลกใบนี้ ได้เปิดตัวรถรุ่น Civic Type R ซึ่งเป็นตัวต้นแบบของ Honda Civic FK8 Type R ก่อนที่จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในปี 2017 ที่งาน Geneva Motor Show ซึ่งทางค่าย Honda ได้บอกว่ารถรุ่นนี้ เป็นแฮทช์แบคที่มีประสิทธิภาพสูงอีกหนึ่งคันของทางค่ายเลยทีเดียว โดยตัวปีกหลักทำมาจากคาร์บอนไฟเบอร์ ส่วนชุดแต่งเป็นคาร์บอนไฟเบอร์ที่มีเส้นสีแดงตัดเพิ่มจุดเด่นให้กับตัวรถ ส่วนตัว Diffuser ด้านหลังทำจากคาร์บอนไฟเบอร์อีกด้วย นอกจากนี้กระจังหน้า และท่ออากาศเป็นวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ พร้อมตัวโลโก้แดงซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของรถรุ่นนี้ ส่วนฝากระโปรงหน้าเพิ่มสคู๊ปดักลมเป็นทรงสี่เหลี่ยมคางหมูทำจากคาร์บอนไฟเบอร์ ล้อเป็นขอบ 20 สีดำเงามาแต่กำเนิดจากโรงงาน ท่อไอเสียออกกลางรถเป็น 3 ท่อ สำหรับเครื่องยนต์ของตัว Honda Civic FK8 Type R เป็นเครื่องเทอร์โบตัวเดียวกับรุ่นที่ Civic FK2 มีแรงม้า 310 แรงม้า เกียร์เป็นเกียร์แบบ Close Ratio 6 Speed พร้อมลิมิเต็ดสลิป ด้วยหลักอากาศพลศาสตร์ที่ดีกว่าเดิมทำให้รถรุ่นนี้สามารถทำความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 272 กิโลเมตร/ชั่วโมง ส่วนภายในห้องโดยสารของรถรุ่นนี้การออกแบบเบาะนั่งที่ต่ำลง และคันเกียร์ที่สูงขึ้นทำให้เปลี่ยนเกียร์ได้ง่ายและสะดวกขึ้น ส่วนภายในตกแต่งเป็นสีดำแดงซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของตัว Type R ก็ว่าได้ ส่วนเบาะทรงสปอร์ตหลังเป็นคาร์บอนไฟเบอร์ พวงมาลัยปรับระดับได้ ในรุ่น Civic FK2 สิ่งอำนวยความสะดวกสบายและความปลอดภัยว่าเยอะแล้ว แต่สำหรับรุ่นนี้ มีสิ่งอำนวยความสะดวกและความปลอดภัยมากขึ้นกว่ารุ่นก่อน ไม่ว่าจะเป็นกล้องมองหลัง พร้อมเซ็นเซอร์ถอยหลัง ระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ ระบบเตือนรถออกนอกเลน ระบบเตือนจุดอับสายตา ระบบเซนเซอร์ช่วยจอดหน้า-หลัง ระบบควบคุมแอร์ Dual-Zone ส่วนระบบเสียงมีลำโพงทั้งหมด 11 จุด นอกจากนี้รถรุ่นนี้ยังได้รับรางวัล Euro NCAP 5 star อีกด้วย โดยเจ้า FK8 คันนี้ สามารถทำสถิติต่อรอบที่สนาม Nürburgring ด้วยเวลา 7:43.80 นาที ซึ่งเร็วกว่ารุ่นก่อนถึง 7 วินาที เลยทีเดียว
ทั้งหมดนี้คือ ความพิเศษของเจ้า Type R ที่มีอยู่ในตัว Honda Civic ซึ่งแต่ละตัว ทั้งแรงและสวยกว่ารุ่นปกติทั้งนั้น จึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไมเจ้า Honda Civic Type R จึงได้รับความนิยมไม่คาดสายเลยทีเดียว
