เขียนโดย: D wisanuporn

เมื่อ: 3 เมษายน 2563 - 11:52

เตรียมรถ เตรียมใจ เตรียมตัว ยามต้องใช้รถยนต์ในหน้าร้อน...จัด

          เตรียมตัวกันให้พร้อม จะไปหรือไม่ไปไหน ค่อยว่ากันอีกเรื่อง แต่สิ่งที่ต้องทำคือ เตรียมรถให้พร้อมทุกเวลา ก่อนนำออกไปใช้ในช่วงที่อากาศร้อนระอุเช่นนี้ และวันเราทีมงาน BR หรือ BoxzaRacing มีเกร็ดความรู้เล็กๆ น้อยๆ มาฝาก แม้ว่าปัจจุบันราคาน้ำมันถูกเท่า 10 ปีก่อน ทว่าเราท่านก็ยังไม่ค่อยได้ใช้รถไปไหนกัน (นอกจากไปหวดกันบนทางด่วน) เพราะสถานการณ์ที่ไม่เอื้ออำนวย

 

ดูที่เข็มวัดบอก หรือสะดวกว่าเมื่อดูตัวเลข ECT ที่มิเตอร์

 

         เหตุการณ์นี้จะเป็นอย่างไรก็ตาม ชาวเราก็ต้องเตรียมตัวให้พร้อม แต่จะเตรียมอย่างไรแบบไหน เรามีคำแนะนำ สำหรับการใช้รถในช่วงหน้าร้อนนี้ แน่นอนว่าสิ่งสำคัญที่สุด คือ เรื่องของระบบหล่อเย็น และระบบบายความร้อนต่างๆ อันเป็นสิ่งสำคัญซึ่งต้องเช็คให้แน่ใจว่า ระบบทั้งหมดทำงานได้อย่างสมบูรณ์เต็มที่ เริ่มจากเช็คระบบระบายความร้อน และหล่อเย็นกันก่อนว่ายังทำงานอยู่ ง่ายๆ เลยคือ ดูที่มาตรวัดในรถ ให้เราสตาร์ทเครื่องทิ้งไว้สักระยะ เพื่อดูว่าเข็มวัด หรือตัวเลขต่างๆ มีการขยับตามหรือไม่ ซึ่งจริงแล้ว นี่เป็นเรื่องปกติเลยเมื่อเราสตาร์ทเครื่องก่อนนำรถออกไปทุกครั้ง ต้องให้เครื่องยนต์อุ่น ด้วยรอบเดินเบาเป็นปกติ แต่คร่าวนี้ทิ้งไว้นานกว่าเดิมเล็กน้อย เพื่อเป็นการรีเช็คว่า ระบบหล่อเย็นทำงานเป็นปกติซึ่งเราต้องอาศัยพวก มิเตอร์ หรือมาตรวัดที่เรือนไมล์ ค่อยดูว่ามีอะไรผิดปกติหรือไม่ เข็มชี้วัดความร้อนเกินกว่าที่เคยหรือไม่อย่างไร หากปกติจะเกินกึ่งกลางเล็กน้อย หรือหากเป็นมิเตอร์ตัวเลขก็จะคงที่และไม่มีเสียงเตือน (ขึ้นอยู่ว่าเราตั้งการเตือนอุณหภูมิไว้เท่าไร) แต่หากเครื่องยนต์ทำงานถึงอุณหภูมิที่กำหนดไว้ ระบบจะสั่งการให้พัดลมทำงานเพื่อระบายความร้อน เมื่อพัดลมทำงาน ตัวเลขหรือ เข็มวัดต้องลดลง จึงจะปกตินะ

 

เช็คน้ำในถังพักให้อยู่ในระดับที่กำหนด

 

จะน้ำยาหล่อเย็น หรือน้ำเปล่าก็ย่อมได้ ดีทั้ง 2 อย่าง (แต่ไม่ควรใช้น้ำประปาจากก๊อกโดยตรง)

 

