ยาง Run Flat คืออะไร ? หลายๆคนอาจเคยสงสัย แต่วันนี้เรามีคำตอบมาให้ทุกท่าน
ยางรถยนต์ สิ่งที่รองรับน้ำหนักทั้งหมดของรถยนต์และเป็นสิ่งที่ทำให้รถยนต์นั้นเคลื่อนที่ไปได้ และสิ่งที่ทุกคนต้องเคยประสบปัญหาและเคยเจอกันมาบ้างก็คือเหตุการณ์ยางแบน ยางรั่ว เนื่องจากโดนตะปูหรือขิงแหลมคมทิ่มตำยาง ซึ่งเมื่อเกิดเหตุการณ์เหล่านี้ หลายๆคนก็คงจะหงุดหงิด เพราะว่าต้องเสียทั้งเวลา เพราะว่ารถไม่สามารถขับคลื่นต่อไปได้ หรืออาจจะเสียทรัพย์สิน โดยหากเกิดยางรั่ว ยางแตกตอนกลางคืน เมื่อเราไปลงไปเปลี่ยนเป็นล้ออะไหล่ออาจะถูกกลุ่มมิจฉาชีพ จี้หรือปล้นเอาได้ โดยเฉพาะถ้าอยู่ในที่เปลี่ยวและเป็นผู้หญิง ซึ่งบริษัทผลิตยางหลายๆยี่ห้อ ก็ต้องนำปัญหาส่วนนี้ไปคิดค้นและพัฒนา จนเกิดนวัตกรรมใหม่ของยางรถยนต์ขึ้นมา โดยสิ่งที่ได้ออกมานั้นก็คือ ยาง Run Flat นั่นเอง และวันนี้ BoxzaRacing จะพาทุกท่านไปทำความรู้จักว่า Run Flat Tire คืออะไร มีกี่ชนิดบ้าง อย่ามัวรอช้าเลยครับ เราไปทราบข้อมูลกันพร้อมๆกันเลย
ยาง Run Flat ถ้าจะให้แปลแบบตรงตัวก็จะแปลได้ว่า สามารถวิ่งได้ แม้ไม่มีรถยางหรือยางแบน นั่นเอง โดยแต่ละบริษัทผลิตยางก็จะใช้เทคโนโลยีที่แตกต่างกันไปในการผลิตยางประเภทนี้ออกมา โดยส่วนใหญ่ ยาง Run Flat สามารถแบ่งออกได้เป็น 3 ประเภทหลักๆ ดังนี้ครับ
- Self-Supporting หรือเทคโนโลยี PAX System เป็นยางที่ออกแบบมาให้ยางวิ่งต่อไปได้ประมาณ 80 - 200 กม. จากนั้นต้องทำการเปลี่ยนยางเส้นใหม่ ซึ่งเทคโนโลยีนี้เป็นเทคโนโลยีเริ่มแรกของ Run Flat Tire ซึ่งการจะใช้ยางประเภทนี้ได้นั้นต้องใช้คู่กับล้อแม็กซ์ที่ผลิตขึ้นมาโดยเฉพาะเท่านั้น และก่อนที่จะใส่ยางเข้าไปนั้นจะต้องในการใส่วงแหวนพลาสติกแข็ง รัดอยู่โดยรอบ ซึ่งถ้าเกิดยางเกิดแบนขึ้นมา แหวนพลาสติกที่ใส่เข้าไปนั้นจะกดทับหน้ายางไม่ให้แก้มยางทรุดตัวลงไม่สุด ทำให้ขอบแม็กซ์ไม่บดทับแก้มยาง และสามารถทำให้รถสามารถวิ่งต่อไปได้ แต่ข้อเสียของเทคโนโลยีนั้นก็คือ น้ำหนักที่เพิ่มเข้าไปในตัวของชุดวงแหวนพลาสติก ทำให้เพิ่มภาระกับช่วงล่างและแถมยังความยุ่งยากในการถอดใส่และตัวยางเองยังมีราคาแพงอีกด้วย ต่อมา บริษัท Bridgestone ได้นำเทคโนโลยีนี้มาปรับปรุงแก้ไข้ใหม่ โดยการออกแบบให้ตัวแก้มยางเองนั้นแข็งแร็งและใช้โครงสร้างเหล็กแบบโปร่งรับน้ำหนักแทนตัววงแหวนพลาสติกแข็งที่ใส่เพิ่มเข้าไป ซึ่งตัววงแหวนเหล็กนั้นจะมีน้ำหนักที่เบากว่า ล้อและยางจึงไม่รับภาระหนักมากและไม่ทำให้ยางเสื่อมสภาพเมื่อเกิดการแบน
- Self-sealing standard เทคโนโลยีนี้เป็นลิขสิทธิ์จาก Continental โดยจะมีการติดตั้งวัสดุพิเศษที่เรียกว่า Reinforced Sidewall ที่จะช่วยเสริมความแข็งแรงของแก้มยาง ซึ่งวัสดุที่ติดตั้งเพิ่มเข้าไปนี้จะมีความแข็งแรงและยืดหยุ่นสูง เมื่อเจอของแหลมคมทิ่มเข้ามาในยาง ตัววัสดุนี้ก็จะยืดออกมารับแรงกดจากของแหลมนั้นเพื่อไม่ตัวยางนั้นเกิดรอยรั่วและสามารถที่จะวิ่งต่อไปได้
- Self Seal Leakage Tire เป็นเทคโนโลยีที่เคลือบใต้ดอกยางด้วยวัสดุ Sealant หรือ Polymer ที่วัสดุนี้จะสามารถซ่อมแซมรอยรั่วของยางได้เอง โดยยี่ห้อที่ใช้เทคโนโลยีประเภทนี้คือยางยี่ห้อ Finixx โดยสารที่เคลือบใต้ชั้นดอกยางนั้นจะมีคุณสมบัติยืดหยุ่นตัวสูงเป็นสารกึ่งแข็ง เมื่อยางนั้นถูกของแข็งทิ่มเข้ามาและเมื่อดึงตัวของของแหลมออกตัวสารนั้นจะเคลื่อนมาปิดรอยรั่วนั้นเอง และเจ้าตัวสารเคลือบนี้ยังช่วยป้องกันการรั่วซึมของลมยางที่เป็นสาเหตุที่อาจทำให้เกิดการระเบิดของลมยางได้ โดยยางประเภทนี้ ถูกขนานนามให้ว่าเป็นยางที่ไม่มีวันแบน
คงจะเป็นอีก 1 ทางเลือกนะครับกับยาง Run Flat ที่จะช่วยอำนวยความสะดวกในการขับขี่รถยนต์ของทุกท่านมากขึ้น แต่การจะแลกมาด้วยความสะดวกแสดงนั้นก็ต้องยอมจ่ายกับราคาที่แพงมากกว่าปกติ ซึ่งตรงนี้ก็ต้องขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแต่ละท่านด้วยว่ามีความจำเป็นหรือไม่ สำหรับวันนี้คงต้องลากันไปก่อน ครั้งหน้า BoxzaRacing.com จะนำ ความรู้เรื่องรถ เรื่องใดมาให้ทุกท่านได้ทราบกันอีก ก็ต้องติดตามกันนะครับ สวัสดีครับ