ผ้าเบรคมีกี่ชนิด แต่ละชนิดเป็นแบบไหนวันนี้เราจะมาทำความรู้จักกัน
ผ้าเบรครถยนต์ที่ผลิตมาสำหรับรถรูปแบบต่างๆ
สวัสดีเพื่อนๆ
BoxzaRacing.com สำหรับ
เกร็ดความรู้เกี่ยวกับรถยนต์ในวันนี้ที่เรา จะเอามานำเสนอให้เพื่อนๆ ได้ชมกัน จะเกี่ยวกับเรื่องของ
ผ้าเบรครถยนต์ ที่เพื่อนๆอาจจะเคยประสบปัญหากับเวลา
ผ้าเบรคหมด ว่าเราควรเลือกเปลี่ยนอย่างไร ประเภทไหนดี วันนี้เราจะพาเพื่อนๆไปทำความรู้จักกับ
ชนิดของผ้าเบรค กันเลยครับ
ผ้าเบรคในปัจจุบันที่ไม่มีส่วนประกอบขอบ Asbestos
ผ้าเบรคที่เราใช้กันอยู่ทุกวันนี้หลายท่านอาจจะยังไม่ทราบว่า จริงๆแล้ว
ชนิดของผ้าเบรคนั้นมีอยู่หลายประเภท และ
ผ้าเบรคที่จำหน่ายในบ้านเราสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ชนิดดังนี้
- ผ้าเบรครถยนต์ที่มีส่วนผสมของสาร Asbestos หรือที่เรียกกันว่าผ้าใบ ผ้าเบรค ชนิดนี้จะมีการยึดจับที่ดี ในช่วงที่ใช้ความเร็วต่ำ แต่เมื่อมีการใช้ความเร็วที่สูงขึ้น ผ้าเบรคประเภทนี้จะมีประสิทธิภาพในการเบรคลดลงอย่างทันที ในเรื่องอายุการใช้งานจะสั้นมาก และ สาร Asbestos ตัวนี้ยังมีผลต่อร่างกายของเราอีกด้วย จึงทำให้ผ้าเบรคประเภทนี้ มีราคาถูกในท้องตลาด
- ผ้าเบรครถยนต์ที่ไม่มีสาร Asbestosเป็นส่วนผสม หรือ Non-organic จะแยกย่อยออกมาเป็นอีก 2 ชนิดได้แก่
- ผ้าเบรครถยนต์ที่มีส่วนผสมส่วนใหญ่เป็นโลหะ(Semi-metallic) มาแทนที่ สาร Asbestos แทน ผ้าเบรคชนิดนี้จะเป็นผ้าเบรคที่ถูกผลิตจากบริษัท ทางฝั่งยุโรป ยี่ห้อที่เราคุ้นหูเป็นอย่างดี สำหรับผ้าเบรคประเภทนี้ ก็คือ ผ้าเบรคBendix ผ้าเบรคMintex
- ผ้าเบรครถยนต์ที่ใช้ส่วนผสมของสารอนินทรีย์ มาแทน สาร Asbestos โดยประสิทธิภาพของผ้าเบรคประเภทนี้ จะใกล้เคียงกับ ผ้าเบรคที่มีส่วนผสม ของโลหะใหญ่ (Semi-metallic) ซึ่งผ้าเบรค ชนิดนี้ส่วนใหญ่จะเป็นผู้ผลิตจากญี่ปุ่น ยี่ห้อที่รู้จักกันดีก็จะเป็น ผ้าเบรคAkebono
ผ้าเบรคที่ใช้ส่วนผสมของสาร Asbestos ซึ่งมีการระบุไว้ที่ข้างกล่องอย่างชัดเจน
ในเรื่องการตรวจสอบผ้าเบรค เราควรตรวจสอบกันทุกๆ 3 เดือน หรือ ทุกๆ 5,000 กิโลเมตร ถ้าทำได้จะเป็นการดีมากๆ ส่วนเรื่องอายุการใช้งานผ้าเบรค อันนี้ไม่สามารถระบุได้แน่นอนว่าอายุการใช้งานผ้าเบรครถยนต์ของเราจะมีอายุการใช้งานเท่าไรขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายๆอย่าง เช่น ชนิดผ้าเบรค น้ำหนักของรถ และการใช้งานของรถ ซึ่งสิ่งพวกนี้เป็นอีกปัจจัยนึงที่เกี่ยวกับอายุการใช้งานผ้าเบรค ด้วยเช่นกัน สำหรับรถรุ่นใหม่ๆในปัจจุบัน จะมีไฟสัญญาณเตือนผ้าเบรค(Wear Indica- tor) มาให้เมื่อถึงระยะที่ผ้าเบรคจะหมด ที่หน้าปัดรถก็จะมีไฟสัญญาณเตือนขึ้นมา แต่ในรถรุ่นเก่าๆ ก็จะมีการเตือนด้วยเสียง ซึ่งการเตือนด้วยเสียงนั้นจะเกิดจากแผ่นเหล็กที่ติดอยู่ที่ผ้าเบรค จะขูดกับจานเบรคจนเกิดเสียงเมื่อผ้าเบรคบางลงจนถึงระยะที่ควรเปลี่ยนนั้นเอง
ตัวอย่างการแสดงความหนาของผ้าเบรคในระยะต่างๆ
เป็นอย่างไรกันบ้างครับ กับเกร็ดความรู้เกี่ยวกับ
ผ้าเบรคที่เราเอามาให้เพื่อนๆได้ชมกัน ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญเลยที่เพื่อนๆ ต้องทราบก่อนที่เราจะ
เปลี่ยนผ้าเบรค เพราะ
ผ้าเบรครถยนต์แต่ละชนิดนั้นมีผลกับการใช้งาน และอีกสิ่งนึงที่ควรระวังก็ คือ
ผ้าเบรคแท้ ผ้าเบรคปลอม ที่ในตอนนี้มีออกมาวางขายในท้องตลาด เพื่อความสบายใจควรซื้อ กับ
ตัวแทนจำหน่ายผ้าเบรคที่ไว้ใจ้ได้เท่านั้นครับ ก็จบไปแล้วเกี่ยวกับเรื่อง
ผ้าเบรค เพื่อนๆสามารถติดตาม
เกร็ดความรู้เกี่ยวกับรถยนต์ดีๆแบบนี้กันได้ตลอดที่
BoxzaRacing.com ครับ ครั้งหน้าจะเป็นเรื่องราวอะไรรอชมกันได้เลยครับ