          ทว่างานนี้ไม่ควรนอนใจ ต้องเสริมด้วยการเพิ่ม ซึ่งการเพิ่มในที่นี้คือ เพิ่มน้ำในถังพักน้ำเผื่อไว้ เติมให้ถึงระดับที่กำหนดซึ่งมองเห็นได้ที่ข้างกระบอก งานนี้จะใช้น้ำยาหล่อเย็นแบบผสมแล้วเติมเพิ่มเข้าไป หรือน้ำเปล่า (น้ำดื่ม หรือน้ำประปาที่ผ่านการเก็บไว้ในระยะหนึ่ง ไม่ควรใช้น้ำประปาจากระบบโดยตรง เนื่องจากสารเคมีที่ปนมาในระบบ อาจทำให้เกิดตะกรันหรือสนิมภายในเครื่องยนต์) ก็สุดแล้วแต่ หรือจะผสมกันเลยก็ไม่ผิด อีกเรื่องที่สำคัญและถูกมองข้ามไปนั่นคือ เรื่องน้ำมันเครื่อง ต้องเช็คเป็นประจำเพราะเครื่องยนต์ที่มีน้ำมันเครื่องต่ำกว่าที่กำหนด ส่งผลให้ความร้อนสะสมมากกว่าปกติ เพราะชิ้นส่วนภายในทำงานหนักขึ้นนั่นเอง อันต้องเช็คให้ดี

 

พัดลมหม้อน้ำ ดูสายไฟ ปลั๊กว่าอยู่ดีไม่ขาดไม่หลุด

 

น้ำกลั่นในแบตเตอรี่อย่าให้ขาด

 

          อีกส่วนที่หลายคนมองข้าม ก็คือ พัดลม ส่วนมากแล้วจะพังแบบไร้เหตุผล ติดบ้าง ดับบ้าง อันนี้อันตราย เพราะความร้อนจะเพิ่มขึ้นเร็วมาก เมื่ออุณหภูมิเครื่องยนต์สูงแต่พัดลมไม่ทำงาน บางคันโอเวอร์ฮีทเอาดื้อๆ เลย ควรเช็คดูว่า มีสายไฟ ตรงไหนขาดหรือปลั๊กต่อตรงไหนหลุด ก็ให้แก้ไขโดยเร็ว และอีกส่วนที่ไม่น่าจะเกี่ยวกัน...แต่ว่าว่าดันเกี่ยว นั้นคือ น้ำกลั่นในแบตเตอรี่ ไม่ควรปล่อยให้ต่ำกว่าระดับที่กำหนด เพราะงานนี้เครื่องยนต์ ระบบไฟทำงานหนัก เพราะอากาศร้อน เปิดแอร์กันเกินเบอร์ 3 ระบบไฟฟ้าก็ทำงานหนักตามไปด้วย ซึ่งทำให้แบตเตอรี่ร้อนได้ง่ายๆ หลายคนคงเคยเห็นรถไฟไหม้กันบ่อยๆ ก็นั่นแหละ เพราะคิดว่าสตาร์ทรถติดแบตเตอรี่มีไฟแน่ แต่ลืมดูน้ำกลั่นปล่อยให้แห้ง กันไว้ดีกว่าแก้ เพราะกันไว้ไม่เสียเงินมาก แต่หากแก้...งานนี้หลายตังค์

         แต่หากทำสิ่งที่พูดมาแล้วเป็นประจำ ก็ไม่ต้องกลัวว่ารถและเครื่องยนต์จะพาเราไปตากอากาศ  แต่หากว่าเช็คแล้วมีสสิ่งผิดปกติไม่เหมือนเดิม ให้คิดไว้ก่อนว่า ระบบมีปัญหา ไม่ที่ใดก็ที่หนึ่ง แน่นอนว่าต้องแก้ไขก่อน และไม่ควรอย่างยิ่งที่จะ รั้น เอารถออกไป งานนี้เชื่อขนมกินได้เลยว่า พังแน่แท้...ก็หาวัน เวลาว่างตรวจเช็คกันสักหน่อย เพื่อความมั่นใจ จะได้ไม่ต้องไปจอดกินข้าวลิง ข้างทางงานนี้ร้อนทั้งรถ ร้อนทั้งหัวคนแน่

รถซื้อสอง ซื้อขายรถ ของแต่งรถ

ข่าวที่ใกล้เคียง

แสดงความคิดเห็นด้วย Facebook